ใครอยากสัมผัสดินแดนสองทวีปที่ผสมผสานบรรยากาศแบบยุโรปและโซเวียต ด้วยค่าครองชีพที่ถูก และฟรีวีซ่าถึง 365 วัน ก็ต้องมาที่นี่เลย ‘จอร์เจีย’ ประเทศเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่สุดขอบทวีปเอเชีย เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ทั้งป่า เขา แม่น้ำ และที่เที่ยวจอร์เจียน่าเช็กอินมากมาย อย่างการไปตามรอยประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมอันแปลกตาต่าง ๆ
บางคนอาจสงสัยว่าและเราควรไปเที่ยวจอร์เจียกี่วันดีถึงจะเก็บครบได้ทุกไฮไลท์ ซึ่งจริง ๆ แล้วสัก 8-10 วัน ก็สามารถเก็บครบได้ทุกสถานที่แบบชิล ๆ สไตล์สบาย ๆ หากใครอยากลองเช็กวันเดินทางและราคาตั๋วเครื่องบินเบื้องต้น ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ Traveloka Travel & Lifestyle App แอปพลิเคชันที่คุณสามารถกดจองตั๋วเครื่องบินในราคาสุดคุ้มได้แบบง่าย ๆ แถมยังสามารถเลือกใช้บริการอื่น ๆ อาทิ บริการรถเช่า และบริการรถรับ-ส่งสนามบิน
จอร์เจียเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศที่หลากหลาย แต่สามารถไปเท่ียวได้ตลอดทั้งปี ใครที่สงสัยว่าเที่ยวจอร์เจียเดือนไหนดี ก็สามารถดูตามด้านล่างนี้ได้เลย
เริ่มกันด้วยที่เที่ยวจอร์เจียอันดับแรกกับ โรงละครเรโซกาเบรียลเซน โรงละครหุ่นเชิดแห่งแรกของเมืองทบิลิซี ที่มีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมของตึกอาคารที่มีความน่าแปลกตา และสีสันที่สวยงามจนทำให้ใครที่เดินผ่านมาก็ต้องสะดุดตากันทั้งนั้น โดยเฉพาะหอนาฬิกาที่ออกแบบมาได้ไม่ซ้ำใคร ซึ่งในทุก ๆ ชั่วโมง เข็มนาฬิกาจะเลื่อนไปชี้ที่เลขโรมัน และรูปปั้นนางฟ้าจะเปิดออกมาทักทายผู้คนที่เดินผ่าน พร้อมตีระฆังทุกต้นชั่วโมง โดยทางโรงละครมีการแสดงทั้งหมด 4 เรื่อง ได้แก่ เพชรของมาร์แชล เดอ ฟานต์, ฤดูใบไม้ร่วงยามใบไม้ผลิบาน, ราโมนา และการต่อสู้ในสตาลินกราด
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: 11:00 - 23:00 น.
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/jagAUEizKZRvgCqz8
หากใครได้มาเที่ยวจอร์เจีย แน่นอนว่าหนึ่งในสถานที่เที่ยวจอร์เจียที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ เทือกเขาคอเคซัส ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป โดยเทือกเขาแห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ เทือกเขาคอเคซัสใหญ่ และเทือกเขาคอเคซัสน้อย ตัดพาดผ่านระหว่าง 4 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย จอร์เจีย อาร์เมเนีย และอาร์เซอร์ไบจาน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเพื่อชมความงดงามของเทือกเขาที่ตัดพรมแดนระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเชียได้อย่างกว้างไกลสุดสายตา บอกเลยว่าใครที่เป็นสายเที่ยวธรรมชาติ ต้องไม่พลาดมาเช็กอินที่นี่เลย
ค่าเข้าชม:ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/pnSSan4Dc74BJbgK8
เดินทางไปต่อที่เที่ยวจอร์เจียอันดับถัดมากับ โบสถ์เกอเกติ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นโบสถ์คริสต์นิกายจอร์เจียนอร์โธด็อกซ์ที่ถูกสร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่ มีการออกแบบและก่อสร้างช่องประตูและหน้าต่างได้อย่างโดดเด่น จนได้รับการขนานนามว่าเป็นโบสถ์ที่มีความงดงามที่สุดในโลก อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังโอบล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าอันเขียวขจีที่ให้ทั้งความร่มรื่น และหุบเขาที่เรียงรายสลับทับซ้อนกันไปมาเป็นฉากหลัง จนเรียกได้ว่าเป็นจุดชมทัศนียภาพที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: 09:00 – 17:00 น.
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/dWFFvtxNL6ZA2kXy5
ที่เที่ยวจอร์เจียอันดับถัดมาที่ต้องไปปักหมุดเลยก็คือ ทะเลสาบเซวาน (Lake of Sevan) ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ถูกล้อมด้วยแม่น้ำหลายสาย ไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำฮราซดาน และแม่น้ำมาสริค ทำให้บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยสถานที่พักผ่อนที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเพื่อชมความงดงามของธรรมชาติ พร้อมทั้งดื่มด่ำไปกับบรรยากาศรอบ ๆ ได้อย่างเต็มที่ ยิ่งใครที่เป็นสายเที่ยวรักธรรมชาติแล้วละก็ ไม่ควรพลาดแก่การเดินทางมาเช็กอินกับแลนด์มาร์กเด็ดของจอร์เจียแห่งนี้เลย
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/ALHNRvkJfz2FX7Aj8
เมืองอัพลิสต์ซิเคห์ (Uplistsikhe) เป็นหนึ่งในที่เที่ยวจอร์เจียที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งแห่ง ซึ่งแต่เดิมที่แห่งนี้เคยถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของคนในสมัยก่อน เนื่องจากในอดีตที่นี่เคยเป็นเส้นทางการขายสินค้าจากประเทศอินเดียสู่ทางด้านเหนือแถบหมู่บ้านมทวารีในประเทศจอร์เจีย จึงทำให้ผู้คนตั้งถิ่นฐานอยู่ในถ้ำแห่งนี้เพื่อเป็นที่พักอยู่อาศัย โดยที่นี่ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ด้วยกัน ได้แก่ บริเวณส่วนใต้ กลาง และเหนือ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเพื่อชมความแปลกตาของสถาปัตยกรรมของถ้ำที่เกิดจากหินได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 19:00 น.
การเดินทาง: https://g.page/Chokoladobana?share
หากใครอยากไปสัมผัสลมหนาวและชื่นชอบการเล่นสกี เราขอแนะนำให้ไปเช็กอินที่ Gudauri Ski Resort สถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดหมายของคนที่รักในการเล่นสกี และต้องการชมความสวยงามของหุบเขาที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะขาว โดยช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทางมาก็คือ ช่วง เดือนธันวาคม-เมษายน ของทุกปี เนื่องจากความลาดชันของภูเขาที่มีความเหมาะสม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่มีให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอย่างครบครัน
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: 09:00 – 16:00 น.
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/yNmPtfkWuLrNs1YR9
เดินทางไปปักหมุดกันต่อกับที่เที่ยวจอร์เจียอันดับถัดมากับ วิหารจวารี (Jvari Monastery) ที่ถือเป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่บนยอดเขาใกล้กับเมือง Mtskheta โดยไฮไลท์ของการมาเยือนที่แห่งนี้คือ การมาชมวิวทิวทัศน์ของเมือง Mtskheta ที่มีแม่น้ำ Kura กับแม่น้ำ Aragvi ไหลมาบรรจบกัน ซึ่งหากใครไปได้จังหวะพอดี ก็จะได้เห็นความมหัศจรรย์ของแม่น้ำทั้งสองสายที่มีสีต่างกัน พร้อมทั้งได้ชมทัศนียภาพของธรรมชาติที่มีความสวยงามได้อย่างกว้างไกลสุดสายตา
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: 09:30 – 17:30 น.
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/SiP8bSfUXyTYLN8d9
ใครที่ได้มาเที่ยวจอร์เจียก็ต้องไม่พลาดที่จะเดินทางมาที่ อ่างเก็บน้ำซินวาลี หนึ่งในแลนด์มาร์กสุดขึ้นชื่อของจอร์เจียที่โดดเด่นในเรื่องของวิวทิวทัศน์ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาคอเคซัส และเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยแห่งหนึ่ง โดยอ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีขนาดใหญ่ ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นแหล่งน้ำสำคัญของชาวจอร์เจียในการอุปโภคและบริโภคมาก่อน แต่ในปัจจุบันได้กลายมาเป็นจุดเช็กอินที่คนมักนิยมเดินทางมาเพื่อเก็บภาพบรรยากาศ ดังนั้นหากใครอยากได้รูปสวย ๆ ไว้อัปลงโซเชียลก็สามารถไปแวะโพสท่าถ่ายรูปกันที่แห่งนี้ได้
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/y48MCvewAq47C3Cw7
เอาใจสายเที่ยวรักธรรมชาติกันต่อกับการเดินทางไปเช็กอินที่ Juta Village หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ รายล้อมด้วยหุบเขาน้อยใหญ่อันเขียวขจีที่เรียงรายสลับทับซ้อนกันไปมา และมีแอ่งน้ำอยู่ตรงกลาง ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักเดินทางมาเพื่อชมวิวทัศนียภาพ พร้อมทั้งซึมซาบบรรยากาศธรรมชาติอันบริสุทธิ์ได้อย่างชื่นใจ บอกเลยว่าใครได้มาที่เที่ยวจอร์เจียแห่งนี้ก็ต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะมีภูเขาเป็นวิวฉากหลังแล้ว ยังมีลำธารสายเล็ก ๆ ไหลผ่านกลางทุ่งหญ้าและทุ่งดอกไม้อีกด้วย
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/w7TdEbizaKJpnV8H6
ใครที่มาเที่ยวจอร์เจีย ก็ต้องมาชมความแปลกตาของ Katskhi Pillar Monastery เนื่องจากที่แห่งนี้เป็นโบสถ์ที่ตั้งอยู่บนหินปูนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ตั้งในหมู่บ้านทางตะวันตกของจอร์เจียโดยมีความสูงมากถึง 40 เมตร ซึ่งมีการเล่าขานต่อกันมาว่าในอดีตเคยมีนักบวชมาอาศัยอยู่ในโบสถ์แห่งนี้ แต่ในปัจจุบันได้มีการบูรณะและสร้างขึ้นมาใหม่ จึงทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในที่เที่ยวจอร์เจียที่มีผู้คนสนใจและเดินทางมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินบันไดเพื่อขึ้นไปชมวิวด้านบนได้
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: 10:30 – 17:00 น.
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/PD7s7Dn9kUAW97ea7
ทบิลิซี ถือว่าเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย โดยภายในเมืองแห่งนี้เป็นเขตเมืองเก่าที่ถูกออกแบบให้มีอาคารบ้านเรือนสีสันสดใส ท่ามกลางตึกเก่าที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์มากมายดั่งเทพนิยาย ซึ่งเมืองทบิลิซีแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายอาทิ โบสถ์เมเตคี (Metekhi Cathedral) โบสถ์ออร์โธด็อกซ์ที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ “ป้อมนาริกาลา” (Narikala Fortress) ป้อมปราการโบราณบนเนินเขา “จัตุรัสอิสรภาพ” (Freedom Square) รวมทั้งร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่เปิดเรียงรายให้นักท่องเที่ยวได้มาชื่นชมกัน
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/PYafUHnzUkkjvhkn8
มาต่อกันกับที่เที่ยวจอร์เจียที่ถัดมากับ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งทบิลิซี หรือ โบสถ์พระตรีเอกานุภาพศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวเมืองท้องถิ่นนิยมเรียกขานกันว่า มหาวิหารซมินดาซามีบา ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ถูกก่อสร้างขึ้นในระหว่างปี 1995 - 2004 โดยมีลักษณะอาคารเป็นอาคารขนาดใหญ่ประดับด้วยหลังคาสีทองสไตล์ไบแซนไทน์อันสวยงาม จนได้จัดอันดับเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในแถบอ่าวเปอร์เซีย และยังเรียกได้ว่าเป็นโบสถ์ออร์ทอดอกซ์ที่มีความสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกอีกด้วย
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 22:00 น.
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/Nr5qkd5CkbruiBK37
เดินทางไปท่องเที่ยวจอร์เจียที่ถัดมาที่ถือได้ว่าน่าสนใจเป็นอย่างมากกับ โรงอาบน้ำพุร้อน (Sulphur Bath) ในเมืองทบิลิซีเมืองใหญ่ของประเทศจอร์เจียที่มีบ่อน้ำพุร้อนจำนวนมาก จึงทำให้มีโรงอาบน้ำพุร้อนเก่าแก่หลายร้อยปีที่ยังเปิดให้บริการ โดยชาวจอร์เจียจะนิยมเรียกโรงอาบน้ำนี้ว่า อะบาโนตูบานี (Abanotubani) ซึ่งเป็นโรงอาบน้ำที่มีลักษณะคล้ายกับบ่อออนเซ็นของชาวญี่ปุ่น แต่มีการผสมผสานรูปแบบการอาบน้ำของชาวตุรกีเข้ามาด้วย โดยจุดเด่นของโรงอาบน้ำแห่งนี้คือโดมที่มีลักษณะติดกันทำให้เกิดเป็นความงดงามสไตล์จอร์เจียสุดเก๋นั่นเอง
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: 09:00 – 23:00 น.
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/tTXRpE6P86pYqLM59
ที่เที่ยวจอร์เจียที่ถัดมาเรามาพาเที่ยวชมสวนสาธารณะกันบ้างกับ สวนไรด์ (Rike Park) หนึ่งในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองทบิลิซี ทางด้านฝั่งซ้ายของแม่น้ำมิทควาริ (Mtkvari River) สวนสาธารณะที่มีความโดดเด่นในเรื่องของต้นไม้ที่ได้รับการเลี้ยงดูและตกแต่งออกมาได้อย่างสวยงาม จนทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นจุดชมวิวเมืองที่มีทั้งลานน้ำพุ คาเฟ่สุดชิล และสถานีเคเบิ้ลคาร์ ที่สามารถพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมวิวเมืองได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว แนะนำเลยว่าหากใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวแล้วอยากหามุมถ่ายรูปสวย ๆ แล้วละก็สามารถมาที่สวนสาธารณะแห่งนี้ได้เลย
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/f2mDbG2WAzWVLz62A
สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of peace) อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวประเทศจอร์เจีย ที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นสะพานคนเดินข้ามแม่น้ำคูรา ที่มีความยาวประมาณ 150 เมตร ทำให้สามารถเดินเที่ยวชมระหว่างเมืองเก่า และเมืองใหม่ของทบิลิซี ที่ถูกสร้างออกแบบมาโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน “มิเชล เดอ ลุจจิ” (Michele De Lucchi) และเปิดใช้งานเมื่อปี 2010 โดยโครงสร้างของสะพานแห่งนี้ทำมาจากเหล็กและกระจกใสที่มีด้านบนเป็นโค้งราวกับคันธนูที่ประดับประดาไปด้วยไฟ LED อย่างงดงาม จนทำให้สะพานแห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดให้นักเดินทางแวะเวียนกันมาถ่ายรูปกันอย่างล้นหลามเลยทีเดียว
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/Tim2H6dwQvoFFGU8A
อนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย (The chronicle of Georgia) อนุสาวรีย์รูปทรงแปลกตาแห่งเมืองทบิลิซีที่ถูกก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 1985 โดย Zurab Tsereteli หนึ่งในสถาปนิกชื่อดังที่ออกแบบอนุสาวรีย์แห่งนี้ออกมาด้วยแท่งหินสีดำขนาดใหญ่ แกะสลักเป็นรูปต่าง ๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ออกมาเป็นสามส่วน โดยส่วนล่างสุดเป็นเรื่องราวของพระคัมภีร์ศาสนาคริสต์ ส่วนกลางเป็นเรื่องราวของข้าราชการชนชั้นสูงในประเทศ และชั้นบนสุดเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญในประเทศที่รวบรวมมาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาชื่นชมความงดงามและเรื่องราวต่าง ๆ ได้ที่อนุสาวรีย์แห่งนี้
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/mmAf5eQGGES9wtZV8
วิหารสเวติสเคอเวรี ถือได้ว่าเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศจอร์เจีย ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองมิชเคทา โดยพระวิหารแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 โดยสถาปนิกชาวจอร์เจียชื่อ Arsukisdze ที่ต้องการสร้างศูนย์กลางทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจอร์เจีย ให้ชาวเมืองได้เปลี่ยนความเชื่อ และหันมานับถือศาสนาคริสต์ จนทำให้ศาสนาคริสต์กลายมาเป็นศาสนาประจำชาติของจอร์เจียในภายต่อมานั่นเอง และนอกจากจะมีเรื่องราวทางศาสนาแล้ว วิหารแห่งนี้ยังถือเป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย และเป็นอาคารโบสถ์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในจอร์เจีย รองจากวิหารศักดิ์สิทธิ์ของทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral) อีกด้วย
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/RpmrMoTLtddmBh8a9
พาเที่ยวพระวิหารมาพอสมควรเราจะมาพาทุกคนไปที่เที่ยวจอร์เจียแนวอนุสรณ์สถานกันบ้างกับ อนุสรณ์สถานรัสเซีย - จอร์เจีย (Russia-Georgia Friendship Monument) หนึ่งในอนุสรณ์หินคอนกรีตทรงกลมขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเชื่อมต่อจอร์เจียกับรัสเซียเข้าไว้ด้วยกัน โดยอนุสรณ์สถานแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1983 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปี ของสนธิสัญญา Georgievsk ซึ่งภายในได้มีการประดับกระเบื้องสีมากมาย เพื่อบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของทั้ง 2 ชาติ ร่วมด้วยบทกลอนของกวีชื่อดังชาวจอร์เจีย โชตา รุสตาเวลี เอาไว้ภายในให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมอีกด้วย
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/ZtpTcndKWpDRgpzd8
พาทุกคนมาท่องเที่ยวเมืองเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของเทือกเขาคอเคซัสทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจอร์เจียกันบ้างดีกว่ากับเมืองเมสเตีย เมืองที่รายล้อมไปด้วยยอดเขาขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะของเทือกเขาคอเคซัส ซึ่งมีขนาดสูงราว ๆ 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จึงทำให้นับเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สูงที่สุดและโดดเดี่ยวที่สุดอีกด้วย โดยจุดเด่นของที่นี่เลยนั่นก็คือบ้านเรือนอันเก่าแก่ในช่วงยุคกลางที่ยังคงหลงเหลือไว้ให้เราได้เดินเที่ยวชมได้อย่างเพลิดเพลิน แถมหมู่บ้านแห่งนี้ยังเป็นที่เล่นสกียอดนิยมในช่วงหน้าหนาวอีกด้วย
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/j7oiFY4SdnYLC4iu9
เดินทางมาถึงที่เที่ยวจอร์เจียที่สุดท้ายที่เราจะมาพาทุกคนไปเที่ยวกันที่ เมืองบอร์โจมิ เมืองตากอากาศขนาดเล็กอันเงียบสงบท่ามกลางหุบเขาคอเคซัส ทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจีย เมืองท่องเที่ยวซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่อย่างจำกัดประมาณ 15,000 คน ในพื้นที่เมืองที่ถูกรอบล้อมไปด้วยป่าไม้อันเขียวขจีและแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องน้ำแร่ที่ไหลรินมาจากยอดเขาบาคุเรียนีนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่อุดมไปด้วยธรรมชาติที่น่าสนใจและงดงามเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี
การเดินทาง: https://goo.gl/maps/yM6D2wZvxHoJjDfc7
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 20 ที่เที่ยวจอร์เจีย ดินแดนสองทวีป ประเทศสำหรับคนงบน้อย แต่สวยมาก! ที่เราได้รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวเด็ด ๆ มาให้คุณได้ท่องเที่ยวกันแบบจุก ๆ แบบที่บอกได้เลยว่าคุ้มค่ากับการท่องเที่ยวสุด ๆ เพราะคุณได้เห็นเมืองสวย ๆ มากมายที่ไม่ควรพลาดนั่นเอง