Traveloka TH
30 May 2024 - 6 min read
อากาศหนาว ๆ แบบนี้ ที่เที่ยวเขาค้อ คงเป็นตัวเลือกของใครหลายคนอย่างแน่นอน ยิ่งมาในช่วงฤดูฝน หรือต้นฤดูหนาวก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศเย็นสบาย สูดอากาศบริสุทธิ์ ชมดอกไม้และทะเลหมอกพร้อมจิบกาแฟมองวิวกันเพลิน ๆ การเดินทางก็แสนสะดวก เพราะเขาค้ออยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ สามารถขับรถไปได้ง่าย ๆ ประมาณ 4-5 ชั่วโมง นอกเหนือจากการเดินทางแล้ว ที่เที่ยวเองก็มีหลากหลายทั้งแหล่งธรรมชาติ จุดชมวิวบนทิวเขา วัดวาอาราม ไปจนถึงคาเฟ่สวย ๆ เลยทีเดียว
มาเตรียมแพลนเที่ยวเขาค้อจาก 25 ที่เที่ยวสุดฮิตห้ามพลาดที่เราแนะนำ แล้วกดจองตั๋วเครื่องบินไปพิษณุโลก กับแอป Traveloka ที่มีโปรโมชั่นดี ๆ มากมาย และราคาสุดคุ้มแบบโดนใจ พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทางของคุณ
แน่นอนว่าหากกำลังมองหาที่เที่ยวเขาค้อที่มีบรรยากาศชิล ๆ คงหนีไม่พ้นการไปจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเขาค้อที่ “เขาตะเคียนโง๊ะ” ซึ่งหากจะแวะมาเราแนะนำให้มาในตอนเช้า เพื่อจะได้เห็นพระอาทิตย์ค่อย ๆ ขึ้น สาดส่องเป็นสีสวยงามทั้งสีชมพู สีส้ม และสีเหลืองอย่างเข้ากัน พร้อมกับเห็นทะเลหมอกที่ลอยต่ำ ๆ ท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้า นอกจากนี้ ยังมี ‘เขาปู่เขาย่า’ ซึ่งเป็นภูเขาที่มีรูปทรงคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ สวยงามมากเช่นเดียวกัน
“ทุ่งกันหันลมเขาค้อ” เป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์กสวยงามที่ห้ามพลาด โดยวิวที่จะได้เห็นนั้นเป็นทุ่งกันหันลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินเขา หากมาที่เที่ยวเขาค้อแห่งนี้ จะต้องจอดรถไว้ข้างนอก แล้วนั่งรถรางเข้าไปชมแทน โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ 40 บาท จุดหลักที่ต้องแวะก็คือ บริเวณป้ายทุ่งกังหันลมที่จะได้เห็นวิวทั้งวิวกังหันลม และทัศนียภาพอันสวยงามของเขาค้อ หากใครอยากจะแวะจุดไหนก็สามารถบอกให้คนขับรถรางช่วยจอดรถแวะถ่ายรูปก็ได้ บริเวณทุ่งดอกไม้เองก็มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ โดยมีกังหันลมเป็นฉากหลังที่ลงตัวมาก ๆ อีกด้วย
“วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ที่เที่ยวเขาค้อแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในวัดที่นักท่องเที่ยว และคนท้องถิ่นแวะมาเพื่อสักการะ สถานที่สำคัญภายในวัดแห่งนี้ ได้แก่ เจดีย์พระธาตุผาแก้ว ซึ่งมียอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ตัวเจดีย์ตกแต่งด้วยกระเบื้อง และหินสีต่าง ๆ ดูแปลกตาแต่ก็งดงามมากเช่นเดียวกัน อีกสถานที่สำคัญที่พลาดไม่ได้ก็คือ อุโบสถพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ซึ่งก็คือพระพุทธรูปสีขาวของพระพุทธเจ้านั่งซ้อนอยู่บนฐานดอกบัว ที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ๆ อย่างงดงามเลยทีเดียว
ในอดีตพื้นที่บริเวณ “พิพิธภัณฑ์อาวุธ ฐานอิทธิ” เป็นฐานปืนใหญ่ในการสู้รบยุทธการเขาค้อ โดยชื่อ ฐานอิทธิ ถูกตั้งตาม ‘พันเอก อิทธิ’ ซึ่งเป็นผู้นำคนสำคัญของฐานปืนใหญ่แห่งนี้ ปัจจุบันที่เที่ยวเขาค้อแห่งนี้ได้จัดแสดงอาวุธที่เคยใช้จริงในสมัยก่อนทั้งปืนใหญ่ ปืนกล และเครื่องบินขับไล่เอฟ 5 นอกจากนี้ยังมีห้องบรรยายเหตุการณ์สำหรับผู้ที่ต้องการจะรู้เรื่องราวความเป็นมาอีกด้วย รับรองว่าได้ทั้งความรู้และความสนุก แถมยังได้ชมวิวสวย ๆ ในคราวเดียว
หนึ่งในที่เที่ยวเขาค้อยอดนิยมคือ “น้ำตกศรีดิษฐ์” เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ทุกฤดู เพราะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี น้ำตกนี้แม้จะมีชั้นเดียวแต่มีแอ่งน้ำสามารถลงไปเล่นน้ำกันได้ อีกทั้งยังมีร้านอาหาร และเครื่องดื่มให้คุณได้ทานระหว่างชมวิว ตลอดจนมีสินค้าพื้นเมืองให้ซื้อกลับไปเป็นของฝากที่ระลึกด้วย หากใครลงดอยมาแล้วอยากได้สถานที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจตอนกลางวัน ก็ต้องแวะมาที่เที่ยวแห่งนี้เลย
ภาพจาก : https://www.facebook.com/le.bonheur.khaokho
ที่เที่ยวเขาค้อถัดมามีชื่อว่า “เลอ บอนเนอร์” ตั้งอยู่บนเนินสูงกว่า 1,000 เมตร เส้นทางเดียวกับไปวัดผาซ่อนแก้ว หากใครวางแผนจะไปวัดดังกล่าวก็สามารถแวะนั่งพักผ่อนที่นี่ก่อนได้ วิวจากร้านมองเห็นธรรมชาติที่สวยงามไม่ต่างจากจุดชมวิวบนเนินเขาเลย เพราะมีกระจกบานใหญ่ให้มองเห็นวิวกันแบบเต็มอิ่มพร้อมกับทานอาหารไปด้วย ห้ามพลาดเชียวนะ
ภาพจาก : https://www.facebook.com/pinolattecaferesort
“ร้านพิโนลาเต้” เป็นร้านกาแฟที่ขึ้นชื่อได้ว่ามีวิวสวยและบรรยากาศดีของประเทศ เพราะนอกจากจะมองเห็นวิวทิวเขาแบบไกลสุดขอบฟ้าแล้ว ยังมองเห็นวัดผาซ่อนแก้วได้ชัดเจนอีกด้วย เต็มไปด้วยมุมถ่ายรูปสวย ๆ อย่างสวนดอกไม้ และระเบียงชมวิว ถือเป็นหนึ่งในที่เที่ยวเขาค้อที่ต้องมาให้ได้เลย
อีกหนึ่งที่เที่ยวเขาค้อเชิงประวัติศาสตร์ “อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ” สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้พลีชีพที่ปกป้องพื้นที่จากกลุ่มคอมมิวนิสต์บนเขาค้อนั่นเอง มีแท่งหินอ่อนทรงสามเหลี่ยมตั้งสูงเด่นท่ามกลางวิวภูเขาอันงดงาม อีกทั้งยังมองเห็นทุ่งกันหันอยู่ไกล ๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้ บริเวณรอบ ๆ มีพิพิธภัณฑ์อาวุธให้เข้าไปเยี่ยมชมกันอีกด้วย
จุดชมวิวยอดฮิตสำหรับดูทะเลหมอก “พระตำหนักเขาค้อ” เป็นสถานที่ที่ตั้งอยู่จุดสูงสุดของเขาค้อจากระดับน้ำทะเล 1,050 เมตร ที่สามารถเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติแบบ 360 องศา
โดยที่เที่ยวเขาค้อแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้มาตรวจเยี่ยมโครงการ สำหรับนักท่องเที่ยวเองต่างก็พากันขึ้นมาพักค้างคืนนอนกางเต็นท์เพื่อชมดาวในยามกลางคืน และตื่นมาถ่ายรูปกับทะเลหมอกในยามเช้านั่นเอง
“อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง” หรือ ทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย เป็นอุทยานที่ประกอบไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติมากมายไม่ว่าจะเป็นทุ่งนางพญา, ถ้ำเดือน, น้ำตกกุหลาบแดง เป็นต้น ซึ่งถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีไม้ยืนต้นขนาดใหญ่หลากหลายพันธุ์ให้เราได้มาถ่ายรูปกันอย่างไม่มีเบื่อ ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศตอนนอนก็สามารถมากางเต็นท์นอนเล่นในที่เที่ยวเขาค้อแห่งนี้ได้ตามจุดบริการที่กำหนด
จุดเช็กอินที่เที่ยวเขาค้อสำหรับชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกคงไม่พ้น “จุดชมวิววัดกองเนียม” จากวัดกองเนียมประมาณ 1 กิโลเมตรจะมีจุดชมวิวบริเวณศาลาที่นักท่องเที่ยว และช่างกล้องต่างตั้งตารอดูพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกสีขาว โดยมีเนินเขาขนาดเล็กใหญ่ และต้นไม้ตระกูลปาล์มประกอบเป็นพื้นหลังอย่างลงตัว รับรองว่าได้ภาพสวย ๆ กับบรรยากาศดี ๆ กลับไปกันแน่นอน
จิบเครื่องดื่มชิล ๆ พร้อมสัมผัสบรรยากาศสุดผ่อนคลายบนเขาค้อได้ที่ “ไฮเดรนเยีย คาเฟ่” ที่เที่ยวเขาค้อแห่งนี้เต็มไปด้วยดอกไฮเดรนเยียสีม่วงบนพื้นที่กว้างใหญ่ให้นักท่องเที่ยวได้มาแวะถ่ายรูปกันในช่วงเดือนตุลาคม ที่สำคัญประเภทของดอกไม้จะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปในแต่ละเดือนทำให้การมาเยือนใหม่ในครั้งหน้าพบเจอกับดอกไม้แบบใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนครั้งเก่า
“พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก” ตั้งอยู่บนริมทางหลวงหมายเลข 2196 องค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยการผสมผสานสถาปัตยกรรมจากอยุธยา สุโขทัย และรัตนโกสินทร์รวมกันอย่างลงตัว บริเวณยอดมีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าเอาไว้ ทำให้ที่เที่ยวเขาค้อแห่งนี้กลายเป็นแหล่งสักการะบูชายอดฮิตสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวสายบุญ
ตื่นตาตื่นใจไปกับโลกดึกดำบรรพ์กับที่เที่ยวเขาค้ออย่าง “Amazing Dinosaur” แหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการของยุคดึกดำบรรพ์และสัตว์สูญพันธุ์อย่างไดโนเสาร์ ที่เที่ยวแห่งนี้เต็มไปด้วยรูปปั้นไดโนเสาร์จำลองขนาดใหญ่มากมาย นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายรูปจำลองเมืองอียิปต์ให้เด็ก ๆ ได้มาถ่ายรูป รวมไปถึงโซน Mini Zoo ที่มีสัตว์แปลกตาอย่างไก่ฟ้าและเมียร์แคตให้คุณกับครอบครัวได้เดินเล่นกันเพลิน ๆ
“แก่งบางระจัน” ป่าต้นน้ำเข็ก ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดพิษณุโลกและเพชรบูรณ์ ที่เที่ยวเขาค้อแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งทำกิจกรรมทางธรรมชาติที่น่าสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการพายเรือชมแมงกะพรุนน้ำจืด สัตว์หายากที่พบเห็นได้เพียง 5 ประเทศเท่านั้น ชมผีเสื้อหลากหลายพันธุ์หายาก เช่น ผีเสื้อจันทรา ผีเสื้อปีกดำ ผีเสื้อสะพายฟ้า และจุดให้เดินเล่นท่ามกลางต้นไม้ใหญ่อันร่มรื่น ทำให้แก่งบางระจันแห่งนี้มีอีกชื่อเรียกคือ ป่าอเมซอนไทยนั่นเอง
แวะจิบกาแฟบนเนินเขากันสักเล็กน้อยที่ “ตั๊กหม้อเขาค้อ โรงเตี๊ยมสุดขอบฟ้า” เป็นคาเฟ่สไตล์จีนที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงท่ามกลางวิวเทือกเขาสุดตระการตา ภายในร้านตกแต่งเป็นโรงเตี๊ยมน้ำชาเหมือนยกมาจากประเทศจีนเลยทีเดียว ที่เที่ยวแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจาก ‘วัดผาซ่อนแก้ว’ เหมาะสำหรับเป็นจุดแวะพักก่อนออกเดินทางไปที่เที่ยวเขาค้ออื่น ๆ
อีกหนึ่งที่เที่ยวเขาค้อที่ไม่ควรพลาดคือ “ทุ่งดอกเวอร์บีน่า” ที่ปลูกในไร่ GB เขาค้อติดกับทุ่งกังหันลม ภายในไร่เต็มไปด้วยดอกเวอร์บีน่าสีม่วงให้คุณถ่ายรูปพร้อมกับวิวทิวเขาด้านหลังไกลสุดสายตา นอกเหนือจากแวะมาถ่ายรูปกันแล้ว ที่เที่ยวแห่งนี้ยังมีชิงช้า, รถไม้, ระเบียงชมวิว และร้านกาแฟให้มานั่งผ่อนคลายอย่างเต็มอิ่ม ยิ่งเป็นช่วงฤดูฝนยิ่งคึกคักเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่ดอกไม้บานสะพรั่งสวยงามกันมาก ๆ
“อุทยานแห่งชาติเขาค้อ” ที่เที่ยวอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 25 ของประเทศไทย โดยครอบคลุมพื้นที่ป่าใน 4 ท้องที่อำเภอ ได้แก่ อำเภอเขาค้อ อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก และอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ภายในเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และพื้นที่ดูแลพืชไม้กับสัตว์ป่านานาชนิด ที่เที่ยวเขาค้อแห่งนี้มีจุดชมวิวไฮไลต์คือ จุดชมวิวผาซ่อนแก้วที่สามารถมองเห็นวัดผาซ่อนแก้วจากวิวด้านบน ให้นักท่องเที่ยวได้มาเช็กอินเข้าชมฟรี
ที่เที่ยวเขาค้อใหม่ล่าสุดกับ “ม่อนแกะ เขาค้อ” ฟาร์มคาเฟ่ที่มีฝูงแกะอยู่เป็นจำนวนมาก มาเดินเล่นในทุ่งหญ้ากันอย่างน่ารัก โดยหนึ่งในกิจกรรมที่น่าสนใจของที่เที่ยวเขาค้อแห่งนี้คือ การอาหารฝูงแกะพร้อมถ่ายรูปกับเนินเขาสูงเหมือนอยู่ต่างประเทศ หากมาในช่วงหน้าฝนอาจได้เห็นทะเลหมอกบนที่เที่ยวแห่งนี้ด้วยนะ ห้ามพลาดเชียว
นอกจากสวนดอกไม้ทั่ว ๆ ไปแล้ว ที่เที่ยวเขาค้อยังมีสวนดอกไม้สไตล์อังกฤษอีกด้วย “The blue Sky Garden” สวนดอกไม้ภายในรีสอร์ทของ The Blue Sky ที่มีพื้นที่ภายในกว่า 30 ไร่ สวนดอกไม้นี้จะถูกจัดตาม 4 ฤดูกาลโดยผลัดเปลี่ยนดอกไม้หมุนเวียนไปเรื่อย ๆ นอกเหนือจากสวนดอกไม้ก็ยังมีโซนเขาวงกต ทุ่งดอกหญ้าหลากสีกับปราสาทขนาดใหญ่ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกันแม้จะไม่ได้พักในรีสอร์ทก็ตาม
“จุดชมวิวไปรษณีย์เขาค้อ” ที่เที่ยวเขาค้อที่มีวิวทะเลหมอกให้ชมกันแบบ 180 องศา รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกบนเขา เช่น ห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียงยังมีสวนสตรอว์เบอร์รี่ให้ได้ไปเก็บ รวมถึงมีจุดกางเต็นท์สำหรับนอนพักค้างคืนอีกด้วย นับเป็นแลนด์มาร์กเขาค้อยอดนิยมที่ใครมาต้องแวะเลยทีเดียว
สายเที่ยวธรรมชาติต้องถูกใจที่เที่ยวเข้าค้อแห่งนี้แน่นอน “สวนป่าหิมพานต์” ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 700 ไร่ เป็นสวนป่าที่มีพันธุ์ไม้มากกว่า 1,000 ชนิด และลานไม้ดอกให้ชมกันแบบเพลิน ๆ ไม่ซ้ำกันตลอดปี บริเวณภายในสวนมีจุดเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น จุดชมช้าง หินหน้าคน น้ำตกอโนดาต และทุ่งทักทอ
สถานที่เช็กอินจุดใหม่ของคนมาเที่ยวเขาค้อ “La Borne Point” หรือ ลา บล็อง พอยท์ ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ถนนสามัคคีชัย เป็นที่เที่ยวเขาค้อที่มีจุดเด่นคือ ทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ด้านหน้าที่อัดแน่นไปด้วยดอก Century Celosia หรือ ดอกสร้อยไก่ ที่มีสีแดง เหลือง และส้ม ปะปนทั่วสวนอย่างสวยงามให้คุณเพลิดเพลินกับทัศนียภาพด้านหน้าพร้อมกับทานอาหารสไตล์ยุโรปแบบชิล ๆ กันเลย
ท่ามกลางที่เที่ยวธรรมชาติกับที่พักสวย ๆ ใน “วิลล่าป่าสน เขาค้อ” ภายในที่เที่ยวเขาค้อแห่งนี้ถูกห้อมล้อมด้วยป่าสนสีเขียว และไร่กาแฟออแกนิคให้คุณพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบายเหมือนอยู่ต่างประเทศนอกจากนี้ บริเวณด้านในยังมีปราสาทสไตล์ยุโรปตั้งเด่นสะดุดตาอีกด้วย รับรองว่าได้รูปสวย ๆ กลับไปเพียบแน่นอน
ที่เที่ยวเขาค้อสุดท้ายที่เราแนะนำคือ “ไร่ บี.เอ็น.” แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาซื้อผัก, ผลไม้, ดอกไม้ และสินค้าแปรรูปชนิดอื่น ๆ กลับไปเป็นของฝากที่ระลึกกัน โดยเป็นสินค้าที่ทางไร่ผลิตเองเป็นหลัก นอกจากนี้บริเวณด้านหน้ายังมีทุ่งดอกไม้สวยงามหลายชนิดบนพื้นที่มากกว่า 10 ไร่ ไม่ว่าจะเป็นดอกทุ่งดอกคอสมอส ทุ่งดอกเวอร์บีน่า ทุ่งดอกเสี้ยนฝรั่ง เป็นต้น ถือเป็นแหล่งเที่ยว และช้อปปิ้งครบจบในที่เดียวเลย
เขาค้อเป็นหนึ่งในที่เที่ยวสายธรรมชาติของจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาพักผ่อนตลอดทั้งปี เพราะมีสภาพอากาศที่เย็นสบาย การเดินทางแสนสะดวก รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวมากมายให้คุณได้เที่ยวกันแบบไม่ซ้ำใครแน่นอน มาดูข้อมูลที่เที่ยวเขาค้อที่น่าสนใจกันต่อที่ด้านล่างนี้เลย
เขาค้อ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในจังหวัดเพชรบูรณ์ กลุ่มภูเขาบริเวณภาคเหนือตอนล่างล้อมรอบอยู่ทั่วอำเภอเขาค้อ โดยมีแม่น้ำป่าสักไหลผ่านตลอดช่วงแนวที่ราบ มีสภาพอากาศเย็นสบายอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีอยู่ประมาณ 21.93 องศาเซลเซียส เนื่องจากได้รับลมมรสุมทางตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณรอบ ๆ ที่เที่ยวเขาค้อเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ได้แก่ น้ำตก, หน้าผา, ถ้ำ, เกาะ เป็นต้น
คุณสามารถเดินทางมาที่เที่ยวเขาค้อได้ด้วยรถยนต์ส่วนตัว, รถทัวร์, มินิบัส, รถไฟ และเครื่องบิน เป็นต้น โดยการเดินทางที่นิยม และสะดวกสำหรับผู้ไปเที่ยวกันหลายคน คือ รถยนต์ส่วนตัวและรถทัวร์ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ถึงจังหวัดเพชรบูรณ์
หากเดินทางด้วยเครื่องบินจะต้องนั่งจากสนามบินดอนเมือง (DMK) ลงที่สนามบินพิษณุโลก (PHS) แล้วเดินทางเข้าจังหวัดเพชรบูรณ์ต่อด้วยรถยนต์เช่าหรือรถทัวร์ เนื่องจากสนามบินเพชรบูรณ์ยังไม่เปิดให้บริการนั่นเอง
คุณสามารถเดินทางไปยังที่เที่ยวเขาค้อโดยเลือกใช้บริการรถรับจ้างสาธารณะต่าง ๆ ได้ เช่น รถสองแถว รถตู้ ตามจุดให้บริการในจังหวัด นอกจากนี้ หากไม่ได้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมาตั้งแต่แรก สามารถใช้บริการเช่ารถกับทางแอป Traveloka ที่ตอบโจทย์การเที่ยวอย่างอิสระ ให้คุณเที่ยวอย่างสนุก และได้ความเป็นส่วนตัว หรือจะเช่าพร้อมคนขับเพื่อเที่ยวกันแบบสบาย ๆ เราก็มีให้เช่นกัน
ที่เที่ยวเขาค้อแม้จะมีสภาพอากาศเย็นสบายตลอดปี แต่มีบรรยากาศที่งดงาม และแตกต่างกันไปตามช่วงฤดูกาล ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมวิวธรรมชาติแห่งนี้กันตลอดทั้งปี โดยฤดูกาลสำหรับเที่ยวเขาค้อมีดังนี้