20 ที่เที่ยวจอร์เจีย ดินแดนสองทวีป ประเทศสำหรับคนงบน้อย แต่สวยมาก!

Traveloka TH
23 Nov 2022 - 9 min read

ใครอยากสัมผัสดินแดนสองทวีปที่ผสมผสานบรรยากาศแบบยุโรปและโซเวียต ด้วยค่าครองชีพที่ถูก และฟรีวีซ่าถึง 365 วัน ก็ต้องมาที่นี่เลย ‘จอร์เจีย’ ประเทศเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่สุดขอบทวีปเอเชีย เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ทั้งป่า เขา แม่น้ำ และที่เที่ยวจอร์เจียน่าเช็กอินมากมาย อย่างการไปตามรอยประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมอันแปลกตาต่าง ๆ

บางคนอาจสงสัยว่าและเราควรไปเที่ยวจอร์เจียกี่วันดีถึงจะเก็บครบได้ทุกไฮไลท์ ซึ่งจริง ๆ แล้วสัก 8-10 วัน ก็สามารถเก็บครบได้ทุกสถานที่แบบชิล ๆ สไตล์สบาย ๆ หากใครอยากลองเช็กวันเดินทางและราคาตั๋วเครื่องบินเบื้องต้น ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ Traveloka Travel & Lifestyle App แอปพลิเคชันที่คุณสามารถกดจองตั๋วเครื่องบินในราคาสุดคุ้มได้แบบง่าย ๆ แถมยังสามารถเลือกใช้บริการอื่น ๆ อาทิ บริการรถเช่า และบริการรถรับ-ส่งสนามบิน

ปักหมุด 20 ที่เที่ยวจอร์เจีย บรรยากาศยุโรป

เที่ยวจอร์เจียเดือนไหนดี

จอร์เจียเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศที่หลากหลาย แต่สามารถไปเท่ียวได้ตลอดทั้งปี ใครที่สงสัยว่าเที่ยวจอร์เจียเดือนไหนดี ก็สามารถดูตามด้านล่างนี้ได้เลย

ฤดูใบไม้ผลิ : เดือนมีนาคม-พฤษภาคม เป็นช่วงที่เที่ยวได้สบายที่สุด
ฤดูร้อน : เดือนมิถุนายน-สิงหาคม เป็นช่วงที่อากาศจะค่อนข้างร้อน แดดแรง
ฤดูใบไม้ร่วง : เดือนกันยายน-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่ใบไม่เปลี่ยนสี มีความสวยงาม อากาศบนเขาเริ่มเย็น
ฤดูหนาว : เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็น มีหิมะตกจนขาวโพลนตามสถานที่ต่าง ๆ

1. โรงละครเรโซกาเบรียลเซน (Rezo Gabriadze Theatre)

โรงละครเรโซกาเบรียลเซน
โรงละครเรโซกาเบรียลเซน

เริ่มกันด้วยที่เที่ยวจอร์เจียอันดับแรกกับ โรงละครเรโซกาเบรียลเซน โรงละครหุ่นเชิดแห่งแรกของเมืองทบิลิซี ที่มีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมของตึกอาคารที่มีความน่าแปลกตา และสีสันที่สวยงามจนทำให้ใครที่เดินผ่านมาก็ต้องสะดุดตากันทั้งนั้น โดยเฉพาะหอนาฬิกาที่ออกแบบมาได้ไม่ซ้ำใคร ซึ่งในทุก ๆ ชั่วโมง เข็มนาฬิกาจะเลื่อนไปชี้ที่เลขโรมัน และรูปปั้นนางฟ้าจะเปิดออกมาทักทายผู้คนที่เดินผ่าน พร้อมตีระฆังทุกต้นชั่วโมง โดยทางโรงละครมีการแสดงทั้งหมด 4 เรื่อง ได้แก่ เพชรของมาร์แชล เดอ ฟานต์, ฤดูใบไม้ร่วงยามใบไม้ผลิบาน, ราโมนา และการต่อสู้ในสตาลินกราด

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: 11:00 - 23:00 น.

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/jagAUEizKZRvgCqz8

2. เทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountains)

เทือกเขาคอเคซัส
เทือกเขาคอเคซัส

หากใครได้มาเที่ยวจอร์เจีย แน่นอนว่าหนึ่งในสถานที่เที่ยวจอร์เจียที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ เทือกเขาคอเคซัส ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป โดยเทือกเขาแห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ เทือกเขาคอเคซัสใหญ่ และเทือกเขาคอเคซัสน้อย ตัดพาดผ่านระหว่าง 4 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย จอร์เจีย อาร์เมเนีย และอาร์เซอร์ไบจาน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเพื่อชมความงดงามของเทือกเขาที่ตัดพรมแดนระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเชียได้อย่างกว้างไกลสุดสายตา บอกเลยว่าใครที่เป็นสายเที่ยวธรรมชาติ ต้องไม่พลาดมาเช็กอินที่นี่เลย

ค่าเข้าชม:ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/pnSSan4Dc74BJbgK8

3. โบสถ์เกอเกติ (Gergeti Trinity Church)

 โบสถ์เกอเกติ
 โบสถ์เกอเกติ

เดินทางไปต่อที่เที่ยวจอร์เจียอันดับถัดมากับ โบสถ์เกอเกติ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นโบสถ์คริสต์นิกายจอร์เจียนอร์โธด็อกซ์ที่ถูกสร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่ มีการออกแบบและก่อสร้างช่องประตูและหน้าต่างได้อย่างโดดเด่น จนได้รับการขนานนามว่าเป็นโบสถ์ที่มีความงดงามที่สุดในโลก อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังโอบล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าอันเขียวขจีที่ให้ทั้งความร่มรื่น และหุบเขาที่เรียงรายสลับทับซ้อนกันไปมาเป็นฉากหลัง จนเรียกได้ว่าเป็นจุดชมทัศนียภาพที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: 09:00 – 17:00 น.

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/dWFFvtxNL6ZA2kXy5

4. ทะเลสาบเซวาน (Lake of Sevan)

ทะเลสาบเซวาน
ทะเลสาบเซวาน

ที่เที่ยวจอร์เจียอันดับถัดมาที่ต้องไปปักหมุดเลยก็คือ ทะเลสาบเซวาน (Lake of Sevan) ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ถูกล้อมด้วยแม่น้ำหลายสาย ไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำฮราซดาน และแม่น้ำมาสริค ทำให้บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยสถานที่พักผ่อนที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเพื่อชมความงดงามของธรรมชาติ พร้อมทั้งดื่มด่ำไปกับบรรยากาศรอบ ๆ ได้อย่างเต็มที่ ยิ่งใครที่เป็นสายเที่ยวรักธรรมชาติแล้วละก็ ไม่ควรพลาดแก่การเดินทางมาเช็กอินกับแลนด์มาร์กเด็ดของจอร์เจียแห่งนี้เลย

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/ALHNRvkJfz2FX7Aj8

5. เมืองอัพลิสต์ซิเคห์ (Uplistsikhe)

เมืองอัพลิสต์ซิเคห์
เมืองอัพลิสต์ซิเคห์

เมืองอัพลิสต์ซิเคห์ (Uplistsikhe) เป็นหนึ่งในที่เที่ยวจอร์เจียที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งแห่ง ซึ่งแต่เดิมที่แห่งนี้เคยถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของคนในสมัยก่อน เนื่องจากในอดีตที่นี่เคยเป็นเส้นทางการขายสินค้าจากประเทศอินเดียสู่ทางด้านเหนือแถบหมู่บ้านมทวารีในประเทศจอร์เจีย จึงทำให้ผู้คนตั้งถิ่นฐานอยู่ในถ้ำแห่งนี้เพื่อเป็นที่พักอยู่อาศัย โดยที่นี่ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ด้วยกัน ได้แก่ บริเวณส่วนใต้ กลาง และเหนือ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเพื่อชมความแปลกตาของสถาปัตยกรรมของถ้ำที่เกิดจากหินได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 19:00 น.

การเดินทาง: https://g.page/Chokoladobana?share

6. Gudauri Ski Resort

Gudauri Ski Resort
Gudauri Ski Resort

หากใครอยากไปสัมผัสลมหนาวและชื่นชอบการเล่นสกี เราขอแนะนำให้ไปเช็กอินที่ Gudauri Ski Resort สถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดหมายของคนที่รักในการเล่นสกี และต้องการชมความสวยงามของหุบเขาที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะขาว โดยช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทางมาก็คือ ช่วง เดือนธันวาคม-เมษายน ของทุกปี เนื่องจากความลาดชันของภูเขาที่มีความเหมาะสม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่มีให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอย่างครบครัน

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: 09:00 – 16:00 น.

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/yNmPtfkWuLrNs1YR9

7. วิหารจวารี (Jvari Monastery)

วิหารจวารี
วิหารจวารี

เดินทางไปปักหมุดกันต่อกับที่เที่ยวจอร์เจียอันดับถัดมากับ วิหารจวารี (Jvari Monastery) ที่ถือเป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่บนยอดเขาใกล้กับเมือง Mtskheta โดยไฮไลท์ของการมาเยือนที่แห่งนี้คือ การมาชมวิวทิวทัศน์ของเมือง Mtskheta ที่มีแม่น้ำ Kura กับแม่น้ำ Aragvi ไหลมาบรรจบกัน ซึ่งหากใครไปได้จังหวะพอดี ก็จะได้เห็นความมหัศจรรย์ของแม่น้ำทั้งสองสายที่มีสีต่างกัน พร้อมทั้งได้ชมทัศนียภาพของธรรมชาติที่มีความสวยงามได้อย่างกว้างไกลสุดสายตา

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: 09:30 – 17:30 น.

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/SiP8bSfUXyTYLN8d9

8. อ่างเก็บน้ำซินวาลี (Zhinvali Reservoir)

อ่างเก็บน้ำซินวาลี
อ่างเก็บน้ำซินวาลี

ใครที่ได้มาเที่ยวจอร์เจียก็ต้องไม่พลาดที่จะเดินทางมาที่ อ่างเก็บน้ำซินวาลี หนึ่งในแลนด์มาร์กสุดขึ้นชื่อของจอร์เจียที่โดดเด่นในเรื่องของวิวทิวทัศน์ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาคอเคซัส และเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยแห่งหนึ่ง โดยอ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีขนาดใหญ่ ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นแหล่งน้ำสำคัญของชาวจอร์เจียในการอุปโภคและบริโภคมาก่อน แต่ในปัจจุบันได้กลายมาเป็นจุดเช็กอินที่คนมักนิยมเดินทางมาเพื่อเก็บภาพบรรยากาศ ดังนั้นหากใครอยากได้รูปสวย ๆ ไว้อัปลงโซเชียลก็สามารถไปแวะโพสท่าถ่ายรูปกันที่แห่งนี้ได้

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/y48MCvewAq47C3Cw7

9. Juta Village

Juta Village
Juta Village

เอาใจสายเที่ยวรักธรรมชาติกันต่อกับการเดินทางไปเช็กอินที่ Juta Village หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ รายล้อมด้วยหุบเขาน้อยใหญ่อันเขียวขจีที่เรียงรายสลับทับซ้อนกันไปมา และมีแอ่งน้ำอยู่ตรงกลาง ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักเดินทางมาเพื่อชมวิวทัศนียภาพ พร้อมทั้งซึมซาบบรรยากาศธรรมชาติอันบริสุทธิ์ได้อย่างชื่นใจ บอกเลยว่าใครได้มาที่เที่ยวจอร์เจียแห่งนี้ก็ต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะมีภูเขาเป็นวิวฉากหลังแล้ว ยังมีลำธารสายเล็ก ๆ ไหลผ่านกลางทุ่งหญ้าและทุ่งดอกไม้อีกด้วย

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/w7TdEbizaKJpnV8H6

10. Katskhi Pillar Monastery

Katskhi Pillar Monastery
Katskhi Pillar Monastery

ใครที่มาเที่ยวจอร์เจีย ก็ต้องมาชมความแปลกตาของ Katskhi Pillar Monastery เนื่องจากที่แห่งนี้เป็นโบสถ์ที่ตั้งอยู่บนหินปูนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ตั้งในหมู่บ้านทางตะวันตกของจอร์เจียโดยมีความสูงมากถึง 40 เมตร ซึ่งมีการเล่าขานต่อกันมาว่าในอดีตเคยมีนักบวชมาอาศัยอยู่ในโบสถ์แห่งนี้ แต่ในปัจจุบันได้มีการบูรณะและสร้างขึ้นมาใหม่ จึงทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในที่เที่ยวจอร์เจียที่มีผู้คนสนใจและเดินทางมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินบันไดเพื่อขึ้นไปชมวิวด้านบนได้

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: 10:30 – 17:00 น.

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/PD7s7Dn9kUAW97ea7

11. เมืองทบิลิซี (Tbilisi)

เมืองทบิลิซี
เมืองทบิลิซี

ทบิลิซี ถือว่าเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย โดยภายในเมืองแห่งนี้เป็นเขตเมืองเก่าที่ถูกออกแบบให้มีอาคารบ้านเรือนสีสันสดใส ท่ามกลางตึกเก่าที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์มากมายดั่งเทพนิยาย ซึ่งเมืองทบิลิซีแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายอาทิ โบสถ์เมเตคี (Metekhi Cathedral) โบสถ์ออร์​โธด็อกซ์ที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ “ป้อมนาริกาลา” (Narikala Fortress) ป้อมปราการโบราณบนเนินเขา “จัตุรัสอิสรภาพ” (Freedom Square) รวมทั้งร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่เปิดเรียงรายให้นักท่องเที่ยวได้มาชื่นชมกัน

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/PYafUHnzUkkjvhkn8

12. Holy Trinity Cathedral of Tbilisi

Holy Trinity Cathedral of Tbilisi 
Holy Trinity Cathedral of Tbilisi 

มาต่อกันกับที่เที่ยวจอร์เจียที่ถัดมากับ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งทบิลิซี หรือ โบสถ์พระตรีเอกานุภาพศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวเมืองท้องถิ่นนิยมเรียกขานกันว่า มหาวิหารซมินดาซามีบา ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ถูกก่อสร้างขึ้นในระหว่างปี 1995 - 2004 โดยมีลักษณะอาคารเป็นอาคารขนาดใหญ่ประดับด้วยหลังคาสีทองสไตล์ไบแซนไทน์อันสวยงาม จนได้จัดอันดับเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในแถบอ่าวเปอร์เซีย และยังเรียกได้ว่าเป็นโบสถ์ออร์ทอดอกซ์ที่มีความสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกอีกด้วย

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 22:00 น.

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/Nr5qkd5CkbruiBK37

13. โรงอาบน้ำพุร้อน (Sulphur Bath)

โรงอาบน้ำพุร้อน
โรงอาบน้ำพุร้อน

เดินทางไปท่องเที่ยวจอร์เจียที่ถัดมาที่ถือได้ว่าน่าสนใจเป็นอย่างมากกับ โรงอาบน้ำพุร้อน (Sulphur Bath) ในเมืองทบิลิซีเมืองใหญ่ของประเทศจอร์เจียที่มีบ่อน้ำพุร้อนจำนวนมาก จึงทำให้มีโรงอาบน้ำพุร้อนเก่าแก่หลายร้อยปีที่ยังเปิดให้บริการ โดยชาวจอร์เจียจะนิยมเรียกโรงอาบน้ำนี้ว่า อะบาโนตูบานี (Abanotubani) ซึ่งเป็นโรงอาบน้ำที่มีลักษณะคล้ายกับบ่อออนเซ็นของชาวญี่ปุ่น แต่มีการผสมผสานรูปแบบการอาบน้ำของชาวตุรกีเข้ามาด้วย โดยจุดเด่นของโรงอาบน้ำแห่งนี้คือโดมที่มีลักษณะติดกันทำให้เกิดเป็นความงดงามสไตล์จอร์เจียสุดเก๋นั่นเอง

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: 09:00 – 23:00 น.

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/tTXRpE6P86pYqLM59

14. สวนไรค์ (Rike Park)

สวนไรค์
สวนไรค์

ที่เที่ยวจอร์เจียที่ถัดมาเรามาพาเที่ยวชมสวนสาธารณะกันบ้างกับ สวนไรด์ (Rike Park) หนึ่งในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองทบิลิซี ทางด้านฝั่งซ้ายของแม่น้ำมิทควาริ (Mtkvari River) สวนสาธารณะที่มีความโดดเด่นในเรื่องของต้นไม้ที่ได้รับการเลี้ยงดูและตกแต่งออกมาได้อย่างสวยงาม จนทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นจุดชมวิวเมืองที่มีทั้งลานน้ำพุ คาเฟ่สุดชิล และสถานีเคเบิ้ลคาร์ ที่สามารถพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมวิวเมืองได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว แนะนำเลยว่าหากใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวแล้วอยากหามุมถ่ายรูปสวย ๆ แล้วละก็สามารถมาที่สวนสาธารณะแห่งนี้ได้เลย

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/f2mDbG2WAzWVLz62A

15. สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace)

สะพานแห่งสันติภาพ
สะพานแห่งสันติภาพ

สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of peace) อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวประเทศจอร์เจีย ที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นสะพานคนเดินข้ามแม่น้ำคูรา ที่มีความยาวประมาณ 150 เมตร ทำให้สามารถเดินเที่ยวชมระหว่างเมืองเก่า และเมืองใหม่ของทบิลิซี ที่ถูกสร้างออกแบบมาโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน “มิเชล เดอ ลุจจิ” (Michele De Lucchi) และเปิดใช้งานเมื่อปี 2010 โดยโครงสร้างของสะพานแห่งนี้ทำมาจากเหล็กและกระจกใสที่มีด้านบนเป็นโค้งราวกับคันธนูที่ประดับประดาไปด้วยไฟ LED อย่างงดงาม จนทำให้สะพานแห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดให้นักเดินทางแวะเวียนกันมาถ่ายรูปกันอย่างล้นหลามเลยทีเดียว

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/Tim2H6dwQvoFFGU8A

16. อนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย (The chronicle of Georgia)

อนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย
อนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย

อนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย (The chronicle of Georgia) อนุสาวรีย์รูปทรงแปลกตาแห่งเมืองทบิลิซีที่ถูกก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 1985 โดย Zurab Tsereteli หนึ่งในสถาปนิกชื่อดังที่ออกแบบอนุสาวรีย์แห่งนี้ออกมาด้วยแท่งหินสีดำขนาดใหญ่ แกะสลักเป็นรูปต่าง ๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ออกมาเป็นสามส่วน โดยส่วนล่างสุดเป็นเรื่องราวของพระคัมภีร์ศาสนาคริสต์ ส่วนกลางเป็นเรื่องราวของข้าราชการชนชั้นสูงในประเทศ และชั้นบนสุดเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญในประเทศที่รวบรวมมาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาชื่นชมความงดงามและเรื่องราวต่าง ๆ ได้ที่อนุสาวรีย์แห่งนี้

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/mmAf5eQGGES9wtZV8

17. วิหารสเวติสเคอเวรี (Svetithhoveli Cathedral)

วิหารสเวติสเคอเวรี
วิหารสเวติสเคอเวรี

วิหารสเวติสเคอเวรี ถือได้ว่าเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศจอร์เจีย ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองมิชเคทา โดยพระวิหารแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 โดยสถาปนิกชาวจอร์เจียชื่อ Arsukisdze ที่ต้องการสร้างศูนย์กลางทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจอร์เจีย ให้ชาวเมืองได้เปลี่ยนความเชื่อ และหันมานับถือศาสนาคริสต์ จนทำให้ศาสนาคริสต์กลายมาเป็นศาสนาประจำชาติของจอร์เจียในภายต่อมานั่นเอง และนอกจากจะมีเรื่องราวทางศาสนาแล้ว วิหารแห่งนี้ยังถือเป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย และเป็นอาคารโบสถ์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในจอร์เจีย รองจากวิหารศักดิ์สิทธิ์ของทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral) อีกด้วย

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/RpmrMoTLtddmBh8a9

18. อนุสรณ์สถานรัสเซีย - จอร์เจีย (Russia-Georgia Friendship Monument)

อนุสรณ์สถานรัสเซีย
อนุสรณ์สถานรัสเซีย

พาเที่ยวพระวิหารมาพอสมควรเราจะมาพาทุกคนไปที่เที่ยวจอร์เจียแนวอนุสรณ์สถานกันบ้างกับ อนุสรณ์สถานรัสเซีย - จอร์เจีย (Russia-Georgia Friendship Monument) หนึ่งในอนุสรณ์หินคอนกรีตทรงกลมขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเชื่อมต่อจอร์เจียกับรัสเซียเข้าไว้ด้วยกัน โดยอนุสรณ์สถานแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1983 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปี ของสนธิสัญญา Georgievsk ซึ่งภายในได้มีการประดับกระเบื้องสีมากมาย เพื่อบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของทั้ง 2 ชาติ ร่วมด้วยบทกลอนของกวีชื่อดังชาวจอร์เจีย โชตา รุสตาเวลี เอาไว้ภายในให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมอีกด้วย

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/ZtpTcndKWpDRgpzd8

19. เมืองเมสเตีย (Mestia)

เมืองเมสเตีย
เมืองเมสเตีย

พาทุกคนมาท่องเที่ยวเมืองเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของเทือกเขาคอเคซัสทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจอร์เจียกันบ้างดีกว่ากับเมืองเมสเตีย เมืองที่รายล้อมไปด้วยยอดเขาขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะของเทือกเขาคอเคซัส ซึ่งมีขนาดสูงราว ๆ 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จึงทำให้นับเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สูงที่สุดและโดดเดี่ยวที่สุดอีกด้วย โดยจุดเด่นของที่นี่เลยนั่นก็คือบ้านเรือนอันเก่าแก่ในช่วงยุคกลางที่ยังคงหลงเหลือไว้ให้เราได้เดินเที่ยวชมได้อย่างเพลิดเพลิน แถมหมู่บ้านแห่งนี้ยังเป็นที่เล่นสกียอดนิยมในช่วงหน้าหนาวอีกด้วย

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/j7oiFY4SdnYLC4iu9

20. เมืองบอร์โจมิ (Borjomi)

เมืองบอร์โจมิ
เมืองบอร์โจมิ

เดินทางมาถึงที่เที่ยวจอร์เจียที่สุดท้ายที่เราจะมาพาทุกคนไปเที่ยวกันที่ เมืองบอร์โจมิ เมืองตากอากาศขนาดเล็กอันเงียบสงบท่ามกลางหุบเขาคอเคซัส ทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจีย เมืองท่องเที่ยวซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่อย่างจำกัดประมาณ 15,000 คน ในพื้นที่เมืองที่ถูกรอบล้อมไปด้วยป่าไม้อันเขียวขจีและแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องน้ำแร่ที่ไหลรินมาจากยอดเขาบาคุเรียนีนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่อุดมไปด้วยธรรมชาติที่น่าสนใจและงดงามเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ค่าเข้าชม: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: ไม่มี

การเดินทาง: https://goo.gl/maps/yM6D2wZvxHoJjDfc7
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 20 ที่เที่ยวจอร์เจีย ดินแดนสองทวีป ประเทศสำหรับคนงบน้อย แต่สวยมาก! ที่เราได้รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวเด็ด ๆ มาให้คุณได้ท่องเที่ยวกันแบบจุก ๆ แบบที่บอกได้เลยว่าคุ้มค่ากับการท่องเที่ยวสุด ๆ เพราะคุณได้เห็นเมืองสวย ๆ มากมายที่ไม่ควรพลาดนั่นเอง

Hotels
Flights
Things to Do
Always Know the Latest Info
Subscribe to our newsletter for more travel & lifestyle recommendations and exciting promos.
Subscribe