Traveloka TH
30 May 2024 - 5 min read
ต้องบอกเลยว่าปัจจุบันนี้การเที่ยวประเทศเวียดนามกำลังมาแรงอย่างมาก ใครกำลังมองหาที่เที่ยวอยู่ เราขอแนะนำเมืองฮอยอัน เมืองมรดกโลกที่มีเอกลักษณ์สวยงามเฉพาะตัว นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีกิจกรรมการท่องเที่ยวมากมาย บอกได้เลยว่าเอาใจนักท่องเที่ยวแบบสุด ๆ ทั้งอาหารการกิน, แหล่งช้อปปิ้ง, กิจกรรมแสนสนุกมากมาย รวมไปถึงสถานที่ถ่ายรูปเช็กอินไว้อวดเพื่อนชาวโซเชียลก็มีครบ เรียกได้เลยว่ามาเที่ยวฮอยอัน 2023 แล้วได้ครบจบในที่เดียว หากสนใจไปเที่ยวแล้วล่ะก็ สามารถกดจองตั๋วเครื่องบินไปฮอยอันกับแอป Traveloka ได้เลย เพราะเราจะพาทุกท่านไปชาร์ตพลังอย่างเต็มที่ กับสถานที่ท่องเที่ยวฮอยอันอย่างแน่นอน
แน่นอนว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง ก่อนที่คุณจะไปที่เที่ยวฮอยอัน เราขอแนะนำให้เติมพลังก่อนด้วยร้านอาหารเวียดนามฮอยอันอย่างร้านอาหาร Hoi An Cuisine ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮอยอัน โดยบรรยากาศร้านเป็นแบบสไตล์พื้นบ้านและมีอาหารประจำถิ่นของชาวเวียดนามแบบต้นตำรับให้ชิมมากมาย ยกตัวอย่างเช่น บั๋นหมี่ บั๋นเบ้ เป็นต้น อีกทั้งจุดเด่นของร้านอาหารที่นี่คือ มีเซตอาหารเวียดนามให้สั่งชิมกันได้อีกด้วย หากใครที่มาเที่ยวฮอยอัน และยังไม่รู้ว่าจะสั่งเมนูไหนดี ขอแนะนำให้สั่งเป็นเซตเพราะจะได้ชิมอาหารแบบครบ ตามแบบฉบับชาวเวียดนามขนานแท้
หากใครที่ได้มาสถานที่เที่ยวฮอยอัน แต่ไม่ได้แวะมาที่นี่ถือว่าพลาดที่สุด เพราะการพายเรือกระด้ง (Hoi An Basket Boat) ของฮอยอันถือเป็นการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคนท้องถิ่น โดยเรือกระด้งถือเป็นภูมิปัญญาในการสัญจรบริเวณริมน้ำของชาวเวียดนามมาอย่างยาวนาน จึงเป็นจุดเด่นสำคัญของชาวเมืองฮอยอัน นอกจากนี้ยังได้เที่ยวชมธรรมชาติที่ฮอยอันอย่างใกล้ชิด ทำให้เป็นกิจกรรมการเที่ยวฮอยอัน ที่ไม่ว่าใครได้ไปฮอยอันก็ต่างแวะมาสักครั้ง
อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวฮอยอันในยามค่ำคืนที่พลาดไม่ได้ต้องยกให้เป็นตลาดกลางคืนที่ฮอยอัน (Hoi an night market) แห่งนี้ โดยมีทั้งอาหารริมทาง ร้านขายของฝากของที่ระลึกจากสถานที่ท่องเที่ยวในฮอยอัน และยังมีสินค้าราคาไม่แพงจำหน่ายอีกมากมาย ถือเป็นที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด สำหรับใครที่ไปฮอยอันและกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวในยามค่ำคืนที่มีทั้งของกินและของใช้จำหน่ายในที่เดียวกัน
เมืองโบราณฮอยอันแห่งนี้ เป็นสถานที่เที่ยวฮอยอันที่เปรียบเสมือนซิกเนเจอร์สำคัญและเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ใครได้มาเที่ยวฮอยอันต้องแวะ เพราะคุณจะได้พบกับสถาปัตยกรรมตึกเก่าในสมัยศตวรรษที่ 16 ถึง 17 ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของชาวต่างชาติที่มาเวียดนามในสมัยก่อน นอกจากนี้อีกจุดเด่นก็คือตัวตึกที่เป็นโทนสีเหลืองมัสตาร์ด หากใครที่ชอบการถ่ายรูปต้องแวะมาเช็กอินที่เที่ยวฮอยอันแห่งนี้ เพราะบอกเลยว่าตึกนี้มีความคลาสสิคและเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครแน่นอน
ตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดง Hoi An Memories ที่ตั้งอยู่บริเวณเกาะกลางน้ำ สัมผัสถึง แสง สี เสียง และประวัติของเมืองฮอยอัน ผ่านการบอกเล่าด้วยการแสดงสุดตระการตา บอกได้เลยว่าหากใครที่ชื่นชอบการดูละครเวทีหรือการดูคอนเสิร์ตอยู่แล้ว สถานที่ท่องเที่ยวในฮอยอันแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งจุดเที่ยวที่คุณต้องแวะด่วน นอกจากนี้ยังสามารถเที่ยวฮอยอันคนเดียวได้ที่นี่อีกด้วย
เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวฮอยอันที่เหมือนได้มาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นไปพร้อม ๆ กัน เพราะสะพานญี่ปุ่นฮอยอันที่ Old Town แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวฮอยอันที่มีสถาปัตยกรรมการสร้างแบบสไตล์ญี่ปุ่น อีกทั้งในบริเวณรอบ ๆ ยังมีทั้งร้านอาหารและร้านค้ามากมาย จึงเป็นสถานที่เที่ยวฮอยอันสำหรับเช็กอินถ่ายรูปที่ครบวงจรอีกหนึ่งที่เลยก็ว่าได้
ต้องบอกก่อนเลยว่าการนั่งรถสามล้อของที่เที่ยวฮอยอัน ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์สามล้อ แต่เป็นรถสามล้อแบบปั่นจักรยาน (Cyclo) เสมือนพาคุณย้อนยุคไปยังอดีต ซึ่งคุณสามารถรับชมได้ทั้งบรรยากาศรอบเมืองและความสวยงามของเมืองอย่างใกล้ชิดมาก เป็นอีกหนึ่งทริปฮอยอัน ที่คุณจะได้ประสบการณ์แปลกใหม่ในการทัวร์ฮอยอันครั้งนี้อย่างแน่นอน
สถานที่แห่งนี้ถือเป็นที่เที่ยวฮอยอันแบบสไตล์พื้นบ้าน เพราะเมื่อมาเยือนที่ตลาดสดฮอยอัน (Hoi An Market)แห่งนี้ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของตลาดเวียดนามแบบของแท้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายแบบหาบเร่ การขายของริมทาง หรืออาหารพื้นบ้านมากมายก็มีรวมไว้ในที่เที่ยวฮอยอันแห่งนี้แล้ว หากใครที่ชอบการเที่ยวแบบดั้งเดิมแล้วล่ะก็ อย่าลืมแวะมาตลาดสดฮอยอันโดยเด็ดขาด
มาเที่ยวฮอยอันทั้งที ต้องมาสัมผัสกับแม่น้ำทูโบน (Thu Bon River) หนึ่งในแม่น้ำสายสำคัญของเมืองฮอยอัน ซึ่งคุณจะได้พบกับวิถีชีวิตของชาวบ้านพื้นเมืองในที่เที่ยวฮอยอันแห่งนี้ อาทิ การสัญจรผ่านทางน้ำและการหาปลาในแม่น้ำ หากใครที่ยังไม่รู้ว่ามาที่ฮอยอันแล้วจะเที่ยวที่ไหนดี แม่น้ำแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เราอยากแนะนำ
มาอธิษฐานขอพรที่สมาคมฟุกเกี๋ยน (Assembly Hall of Fujian Chinese) ซึ่งเป็นสมาคมชาวจีนขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในเมืองฮอยอัน โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาอธิษฐานขอพรกันเป็นจำนวนมาก เพราะมีความเชื่อว่าคำอธิษฐานจะจัดส่งถึงเทพเจ้าบนสวรรค์ได้ง่ายและจะเป็นจริงได้ และเมื่อมาขอพรที่นี่เสร็จ อีกหนึ่งสิ่งที่ชาวเมืองฮอยอันแนะนำให้ทำคือ มาลอยกระทงกระดาษที่แม่น้ำทูโบน เพราะอยู่ใกล้กับสมาคมฟุกเกี๋ยน เพื่อความราบรื่นในชีวิตและความประสบผลสำเร็จตามต้องการ ถือเป็นอีกหนึ่งแพลนเที่ยวฮอยอันที่สายดูดวงต้องไม่พลาด
ใครว่าที่ฮอยอันมีแต่แม่น้ำอย่างเดียว เพราะเมืองนี้ก็มีทะเล แหล่งที่เที่ยวฮอยอันแห่งนี้คือ ชายหาดคัวได (Cua Dai Beach) ที่สวยงาม รอให้คุณได้มาสัมผัสและพักผ่อนได้เช่นเดียวกัน โดยที่เที่ยวฮอยอันแห่งนี้เป็นชายหาดเม็ดทรายสีขาวสวยที่มีบรรยากาศเงียบสงบและตั้งอยู่กับตรงข้ามแม่น้ำทูโบน หากใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวทะเลฮอยอัน เราขอแนะนำหาดคัวไดซึ่งถือเป็นชายหาดฮอยอันที่ขึ้นชื่อ เพราะรับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน
สำหรับถนน Tran Phu Street ฮอยอัน ถือเป็นหนึ่งในถนนสายหลักของเมืองโบราณ ซึ่งริมฝั่งบริเวณถนนเส้นนี้มีร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึกมากมาย และยังรวมไปถึงของกินข้างทางอีกด้วย โดยระหว่างทางการเดินช้อปปิ้งที่ถนนเส้นนี้ คุณสามารถที่จะแวะถ่ายรูปเช็กอินกับบรรยากาศเมืองโบราณ ทำกิจกรรมนั่งเรือชมวิว หรือจะปั่นจักรยานรอบเมืองก็ได้ หากใครกำลังกังวลอยู่ว่าไปฮอยอัน เที่ยวที่ไหนดี เราขอแนะนำให้มาเดินชิล ๆ ที่นี่ เพราะรับรองว่าตอบโจทย์คุณได้ดีอย่างแน่นอน
เป็นอีกที่เที่ยวฮอยอันที่จะทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศของแม่น้ำทูโบน (Thu Bon River) หนึ่งในเส้นทางการสัญจรของชาวเวียดนาม โดยระหว่างการล่องเรือ นักท่องเที่ยวทุกท่านจะได้ชมวิวสองข้างทางพร้อมทั้งได้ถ่ายรูปบรรยากาศความงดงามของแม่น้ำสายนี้ นับว่าเป็นการท่องเที่ยวแบบชมธรรมชาติที่ฮอยอันแบบน่าสนใจมากเลยทีเดียว
หากใครกำลังมองหาสถานที่เที่ยวฮอยอันเชิงความรู้ผสมผสานวัฒนธรรม เราขอแนะนำหมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาถั่นฮา (Thanh Ha Pottery Village) ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีอายุยาวนานมากกว่า 5 ศตวรรษ โดยนักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ถึงการทำเครื่องปั้นดินเผาด้วยมือ และซื้อของฝากเครื่องปั้นดินเผากลับไปได้อีกด้วย จึงเป็นอีกสถานที่เที่ยวฮอยอันที่มีทั้งกิจกรรมและให้ความรู้ได้ดีเลยทีเดียว
บ้านประจำตระกูลตันกี (Old House of Tan Ky) เป็นที่เที่ยวฮอยอันที่คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศบ้านของเศรษฐีเก่าประจำตระกูลตันกีของชาวเวียดนามซึ่งมีอายุเก่าแก่ที่สุด นอกจากนี้ยังมีความสวยงามอย่างมากกับสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่าง จีน เวียดนาม และญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน มั่นใจเลยว่าใครที่ได้มาถ่ายรูปเช็กอินที่นี่ จะได้รูปไปอวดลงในโซเชียลแบบเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครแน่นอน
หาซื้อของฝากและของที่ระลึกติดมือของการมาเที่ยวเมืองฮอยอันได้ที่ศูนย์วัฒนธรรมและหัตถกรรม (Hoi An Handicraft Tours) แห่งนี้ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีทั้งโรงละครที่จัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวเมืองเวียดนามอีกด้วย โดยจะเปิดให้รับชมสองรอบต่อวันคือรอบ 10.00 น.และ 15.00 น. เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวฮอยอันแนวความรู้ที่ทุกท่านต้องไม่พลาด
จิบกาแฟที่ร้านกาแฟในเมืองฮอยอันU Cafe Hoi An ร้านกาแฟที่ตกแต่งสถาปัตยกรรมแนวญี่ปุ่น เพราะก่อตั้งขึ้นโดยสาวชาวญี่ปุ่นที่มีนามว่า Reiko Usuda โดยจุดเด่นของคาเฟ่ร้านนี้คือคุณจะได้นั่งจิบกาแฟพร้อมชมวิวแม่น้ำ Hoei แบบฟิน ๆ โดยที่เที่ยวฮอยอันแห่งนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 06.00 น. ไปจนถึง 22.00 น. ของทุกวัน หากอยากมาเช็กอินแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณจัดตารางให้ดี จะได้ไม่พลาดคาเฟ่แสนน่ารักแห่งนี้
มาเที่ยวฮอยอันแล้ว ต้องมาแวะชิมร้านสมุนไพรเจ้าดัง Mot Hoi An ที่มีน้ำสมุนไพรรสชาติแปลกใหม่ให้ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นน้ำดอกบัวหรือน้ำสมุนไพรที่มีส่วนผสมจากตะไคร้ มะนาว และเครื่องเทศอีกหลากหลายก็มีให้ได้เลือกชิมมากมาย บอกได้เลยว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวฮอยอันที่มีคนมาต่อคิวยาวที่สุดในบรรดาร้านเครื่องดื่มทั้งหมดเลยก็ว่าได้
หากใครที่กำลังมองหาสถานที่เที่ยวฮอยอันแบบสโลว์ไลฟ์ ขอแนะนำคาเฟ่ Faifo Coffee เพราะที่นี่เป็นคาเฟ่ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศเมืองเก่าแก่ของฮอยอันแบบเต็มอิ่ม โดยคุณจะได้นั่งบนดาดฟ้าซึ่งสามารถมองเห็นวิวถนนภายในเมืองได้ ถือเป็นจุดเด่นที่ใครได้มาฮอยอันต้องมาถ่ายรูปเช็กอินกันที่นี่
ขอแนะนำให้คุณแวะมาถ่ายรูปกับประตูวัดโบราณ Ba Mu Temple Gate อันเก่าแก่ของเมืองฮอยอัน ซึ่งสร้างมานานมากกว่า 4 ศตวรรษ โดยเป็นประตูวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮอยอัน และในปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีการบูรณะทางเข้าให้สวยงาม นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งไฟประดับประดา เหมาะแก่การมาถ่ายรูปเช็กอินอย่างมาก
สำหรับการมาที่เที่ยวฮอยอัน นักท่องเที่ยวใช้เพียงแค่พาสปอร์ต โดยไม่ต้องขอวีซ่าและสามารถอยู่ได้สูงสุดถึง 30 วัน นอกจากนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารการตรวจโควิดหรือเอกสารรองรับการฉีดวัคซีนอีกด้วย โดยสามารถเลือกจองเที่ยวบินตรงลงดานัง รวมถึงเช่ารถจากแอป Traveloka เพื่อต่อมายังเมืองฮอยอันได้เลย
คุณจำเป็นที่จะต้องรู้ข้อมูลเบื้องต้นเพื่อให้การวางแผนการท่องเที่ยวฮอยอันของคุณเป็นไปอย่างมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนระยะเวลาการท่องเที่ยว, สภาพอากาศ, ค่าเงิน, เวลา หรือการเดินทางทั้งภายในและการเข้าประเทศ หัวข้อต่อไปนี้จึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญและมีประโยชน์อย่างมากกับการเที่ยวฮอยอันอย่างแน่นอน
เมืองฮอยอันเป็นเมืองของจังหวัดกว๋างนาม ตั้งอยู่ในประเทศเวียดนาม มีประชากรราว ๆ 83,000 คน
โดยเป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์กร UNESCO เมื่อปีพ.ศ. 2542 มีพื้นที่ในเมืองรวม 61.71 ตารางกิโลเมตร และตั้งอยู่บนฝั่งทางเหนือของแม่น้ำทูโบน โดยทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดของเมืองฮอยอันนั้นติดกับเมืองดานัง ในขณะที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับเมืองตามกี่
คุณสามารถจองตั๋วนั่งเครื่องบินไปฮอยอันได้กับแอป Traveloka เพื่อบินไปยังสนามบินดานัง โดยใช้ระยะเวลาในการบินตรงถึงเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 40 นาที ซึ่งสายการบินประเภทบินตรงที่รองรับประกอบไปด้วย สายการบิน AirAsia กับสายการบิน Vietnam Airlines นั่นเอง และเนื่องจากเมืองฮอยอันไม่มีสนามบิน คุณจึงต้องเดินทางจากสนามบินดอนเมือง บินตรงถึงสนามบินดานัง เพื่อนั่งรถต่อไปเมืองฮอยอัน โดยเมื่อถึงสนามบินดานัง เวียดนามแล้ว หลังจากนั้นขอแนะนำให้คุณจองรถเช่าผ่านแอป Traveloka เพื่อนั่งต่อไปยังเมืองฮอยอันถึงที่ได้เลยอย่างสะดวกสบาย
โดยส่วนใหญ่แล้ว คุณสามารถเรียกรถแท็กซี่หรือใช้บริการสามล้อถีบจักรยานได้ภายในเมืองฮอยอัน แต่หากต้องการความสะดวกมากกว่านั้น เราขอแนะนำให้คุณเช่ารถผ่านแอป Traveloka เพราะจะสะดวกสบายมากกว่า รวมถึงได้ราคาที่คุ้มค่าอีกด้วย
ในเมืองฮอยอันนั้นจะใช้ภาษาถิ่นซึ่งเป็นภาษาเวียดนามในการสื่อสารเป็นหลัก แต่นักท่องเที่ยวเมืองฮอยอันก็สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้เช่นเดียวกัน
ชื่อสกุลเงินของประเทศเวียดนามที่ใช้เรียกว่าเงินดงเวียดนาม หรือมีชื่อย่อว่า VND โดยมีอัตราการแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยอยู่ที่ 1 บาท ต่อ 702.15 ดงเวียดนาม (อัตราแลกเปลี่ยน ณ เดือนมกราคม ปี 2567)
เมืองฮอยอันนั้นเป็นเมืองในประเทศเวียดนามที่มีเวลาเท่ากับประเทศไทย โดยใช้หน่วยเวลาเดียวกันก็คือ GMT+7 คุณจึงไม่ต้องกังวลเรื่อง Time Zone ที่ไม่เท่ากัน
สำหรับฤดูกาลของเมืองฮอยอันประเทศเวียดนามนั้นแบ่งออกเป็น 3 ฤดูกาล ประกอบไปด้วย
ทั้งนี้ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การทัวร์ฮอยอันมากที่สุดคือ ช่วงเดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนมกราคม เพราะถือว่าเป็นช่วงที่มีอากาศดีมาก