ได้เวลาออกไปเปิดหูเปิดตา เที่ยวชมความสวยงามของบ้านเมืองในอังกฤษ ประเทศในฝันของหลายๆ คน เที่ยวได้หมดตั้งแต่เหนือจรดใต้ และยังเดินทางสะดวกสบาย เที่ยวฤดูไหนก็น่าหลงใหลทั้งนั้น แต่ถ้าไม่รู้จะวางแผนเที่ยว ว่าจะไปที่ไหนดี เรามี 20 ที่เที่ยวทั่วอังกฤษมาแนะนำ ให้ทุกคนได้เลือกออกไปเปิดประสบการณ์ต่างแดนกัน เมื่อได้คำคอบเป็นที่เรียบร้อย คลิกจองตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษกับ Traveloka ไว้แต่เนิ่นๆ ก็ดีไม่น้อย หรือจะเพิ่มสะดวกในการเดินทางด้วยการจองโรงแรมที่พัก หรือบริการรถรับ - ส่งสนามบิน รวมทั้งรถเช่า Traveloka ก็มีบริการอย่างครบถ้วน
จุดเช็คอินยอดฮิตอันดับ 1 เมื่อมาเยือนอังกฤษ คือแลนด์มาร์กอันโด่งดังของลอนดอน ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน นั่นคือ “สะพานหอคอย” (Tower Bridge) “หอคอยลอนดอน” (Tower of London) และ “หอนาฬิกาบิกเบน” (Big Ben) จุดถ่ายภาพที่บอกไว้ก่อนเลยว่าคนเยอะมากๆ แต่ก็มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายภาพเยอะมากเช่นกัน ทั้งบนสะพาน ทางเดินเลียบแม่น้ำ หรือจะล่องเรือชมวิวแม่น้ำเทมส์และเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ก็ได้เช่นกัน เรียกได้ว่างดงามทั้งกลางวันยันกลางคืนเลยทีเดียว
ย่านบอร์ดเวย์ของอังกฤษ อยู่ไม่ไกลจากพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ (Palace of Westminster) เปี่ยมเสน่ห์ด้วยบรรยากาศย้อนยุค มีโรงละครขนาดใหญ่ทั้งหมด 39 แห่ง ใครชอบชมละครคงถูกใจ เพราะที่นี่รวบรวมละครเพลงเรื่องดังๆ ไว้หลายเรื่อง แถมยังเปิดการแสดงทุกวัน สำหรับคนที่ไม่ปลื้มละคร ที่นี่ยังมีร้านค้าต่างๆ และที่เที่ยวที่น่าสนใจให้ได้ถ่ายรูปสวยๆ กัน มีทั้งแกลเลอรีงานศิลป์ พิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ และร้านอาหารอร่อยๆ ให้ได้ลิ้มลอง
สะพานโค้งสุดไฮเทคของอังกฤษ ทอดข้ามแม่น้ำไทน์ที่คั่นระหว่างเมืองเกทเฮดและนิวคาสเซิล สะพานมีโครงสร้างเป็นเส้นโค้ง 2 เส้น ขนานกันในรูปร่างแปลกตา นอกจากจะเป็นทางเท้าข้และเส้นทางจักรยานให้ผู้คนข้ามผ่าน ขณะเดียวกันเรือก็สามารถผ่านไปมาได้ พูดง่ายๆ ก็คือสะพานสามารถพับเก็บได้ โดยใช้เครื่องสูบไฮดรอลิกและมอเตอร์ไฟฟ้าในการทำงาน สะพานแห่งนี้ยังมีชื่อเล่นๆ ว่า “สะพานตากะพริบ” (Blinking Eye Bridge)ตามรูปทรงที่ดูคล้ายดวงตากำลังกระพริบนั่นเอง
ตลาดในร่มอันเก่าแก่ สถาปัตยกรรมสุดตระการตา ตั้งอยู่ในย่านการเงินของลอนดอน บนถนนเกรซเชิร์ช ที่มีบรรยากาศสุดคึกคัก เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารและผับบาร์ จุดเด่นของตลาดลีเดนฮอลล์คือหลังคาโค้งสุดหรูหราและพื้นปูด้วยหิน และที่นี่ยังเป็นตรอกไดแอกอนที่คุ้นตาในมหากาพย์ “แฮรีพอตเตอร์” ใครอยากถ่ายรูปสวยๆ คนไม่แน่น แนะนำให้ไปวันหยุดสุดสัปดาห์ ส่วนในช่วงคริสต์มาสก็จะตื่นตาตื่นใจไปกับการตกแต่งประดับประดาที่อลังการสุดๆ
ใครมาเที่ยวอังกฤษแล้วไม่ได้มาถ่ายรูปสวยๆ ที่พระราชวังแห่งนี้ ถือว่ายังมาไม่ถึงเมืองผู้ดีอังกฤษ พระราชวังบัคกิงแฮมเปิดให้เข้ามาชมส่วนต่างๆ ของวังได้แบบส่วนตัว ตั้งแต่ท้องพระโรง ภาพวาดศิลปะบนผนัง ไปจนถึงสวนสวยซึ่งอยู่ด้านหลังของพระราชวัง สวนแห่งนี้มีทั้งพันธุ์ไม้หายาก สัตว์น้อยใหญ่ แนวดอกไม้ที่ยาวกว่า 156 เมตร รวมถึงทะเลสาบอันสวยงามที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ผึ้งในรั้ววัง โดยปกติจะเปิดให้เข้าชมทุกปีในช่วงฤดูร้อน
ป่าลอนดอนโบราณขนาดใหญ่ อยู่ห่างจากจัตุรัสทราฟัลการ์ (Trafalgar Square) ไปเพียง 6 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นสวนสาธารณะเก่าแก่ที่เปรียบเสมือนสวนสัตว์เปิด มีสัตว์หายากให้ชม มีต้นไม้โบราณให้เรียนรู้ มีธรรมชาติที่งดงาม มีสระน้ำธรรมชาติน้ำใสสะอาดเย็นเจี๊ยบให้ว่ายน้ำเล่น ให้ความรู้สึกราวกับหลุดเข้าไปในป่ากลางกรุงเลยทีเดียว และยังมีลานกว้างให้ได้ชมวิวของกรุงลอนดอน และถ่ายรูปธรรมชาติสวยๆ แบบป่าๆ อีกด้วย
สายถ่ายรูปคงถูกใจกับอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของอังกฤษ อาณาเขตครอบคลุมตั้งแต่เมืองเชฟฟิลด์จนถึงแมนเชสเตอร์ นอกจากจะได้สัมผัสกับธรรมชาติสีเขียวๆ ที่นี่ยังมีหมู่บ้านชนบทอังกฤษแบบดั้งเดิมให้แวะเที่ยว มีโบสถ์ จัตุรัส ให้ได้ไปสัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิม และยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านขายของที่ระลึก อย่าลืมแวะชิมขนมหวานชื่อดังประจำเมืองเชฟฟิลด์อย่าง “เบคเวลล์พุดดิ้ง” และ “เบคเวลล์ทาร์ต” อุทยานแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Pride and Prejudice" อีกด้วย
ที่เที่ยวอังกฤษแห่งนี้ แม้โลเกชันจะไม่ค่อยสวยโดนใจ ออกไปแนวหลอนๆ มากกว่า แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของเหล่าสาวกอินสตาแกรม เป็นอุโมงค์คนเดินลอดใต้แม่น้ำเทมส์ ตั้งอยู่กรุงลอนดอนตะวันออก มีความยาวกว่า 370 เมตร เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้ระยะเวลาเดินจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่งประมาณ 15 นาที ใครชอบถ่ายรูปและไม่กลัวเรื่องผีสาง แนะนำให้ลองไปเดินเล่นตอนดึกๆ อาจได้สัมผัสประสบการณ์ขนหัวลุกก็ได้ใครจะไปรู้
“เลกดิสทริกต์” หรือรู้จักกันในชื่อ “เลกแลนด์” (Lakeland) เป็นหนึ่งในเขตอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศอังกฤษ ด้วยภูมิประเทศที่สวยงาม และธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ตระการตา มีทะเลสาบน้อยใหญ่จำนวนมากถึง 19 แห่ง ซึ่ง ที่นี่ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ วรรณกรรม และเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติแบบครบครัน ทั้งเส้นทางขับรถ เส้นทางเดินป่า เส้นทางนักปั่น และเส้นทางล่องเรือ มีเวลาเที่ยวได้นานๆ ต้องห้ามพลาด
หมู่บ้านน่ารักๆ บนฝั่งตะวันออกของทะเลสาบวินเดอร์เมียร์ ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ชุมชนอันเงียบสงบแห่งนี้มีจุดเด่นคือ อาคารสไตล์ทิวดอร์ สถาปัตยเก่่าแก่สุดคลาสสิก ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์ริมทะเลสาบที่รวบรวมข้าวของและจัดแสดงเรื่องราวจากนิทานเด็ก “กระต่ายน้อยปีเตอร์” (Peter Rabbit) ที่โด่งดังไปทั่วโลก มีทั้งสถานที่จำลองจากนิทาน ร้านของฝากน่ารักมากมายหลายร้าน ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของกระต่ายน้อยกับผองเพื่อนมีแววว่ากระเป๋าฉีกแน่นอน
ปราสาทหินอายุเกือบพันปีในเขตเบิร์กเชียร์ (Berkshire) รอบนอกกรุงลอนดอน เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในโลก จุดเด่นของพระราชวังวินด์เซอร์ที่เห็นได้แต่ไกลคือ หอคอยทรงกระบอกกลวงที่ใหญ่โตโดดเด่นอยู่บนเนินเขาเขียวชอุ่ม มีสายน้ำเทมส์ทอดยาวอยู่เบื้องล่าง แม้จะเป็นพระราชวังเก่าแก่ที่สุดในโลก แต่ปัจจุบันยังคงเป็นที่ประทับของราชบัลลังก์อังกฤษ รวมทั้งเป็นสถานที่จัดราชพิธีสำคัญๆ โดยเปิดบางส่วนให้นักท่องเที่ยวได้ชมความยิ่งใหญ่อลังการ และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์สวนชนบทอังกฤษ
เรือนเพาะชำที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ “คอร์นวอล” (Cornwall) เมืองทางใต้ของอังกฤษ ภายในโดมหน้าตาคล้ายรังผึ้งได้มีการผสมผสานระบนิเวศ ทั้งเขตร้อนและเขตอบอุ่นไว้ด้วยกันได้อย่างน่าทึ่ง ที่นี่ยังมีงานประติมากรรมสุดเซอร์ ที่สร้างจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เก่าๆ และยังมีเทศกาลศิลปะและดนตรีสุดฮิปให้ได้ชมในช่วงซัมเมอร์ โดยรายได้ทั้งหมดทั้งค่าบัตรผ่าน อาหารเครื่องดื่ม และของที่ระลึก จะถูกนำไปใช้การปลูกจิตสำนึกให้ผู้คนรักษ์สิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น
หมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ทางขอบด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาตินิวฟอเรสต์ (New Forest National Park) ในเมืองแฮมเชียร์ (Hampshire) ใครชอบบรรยากาศหมู่บ้านในนิทาน บอกได้เลยว่ามาเที่ยวที่นี่ไม่ผิดหวัง เพราะเป็นหมู่บ้านที่ดูเหมือนกาลเวลาทำอะไรไม่ได้เลย ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมทุกประการ ทั้งปราสาทเก่าแก่ บ้านโบราณ และยังเป็นที่ตั้งของ “British National Motor Museum” พิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษอีกด้วย
หนึ่งในที่เที่ยวอังกฤษห้ามพลาดคือ “ยอร์ก” (York) เมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบ 2,000 ปี สถานที่ตั้ง มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ “มหาวิหารยอร์ก” โดดเด่นและสง่างามด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์กอทิก บริเวณรอบๆ เป็นเมืองเก่าที่ยังมีกำแพงโบราณให้ได้เดินชมเพลินๆ และอย่าลืมไปเก็บภาพมาอัพเดทลงอินสตาแกรมไว้อวดเพื่อนๆ ที่ “ลิตเติลแชมเบิลส์” (Little Shambles) ถนนเล็กๆ อันเป็นที่มาของตรอกไดแอกอนในหนังพ่อมดแฮรี่พอตเตอร์สุดโด่งดัง
“สโตนเฮนจ์” อนุสาวรีย์หินสุดพิศวงแห่งที่ราบซัลลิสเบอร์รี่ (Salisbury Plain) ในเขตวิลต์เชียร์ (Wiltshire) อีกหนึ่งจุดปักหมุดยอดนิยมของนักเดินทางที่ต้องแวะไปชม 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ที่ทุกวันนี้ก็ยังไม่คำตอบที่แน่ชัดเรื่องที่มาที่ไปของกลุ่มหินประหลาดขนาดใหญ่ ที่วางเรียงรายเป็นวงกลมกลางท้องทุ่งกว้างใหญ่ ใครอยากสัมผัสแท่งหินแบบใกล้ๆ ต้องเสียค่าเข้าชม พร้อมรับฟังคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ ใครอยากถ่ายรูปมุมไกลแบบไม่ต้องเสียเงินก็ต้องได้ แต่อาจจะไกลไปสักนิด
ปราสาทยุคกลาง 1 ใน 10 ของอนุสรณ์สถานแห่งประวัติศาสตร์ชาติของอังกฤษ ตั้งอยู่ริมหน้าผาที่มองเห็นวิวแม่น้ำเอวอนในเมืองวอร์วิก (Warwick) แต่เดิมเป็นป้อมไม้ สร้างโดยนักรบไวกิ้งชาวเดนมาร์ก ปราสาทแห่งนี้นอกจากจะมีความสวยงามน่าเกรงขาม ยังมีตำนานเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นที่นี่ ให้คนรุ่นหลังได้ตามรอยกัน โดยเฉพาะที่ชั้นใต้ดินอันสุดสยองขวัญ นอกจากนี้ที่ลานกลางปราสาทยังมีการเเสดงของการสู้รบในเเบบอัศวินยุคกลางให้ได้ชมอีกด้วย
อีกหนึ่งพระราชวังสำคัญ ที่สายถ่ายรูปต้องไม่พลาด ด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมทิวดอร์สุดคลาสสิก นอกเหนือจากการชมความสวยงามทั้งภายในและภายนอก รวมทั้งถ่ายรูปในสวนสวยสุดอลังการ ที่ประทับของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 แห่งนี้ ยังมีกิจกรรมมากมายให้ได้ร่วมสนุก ทั้งเล่นสเก็ตน้ำแข็ง ณ ลานหน้าพระราชวัง ชิมอาหารที่เสิร์ฟจากครัวหลวง หนึ่งในโรงครัวโบราณที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ และร่วมทัวร์ตามรอยผี (Ghost Tours) อันน่าขนหัวลุก
หนึ่งในเที่ยวอังกฤษยอดนิยม สายถ่ายรูปต้องหลงรัก “คอทส์โวลส์” เป็นกลุ่มหมู่บ้านเล็กๆ น่ารักๆ ทางตอนใต้ของอังกฤษ ที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ และยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างดีเยี่ยม จุดเด่นคืออาคารบ้านเรือนที่สร้างด้วยหินสีน้ำผึ้ง ปลูกเรียงเป็นแถวตามรายทาง มองดูคล้ายกระท่อมน้อยในนิทาน เหมาะแก่การเช่ารถขับลัดเลาะไปตามหมู่บ้านต่างๆ เพื่อสัมผัสกับวิถีชีวิตชนบทอังกฤษแบบเต็มๆ สวยงามจนต้องถ่ายรูปรัวๆ เลยทีเดียว
ใครชอบโลเกชันแบบแปลกๆ ชวนขนลุก ต้องมุ่งหน้าไปที่ “ป่าวิสท์แมน” ผืนป่าโบราณบนเนินเขาริมชายฝั่งแม่น้ำเวสต์ดาร์ท ในเขตอุทยานแห่งชาติดาร์ทมัวร์ (Dartmoor National Park) ของเมืองเดวอน จุดเด่นของป่าแห่งนี้คือต้นโอ๊คอายุ 500 ปี ที่มีรูปทรงประหลาด และมีกิ่งก้านแผ่ขยายออกไปครอบคลุมพื้นที่จนแสงแดดไม่อาจส่องถึง โคนต้นปกคลุมด้วยมอสส์และเฟิร์นสีเขียวชอุ่ม ผืนป่าแห่งนี้ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแมกไม้โบราณนานาพันธุ์ และเต็มไปด้วยตำนานแบบหลอนๆ อีกด้วย
กำแพงโรมันที่ขึ้นชื่อที่สุดและยาวที่สุด เรียกได้ว่ายาวกว่าแพงเมืองจีนเสียอีก โดยมีความยาวกว่า 122 กิโลเมตร ขวางตลอดแนวพรมแดนทางใต้ของอังกฤษและสกอตแลนด์ ตั้งแต่ทะเลฝั่งซ้ายไปจนจรดแนวทะเลฝั่งขวาของแผ่นดิน บางส่วนของกำแพงมรดกโลกแห่งนี้ยังคงเหลือให้เห็น แม้กาลเวลาจะผ่านมานับสองพันปี และบางส่วนยังแข็งเป็นสามารถเดินตามได้ตลอดแนว มีธรรมชาติสวยๆ กว้างไกลสุดสายตาให้ถ่ายรูปได้เพลินๆ กับกำแพงต้นแบบในซีรี่ส์ Game of Thrones
การท่องเที่ยวต่างประเทศกลับมาแล้ว หลังจากสถานการณ์ร้ายๆ ได้ผ่านพ้นไป แต่ก็ยังต้องระมัดระวัง เว้นระยะห่าง ใส่แมส พกสเปรย์แอลกอฮอล์กันอยู่นะคุณๆ แล้วที่สำคัญอย่างที่สุดก็คือ ต้องฉีดวัตซีนครบโดส มีผลตรวจโควิด และมีเอกสารยืนยันการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มด้วยนะ