มะนิลา (Manila) เมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ที่นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยได้ไปเยือนกันสักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับเมืองอื่นในประเทศใกล้เคียง ส่วนหนึ่งเพราะว่ามะนิลาเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นเมืองหลวงที่มีอาณาเขตน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ไม่ได้หมายความว่าภายในเมืองมะนิลานั้นไม่ได้น่าเที่ยวซะทีเดียว ก่อนที่จะกลับไปบินเที่ยวต่างประเทศได้อีกครั้ง เราอยากจะพาทุกคนไปรู้จักกับเมืองมะนิลา เมืองที่มีการผสมผสานความเป็นอยู่ ประเพณี วัฒนธรรม และเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาเอาไว้อย่างกลมกลืน มีทั้งย่านเมืองเก่า และตึกสูงระฟ้าอันเป็นย่านธุรกิจอยู่ภายในเมืองเดียว และถ้าหากคุณต้องการเปิดประสบการณ์ใหม่ในการเที่ยว เราขอแนะนำให้กดแอพ Traveloka เข้าไปจองตั๋วเครื่องบินไปมะนิลา แล้วตามมาเช็คอินที่เที่ยวมะนิลาแนวประวัติศาสตร์กับเราได้เลย แถมตอนนี้ Traveloka ยังมีฟีเจอร์ใหม่ Promo Filter ที่จะช่วยหาตั๋วโปรภายในคลิกเดียว เรียกได้ว่าสะดวกกายสบายกระเป๋าเป็นที่สุด
ส่วนใครจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ก่อนบินก็อย่าลืมไปเช็คมาตราการสนามบินที่นี่นะ
หากให้แนะนำวิธีการเดินทางจากสนามบินนานาชาติมะนิลาไปยังเมือง หรือที่พักในแบบที่ไม่ต้องหารถให้ยุ่งยาก แถมถ้ายิ่งมีปัญหาในการสื่อสาร การกดเข้าไปจองรถรับส่งสนามบินกับ Traveloka จัดว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่น่าสนใจมากที่สุดวิธีหนึ่งเลย เพราะข้อดีคือไม่ใช่แค่จองล่วงหน้าได้ แต่ยังมีคนขับรถมารอรับถึงสนามบินเลย ยิ่งใครที่สัมภาระเยอะ หรือไปเที่ยวมะนิลากับครอบครัว บอกเลยว่าตอบโจทย์มากจริงๆ
ก่อนที่จะไปดูจุดเช็คอินแลนด์มาร์คที่เที่ยวสำคัญของเมืองมะนิลา อยากให้ทุกคนได้มาทำความรู้จักมะนิลากันก่อน เพราะเมืองนี้มีประวัติเป็นมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศสหรัฐอเมริกา และสเปน จึงทำให้ภายในย่านเมืองเก่านั้น มีสถานที่สำคัญหลายแห่งที่ให้ฟีลเหมือนไปเที่ยวยุโรป ที่ไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่ยังรวมไปถึงประวัติศาสตร์มากมายที่แฝงตัวอยู่ในที่เที่ยวมะนิลาแต่ละแห่ง ด้วยความที่ฟิลิปปินส์ได้เคยตกเป็นเมืองขึ้น อยู่ในอาณานิคมของสเปนใหม่ (New Spain) มาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1565 ไปจนถึง ค.ศ. 1898 สิริรวมทั้งสิ้น 333 ปี และต่อมาได้อยู่ภายใต้การปกครองของสหรัฐอเมริกาอีกนานถึง 43 ปี จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฟิลิปปินส์ถึงได้มีที่เที่ยวมากมาย ที่คงสถาปัตยกรรมแบบสเปนดั้งเดิม ถ้าหากพร้อมแล้วมาดูกันเลยดีกว่า ว่าที่เที่ยวสายประวัติศาสตร์ของกรุงมะนิลา จะมีที่ไหนบ้าง
หากอยากทำความรู้จักประเทศไหน หรือเที่ยวให้สนุก เข้าใจสถานที่ ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของประเทศนั้นๆ มากยิ่งขึ้น เราขอแนะนำให้คุณเดินทางไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเป็นอันดับแรก ซึ่งถ้าใครจองตั๋วเครื่องบินไปมะนิลา แล้วอยากจะทำความรู้จักมะนิลา ก่อนเดินทางไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติฟิลิปปินส์คือที่ต้องมาปักหมุด เพราะจุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือได้มีการรวบรวมประวัติศาสตร์ ประเพณี และวัฒนธรรมของชนชาติฟิลิปปินส์เอาไว้ทั้งหมด รวมไปถึงงานศิลปะวัฒนธรรม ให้คุณได้เข้าใจความเป็นฟิลิปปินส์มากขึ้น แนะนำสำหรับใครที่เป็นสายเที่ยวพิพิธภัณฑ์ จะต้องสนใจอย่างแน่นอน
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่ 09.00 - 16.00 น.
หรือที่อ่านออกเสียงว่า อินทรามูรูส ได้เหมือนกัน ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คเด่นของมะนิลา ที่ไม่ว่าใครเดินทางมายังที่นี่ ก็ต้องมาเยือน และมาเห็นกำแพงเมืองเก่าด้วยตาตัวเองกันสักครั้ง เพราะป้อมปราการนี้เก่าแก่มาก อีกทั้งภายในเขตกำแพงเมือง ยังเต็มไปด้วยสถานที่สำคัญของมะนิลา มีทั้งโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยกำแพงเมืองในแต่ละยาวประมาณ 4 เมตรด้วยกัน กำแพงเมืองเก่านี้รับบทเป็นทั้งป้อมปราการ และกำแพงเมืองในสมัยก่อน ด้านในจะเป็นชุมชนขนาดเก่า ที่มีผังเมืองแบบตะวันตก หากว่าคุณซื้อทัวร์เที่ยวแบบวันเดย์ทริป แนะนำให้มาเที่ยวบริเวณนี้ แต่น่าเสียดายที่ถึงแม้ในทุกวันนี้อินทรามูรอสไม่ได้มีสภาพสมบูรณ์เหมือนเมื่อก่อน เพราะถูกทำลายไปเมื่อครั้งสมัยสงคราม ก็ยังถือว่าเป็นหนึ่งในที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ทางสำคัญของมะนิลาที่แนะนำ
หลังจากไปเยือนกำแพงเมืองเก่าของมะนิลาเรียบร้อยแล้ว สำหรับสถานที่ถัดไปที่อยากให้ไปเยือนก็อยู่ไม่ห่างกันมากนัก และสำคัญต่อประวัติศาสตร์เมืองมะนิลาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากำแพงเมืองเลย ความสำคัญของป้อมซานติเอโก นั้นนอกจากจะใช้ป้องกันเมืองมะนิลาจากศัตรูในยามศึกสงครามแล้ว ยังเป็นป้อมปราการที่เก่าแก่มากที่สุดในฟิลิปปินส์ด้วย ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1953 ด้วยความสำคัญนี้ทำให้ป้อมนี้ได้สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันจุดยุทธศาสตร์ของมะนิลา และฟิลิปปินส์ด้วยเนื่องจากใช้ป้องกันข้าศึกที่มาจากทางปากอ่าวมะนิลา หลังจากป้อมนี้ได้ถูกโจมตีโดยสหรัฐอเมริกา ก็เลยได้ถูกบูรณะให้กลายมาเป็น “ปูชนียสถานแห่งเสรีภาพ ” (Shrine of Freedom) พร้อมกับมีสวนหย่อมรายล้อม กลายมาเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของมะนิลา และฟิลิปปินส์อย่างที่เห็นกันในทุกวันนี้
ขอแนะนำหนึ่งในสถานที่เที่ยวเมืองมะนิลาที่ทั้งสวย งดงาม และเปรียบเสมือนแลนด์มาร์คแห่งสำคัญ เพราะเป็นมหาวิหารแห่งเมืองหลวง ไม่ได้สำคัญแค่ในมะนิลาแต่เพียงเท่านั้น ทว่ามหาวิหารนี้ยังสำคัญกับประเทศฟิลิปปินส์เป็นอย่างมาก แม้ว่าดูผ่านนอกแล้วเหมือนกับว่ามหาวิหารมะนิลามีสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ แต่ก็ได้ถูกทำลายมาหลายรอบ จนได้กลับมาบูรณะใหม่ขึ้นเป็นครั้งที่ 8 แล้ว ซึ่งก็ยังคงความสวยงามเอาไว้อย่างเช่นทุกวันนี้ การเดินทางไปเที่ยวที่มหาวิหารมะนิลานั้นไม่มีอะไรยาก เพราะว่าเปิดให้เข้าชมได้ฟรี แต่อาจจะต้องเลือกวัน เพราะบางวันจะมีการทำพิธี หรือมีพิธีมิสซาในช่วงวันอาทิตย์เช้า สำหรับใครที่ชมความงามของมหาวิหารเรียบร้อยแล้ว อยากจะชมบรรยากาศโดยรอบ ก็สามารถเช่ารถม้านั่งชมไปรอบๆ ของมหาวิหารได้ จะได้บรรยากาศแบบคลาสสิกไปอีกแบบ
ไม่ว่าใครมาเยือนที่บริเวณโซนเมืองเก่าของมะนิลา ก็ต่างต้องแวะมาถ่ายรูปที่นี่กันทุกครั้ง เพราะเป็นแลนด์มาร์คที่มีชื่อเสียงมากของมะนิลา มีลักษณะเป็นสวนขนาดใหญ่ ผู้คนจะออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งกันมากมาย ยิ่งในวันที่อากาศดี คุณจะเห็นได้ว่ามีทั้งชาวเมือง และนักท่องเที่ยวคราคร่ำเต็มไปหมด สวนไรซาลแห่งนี้มีขนาดที่ใหญ่มาก ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 140 ไร่ด้วยกัน โดยบริเวณตรงกลางจะมีอนุสาวรีย์โดดเด่นเป็นสง่า ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ ดร.โฮเซ่ ไรซาล (Dr.Jose Rizal) ผู้ต่อต้านอาณานิคมของสเปน ไม่เพียงแต่เป็นที่เที่ยวสำคัญเท่านั้น แต่ทว่าสวนไรซาลยังเป็นหลักกิโลเมตรที่ 0 เริ่มต้นการนับระยะทางสำหรับเกาะลูซอนด้วย
ถัดจากมหาวิหารมะนิลาไปไม่ไกล ก็มีอีกหนึ่งโบสถ์ที่น่าสนใจ ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม และความเก่าแก่ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมโบสถ์ซานอะกุสตินถึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ด้วยสไตล์บาร็อค จึงทำให้โบสถ์แห่งนี้มีความแปลกตามากกว่าโบสถ์อื่นทั่วไปในประเทศฟิลิปปินส์ ที่สำคัญโบสถ์ซานอะกุสติน ยังเป็น 1 ใน 4 โบสถ์ที่สำคัญของฟิลิปปินส์อีกด้วย ความพิเศษของโบสถ์นี้คือเป็นโบสถ์ที่ถูกสร้างขึ้นหลังจากที่สเปนมีชัยชนะเหนือประเทศฟิลิปปินส์เป็นแห่งแรกบนเกาะลูซอน ด้วยการเป็นโบสถ์ของนิกายอะกุสติน ซึ่งเป็นนิกายหนึ่งของศาสนาคริสต์โรมันคาทอลิก ความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะได้มีการผสมผสานความเป็นจีนเข้าไปด้วย ทำให้โบสถ์ที่ทั้งสวย และเป็นเอกลักษณ์อย่างเป็นที่สุด
ถ้าหากว่าคุณอยากจะทำความรู้จักกับมะนิลา หรือฟิลิปปินส์ให้มากกว่านี้ อยากให้ลองมาที่นี่เลย เพราะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยการคงสภาพบ้านเก่าแบบดั้งเดิม และมีสิ่งของจัดแสดงที่ยังคงสภาพสมบูรณ์เอาไว้ด้านใน จุดเด่นของคาซามะนิลา ก็คือรูปทรงที่เป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ ถูกออกแบบตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมของสเปนขนานแท้ ก้าวเข้าไปแล้วให้ฟีลเหมือนอยู่ในยุโรปทีเดียวเชียวแหละ
รับรองเลยว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดว่าพิพิธภัณฑ์จะต้องน่าเบื่อเสมอไป ด้วยเรื่องราว และการจัดวางของสิ่งของ ทั้งเก้าอี้ โต๊ะ เตียง ตู้ หรือแม้แต่สิ่งที่ใช้ในครัวเรือนทั่วไป ตั้งแต่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ให้คุณได้ชมกันแบบใกล้ชิดแล้วนั้น ยังได้ชมบ้านเรือนดีไซน์สวยที่ยังคงสภาพดี เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
ตามชื่อเลยว่าสถานที่แห่งนี้เป็นทั้งสุสาน และสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านเมืองเก่าของกรุงมะนิลา ใครที่มาเช็คอินสถานที่เที่ยวมะนิลาแถวนี้แล้วละก็ อย่าลืมที่จะแวะมาชมความงดงามของสวนอันเงียบสงบกันได้เลย ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ที่จะทำให้คุณต้องลืมความน่ากลัวของรูปแบบสุสานทั่วไป เนื่องจากสุสานแห่งนี้จะเป็นลักษณะกำแพงรายล้อม เต็มไปด้วยความเขียวขจีของสวนที่อยู่ภายใน ความสำคัญของสุสานแห่งนี้ คือเป็นที่ฝังศพของ ดร.โฮเซ่ ไรซาล (Dr.Jose Rizal) วีรบุรุษของชาวฟิลิปปินส์ จึงทำให้สุสานแห่งนี้กลายมาเป็นแลนด์มาร์ค และหนึ่งในที่เที่ยวที่น่าสนใจ หากใครมีเวลา แล้วอยากจะมาชมสวนสวยๆ พร้อมกับเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ฟิลิปปินส์ แนะนำให้มาที่นี่เลย
หากใครที่ชื่นชอบการไปเยือนที่เที่ยวสถาปัตยกรรมแบบสวยๆ รับรองว่าจองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวมะนิลา แล้วจะต้องฟินอย่างแน่นอน เพราะที่มะนิลาจะมีโบสถ์สวยๆ เยอะมาก เรียกว่าเป็นเมืองที่ร่ำรวยทางด้านสถาปัตยกรรม และรับรองว่าโบสถ์แต่ละทีนั้นมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับโบสถ์มาลาเต เป็นอีกหนึ่งโบสถ์ดังของเมืองมะนิลา เพราะถือเป็นโบสถ์ของนิกายโรมันคาทอลิก ที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ด้วยจุดประสงค์การสร้าง เพื่ออุทิศให้แก่ “แม่พระแห่งเรเมดิออส (Our Lady of Los Remedios)” อันเป็นองค์อุปถัมถ์ของหญิงมีครรภ์ ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นที่ศรัทธา และขอพรสำหรับหญิงมีครรถ์ให้ท้องบุตร และมีสุขภาพแข็งแรง ตามความเชื่อของศาสนา ในส่วนของสถาปัตยกรรมที่สำคัญของโบสถ์มาลาเต คือแบบบาโรกดั้งเดิม
ถ้าหากว่าใครเคยเดินทางไปเที่ยวที่อิตาลี ก็คงจะพอคุ้นเคยชื่อของมหาวิหารนี้กันอยู่บ้าง เพราะได้ตั้งชื่อตามนักบุญ st.Lorenzo Ruiz ที่เป็นนักบุญชาวฟิลิปปินส์คนแรกของโลกเลยด้วย สำหรับที่เที่ยวแห่งนี้จะเป็นโบสถ์ที่มีความงดงาม ดูภายนอกจะมีการตกแต่งด้วยสีโทนเทา-แดง ด้วยตัวโบสถ์จริงๆ นั้นมีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก เพราะถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยเมื่อปี ค.ศ. 1596 จากนั้นก็ได้เผชิญเหตุการณ์มาหลายต่อหลายครั้ง และได้ถูกบูรณะขึ้นใหม่ โดยลักษณะของโบสถ์จะไม่ได้เป็นสไตล์ทรงบาร็อคแต่เพียงอย่างเดียว หากมีความโดดเด่นด้วยการเพิ่มเติมความงดงามของสถาปัตยกรรมจีนเข้าไปด้วย
เห็นว่าชื่อซานดิเอโกเหมือนกัน แต่สถานที่แลนด์มาร์คแนะนำมะนิลาแห่งนี้จะเป็นคนละที่กันกับที่กล่าวไปยังด้านบน เพราะว่าจะอยู่แถวสวนไรซาล หากใครเดินทางไปเที่ยวชมสวนสาธารณะเรียบร้อยแล้ว สามารถเดินทางไปเที่ยวยังสถานที่แห่งนี้กันต่อได้เลย ซึ่งสถานที่แห่งนี้แม้ว่าจะหลงเหลืออยู่แต่ซากปรักหักพัง แต่ทว่าก็ยังคงความสวยงามเป็นอย่างมาก หากคุณมีโอกาสได้ไปเยือนป้อมปราการซานดิเอโกนี้ แนะนำว่าให้ลองปีนป่ายขึ้นไปยังด้านบน เพราะนอกจากจะได้เห็นซากปรักหักพังของป้อมปราการที่ยังคงความสวยงามแล้วนั้น ยังมองเห็นเมืองมะนิลาได้จากมุมสูงอีกด้วย นับว่าเป็นหนึ่งในที่เที่ยวมะนิลาที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์แห่งหนึ่ง
ด้วยความที่ในเมืองมะนิลานั้นมีโบสถ์สวยๆ เยอะแยะมากมาย แต่หนึ่งในโบสถ์ที่คุณไม่ควรพลาดไปเยือนเลยนั้น เป็นโบสถ์ที่มีชื่อว่าโบสถ์ซานเซบาสเตียน โดดเด่นด้วยโทนสีเขียวมิ้นท์ เป็นโบสถ์ที่นักท่องเที่ยวชอบยกกล้องขึ้นมาถ่าย เพราะสีสันของโทนโบสถ์ที่เป็นสีเขียวพาสเทลสดใส ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และตั้งชื่อตามนักบุญเซบาสเตียน มีความเก่าแก่มาก เพราะถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในเมื่อปี ค.ศ. 1891 และยังเป็นโบสถ์เพียงแห่งเดียวของมะนิลาที่ถูกสร้างมาจากเหล็ก ทำให้โบสถ์แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าสนใจ ใครไปเที่ยวมะนิลา แล้วก็อย่าลืมไปเยือนโบสถ์นี้
เนื่องด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของเมืองมะนิลา ที่ได้รับอิทธิพลมาจากสเปนแบบเต็มๆ จึงแนะนำว่าไปเที่ยวมะนิลาทั้งที อย่าลืมแวะไปดูความสวยงามของสถาปัตยกรรมศาลากลางมะนิลา เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่ทั้งชาวเมือง และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความสนใจ เนื่องด้วยความสวยงาม และไม่ใช่แค่นั้น เพราะยังเป็นสถานที่ทางราชการที่สำคัญของประเทศด้วย
นอกเหนือจากสถานที่เที่ยวสำคัญมะนิลาที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็ยังมีที่เที่ยวอื่นๆ อีกมากมายที่น่าสนใจ เพราะไม่ใช่แค่ในแถบมะนิลาเท่านั้น แต่เมืองอื่นในฟิลิปปินส์ก็ยังมีความน่าเที่ยว และรอให้คุณไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ และถ้าหากว่าหลังจากโควิดหมดแล้ว คิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวเมืองไหนก่อนนี้ ขอแนะนำให้ลิสต์มะนิลา หรือฟิลิปปินส์เอาไว้ในดวงใจบ้าง เพราะเมืองนี้ที่ถึงแม้จะเป็นเมืองหลวงที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่อัดแน่นไปด้วยสถานที่เที่ยวมะนิลาน่าสนใจเพียบเลย