รู้ไว้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น! 7 ประเภท JR Pass ที่ควรรู้ ทริปแบบนี้ ซื้อแบบไหนคุ้มสุด!

Thamonwan B
25 Aug 2020 - 4 min read

ประเภท JR Pass มีอะไรบ้าง? JR Pass คืออะไร? ซื้อที่ไหน? เชื่อว่าใครที่กำลังแพลนจะไปญี่ปุ่นต้องมีคำถามเหล่านี้อยู่ในใจกันบ้าง มือใหม่หัดเที่ยวญี่ปุ่นที่ไม่อยากเข้าเว็บนู้นออกเว็บนี้หาข้อมูลเกี่ยวกับประเภท JR Pass ให้ปวดหัว นี่เลยจ้ะ! เรารวบรวมข้อมูลทุกอย่างไว้ให้หมดแล้ว ตามเก็บกันได้เลยจ้า!

JR Pass คืออะไร?

JR Pass ย่อมาจาก Japan Rail Pass เป็นบัตรโดยสารแบบเหมาจ่ายสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวญี่ปุ่น ใช้ขึ้นรถไฟบริษัท JR เป็นหลัก และสามารถใช้กับรถไฟเอกชน รถบัส เรือ และอื่น ๆ ได้ด้วย

ซื้อ JR Pass ได้ที่ไหน?

ปัจจุบันมี JR Pass จำหน่ายตามสถานีรถไฟและสนามบินหลัก ๆ ในญี่ปุ่นบางแห่ง เช่น สถานีรถไฟโตเกียว สถานีรถไฟนาโกย่า สนามบินฮาเนดะ สนามบินนาริตะ แต่เปิดขายแค่ช่วงที่กำหนด ยังไม่ได้เปิดขายตลอด และไม่ไม่มี JR Pass บางประเภทจำหน่าย เช่น JR Hokkaido Pass เราแนะนำให้ซื้อ JR Pass ผ่านทางออนไลน์ไว้ก่อนจะสะดวกกว่า Traveloka ก็มี JR Pass จำหน่ายแล้วนะ สามารถสั่งซื้อผ่านทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันได้ง่าย ๆ หลังชำระเงินสามารถเลือกรับบัตรชั่วคราวทางอีเมล์ บริการส่งของ หรือมารับด้วยตนเองก็ได้ จากนั้นเพียงนำบัตรชั่วคราวพร้อมหนังสือเดินทางไปแลกบัตร JR Pass ที่สำนักงาน JR Pass ภายในสนามบิน หรือสถานีรถไฟใหญ่ ๆ ที่กล่าวไปด้านบนได้เลย

ประเภท JR Pass มีอะไรบ้าง

ประเภท JR Pass แบ่งออกตามเส้นทางที่เราต้องการเดินทาง แต่ละประเภทก็จะแยกย่อยลงไปอีก ทั้งคลาสที่นั่ง ซึ่งจะแบ่งเป็นแบบธรรมดา (Ordinary) และแบบพรีเมียม (Green) นอกจากนี้ยังแบ่งตามจำนวนวันที่ต้องการเดินทาง และอายุของผู้โดยสารด้วย

1. JR Nationwide

สามารถใช้เดินทางได้ทั่วทุกภูมิภาคของญี่ปุ่นโดยรถไฟ รถบัสและเรือเฟอร์รี่

JR Nationwide

เหมาะกับใคร

JR Nationwide เป็นประเภท JR Pass ที่เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวหลาย ๆ ภูมิภาคของญี่ปุ่นในทริปเดียวและวางแผนเที่ยวหลายวัน ส่วนเรื่องคลาสที่นั่งแบบพรีเมียม (Green) แตกต่างกับชั้นธรรมดาตรงที่เบาะกว้างกว่า มีจุดเสียบปลั๊กสำหรับแต่ละที่นั่งเลย มีบริการแจกผ้าเย็น และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เพิ่มเข้ามา แต่ต้องจองที่นั่งก่อนขึ้นทุกครั้ง ในขณะที่ชั้นธรรมดาจะจองล่วงหน้าหรือไม่จองล่วงหน้าก็ได้

2. JR Hokkaido Area

เป็นประเภท JR Pass ที่ใช้เดินทางในภูมิภาคฮอกไกโดโดยรถไฟและรถบัสของ JR แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว แต่ไม่สามารถใช้กับรถไฟ Hokkaido Shinkansen ได้

JR Hokkaido Area

เหมาะกับใคร

ใครแพลนเที่ยวจัดเต็มเฉพาะในฮอกไกโดต้องไม่พลาดเพราะสามารถใช้เดินทางได้ทั้งภูมิภาคฮอกไกโด

3. JR East Area

ใช้เดินทางในภูมิภาคฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น เป็นประเภท JR Pass ที่ใช้ได้กับรถไฟประเภทด่วนพิเศษ ชินคันเซ็น รถด่วน รถไฟธรรมดาโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ไม่สามารถใช้กับรถไฟ Tokaido Shinkansen ได้ แบ่งออกตามเส้นทางดังนี้

JR East Area

เหมาะกับใคร

Tohoku Area Pass

เหมาะกับคนที่เที่ยวทั้งโตเกียวและเมืองใกล้เคียงอย่าง นิกโก ฟุกุชิมะ อิวาเตะ อาคิตะ เซ็นได และอาโอโมริ

Nagano, Niigata Area Pass

ใครอินสถานที่ประวัติศาสตร์เลือก Pass นี้เลย เพราะผ่านสถานที่ทางประวัติศาสตร์ชื่อดังมากมาย เช่น เมืองมรดกโลกนิกโก ปราสาทมัตซึโมโตะ และโยโกฮาม่า

East-South Hokkaido Rail Pass

เป็นประเภท JR Pass คุ้ม ๆ สำหรับคนอยากเที่ยวตั้งแต่โทโฮคุยาวถึงฮอกไกโด สามารถนั่งเครื่องไปลงสนามบินฮาเนดะหรือสนามบินนาริตะในโตเกียว และขึ้นเครื่องกลับที่สนามบินนิวชิโตเสะ ฮอกไกโดได้สบาย ๆ เพราะ Pass นี้ครอบคลุมการเดินทางระหว่างสนามบินดังกล่าวทั้งหมด

Tohoku-South Hokkaido Rail Pass

เหมาะกับคนอยากเที่ยวโทโฮคุและฮอกไกโดตอนใต้ เน้นเที่ยวธรรมชาติสลับเมือง แช่ออนเซ็นอุ่น ๆ และเล่นหิมะสนุก ๆ

4. JR Flex Japan Tourist Pass (JR Central)

เป็นประเภท JR Pass ที่สามารถเดินทางในแถบภาคกลางของญี่ปุ่น เช่น ฟูกุอิ คานาซาวะ โทยามะ ทาคายาม่า ชิราคาวาโกะ เกะโระ และนาโกย่า ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว เดินทางได้ทั้งรถไฟ รถราง รถบัส เรือ และกระเช้าลอยฟ้า

JR Flex Japan Tourist Pass (JR Central)

เหมาะกับใคร

Takayama - Hokuriku Area

อยากเที่ยวนาโกย่า เกโระ ทาคายามะ โทยามะ คานาซาวะต้อง Pass นี้เลย มีที่เที่ยวเด็ด ๆ เยอะมาก เช่น หมู่บ้านคาราชิวาโกะ และหมู่บ้านอาอิโนคุระ

Ise - Kumano Area

เหมาะกับคนที่จะนั่งเครื่องมาลงสนามบินคันไซเพื่อเที่ยววากายามะ โอซาก้า และนารา

Alpine Takayama Matsumoto Area

สายธรรมชาติต้องเลิฟสิ่งนี้ Pass เดียวเที่ยวได้ทั้งทาคายามะ โทยามะ มัตสึโมโตะ ฟุกุชิมะ และนาโกย่า

Mt. Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass

อยากไปชมวิวภูเขาไฟฟูจิแบบฟิน ๆ ต้อง Pass นี้เลยจ้า

5. JR All Shikoku Area

เป็นประเภท JR Pass ที่ใช้เดินทางครอบคลุม 4 จังหวัดในภูมิภาคชิโกกุ ทั้งเอะฮิเมะ คางาวะ โทคุชิมะ และโคชิแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง

JR All Shikoku Area

เหมาะกับใคร

ใครอยากเที่ยวภูมิภาคเล็ก ๆ เงียบสงบ ธรรมชาติสวย ๆ ต้องที่ชิโกกุเลยจ้า ที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่น ห้องอาบน้ำโดโกะออนเซ็นในเอะฮิเมะ สวนริทสึรินในคางาวะ เขาสึรุงิที่โทคุชิมะ และปราสาทโคชิ

6. JR Kyushu Area

ประเภท JR Pass สำหรับเดินทางในภูมิภาคคิวชูด้วยรถไฟ JR ยกเว้นรถไฟ Sanyo Shinkansen ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ตามระยะเวลาที่ต้องการใช้เดินทาง

JR Kyushu Area

เหมาะกับใคร

เหมาะกับคนที่วางแพลนเที่ยวเฉพาะในคิวชู จะเก็บที่ท่องเที่ยวสำคัญในครบทั้งภูมิภาค หรือเน้นแต่ฝั่งเหนือหรือฝั่งใต้ก็มีให้เลือกซื้อแยกได้หมด สามารถดูจากจังหวัดที่เราอยากไปได้เลยจ้า

7. JR West Area

ตั๋วรถไฟสำหรับเดินทางในภูมิภาคตะวันตกของญี่ปุ่น แบ่งประเภท JR Pass ย่อยได้หลากหลายตามเส้นทาง

JR West Area

7.1. Kansai Area Pass

สำหรับเดินทางในคันไซ ใช้เดินทางไปยังโอซาก้า โกเบ เกียวโต นารา ฮิเมจิ ได้

เหมาะกับใคร

ใครเน้นเที่ยวในแถบคันไซตามจังหวัดดัง ๆ อย่างเช่น โอซาก้า โกเบ เกียวโต และนารา เลือกแบบนี้คุ้มมาก เพราะสามารถไปได้ครบ หรือถ้าใครที่อยากแวบมาเที่ยวแค่ไม่กี่วันก็เหมาะเพราะเขามีให้เลือกซื้อตั๋วได้ตั้งแต่สำหรับใช้วันเดียวจนถึงสี่วันเลย

7.2. Kansai WIDE Area Pass

ใช้เดินทางด้วยรถไฟ Sanyo Shinkansen มุ่งตรงจากโอซาก้าสู่โอคายามะ

เหมาะกับใคร

คนที่อยากประหยัดเวลาเดินทาง อยากเก็บที่เที่ยวในคันไซให้จบในทริปเดียวและมีงบเยอะ เนื่องจากประเภท JR Pass แบบนี้จะเดินทางได้เร็วและครอบคลุมเส้นทางมากกว่า Kansai Area Pass

7.3. Kansai Hiroshima Area Pass

สำหรับเดินทางด้วยรถไฟ JR ภายในคันไซแนวชายฝั่งซันโยจนถึงฮิโรชิมา

เหมาะกับใคร

เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเดินทางเที่ยวข้ามภูมิภาค เช่น จาก โอซาก้า ไปเที่ยวถึง ฮิเมจิ ฮิโรชิมาเกาะมิยาจิมะ

7.4. Sanyo-San’in Area Pass

ตั๋วเดินทางโดยรถไฟ shinkansen และ limited express ในภูมิภาคชุโกกุและภูมิภาคคันไซบางส่วน โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ตามระยะเวลาที่กำหนด

เหมาะกับใคร

ใครไม่อยากเที่ยวแค่ในภูมิภาคคันไซ ก็สามารถซื้อตั๋วประเภทนี้ได้เพราะเดินทางไปเที่ยวได้ทั้งในคันไซและชุโกกุเลย รับรองว่าคุ้มค่าตลอด 7 วันแน่นอน

7.5. Hokuriku Area Pass

ประเภท JR Pass สำหรับเดินทางในภูมิภาคโฮคุริคุ สามารถเดินทางไปเที่ยวได้หลากหลายที่ เช่นโทยามะ, คานาซาว่า, ฟุไก และอื่น ๆ

เหมาะกับใคร

คนที่เน้นแพลนเที่ยวเฉพาะในโฮคุริคุ กับ 3 จังหวัดติดทะเลสุดชิลควรซื้อประเภท JR Pass แบบนี้ ที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดคือ หน้าผาโทจินโบ จังหวัดฟุไก ย่านโรงน้ำชาฮิงาชิชายะ คานาซาว่า และหุบเขาคุโรเบะในโทยามะ

7.6. Kansai Hokuriku Area Pass

สำหรับเดินทางโดยรถไฟ JR ในภูมิภาคคันไซ โฮคุริคุ และโอคายามะ เส้นทางการเดินทางเป็นการรวม Kansai Wide Area Pass และ Hokuriku Area Pass

เหมาะกับใคร

สำหรับคนที่แพลนทริปยาว ๆ เก็บรวบทั้งภูมิภาคคันไซแบบทุกซอกทุกมุมกับโฮริคุริคุ เนื่องจากรวบทั้ง Pass ประเภท Kansia Wide Area และ Hokuriku Area เข้าไว้ด้วยกัน

7.7. San’in-Okayama Area Pass

ตั๋วเดินทางสำหรับเดินทางด้วยรถไฟ JR ในโอคายามะ ทตโตะริ และชิมาเนะ แต่ไม่สามารถใช้เดินทางด้วย Sanyo Shinkansen มุ่งหน้าจากสถานีชินโอซาก้า ไปยังฮากาตะ

เหมาะกับใคร

เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวนอกเมืองที่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก ในงบและเวลาที่ค่อนข้างจำกัด ที่เที่ยวยอดฮิต ได้แก่ หมู่บ้านซามุไร ชิมาเนะ ทะเลทรายในทตโตะริ และไร่พีชขาวในเมืองโอคายามะ

7.8. Hiroshima-Yamaguchi Area Pass

ประเภท JR Pass แบบนี้จะใช้สำหรับเดินทางด้วยโดยสารรถไฟ JR ในฮิโรชิมะและยามากุจิ ได้โดยไม่จำกัดครั้งตามจำนวนวันเดินทางที่กำหนด

เหมาะกับใคร

อยากเที่ยวเมืองเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยความทรงจำมากมายต้อง Pass นี้เลย ใช้เที่ยวเมืองฮิโรชิมะและยามากุจิได้แบบเต็มอิ่ม ไปถ่ายรูปกับเสาแดงโอโทริอิกลางน้ำ แลนมาร์คสำคัญของฮิโรชิมะ และเดินเล่นชิล ๆ ที่สะพานคินไตเคียวในยามากุจิกันเลย

เป็นไงกันบ้างจ๊ะ ข้อมูลแน่นใช่ไหมล่ะ! รับรองว่าข้อมูลประเภท JR Pass ทั้ง 7 ที่เรารวบรวมมาให้จะทำให้การแพลนเที่ยวญี่ปุ่นของให้ง่ายและสบายขึ้นแน่นอน ถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะซื้อ JR Pass ที่ไหน ซื้อผ่าน Traveloka ได้ทั้งทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชันเลยนะ จองไว้ก่อนอุ่นใจกว่า ลงเครื่องปุ๊บ จะได้พร้อมเที่ยวปั๊บ!

Hotels
Flights
Things to Do
Always Know the Latest Info
Subscribe to our newsletter for more travel & lifestyle recommendations and exciting promos.
Subscribe