Traveloka TH
30 May 2024 - 7 min read
ถ้าพูดถึงการไปเที่ยวไต้หวัน คนส่วนใหญ่จะนึกถึงไทเปซึ่งเป็นเมืองหลวงที่อยู่ทางตอนเหนือ แต่หากนึกถึงเมืองท่าตอนใต้ของเกาะไต้หวัน ก็ต้องเป็น ‘เกาสง (Kaohsiung)’ เพราะมีที่เที่ยวเกาสงสวย ๆ และน่าสนใจ ให้ไปเช็กอินและถ่ายรูปอยู่มากมาย
โดยตอนนี้ตั๋วเครื่องบินไปเกาสงก็กำลังมีโปรเด็ด ๆ ให้คุณได้เลือกดูที่ Traveloka ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมแพ็กกระเป๋าไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวเกาสงในบทความนี้กันเลย!
จากอดีตที่เคยเป็นเมืองอุตสาหกรรมหนัก ปัจจุบันเกาสงได้เปลี่ยนโฉมหน้ามาพัฒนาด้านวัฒนธรรมสร้างสรรค์ จนตอนนี้กลายเป็นเมืองแห่งความสุขที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยของผู้คน
เกาสงมีการสร้างสรรค์งานศิลปะที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ทางด้านศิลปะอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่ทุกหนแห่ง และมี 20 จุดเช็กอินเก๋ ๆ ในที่เที่ยวเกาสง ไต้หวัน จึงถือได้ว่าเป็นเมืองสายอาร์ตที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
หากไปเที่ยวเกาสงแล้วมีโอกาสใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน เราขอชวนให้คุณแวะมาลงที่สถานี MRT Formosa Boulevard (05/R10) ซึ่งเป็นสถานีจุดเปลี่ยนเส้นทางรถไฟฟ้าระหว่างสายสีส้มและสายสีแดง เพราะคุณจะได้ตื่นตาตื่นใจกับโดมแห่งแสง (Dome of Light) ซึ่งเป็นศิลปะที่จัดแสดงอยู่ภายในสถานี
จุดเช็กอินเกาสงแห่งแรกนี้เป็นผลงานของ Narcissus Quagliata ศิลปินชาวอิตาลี ที่ประกอบขึ้นจากกระจก 4,500 แผ่นและใช้เวลาสร้างนานถึง 4 ปีครึ่ง โดยเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงการเกิด, การเติบโต, ความรุ่งเรือง และการถูกทำลายล้างของจักรวาล
นอกจากนี้ผลงานที่สถานีรถไฟใต้ดินของเกาสงแห่งนี้ยังได้รับการคัดเลือกจาก BootsnAll เว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดังของสหรัฐฯ ให้เป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่สวยเป็นอันดับ 2 ของโลกด้วย
มาเยือนเกาสงทั้งที ห้ามพลาดการขึ้นรถไฟฟ้ารางเบา (สายสีเขียว) ชมรอบเมืองเกาสง โดยรถไฟฟ้าสายนี้จะวิ่งไปตามแนวท่าเรือเกาสง และยังเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเกาสงอีกด้วย เช่น ศูนย์การค้าดรีมมอลล์, ศูนย์นิทรรศการเกาสง, ศูนย์ศิลปะ Pier-2 และย่านฮาหม่าซิง เป็นต้น
โดยรถไฟฟ้ารางเบาสายสีเขียวเรียกได้ว่าเป็นระบบขนส่งเพื่อการท่องเที่ยวที่ใหม่และได้รับความนิยมที่สุดของเกาสง เพราะบรรดาผู้คนที่มาที่เที่ยวเกาสงด้วยการขึ้นรถไฟฟ้ารางเบาจะสามารถรับชมธรรมชาติที่เกาสงและทัศนียภาพได้อย่างชัดเจนนั่นเอง
ศูนย์ศิลปะ The Pier-2 Art Center ปัจจุบันเป็นถนนสำหรับขี่จักรยานยอดนิยมของเมืองเกาสง แต่เดิมแล้วเป็นพื้นที่โกดังเก่าในเขตท่าเรือที่ 3 ของเกาสง ที่ผ่านการบูรณะปรับปรุง จนเป็นพื้นที่เปิดโล่งสำหรับจัดแสดงงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์ โดยมีการจัดกิจกรรมด้านศิลปะและวัฒนธรรมต่าง ๆ อยู่เสมอ รวมถึงเปิดเป็นพื้นที่ให้ศิลปินและนักศึกษาใช้เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานสร้างสรรค์ของตัวเอง และยังมีรางรถไฟที่ใช้ส่งลำเลียงสินค้าจากท่าเรือในอดีตอีกด้วย
ฮาหม่าซิง (Hamasen Railway Cultural Park) เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการปกครองในยุคแรกของเกาสง นอกจากนี้ย่าน‘เหยียนเฉิงผู่’ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ก็เคยเป็นย่านการค้าที่เฟื่องฟูที่สุดมาตั้งแต่อดีตของที่เที่ยวเกาสงอีกด้วย
ปัจจุบัน ที่เที่ยวเกาสงแห่งนี้เป็นถนนสายเล็ก ๆ ที่มีบ้านโบราณและอาหารพื้นเมืองแบบดั้งเดิมตั้งอยู่ รวมทั้งเป็นสถานที่ชุมนุมของศิลปินและนักวัฒนธรรมสร้างสรรค์ประจำเกาสงอีกด้วย ถือเป็นที่เที่ยวเกาสงที่ควรค่าต่อการมาสัมผัสและเที่ยวชมสักครั้ง
ทะเลสาบดอกบัว (Lotus Pond) หรือชื่อในภาษาจีนคือ ‘เหลียนฉือถาน’ (Lianchitan) เป็นจุดชมวิวที่มีความงามแบบดั้งเดิมและตั้งอยู่ในเขตจั่วอิ๋งของเมืองเกาสง โดยบริเวณรอบทะเลสาบมีทั้งวัด, ศาลเจ้า, เทวรูปองค์ใหญ่, กำแพงเมืองโบราณ รวมถึงมีชุมชนเก่าแก่อย่าง บ้านโบราณและหมู่บ้านทหารผ่านศึกตั้งอยู่อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีถนนและตลาดโบราณที่สามารถลิ้มรสอาหารพื้นเมืองของจั่วอิ๋งได้อย่างหลากหลาย ทำให้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กเกาสงที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณเจดีย์มังกร-เสือ (Dragon Tiger Pagodas) ซึ่งคนเกาสงเชื่อว่า หากตนเองเดินเข้าทางปากมังกร แล้วเดินออกทางปากเสือ ก็จะช่วยให้แคล้วคลาดจากอันตรายได้
วัดฝอกวงซัน เกาสง (Foguangshan Buddha Memorial Center) ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 500,000 ตร.ม. โดยมีพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนาที่สร้างเมื่อปี 2011 ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำเกาผิง มีอารามเรียงรายอยู่บนเขา ทำให้บรรยากาศดูศักดิ์สิทธิ์ สง่างาม และยิ่งใหญ่
วัดนี้ถือเป็นพุทธสถานที่สำคัญของเกาสง และยังเป็นที่เที่ยวเกาสงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีนและเทศกาลหยวนเซียว ภูเขาจะถูกประดับด้วยไฟสีต่าง ๆ จนมีสีสันสวยงาม และในช่วงกลางคืน นักท่องเที่ยวก็ยังสามารถมาชื่นชมความงามของแสงไฟที่สวยเจิดจรัสได้อีกด้วย
สถานกงสุลอังกฤษที่ต๋าโกว่ เมืองเกาสง (The British Consulate at Takao) เป็นสถานกงสุลอังกฤษแห่งแรกในไต้หวัน ตัวอาคารสร้างด้วยอิฐ มีรูปแบบเหมือนสิ่งปลูกสร้างในยุคเรอเนซองส์ผสมผสานบาโรกโดยสถานกงสุลเก่านี้ตั้งอยู่บนเนินเขา ติดกับชายฝั่งทะเล มีอายุกว่า 100 ปี
ที่นี่ถือเป็นสถานกงสุลแห่งแรกที่ใช้ติดต่อค้าขายทางเรือ ปัจจุบันเป็นสถานที่เที่ยวในเกาสงที่สามารถชมวิวท้องทะเลจากหน้าผาได้ ทั้งด้านที่พระอาทิตย์ตกและด้านอ่าวคลองเกาสง
ต้าถ่ง อาร์ต เซนเตอร์ (Dadong Arts Center) คือศูนย์รวมการแสดงศิลปวัฒนธรรม เช่น การร่ายรำ การร้องเพลงท้องถิ่นของเมืองเกาสง และเป็นที่จัดแสดงงานศิลปะสร้างสรรค์ของศิลปินทั้งรุ่นเก่าและใหม่ รวมทั้งมีห้องสมุดขนาดใหญ่ให้คนทั่วไปมาใช้ฟรีอีกด้วย
ศูนย์ศิลปะต้าถ่ง ก่อสร้างตามปรัชญาเซน โดยระหว่างตัวอาคารจะมีผ้าใบรูปร่างคล้ายบอลลูนเรียงราย ตอนค่ำจะมีการเปิดไฟหลากสีสัน ให้นักท่องเที่ยวได้รับชมอย่างเพลิดเพลินและถ่ายภาพศูนย์ศิลปะเกาสงแห่งนี้เป็นที่ระลึก
สถานศึกษาฟงยี่ (Fongyi Academy) เป็นศูนย์การศึกษาที่เก่าแก่ละใหญ่ที่สุดที่เคยมีในเมืองเกาสง โดยมีอายุกว่า 200 ปี ในอดีตสถานศึกษาฟงยี่ถือเป็นศูนย์กลางในการเรียนการสอนวิชาความรู้ต่าง ๆ ให้กับบัณฑิตที่จะต้องเดินทางไปสอบเข้ารับราชการ หรือสอบเพื่อเป็นจอหงวนที่จีนแผ่นดินใหญ่
ตลาดกลางคืนลิ่วเหอ (Liouhe Night Market) เป็นแหล่งรวมเมนูอาหารท้องถิ่นของเกาสง อาทิ ไก่ทอด บะหมี่ และร้านอาหารทะเลสดจำนวนมาก รวมถึงเครื่องดื่มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชานมไข่มุก กาแฟ หรือน้ำอ้อยสด รวมทั้งนอกจากนี้ ที่ตลาดลิ่วเหอยังมีเสื้อผ้า, กระเป๋า, รองเท้า, ของเล่น รวมถึงของฝากมากมายกว่าร้อยร้านค้า ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นตลาดกลางคืนของเกาสงแบบเพลิน ๆ ได้จนสุดถนน
หมู่บ้านศิลปะเว่ยอู่อิง (Weiwuying Street Art Village) เป็นย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่ในเกาสงที่ได้รับการเนรมิตให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์งานศิลปะบนกำแพงหรือ Graffiti ของศิลปินจากทั่วโลก กลายเป็นที่เที่ยวในเกาสงสุดป็อปที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมเยียน
ย่านอ่าวใหม่เอเชีย (Asia New Bay) เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ครบครันไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และงานศิลปะที่ตั้งอยู่ตามข้างทาง นอกจากนี้ยังล้อมรอบไปด้วยแหล่งที่เที่ยวเกาสงอีกมากมาย โดยไฮไลต์ของย่านนี้อยู่ที่สะพานข้ามน้ำ The Great Habour Bridge ที่เป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยวนั่นเอง
ย่านเมืองเก่าฉีซาน (Qishan Old Town) เป็นที่เที่ยวเกาสงทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์รถไฟน้ำตาลฉีซาน ที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำตาลในอดีตของไต้หวัน โดยมีการจัดแสดงแบบ Interactive ที่ให้ผู้เข้าชมมีส่วนร่วมและสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริง
ทะเลสาบเหม่ยหนง (Meinong Lake) เป็นทะเลสาบเทียมของเมืองเกาสงที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไต้หวัน โดยเป็นทะเลสาบที่มีทัศนียภาพสวยงาม เป็นสถานที่เที่ยวเกาสงที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาติ และต้องการพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามของแม่น้ำและภูเขา
ศูนย์ดนตรีเกาสง (Kaohsiung Music Center) เป็นที่เที่ยวเกาสงซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากอ่าว โดยเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาได้อย่างสร้างสรรค์ สวยงาม และแปลกตา เป็นพื้นที่สำหรับการแสดงดนตรี การแสดงละคร รวมถึงการจัดงานนิทรรศการต่าง ๆ
พิพิธภัณฑ์ฉีเหม่ย (Chimei Musuem) เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนของเกาสงที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1992 โดยเป็นแหล่งรวบรวมงานศิลปะตะวันตกหลากหลายรูปแบบ อาทิ สถาปัตยกรรมในสไตล์กรีก และนิทรรศการถาวรที่บอกเล่าเรื่องราวของวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลกรวมถึงอาวุธต่าง ๆ ที่เคยใช้งานจริงในยุโรป ถือเป็นที่เที่ยวเกาสงที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่เป็นสายชื่นชอบประวัติศาสตร์
หมู่บ้านวัฒนธรรมหอกลอง (Ten Drum Culture Village) เป็นที่เที่ยวเกาสงที่เป็นโรงละครสิบกลอง Art Percussion Group เป็นสถานที่แสดงศิลปะการตีกลองไต้หวันแบบโบราณ โดยมีคาเฟ่และร้านหนังสือมือสองที่รวบรวมหนังสือหายากหรือหนังสือเก่าที่หาซื้อไม่ได้แล้ว
โรงงานร่มน้ำมันก่วงจิ้นเซิง (Kuang Chin Sheng) เป็นศูนย์การเรียนรู้การทำร่มกระดาษแบบ DIY ถือว่าเป็นที่เที่ยวเกาสงที่อนุรักษ์ความเป็นศิลปะเก่าแก่ของไต้หวันอย่างแท้จริง โดยมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ลองทำร่มกระดาษ DIY ที่เริ่มตั้งแต่การวาดรูป ไปจนถึงการระบายสี ก่อนออกมาเป็นตัวร่มให้ติดไม้ติดมือเอากลับไปเป็นของที่ระลึกกันในขั้นตอนสุดท้าย
ห้างฮายาชิ (Hayashi Department Store) เป็นที่เที่ยวเกาสงที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ โดยเป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1932 ปัจจุบันชั้นบนของห้างเป็นคาเฟ่ และเป็นจุดชมวิวบนดาดฟ้าที่สามารถชมวิวมุมสูงของเมืองได้อย่างสวยงาม
ย่านซินจูเจียง (Shinkuchan Shopping District) เป็นหนึ่งในย่านช้อปปิ้งขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่เที่ยวเกาสงที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหลากหลายของสินค้าและราคาที่ย่อมเยา โดยนอกจากสินค้าทั่วไปที่มีขายแล้ว ยังมีร้านแบรนด์เนมชั้นนำตั้งอยู่อีกจำนวนมากให้ได้เลือกซื้อกันอีกด้วย
นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางไปที่เที่ยวเกาสง และเมืองอื่น ๆ ของประเทศไต้หวันได้เลยโดยไม่ต้องขอวีซ่าและระยะเวลาสูงสุดในการอยู่คือ 14 วัน ทั้งนี้สามารถกรอก Arrival card ล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ https://niaspeedy.immigration.gov.tw/webacard/ หรือจะกรอกแบบกระดาษบนเครื่องบินตอนเดินทางไปเกาสงก็ได้เช่นกัน โดยข้อมูลและเอกสารที่ต้องใช้ก็มีดังนี้
“เกาสง” เป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ของไต้หวันที่ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักในเรื่องของความทันสมัย ผสมผสานกับวัฒนธรรมเก่าแก่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบอีกด้วย
หากคุณกำลังวางแผนไปเที่ยวเกาสงด้วยตัวเอง หรือไปเกาสงครั้งแรก มาดูกันว่ามีข้อมูลอะไรบ้างที่น่ารู้ก่อนการเดินทาง
เกาสง เป็นเมืองใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของประเทศไต้หวันและมีอากาศแบบเขตร้อน โดยมีพื้นที่รวมกว่า 2,952 ตร.กม. ตัวเมืองสามารถแบ่งได้เป็น 3 พื้นที่หลัก ๆ คือ เมืองเก่า ซึ่งเป็นย่านประวัติศาสตร์, ย่านธุรกิจ ซึ่งจะอยู่บริเวณรอบ ๆ ท่าเรือเกาสง และพื้นที่เขตชานเมือง ที่เป็นย่านพักอาศัย
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเครื่องบินไปเกาสงได้โดยใช้เวลาจากกรุงเทพฯประมาณ 3 ชั่วโมง 20 นาที ทั้งนี้สามารถขึ้นเครื่องได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีสายการบินที่ให้บริการบินตรงไปเที่ยวเกาสงคือ Thai Airways และ China Airlines ทั้งนี้สามารถเช็กโปรโมชันรวมถึงส่วนลดต่าง ๆ ของสายการบินดังกล่าวได้ที่แอปพลิเคชัน Traveloka
ระบบขนส่งสาธารณะของเกาสงมีความครอบคลุมและทันสมัยเช่นเดียวกับเมืองใหญ่อื่น ๆ ของไต้หวัน ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางระหว่างที่เที่ยวเกาสงได้อย่างสะดวก โดยวิธีที่ได้รับความนิยมคือ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า KMRT ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 6:00 - 00.30 น. โดยมีทั้งหมด 3 สาย ได้แก่
ปัจจุบันการใช้ภาษาอังกฤษยังไม่เป็นที่แพร่หลายในเกาสง โดยส่วนใหญ่จะใช้ภาษาจีนกลางซึ่งเป็นภาษาราชการหลักของไต้หวัน ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงสามารถสื่อสารด้วยภาษาจีนกลางในที่เที่ยวเกาสงส่วนใหญ่ได้ นอกจากนี้ยังมีการใช้ภาษาจีนฮกเกี้ยนซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของไต้หวันอย่างแพร่หลายด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในย่านชุมชนเก่าแก่และย่านตลาด
ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (TWD) เป็นสกุลเงินที่ใช้ในที่เที่ยวเกาสง โดยอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินดังกล่าวจะค่อนข้างใกล้เคียงกับเงินบาทไทย นั่นคือ 1 TWD มีค่าเท่ากับ 1 บาทไทย (อัตราแลกเปลี่ยน ณ ปี 2024) ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถแลกเงินดอลลาร์ไต้หวันใหม่ได้ที่ธนาคารและสนามบิน
ไต้หวันใช้เขตเวลา CST (China Standard Time) หรือ UTC+8 ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง จึงทำให้เวลาในเกาสงจะเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมงเสมอ เช่น หากปัจจุบันเป็นเวลา 12:00 น. ของวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ในกรุงเทพฯ เวลาในเกาสงจะเป็นเวลา 13:00 น. ของวันที่ 8 ธันวาคม 2566
ฤดูกาลในเกาสงมีทั้งหมด 4 ฤดู ดังนี้