0

Pakapron Pathomsuntronchai

13 Aug 2021 - 6 min read

20 ที่เที่ยวตุรกีดีต่อใจ ไปยังไงก็ฟิน

ตุรกีคือประเทศที่หลายคนปักหมุดเอาไว้ว่าต้องไป เพราะนี่คืออีกหนึ่งเมืองที่มีเสน่ห์ดึงดูดไม่เหมือนที่ไหนในโลกเลยเชียวละ เพราะเป็นประเทศที่อยู่ระหว่างทวีปเอเชียและยุโรป ที่นี่จึงมีรูปแบบของวัฒนธรรมที่ผสมผสานแปลกตา นอกจากนั้นยังมีสถาปัตยกรรมสุดอลังการทั้งในยุคปัจจุบันและในอดีตให้ชมกันแบบแน่นๆ ไปเลยจ้า อาหารตุรกีก็น่าสนใจนะ แถมใครชอบแต่งบ้าน นี่คือสถานที่ที่รวบรวมเอาข้าวของดีไซน์สวยไว้เพียบเลยจ้า อยากไปตุรกีเมื่อไหร่ ส่องตั๋วเครื่องบินได้จาก Traveloka เลยน้า เพราะตอนนี้ Traveloka มี Promo Filter ช่วยหาตั๋วโปรในคลิกเดียว จองง่ายแถมได้ราคาดี หลังจากนั้นก็อย่าลืมเช็คมาตรการสนามบินปลายทางที่นี่ ได้เที่ยวแบบแฮปปี้สุดๆ แน่นอน

20 ที่เที่ยวตุรกีสุดฟิน

1. Hagia Sophia

มองจากภายนอก หลายคนอาจคิดว่าที่นี่คือมัสยิด แต่แท้จริงแล้วฮาเกีย โซเฟียนั้นคือโบสถ์ทรงโดมของศาสนาคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยที่นี่เป็นต้นแบบของการก่อสร้างโบสถ์คริสต์ในยุคไบแซนไทน์ และยังเคยได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ซึ่งฮาเกีย โซเฟียเคยใช้เป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์นานถึง 916 ปี ก่อนจะถูกปรับให้เป็นมัสยิด พิพิธภัณฑ์ และกำลังจะเปลี่ยนกลับมาเป็นมัสยิดอีกครั้งแล้วจ้า ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ควรต้องแวะไปชมให้ได้นะ บอกเลยว่าความสวยคุ้มค่าไปเยือนแน่นอน

2. Pamukkale

บางคนตั้งชื่อไทยให้ที่นี่ว่าปราสาทปุยฝ้าย ด้วยความสวยของแอ่งน้ำสีฟ้าใสในชั้นหินสีขาวสะอาดราวกับปุยเมฆของที่นี่นั่นละ ปามุคคาเลนั้นเป็นแหล่งน้ำร้อนธรรมชาติที่ถูกค้นพบมาตั้งแต่สมัยโรมัน และกลายเป็นแหล่งมรดกโลกไปแล้วในปัจจุบันนี้ เชื่อกันว่าน้ำพุร้อนที่นี่มีอายุกว่า 14,000 ปี โดยสายน้ำทำการพัดพาเอาตะกอนมาทับถมกันจนกลายเป็นชั้นหินสีขาวอย่างที่เห็นนี่ละ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิคือช่วงที่เหมาะจะมาเยือนที่สุดจ้า มาตุรกีต้องปักหมุดที่นี่ไว้เลย

3. Cappadocia

คัปปาโดเกีย หรือ คัปปาโดเซีย นับเป็นแลนด์มาร์คหนึ่งเมื่อหลายคนนึกถึงตุรกี กับดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองปล่องไฟแห่งนางฟ้า ด้วยทัศนียภาพของแท่งลาวาซึ่งผ่านการกัดเซาะจากสายลมและแสงแดด จนกลายเป็นแท่งสูงรูปกรวยคว่ำกระจายตัวอยู่ทั่วไป รายล้อมไปด้วยทิวเขาแทบจะรอบด้าน ทีเด็ดของที่นี่ก็คงเป็นการนั่งบอลลูนชมความสวยจากมุมสูงด้านบนกัน หรือจะหามุมแจ่มๆ นั่งจิบชาอุ่นๆ มองเหล่าบอลลูนพร้อมแสงแรกตอนเช้าก็เริ่ดอยู่นะ ชอบฟีลไหนก็จัดไป

4. Topkapi Palace

พระราชวังเก่าแก่อายุหลายร้อยปีริมแม่น้ำแห่งนี้ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงอิสตันบูล ครอบคลุมพื้นที่กว่า 438 ไร่ ล้อมรอบด้วยกำแพงความยาวกว่า 5 กิโลเมตร มีทีเด็ดสุดๆ ตรงทำเลที่ตั้งซึ่งใช้เป็นจุดชมอ่าวโกลเด้นท์ ฮอร์น ช่องแคบบอสฟอรัส และทะเลมาร์มาร่าได้ชัดเจนเต็มตาแบบเต็มที่ ในยุคอดีตนั้นที่นี่เคยเป็นพระราชวังของสุลต่านแห่งอาณาจักรออตโตมัน แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาทำหน้าที่เป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งเก็บของโบราณล้ำค่าไว้มากมาย เดินดูพระราชวังสวยๆ ก็คุ้มแล้วจ้า แถมนี่ยังมีโบราณวัตถุให้ดูกันเพลินๆ อีกด้วยนะ บอกได้คำเดียวว่าคุ้มจริงๆ

5. Blue Mosque

มัสยิดสวยแห่งนี้มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า Sultan Ahmed Mosque และเป็นอีกหนึ่งอาคารมัสยิดแสนสวยกลางกรุงอิสตันบูล โดยที่นี่มีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี และมีชื่อเสียงในเรื่องความสวยของการตกแต่งภายในโดยการใช้กระเบื้องสีน้ำเงินเป็นหลัก ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักที่นี่ในชื่อมัสยิดสีน้ำเงินหรือ Blue Mosque นี่ละ ทุกวันนี้ที่นี่ก็ยังคงทำหน้าที่เป็นสถานที่ทางศาสนาสำหรับชาวมุสลิมทั้งหลาย ในช่วงฤดูร้อนจะมีการจัดแสดงแสงสีเสียงให้ชมกันได้เพลินๆ ด้วยนะ มาตุรกีแล้วต้องแวะเช็คอินกัน

6. Pasabag

หุบเขารูปคล้ายดอกเห็ดที่ตั้งเรียงรายกันอยู่เป็นกระจุกใหญ่ท่ามกลางขุนเขาแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่นักท่องเที่ยวซึ่งมาตุรกีนิยมแวะมาชมกัน เพราะเป็นความอัศจรรย์ที่สร้างสรรค์ด้วยฝีมือของธรรมชาติ จากการร่วมมือกันของน้ำ ลม และแสงแดด กัดเซาะให้เสาหินสูงหลายสิบเมตรมีรูปร่างหน้าตาน่าตื่นใจ และครั้งหนึ่งที่นี่ยังเคยถูกใช้เป็นที่อาศัยของนักบุญซีโมนอันโด่งดัง ด้วยการเจาะหินเข้าไปจนกลายเป็นที่พักอาศัย การชมที่นี่จะเดินดูในระยะประชิดก็ได้ หรือจะขึ้นบอลลูนดูในมุมสูงก็เจ๋งดีนะ เลือกตามงบประมาณและความพอใจกันได้เลย

7. Grand Bazaar

แกรนด์ บาซาร์ ได้ชื่อว่าเป็นตลาดในร่มที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และเป็นแหล่งเช็คอินที่นักท่องเที่ยวซึ่งไปเยือนตุรกีย่อมไม่ควรพลาด ตลาดแห่งนี้นั้นมีอายุกว่า 1,500 ปี มีร้านรวงต่างๆ กว่า 3,000 ร้าน มีซอกซอยให้เดินเข้านอกออกในกว่า 60 ซอย และมีทางเข้าถึง 21 ทางไปเลยจ้า ด้านในมีตั้งแต่พรมทอมือซึ่งมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ มีชิ้นงานของใช้ของตกแต่งจากเซรามิก ทองเหลือง เครื่องแก้ว ไข่มุก เครื่องเทศ ไปจนถึงเสื้อผ้าพื้นเมืองทั้งหลาย เป็นพิกัดที่สายช้อปพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงเลยละ

8. Mount Nemrut

ภูเขาสูง 2,134 เมตรแห่งนี้ เป็นภูเขาไฟที่กลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวซึ่งพลาดไม่ได้ เพราะเป็นที่ตั้งของสุสานกษัตริย์โบราณแห่งอาณาจักร Commagene ในยุคโบราณ โดยมีรูปปั้นเทพเจ้ากรีกขนาดใหญ่บนยอดเขาเป็นสัญลักษณ์ สันนิษฐานกันว่าอาณาจักรแห่งนี้นั้นมีอยู่ตั้งแต่ 62 ปีก่อนคริสตกาล ปัจจุบันรูปปั้นต่างๆ นั้นได้มีการหักพังร่วงหล่น จนกลายเป็นอีกหนึ่งภาพที่ให้บรรยากาศขรึมขลังไม่เหมือนที่ไหน แถมยังมีวิวสวยน่าตื่นใจรายล้อมอยู่รอบด้าน นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่เช็คอินน่าสนใจเมื่อได้ไปเยือนตุรกี

9. Underground City of Derinkuyu

นครใต้ดินแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่ตั้งอยู่ในเขตคัปปาโดเกีย และเป็นเมืองใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาทั้งหมดเกือบ 40 แห่งในเมืองนี้ สันนิษฐานว่าเดิมทีถูกใช้เป็นที่อาศัยในการหลบหนีทหารโรมัน และเริ่มมีการขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นเมืองใหญ่เมื่อมีการรุกรานจากเหล่าทหารออตโตมัน โดยมีการเจาะพื้นดินลึกลงไปถึงกว่า 10 ชั้น ชั้นที่ลึกที่สุดนั้นลึกกว่า 85 เมตร ทางเดินในอุโมงค์มีความยาวรวมกว่า 80 กิโลเมตรด้วยกัน ในเมืองนี้มีทั้งโบสถ์ โรงเรียน หลุมฝังศพ และพื้นที่เลี้ยงสัตว์ รวมถึงระบบระบายอากาศเพื่อรองรับคนนับหมื่นในยุคนั้นเลยนะ เป็นพิกัดอัศจรรย์ที่ควรมาเช็คอินกันให้ได้เชียว

10. Hierapolis

นครโบราณที่มีอายุหลายพันปีก่อนคริสตกาล ซึ่งปัจจุบันหลงเหลือให้เห็นเพียงแค่ซากอาคารบางส่วนเท่านั้น อาณาจักรแห่งนี้เปลี่ยนผ่านการปกครองจากชาวเปอร์เซียสู่อาณาจักรโรมันอันยิ่งใหญ่ และเคยเป็นเมืองหลวงแห่งภูมิภาคเอเชียของจักรวรรดิโรมันอีกด้วยจ้า หนึ่งในไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คงเป็นโรงละคร The Great Theatre อันแสนจะตระการตา และ Temple of Artemis ซึ่งเคยเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ที่แม้จะเหลือแค่เพียงเสาให้เห็นไม่กี่ต้นก็ยังคงให้บรรยากาศสุดอลังการน่าประทับใจ สายประวัติศาสตร์พลาดจุดนี้ไปไม่ได้จริงๆ

11. Bodrum

เปลี่ยนบรรยากาศจากซากเมืองโบราณหลากรูปแบบ มาสูดอากาศและฟีลสบายๆ ในเมืองริมทะเลกันบ้างดีกว่า กับเมืองตากอากาศซึ่งผสมผสานกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และธรรมชาติอันแสนงดงามไว้ในที่เดียวกันได้อย่างลงตัวสุดๆ ไปเลยละ ใครมองหาฟีลโรแมนติกรับประกันว่าเมืองนี้จะไม่ทำให้ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นอาคารหินแบบโบราณ บ้านเรือนสีขาวตัดน้ำเงินแสนสดใส ท่าจอดเรือยอร์ช สวนส้ม ดอกไม้ น้ำทะเลใสๆ และร้านอาหารบรรยากาศดี๊ดี ถ้ามาเป็นคู่จะยิ่งแฮปปี้ขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยละ

12. The Mosque of Suleiman

เป็นอดีตมัสยิดหลวงของอาณาจักรออตโตมัน และยังเป็นมัสยิดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของกรุงอิสตันบูล มัสยิดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นบรรณาการแด่สุลต่านสุไลมานในปี ค.ศ.1557 มีไฮไลท์เป็นหลังคารูปโดมความสูง 47 เมตร ด้านในเน้นการตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกและสีทองเพิ่มความหรูหราอลังการ ด้านในมัสยิดนั้นประกอบด้วยโรงเรียนสอนศาสนา ห้องครัว โรงพยาบาล ที่พักกองเกวียน ตลาด ห้องสมุด รวมถึงสุสานขององค์สุลต่านและครอบครัวด้วยจ้า ที่นี่งดเข้าชมในช่วงเดือนรอมฎอนน้า วางแผนมาให้ดีๆ

13. Antalya

จังหวัดติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีแห่งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งจังหวัดยอดนิยมที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย เพราะเป็นเมืองเก่าซึ่งมีอายุ 200 ปีก่อนคริสตกาลที่ตกมาอยู่ในการปกครองของชาวโรมันในภายหลัง ซึ่งยังมีหลักฐานเป็นสถาปัตยกรรมโบราณให้ได้เห็นกันอยู่หลายแห่งเลยเชียวละ นอกจากนั้นยังมีทิวทัศน์ของทะเลสีฟ้าสวยใสและธรรมชาติน่าตื่นใจอีกหลายรูปแบบเลยจ้า เป็นอีกเมืองสุดโรแมนติกที่อยากให้แวะมาเมื่อมาถึงตุรกี

14. Hammam

แม้จะเรียกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้ไม่เต็มปาก แต่บอกได้เลยว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่อยากให้พลาดเมื่อมาถึงตุรกี เพราะนี่คือโรงอาบน้ำในสไตล์เป็นเอกลักษณ์ของชาวตุรกีที่แพร่หลายมาตั้งแต่ในยุคไบเซนไทน์ ซึ่งเดิมทีนั้นเปิดให้ใช้บริการกันได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้นจ้า ในฮัมมัมนั้นจะประกอบไปด้วยถังอาบน้ำรูปแบบสวยงามตระการตา และนิยมใช้ดอกไม้หรือน้ำหอมมาปรุงแต่งกลิ่นให้ชื่นอกชื่นใจขึ้นไปอีก รวมถึงมีการอบไอน้ำเพื่อความผ่อนคลาย ว่ากันว่านี่คือที่มาของการทำสปาเช่นในปัจจุบัน และเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ไม่ควรพลาดจะลองกันเมื่อไปเยือนตุรกี

15. The Library of Celsus

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนเมืองโบราณ Ephesus ซึ่งเป็นอาณาจักรกรีกโบราณอันยิ่งใหญ่เป็นอันดับสองของจักรวรรดิโรมันรองจากกรุงโรม ก็คงต้องมีหอสมุดเซลซุสแห่งนี้รวมอยู่ด้วยละจ้า นี่คือสุดยอดสถาปัตยกรรมและห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกด้วยนะ น่าเสียดายที่ห้องสมุดแห่งนี้ถูกทำลายลงไปเพราะสงคราม จนเหลือเพียงแค่ผนังด้านหน้าและเสาอาคารให้เห็นกันในปัจจุบัน แต่ถึงเหลือแค่นี้ก็ยังงดงามจนชวนตะลึงกันไปเลยจ้า ต้องมาปักหมุดกันเด้อ

16. Bosphorus Strait

ช่องแคบความยาวราว 30 กิโลเมตรแห่งนี้ มีความน่าสนใจตรงที่เป็นโซนบรรจบกันของทวีปเอเชียและยุโรป ซึ่งทำให้ตุรกีกลายเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนสองทวีปอย่างที่เราเคยรู้กัน ส่วนที่กว้างที่สุดของช่องแคบนี้มีระยะ 3,700 เมตร และส่วนที่แคบที่สุดนั้นมีระยะเพียงแค่ 700 เมตรเท่านั้นจ้า ไฮไลท์ยอดนิยมก็คงหนีไม่พ้นการล่องเรือชมความสวยของสองฝั่งช่องแคบนี้นะ ฝั่งหนึ่งอยู่ยุโรป ฝั่งหนึ่งอยู่เอเชีย ห่างกันแค่เพียงเหลือบตามองเท่านั้นจ้ะ อ่ะ … เก๋จะตาย

17. Yerebatan

อีกหนึ่งความอลังการซึ่งซ่อนตัวอยู่ด้านล่างใต้พื้นดินของเมืองอิสตันบูลซึ่งดูจากบนพื้นแล้วแทบจะไม่รู้เลยว่ามี แต่เพียงแค่ก้าวลงบันไดในอาคารเล็กๆ ลงไป ก็จะเจอกับความอลังการของเสาหินอ่อนสูง 9 เมตร กว่า 336 ต้น เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบในอุโมงค์ขนาดใหญ่ซึ่งเก็บน้ำได้ถึง 100,000 ตัน ที่ในอดีตนั้นน้ำจะถูกส่งผ่านมาตามท่อส่งซึ่งมีต้นทางอยู่ห่างออกไป 19 กิโลเมตร เพื่อส่งไปใช้ในพระราชวังและอาคารต่างๆ ในเมืองนี้ แม้จะถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 6 และมีอายุกว่าพันปี แต่ที่นี่ก็ยังคงความน่าตื่นตาตื่นใจเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยละ อย่าลืมแวะมาเช็คอินกัน

18. Mardin

เมืองโบราณซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบเมโสโปเตเมียทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี เป็นอีกหนึ่งเมืองโบราณที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในด้านสถาปัตยกรรมซึ่งเน้นการใช้หินมาวางซ้อนกันเป็นตัวอาคารต่างๆ โดยสร้างไล่เรียงขึ้นไปตามไหล่เขา อาคารบ้านเรือนทุกหลังนั้นเป็นสีน้ำตาลกลืนกันไปกับพื้นที่รอบด้านจนแทบจะกลายเป็นสีเดียวกันเชียวละ มองจากด้านล่างเหมือนจะไม่กว้างเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วที่นี่ใหญ่ใช้ได้เลยนะ เป็นเมืองที่เหมาะจะมาเดินเล่นชมวิถีชีวิตผู้คนรอบด้านได้แบบชิลล์ๆ อีกแห่งเชียว

19. Troy

กรุงทรอยและตำนานม้าไม้ คือเรื่องราวที่หลายต่อหลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี และตุรกีนี่ละจ้าที่เป็นที่ตั้งของเมืองทรอยในตำนานแห่งนี้ แม้ปัจจุบันเมืองเก่าแก่อายุกว่า 3,000 ปีแห่งนี้ จะเหลือเพียงแค่ซากเมืองโบราณให้ได้เห็นกันเท่านั้น แต่เราเชื่อว่าแค่นี้บรรดาสายประวัติศาสตร์ก็คงฟินกันไม่น้อยแล้วเชียวละ ที่นี่เค้ามีการทำเส้นทางให้เดินชมเมืองกันได้แบบสบายๆ ด้วยนะ ใครเป็น fc ตำนานเมืองทรอย หรือหลงใหลในประวัติศาสตร์ ห้ามพลาดเชียว

20. Taksim Square

จตุรัสกว้างใจกลางเมืองอิสตันบูลแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งพิกัดสำคัญที่พลาดไม่ได้ เพราะนอกจากจะมีพื้นที่ซึ่งถูกใช้ในกิจกรรมสำคัญต่างๆ ของตุรกีแล้วนะ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์แห่งสาธารณรัฐ และถนนอิสรภาพ ซึ่งเป็นถนนความยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร ที่เต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ ให้ช้อปปิ้งกันได้อย่างเพลิดเพลินเชียวละ นอกจากนั้นยังมีศูนย์วัฒนธรรม โรงละครโอเปร่า ร้านอาหาร ร้านค้า ผับ บาร์ และโรงแรมต่างๆ มากมาย เรียกว่าเป็นอีกย่านที่ต้องปักหมุดไปเดินกินเดินช้อปกันให้สะใจเลยทีเดียว

ตุรกีนั้นเป็นประเทศที่แสนจะมีเสน่ห์ และเต็มไปด้วยความน่าอัศจรรย์อันแสนจะตื่นตา ไม่ว่าจะเป็นจากสถาปัตยกรรมโบราณอันยิ่งใหญ่หลากหลายรูปแบบ ธรรมชาติที่สวยเด็ดขาดบาดใจ รวมถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์มากมายให้ได้สัมผัสกัน นี่จึงเป็นอีกพิกัดที่ควรต้องปักหมุดมาสัมผัสด้วยตัวเองซักครั้งเลยเชียวละ เชื่อเราเถอะน่า รับรองจะไม่มีคำว่าผิดหวังอย่างแน่นอน

Hotels
Flights
Things to Do
Always Know the Latest Info
Subscribe to our newsletter for more travel & lifestyle recommendations and exciting promos.
Subscribe