EPIC Sale อภิมหาดีลในตำนานกลับมาแล้ว!
5 - 11 พฤศจิกายนนี้ Traveloka ลดยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี สูงสุด 80%

พิเศษ! เตรียมตัวเก็บดีลและส่วนลดสุด Epic ใน Epic Hour
แจกส่วนลดสุดปัง ทุกวัน เวลา 11:00 - 12:00 น.

เดนมาร์ก (Denmark) เป็นหนึ่งในประเทศสแกนดิเนเวียที่งดงามที่สุด ได้รับการจัดลำดับให้เป็นประเทศที่มีประชากรที่มีความสุขที่สุดในโลกต่อเนื่องหลายปี ไม่เพียงแต่มีทิวทัศน์สุดอลังการ แต่ยังมีที่เที่ยวเดนมาร์กให้สำรวจมากมาย แถมเที่ยวได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย หากทริปหน้ายังนึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี หรือช่วงนี้อยู่บ้านว่างๆ ไม่รู้จะไปไหน แต่มีวีซ่าพร้อม พาสปอร์ตพร้อม แค่เก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทาง การเดินทางจองตั๋วเครื่องบินไปเดนมาร์กก็เป็นอะไรที่น่าสนมากเช่นเดียวกัน เพราะตอนนี้ทางเดนมาร์กได้อนุญาตให้ผู้เดินทางสัญชาติไทยเข้าประเทศได้แล้ว แถมยังไม่ต้องกักตัวหากฉีดวัคซีนมาครบ ดังนั้นใครที่อยากไปเที่ยวเดนมาร์ก ก็เปิดแอพฯ Traveloka แล้วไปจองตั๋วเครื่องบินไปเดนมาร์กกันได้เลย

แต่ก่อนที่จะไปจองตั๋วเครื่องบินไปเดนมาร์กหากว่าใครที่อยากได้ตั๋วเครื่องบินราคาโปรโมชั่น ให้กดเข้าฟีเจอร์ Price Alerts แล้วให้แอพแจ้งเตือนราคาตั๋วเครื่องบินที่ต้องการกันได้เลย เพราะฟีเจอร์นี้จะแจ้งเตือนทันที เมื่อมีตั๋วเครื่องบินราคาถูก หรือราคาโปรที่คุณค้นหา

“โคเปนเฮเกน” เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเดนมาร์ก เป็นเมืองท่าเก่าแก่ของยุโรป และเป็นหนึ่งในเมืองหลวงแถบสแกนดิเนเวียที่ขึ้นชื่อว่ามีคุณภาพชีวิตและรัฐสวัสดิการดีที่สุดในโลก สัญลักษณ์ของเมืองนี้ที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดคือ “รูปปั้นนางเงือกน้อย” (Little Mermaid) สถานที่เที่ยวน่าสนใจอื่นๆ เช่น “พระราชวังโรเซนเบิร์ก” (Rosenborg Palace) พระราชวังเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี และท่าเรือนูฮาฟน์ (Nyhavn) ที่บรรยากาศคักคักสุดๆ

รูปปั้นนางเงือกน้อย เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเดนมาร์ก และเป็นที่เที่ยวเดนมาร์กสุดฮิต ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือริมอ่าวโคเปนเฮเกน สร้างขึ้นเมื่อปี 1913 โดย “คาร์ล จาค็อบเซน” (Carl Jacobsen) โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการชมการแสดงบัลเล่ต์เรื่อง “The Little Mermaid” ของนักเขียนนิทานชื่อดัง “ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน” (Hans Christian Andersen) ตัวรูปปั้นทำจากสำริด สูงประมาณ 1.25 เมตร หนักประมาณ 175 กิโลกรัม ตั้งอยู่บนโขดหิน บริเวณท่าเรือริมอ่าวโคเปนเฮเกน ใครไม่ได้ถ่ายรูปที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงเดนมาร์ก

พระราชวังฤดูหนาวสุดอลังการ ตั้งอยู่ริมน้ำทางเหนือของตัวเมืองโคเปนเฮเกน สร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 18 เพื่อเฉลิมฉลองวาระการครบรอบ 300 ปี ของราชวงศ์โอลเดนบวร์ก จุดเด่นคือเป็นพระราชวังสไตล์เดนมาร์กโรโคโคทั้ง 4 และโบสถ์ 1 หลัง ตรงกลางมีรูปปั้นพระเจ้าเฟดเดอริกที่ 5 ซึ่งนับเป็นรูปปั้นทรงม้าที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมบางส่วนของพระราชวัง และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กจัดแสดงงานศิลปะ เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับอัญมณี และสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ อีกมากมาย

พระราชวังโรเซนเบิร์ก หนึ่งในที่เที่ยวเดนมาร์กยอดนิยม ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน พระราชวังฤดูร้อนแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 ตัวอาคารทั้งภายในและภายนอกที่ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยศิลปะแบบดัตช์เรอเนสซองส์ พระราชวังแห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเก็บรักษาทรัพย์สมบัติของราชวงศ์เดนมาร์ก หนึ่งในสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดที่จัดแสดงอยู่ที่นี่คือ “เครื่องราชกกุธภัณฑ์” (The Crown Jewels) ซึ่งถือเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์เพียงชุดเดียวที่นำออกมาจัดแสดงแก่สาธารณะ ขณะที่ยังมีการนำไปใช้ในกิจของราชวงศ์อยู่

พระราชวังคริสเตียนบอร์ก เป็นพระราชวังที่สวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเดนมาร์ก ตั้งอยู่ที่เกาะสลอตส์ฮอลมัน (Slotsholmen) ภายในพระราชวังเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งประเทศเดนมาร์ก (Danish Parliament) ศาลฎีกา และห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี พระราชวังแห่งนี้ยังมีห้องที่ยิ่งใหญ่อลังการคือ “เดอะเกรตฮอลล์” (Great Hall) ที่มีพรมแขวนผนังบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์กว่า 1,000 ปี ของประเทศเดนมาร์ก และยังมีห้องหอคอย (Tower Room) และห้องบัลลังก์วงรี (Oval Throne Room) ซึ่งใช้เป็นห้องรับรองทูตคนสำคัญจากต่างประเทศอีกด้วย

ศาลาว่าการเมืองโคเปนเฮเกน ตั้งโดดเด่นอยู่ใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน ณ จัตุรัสศาลาว่าการ (The City Hall Square)ก่อสร้างขึ้นระหว่างปี 1892 - 1905 โดยได้รับอิทธิพลมาจากศาลาว่าการเมืองซีนา (Siena City Hall) ของอิตาลี หากนับถึงยอดหอคอย ศาลาว่าการแห่งนี้จะมีความสูงถึง 105.6 เมตร นับเป็นจุดชมวิวเมืองโคเปนเฮเกนสุดอลัง อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ “นาฬิกาโลก” (World Clock) แสดงเวลาที่แตกต่างกัน 13 แบบ จากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังเป็นสถานที่สำหรับงานแต่งงานที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอีกด้วย

โบสถ์เฟรเดอริก หรือที่เรียกว่า “โบสถ์หินอ่อน” (Marble Church) ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ที่ย่านเฟรเดอริคสเตเดิน (Frederiksstaden) ในเมืองโคเปนเฮเกน เป็นโบสถ์ทรงโดมที่ใหญ่ที่สุดในสแกนดิเนเวียสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง เป็นโบสถ์คริสตจักรลูเธอร์แรน สร้างขึ้นเมื่อปี 1740 ด้วยสถาปัตยกรรมรูปแบบร็อคโคโค ภายในของโดมประดับประดาด้วยภาพวาดปูนเปียกของอัครสาวกของพระเยซู บนยอดโดมของโบสถ์มีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมทัศนียภาพของทั้งเมืองได้ในช่วงบ่ายของทุกวัน

สวนสนุกทิโวลี ตั้งอยู่ที่เมืองโคเปนเฮเกน สวนสนุกแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1843 เป็นสวนสนุกที่เก่าแก่มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก และกลายเป็นแรงบันดาลใจของสวนสนุกทั่วโลก อย่างเช่น “ดิสนิย์เวิลด์” (Disney World) ภายในสวนสนุกมีเครื่องเล่นรวมกว่า 25 ชนิด แต่ที่ระทึกสุดๆ คือ “เดอะเวอร์ติโก” (The Vertigo) ที่พุ่งทะยานกลับหัวที่ความเร็วถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สวนสนุกสุดเก่าแก่แห่งนี้มีความสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะในยามกลางคืนสวยงามด้วยแสงไฟประดับประดากว่า 100,000 ดวง ให้บรรยากาศราวกับหลุดเข้าไปในดินแดนแห่งเทพนิยาย

“น้ำพุแห่งราชินีเกฟิออน” เป็นหนึ่งในอนุสรณ์ที่ใหญ่ที่สุดในเดนมาร์ก (Denmark) ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะแลนเจอลีนี (Langelinie Park) ที่เมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ด้านบนน้ำพุมีรูปปั้นเทพีเกฟิออน (Gefion) ในตำนานนอร์ส (Norse Mythology) ซึ่งชาวเมืองเชื่อกันว่าเป็นน้ำพุอธิษฐาน และหากโยนเหรียญลงไปในน้ำพร้อมกับขอพร พรข้อนั้นจะเป็นจริงขึ้นมา น้ำพุแห่งนี้ได้รับบริจาคมาจากมูลนิธิคาร์ลส์เบิร์ก (Carlsberg Foundation) ในฐานะของขวัญแก่เมืองโคเปนเฮเกน ในโอกาสที่โรงผลิตเบียร์คาร์ลส์เบิร์กอายุครบ 50 ปี ในปี 1897 นั่นเอง

ถนนสตรอยก์ เป็นถนนเก่าแก่สายสำคัญของเมืองโคเปนเฮเกน และเป็นถนนทางเดินเท้าสายยาวที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป จุดเด่นของถนนสายนี้คือเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปความคึกคัก โดยเริ่มที่ถนนสตรอย์ก ซึ่งมีรูปปั้นนกนางแอ่น 2 ตัวบินคู่กัน เป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ใกล้ๆ กันมีห้างสรรพสินค้าชื่อดังชื่อ “อิลลุม” (Illum) ตลอดสองข้างทางของถนนสายนี้คับคั่งไปด้วยร้านค้าต่างๆ มากมาย และยังมีร้านกาแฟที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ให้นั่งชิลและชิมขนมแดนิช พร้อมชมการแสดงบนท้องถนนอย่างเพลิดเพลิน

ท่าเรือนูฮาวน์ เป็นท่าเรือเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของตัวเมืองโคเปนเฮเกน พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 5 (Frederic V) โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี 1673 ปัจจุบันกลายเป็นจุดปักหมุดห้ามพลาดของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นย่านที่เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือน บาร์ คาเฟ่ และร้านอาหารหลากหลายสไตล์ ท่าเรือแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของบ้านเลขที่ 20 สถานที่ซึ่ง “ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน” (Hans Christian Andersen) เขียนนิทานเรื่อง “The Tinderbox” และ “The Princess and the Pea” หรือเจ้าหญิงกับเม็ดถั่ว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเดนมาร์กที่น่าสนใจ

เมืองโอเดนเซ เป็นเมืองบ้านเกิดของ “ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน” (Hans Christian Andersen) ราชาแห่งเทพนิยายเจ้าของบทประพันธ์ "ลูกเป็ดขี้เหร่” (The Ugly Duckling) จุดเด่นของเมืองอยู่ที่อาคารเก่าในสมัยศตวรรษที่ 16 ถนนหินกรวดทางเดินแคบๆ ที่เรียงรายไปด้วยบ้านสีสันสดใส จุดปักหมุดได้แก่ มหาวิหารเซนต์คนุต (Saint Canute’s Cathedral) และพิพิธภัณฑ์ฮันส์คริสเตียนแอนเดอร์เซน (Hans Christian Andersen Museum) ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตและผลงานของนักแต่งนิยายชื่อก้องโลก

“สกาเกน” เป็นเมืองที่อยู่เหนือสุดของประเทศเดนมาร์ก เป็นที่ตั้งของแหลมเกรเนน (Cape Grenane) ตรงบริเวณคาบสมุทรจัตแลนด์ (Jutland Peninsula) ซึ่งเป็นจุดที่อยู่เหนือที่สุดของแผ่นดินใหญ่ยุโรป มีน้ำทะเล 2 สีบรรจบกัน ระหว่างทะเลบอลติกและทะเลเหนือ เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพสวยงามราวกับภาพวาด มีเนินทรายสูงถึง 35 เมตร และขึ้นชื่อด้านการจับปลาแฮริง แลนด์มาร์กสำคัญของที่นี่คือ “ประภาคารเกรย์ทาวเวอร์” (Grey Lighthouse) ประภาคารที่เก่าแก่ที่สุดของเดนมาร์ก

เกาะบอร์นโฮล์ม (Bornholm) ตั้งอยู่ในทะเลบอลติก ทางทิศตะวันออกของเดนมาร์ก เป็นเกาะที่มีทิวทัศน์โดดเด่นทั้งหน้าผาสูงชัน หุบเขา ชายหาด และแนวปะการัง บนเกาะมีชุมชนเก่าแก่ตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 19 เป็นที่รู้จักในด้านศิลปะและงานฝีมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องแก้วและเครื่องปั้นดินเผา และมีเที่ยวเด่นๆ อย่างเช่น “ซากป้อมปราการแฮมเมอร์ชูส” (Hammershus Castle Ruins) ป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดของเดนมาร์ก “พิพิธภัณฑ์ศิลปะบอร์นโฮล์ม” (Bornholm Museum of Art) จัดแสดงผลงานของศิลปินท้องถิ่นและศิลปินที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่

หมู่เกาะแฟโร เป็นดินแดนในการปกครองของเดนมาร์ก ประกอบด้วย 18 เกาะ กลางมหาสมุทรแอตแลนติก มีเกาะวาการ์ (Vagar Island) เป็นเกาะท่องเที่ยวหลัก ไฮไลท์ของเกาะแห่งนี้คือ “หมู่บ้านกาซาดาลอร์” (Gasadalur Village) หมู่บ้านริมผาซึ่งเป็นจุดชม “น้ำตกมูลาฟอสเซอร์” (Mulafossur Waterfall) อันเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะแฟโร อีกหนึ่งจุดห้ามพลาดคือ “หมู่บ้านบูร์” (Bour Village) หมู่บ้านที่โดดเด่นด้วยบ้านทรงกระท่อมหลังคาหญ้า และยังเป็นจุดชมวิวโขดหินกลางทะเล "ทินดฮอลมูร์" (Tindholmur) หรือ “เกาะเขา 5 ยอด” อีกด้วย

ที่เที่ยวเดนมาร์กยังมีอีกมากมายให้คุณได้ท่องเที่ยวกันอย่างจุใจ และยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ในเดนมาร์กที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไม่รู้เบื่อ นับเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดเด็ดขาด ดังนั้นอย่ารอช้าเข้าแอพฯ Traveloka แล้วไปจองตั๋วเครื่องบินไปเดนมาร์ก พร้อมเปิด Price Alerts จองตั๋วราคาถูกที่คุณต้องการกันได้เลย