แจกฟรี! ตารางทัวร์ 10 แลนด์มาร์ครอบปารีส วันเดียวก็เที่ยวได้

Traveloka TH
29 May 2023 - 1 min read

เดินทัวร์ดินแดนในฝันกับ 10 แลนมาร์ครอบปารีส พร้อมวิธีเดินทาง

หากความกลมกล่อมของเมนูอาหารเกิดขึ้นจากส่วนผสมที่ลงตัว ปารีสเองก็มาพร้อมกับความกลมกล่อมที่เป็นเอกลักษณ์ ที่ผสานความคลาสสิกของศิลปะและประวัติศาสตร์ให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง

หาก “คุณ” เป็นอีกคนที่เฝ้ามองหาโอกาสที่จะได้สัมผัสกับรสกลมกล่อมของเมืองใหญ่อย่างปารีส แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทัวร์เที่ยวแลนด์มาร์คในกรุงปารีสอย่างไรให้ครบจบได้ในเวลา 1 - 3 วัน ลองมาปักหมุดเที่ยว 10 แลนด์มาร์คทั่วปารีสด้วยตัวเอง พร้อมเช็กตารางทัวร์และวิธีเดินทางแบบครบจบได้ทันที

แต่ก่อนจะไปดูแต่ละแลนด์มาร์คกัน อย่าลืมจองตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศสให้พร้อม ง่าย ๆ เพียงเปิด Traveloka แอปเที่ยวตัวท็อปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อหาดีลตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และทุกกิจกรรมที่ต้องการในราคาที่ดีที่สุด แต่หากใครจองตั๋วและปักหมุดที่พักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มารู้จักแต่ละแลนด์มาร์คในบทความนี้ไปพร้อมได้กันเลย!

เที่ยวแลนด์มาร์คสำคัญฝรั่งเศส

หมุดที่ 1 : Montmartre

มาเริ่มต้นทัวร์กันที่ย่านทางเหนือของกรุงปารีสอย่าง “มงต์มาร์ต” เพื่อดื่มด่ำไปกับจิตวิญญาณของศิลปินทุกยุคสมัยที่ซ่อนตัวอยู่ในทุกสถานที่ ตั้งแต่ “พิพิธภัณฑ์มงมาร์ต” ที่รวมงานของศิลปินชื่อดังมากมายเอาไว้ไปจนถึง “มหาวิหารซาเครเกอร์” ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกที่ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของกรุงปารีส ทำให้สามารถมองเห็นวิวของเมืองหลวงแห่งนี้ได้แบบ 360 องศา

เดินทางต่ออย่างไร?

แนะนำให้ลองไปขึ้นรถเมโทรที่สถานี Abbesses ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของ Wall of Love หรือหากใครไม่อยากขึ้นรถเมโทร สามารถเดินตรงมายังย่านปีกัลล์ (Pigalle) ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยคาบาเรต์ ไม่เว้นแม้แต่ Moulin Rouge อันเลื่องชื่อ จากนั้นยังสามารถเดินไปเยี่ยมชมสุดยอดสถาปัตยกรรมฟื้นฟูบาโรกอย่าง Paris Opera ก็ได้เช่นกัน

หมุดที่ 2 : Louvre and Tuileries

สำหรับใครที่นั่งรถเมโทรจากสถานี Abbesses มา เมื่อได้ยินชื่อสถานี Concorde ให้รีบลงโดยด่วน เพราะตอนนี้เรากำลังจะไปบุกแลนด์มาร์คสำคัญของฝรั่งเศสอย่างพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ สวนทุยเลอรี และ จัตุรัสคองคอร์ด

ทั้ง 3 แลนด์มาร์คดังกล่าวถือเป็นหมุดหมายสำคัญของประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้ โดยพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์คือหนึ่งในสถานที่ที่รวบรวมผลงานทางศิลปะที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งภายในจะมีการจัดแสดงภาพผลงานชิ้นเอกของโลกมากมาย รวมไปถึง “ภาพโมนาลิซ่า”

ในขณะที่ “สวนทุยเลอรี” เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมมรดกยูเนสโกที่ยังคงอยู่หลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งภายในสวนแห่งนี้จะมีการจัดแสดงภาพศิลปะหายากอยู่โดยรอบ ทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ออรองเจอรีที่เป็นที่จัดแสดงงานศิลปะชื่อดังมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือภาพของ Claude Monet ที่ใคร ๆ ต่างก็ตกหลุมรัก

ที่สำคัญ จัตุรัสคองคอร์ด ที่มาพร้อมกับเสาหินโอเบลิสก์ (The Luxor Obelish) อายุมากกว่า 3,000 ปี ในอดีตยังเป็นลานประหารพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และ พระนางมารีอังตัวเนตด้วยเครื่องกิโยตินตั้งแต่สมัยปฏิวัติฝรั่งเศสอีกด้วย

เดินทางต่ออย่างไร?

ขอแนะนำให้เดินตรงมายังสถานีรถบัส Pont des Arts เพื่อรอรถหมายเลข 27 จากนั้นจึงมุ่งตรงไปยังสถานี Pont Neuf - Quai des Orfèvres เพื่อเยี่ยมชมสะพานอันเลื่องชื่ออย่าง Pont Neuf หรือใครจะเดินย้อนมาถ่ายรูปที่สะพานต่อก็ได้เช่นกัน

หมุดที่ 3 : Sainte-Chapelle

Sainte-Chapelle เป็นที่ตั้งของ “โบสถ์แซงท์ ชาแปลล์” ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสถาปัตยกรรมยุคโกธิก ภายในมีศิลปะกระจกสีแบบโบราณให้ได้รับชม เดินถัดมาจาก “โบสถ์แซงท์ ชาแปลล์” อีกสักเล็กน้อยก็จะเป็นที่ตั้งของแลนด์มาร์คสำคัญใจกลางปารีสอย่าง “มหาวิหารนอเทรอดาม” หรือ Notre Dame Cathedral ซึ่งเป็นมหาวิหารแห่งแรกที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโกธิกที่ภายนอกและภายในอัดแน่นไปด้วยศิลปะยุคโบราณมากมาย ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งโลเคชันที่มักนำไปประกอบฉากภาพยนตร์และอนิเมชันต่าง ๆ อีกด้วย

เดินทางต่ออย่างไร?

หากใครพร้อมจะเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปแล้ว ขอแนะนำให้เดินข้ามมายังสถานีรถบัส Cité - Parvis Notre-Dame เพื่อนั่งรถหมายเลข 75 ไปลงยังสถานี Panthéon หรือหากใครสะดวกก็สามารถเดินตรงมายังถนน Saint-Michel เพื่อชมเมืองปารีสต่อก็ได้เช่นกัน

หมุดที่ 4 : Panthéon

เมื่อลงรถบัสที่สถานี Panthéon ลองเดินต่อออกมาอีกสัก 280 เมตร ทุกคนก็จะได้พบเจอกับ “มหาวิหารแพนธีออน” ซึ่งเป็นมหาวิหารสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกที่หาชมได้ยาก

โดยในปัจจุบัน มหาวิหารแห่งนี้ได้กลายเป็นอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ที่มีภาพศิลปะหาชมได้ยากอยู่มากมาย ทั้งยังเป็นสถานที่ฝังศพของบุคคลสำคัญอย่าง “วิกเตอร์ อูโก” ผู้แต่ง Les Misérables รวมไปถึง “วอลแตร์” “ฌอง ฌากส์ รุสโซ” และ “มาดามมารี กูรี”

เดินทางต่ออย่างไร?

หลังจากเดินทางมาค่อนวัน มั่นใจว่าหลายคนเองก็คงเริ่มเหนื่อย ดังนั้น หมุดที่ 5 ต่อไปจึงจะเป็นการพาไปทัวร์แลนด์มาร์คของปารีสที่มาพร้อมกับบรรยากาศผ่อนคลายกันสักหน่อย ว่าแล้วก็อย่ารอช้า รีบขึ้นรถบัสที่สถานี Panthéon สายที่ 84 ไปลงที่สถานี Sénat กัน

หมุดที่ 5 : Luxembourg

หลังจากลงที่สถานี Sénat แล้ว ตอนนี้เราก็ถึง Luxembourg ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระราชวังลุกซ็องบูร์ที่ได้รับการออกแบบให้คล้ายกับเมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพระราชินีมารีอา เด เมดีชี แห่งพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 กันแล้ว

โดยก่อนที่จะเข้าสู่ตัวพระราชวังลุกซ็องบูร์ ด้านหน้ายังมีร้านอาหารและคาเฟ่ให้ได้เลือกเติมพลังกันก่อนได้ และเมื่อเข้าไปยังที่ตัวพระราชวังลุกซ็องบูร์ ทุกคนยังสามารถเข้าไปเยี่ยมชมศิลปะของจิตรกรชื่อดังมากมาย หรือ จะนั่งผ่อนคลายที่บริเวณสวนด้านหน้า หรือ ลานพุทะเลสาบก่อนไปต่อยังหมุดต่อไปก็ได้เช่นกัน

เดินทางต่ออย่างไร?

หากใครยังต้องการเติมพลังต่อ ด้วยอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของกรุงปารีส ขอแนะนำให้เดินต่อมายังที่ถนน Rue de Tournon toward Rue Saint-Sulpice จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายแล้วเดินตรงมายังถนน Saint-Germain ก็จะเจอกับร้านรวงมากมาย จะแวะชิมหรือแวะช้อปก็ตามใจชอบได้เลย

เที่ยวแลนด์มาร์คสำคัญฝรั่งเศส

หมุดที่ 6 : Saint-Germain-des-Prés

“แซงต์ แฌร์แม็ง เดส์ เพร” เป็นแลนด์มาร์คเก่าแก่ของปารีสที่ไม่เพียงแต่จะเป็นแหล่งช้อปปิ้งเท่านั้น แต่ยังอัดแน่นไปด้วยร้านอาหารดั้งเดิมของฝรั่งเศสมากมาย ทั้งยังเป็นที่ตั้งของคาเฟ่แห่งแรกในกรุงปารีสอย่าง Café de Flore อีกด้วย

นอกจากนี้ หากใครยังต้องการเยี่ยมชมงานศิลปะ ย่าน Saint-Germain-des-Prés ยังมีหอศิลป์ รวมไปถึงโรงเรียนวิจิตรศิลป์อย่าง Ecole des Beaux Arts ซึ่งเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ตั้งแต่ช่วงยุคกลางให้ได้เลือกชมงานศิลปะและประวัติศาสตร์อีกด้วย

เดินทางต่ออย่างไร?

ได้เติมพลังและแวะช้อปปิ้งกันเป็นที่เรียบร้อย เดินกลับมายังสถานีรถบัส Michel Debré เพื่อขึ้นรถสาย 84 จากนั้นมุ่งตรงไปยัง Solferino - Bellechasse เพื่อเตรียมเพลิดเพลินไปกับหมุดหมายที่ 7 กันต่อได้เลย

หมุดที่ 7 : Orsay

“ออร์แซ” มาพร้อมกับแลนด์มาร์คสำคัญของปารีสอย่าง “พิพิธภัณฑ์ออร์แซ” ที่สร้างขึ้นมาจากสถานีรถไฟออร์แซเก่า โดยภายในมีการจัดแสดงงานศิลปะมากกว่า 2,000 ชิ้น ทั้งยังมีประติมากรรมชิ้นเอกของโลกจัดแสดงอยู่หลายชิ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ออร์แซยังตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำแซน ทำให้ออร์แซแห่งนี้กลายเป็นจุดชมวิวสำคัญที่ขึ้นชื่อทั้งในเรื่องความสวยงาม เงียบสงบ ทั้งยังโรแมนติกมากที่สุดแห่งหนึ่งด้วย

เดินทางต่ออย่างไร?

รอบนี้ลองเปลี่ยนจากการนั่งรถบัสมาเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินกันบ้าง ถ้าพร้อมไปหมุดต่อไปแล้ว รีบเดินไปยังสถานีเมโทร Invalides จากนั้นนั่งมายังสถานี Saint-François-Xavier กันได้เลย

หมุดที่ 8 : Les Invalides

“เล แซ็งวาลีด” ถือเป็นศูนย์รวมประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสที่สำคัญ ภายในย่านแห่งนี้อัดแน่นไปด้วยพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสุสานนโปเลียน พิพิธภัณฑ์ทหารผ่านศึก และอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับใครที่อาจจะยังไม่มีเวลามาก ขอแนะนำให้ลองเดินเยี่ยมชมภายในส่วนของโดมของเล แซ็งวาลีดก็ได้เช่นกัน

เดินทางต่ออย่างไร?

จบไปแล้วถึง 8 แลนด์มาร์คสำคัญของฝรั่งเศส ทีนี้ก็จะเข้าสู่ช่วงไฮไลท์สำคัญในจุดหมายที่ 9 และ 10 หากใครพร้อมแล้ว เดินทางกันต่อกับหมุดที่ 9 กันได้เลย ซึ่งการเดินทางนั้นจะเริ่มต้นจากการเดินมาขึ้นรถบัสที่สถานี Vauban Hôtel des Invalides จากนั้นนั่งรถสาย 82 มาลงที่สถานี Tour Eiffel

หมุดที่ 9 : Eiffel Tower

เมื่อพูดถึงแลนด์มาร์คของฝรั่งเศส ไม่ว่าใครต่างก็คิดถึง Eiffel Tower เป็นธรรมดา โดยหอไอเฟลนี้ได้รับการสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของงานแสดงสินค้าโลก แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในทุกด้านของประเทศฝรั่งเศส โดยหอไอเฟลนั้นมีความสูงถึง 324 เมตร หรือเทียบเท่ากับตึก 81 ชั้นเลยทีเดียว

สำหรับใครที่ต้องการชื่นชมความงามของหอไอเฟล หรือ ถ่ายรูปเพื่อทำคอนเทนต์ ขอแนะนำให้ลองเดินไปยังสวนทรอกาเดโร (Trocadéro) เพื่อชมวิวของหอไอเฟลในระยะใกล้แบบไม่มีอะไรมาบดบังวิว ทั้งยังรายล้อมไปด้วยต้นไม้สีสันสดใส ทำให้เห็นวิวที่สวยน่าประทับใจมากเลยทีเดียว

เดินทางต่ออย่างไร?

ได้ชื่นชมหอคอยไอเฟลจนจุใจแล้ว ตอนนี้ทุกคนก็ได้เดินทางมาถึงหมุดสุดท้ายซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของทัวร์ในครั้งนี้ โดยทุกคนสามารถเดินทางได้ง่าย ๆ เพียงเดินกลับไปขึ้นรถบัสที่สถานี Tour Eiffel จากนั้นนั่งรถสาย 30 มาลงยังสถานี Charles de Gaulle - Etoile - Kléber ต่อได้เลย

หมุดที่ 10 : Arc de Triomphe

เมื่อลงมาจากรถบัส เพียงเดินข้ามถนนมาอีกสักเล็กน้อย ทุกคนก็จะได้พบเจอกับ “ประตูชัยฝรั่งเศส” หรือ Arc de Triomphe ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสำคัญสำหรับฝรั่งเศสและปารีสเลยก็ว่าได้ โดยประตูชัยดังกล่าวนี้เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ที่ได้รับชัยชนะจากยุทธการที่เอาสเทอร์ลิทซ์

โดยหลังจากที่ชื่นชมประตูชัยฝรั่งเศสเรียบร้อย หากยังมีแรงเหลือ หรือ ต้องการเติมพลังงานหลังจากจบทัวร์ ทุกคนยังสามารถเดินต่อไปยังถนนฌ็องเซลิเซ่ เพื่อช้อปปิ้งหรือจะลิ้มลองอาหารจากร้านดัง ไปจนถึงการชื่นชมศิลปะอาร์ตเดโคและอาร์ตนูโวตลอดข้างทาง

จบลงไปแล้วกับโปรแกรมทัวร์ 10 แลนด์มาร์ครอบปารีสที่ทุกคนสามารถเที่ยวสนุกแบบครบจบได้ภายใน 1 - 3 วัน หวังว่าทั้ง 10 แลนด์มาร์คที่นำมาฝากนี้จะถูกใจและช่วยให้ทุกคนได้ลิ้มลองความกลมกล่อมของกรุงปารีสได้แบบครบถ้วน หากใครอยากจะเที่ยวฝรั่งเศสได้อย่างคุ้มค่า อย่าลืมเปิด Traveloka แอปเที่ยวตัวท็อปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อหาตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศสพร้อมที่พัก และทุกดีลสำคัญในราคาที่ดีที่สุด ดาวน์โหลดแอปฯ ได้แล้ววันนี้ที่ App Store และ Google Play Store

Hotels
Flights
Things to Do
Always Know the Latest Info
Subscribe to our newsletter for more travel & lifestyle recommendations and exciting promos.
Subscribe