โค้งสุดท้ายของปี 2565 กันแล้วน้า ช่วงนี้มี Long Weekend ให้ไปเที่ยวกันได้แบบรัวๆ เลยจ้า แถมอากาศก็เริ่มเย็นสบาย ถือได้ว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของการเที่ยวภาคเหนือเลยละ คราวนี้เราเลยขอพาไปแอ่วที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวของเมืองรองสามจังหวัดภาคเหนือที่บรรยากาศดี๊ดี จะเป็นที่เที่ยวลำปาง ที่เที่ยวแพร่ หรือที่เที่ยวแม่ฮ่องสอน ก็ไปเช็คอินกันได้แบบจุกๆ ในทริปเดียวเลยจ้ะ ทริปนี้ได้ฟีลชิลล์สุดๆ เพราะเราออกสตาร์ทด้วยการจองตั๋วเครื่องบินแพร่กับ Traveloka Travel & Lifestyle Superapp แล้วใช้บริการรถเช่าของ Traveloka ขับเลาะเที่ยวแบบสบายๆ แวะได้ทุกที่ตามอำเภอใจ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการจองตั๋วเครื่องบินแม่ฮ่องสอนกับ Traveloka Travel & Lifestyle Superapp กลับบ้านกันแบบไม่เสียเวลาย้อนไปย้อนมา ทั้งมันทั้งชิลล์จ้า ใครสนใจแนะนำเลยว่าต้องหาทำ!
จากสนามบิน รับรถเช่าแบบชิลล์ๆ แล้วไปเช็คอินพิกัดแรกกันที่ วัดพงษ์สุนันท์ วัดนี้นับเป็นหนึ่งในที่เที่ยวแพร่ซึ่งไม่ควรพลาดการมาเยือนเลยละ เพราะนอกจากจะเป็นวัดที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสวยแปลกตาแล้วนะ ที่นี่ยังมีองค์พระเจ้าแสนสุขอายุเกือบ 600 ปีให้กราบขอพรกัน มีวิหารแก้วองค์พระธาตุเจดีย์ 108 ยอด และเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุให้แวะสักการะ ปิดท้ายด้วยการไปขอพรจากองค์พระเจ้าทันใจ เป็นวัดที่สายเที่ยวก็ไปได้ สายมูก็แฮปปี้แน่นอน
วันและเวลาให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
ที่เที่ยวแพร่พิกัดต่อมา ขอชวนไปช้อปปิ้งหาของติดไม้ติดมือกลับบ้านกันที่ บ้านทุ่งโฮ้ง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตผ้าหม้อห้อมที่เป็น OTOP ขึ้นชื่อของเมืองแพร่เค้าเลยละ เรียกว่าเป็นที่เที่ยวแพร่ซึ่งสายช้อปน่าจะแฮปปี้ เพราะย่านนี้มีร้านขายผลิตภัณฑ์จากผ้าหม้อห้อมสารพัดรูปแบบกันเลยจ้า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแบบดั้งเดิมที่หลายคนคุ้นตา หรือจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นทันยุคทันสมัย นอกจากนั้นยังมีข้าวของเครื่องใช้ที่ทำให้ผ้าหม้อห้อมกลายเป็นผลิตภัณฑ์อินเทรนด์น่าซื้อหาแบบสุดๆ อีกเพียบเลยละ ราคาก็มีให้เลือกกันหลายระดับจ้า เชื่อว่ามาแล้วจะได้ของติดมือกลับบ้านกันถ้วนหน้าแน่นอน
วันและเวลาให้บริการ: ทุกวัน ร้านส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่เวลาประมาณ 9.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
หนึ่งในที่เที่ยวแพร่ซึ่งจะสวยสุดๆ ในช่วงนี้ ก็คือที่ วัดนาคูหา นี่ละจ้า เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนาในวงล้อมของขุนเขา มีทางเดินเป็นสะพานไม้ไผ่เล็กๆ ทอดตัวยาวข้ามผ่านทุ่งนาไปยังบริเวณวัด ซึ่งมีไฮไลท์เป็นองค์พระเจ้าตนหลวง องค์พระพุทธรูปสีทององค์ใหญ่ซึ่งในพระหัตถ์ซ้ายถือลูกสมอ โดยมีความเชื่อกันว่าที่นี่จะศักดิ์สิทธิ์สุดๆ เชียวละหากนำลูกสมอมาถวายแล้วขอพรเกี่ยวกับสุขภาพ ใครเป็นสายมูปักหมุดไว้ได้เลยจ้า ส่วนสายเที่ยวก็น่าจะแฮปปี้ เพราะช่วงนี้นาข้าวจะมีสีเขียวขจีสลับกับสีทองของรวงข้าว เป็นที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวซึ่งเชื่อว่าทุกคนน่าจะถูกใจ
วันและเวลาให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00 - 18.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
เช้าวันต่อมา อยากชวนไปสัมผัสบรรยากาศยามเช้ากับวิวสุดปังของ วัดพระธาตุดอยเล็ง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 วัดสำคัญของเมืองแพร่ วัดนี้มีทำเลที่ตั้งอยู่สูงที่สุดของจังหวัดแพร่เลยด้วยนะ เวลามาที่นี่นอกจากเราจะมีโอกาสได้กราบองค์พระธาตุเอาฤกษ์เอาชัยในยามเช้ากันแล้ว เรายังจะได้มาฟินกับวิวพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทิวเขาที่สวยปังเต็มตา ยิ่งถ้ามาช่วงปลายปีแบบนี้อากาศยิ่งดีสุดๆ ไปเลยจ้า เป็นที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวอีกแห่งของแพร่ที่ไม่ควรพลาดเลยนะ อากาศช่วงนี้มีลุ้นเห็นทะเลหมอกแน่นๆ ได้ไม่ยากด้วยจ้ะ ปักหมุดมากันเลย
วันและเวลาให้บริการ: วัดพระธาตุดอยเล็ง ตั้งแต่เวลา 9.00 - 17.00 น. จุดชมวิวเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม: ฟรี
กาดอกจันตัวโตๆ ไว้เลยจ้า ว่านี่คือที่เที่ยวแพร่ที่ไม่แวะไม่ได้! เพราะ วัดพระธาตุช่อแฮ นั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวแพร่ และยังนับเป็นพระธาตุเก่าแก่ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพระธาตุประจำปีของคนเกิดปีขาล เชื่อกันว่าถ้าได้มาห่มผ้าพระธาตุและกราบนมัสการ จะส่งอานิสงส์ให้ชีวิตมีพลังปกป้องตัวเองจากศัตรูได้ ขับรถจากใจกลางตัวเมืองไปแค่ไม่ถึง 10 กิโลเมตรเท่านั้นเองจ้า บอกเลยว่าต้องมาให้ได้เน้อ!
วันและเวลาให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.30 - 19.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
พิกัดสุดท้ายก่อนโบกมือลาจังหวัดแพร่แล้วมุ่งหน้าสู่ลำปางกันต่อไป ขอชวนให้แวะมาเช็คอินที่ วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวแพร่ที่มีบรรยากาศแปลกตา เมื่อย่างเท้าก้าวเข้าไปก็จะได้เห็นความสวยขององค์พระนอนและสิงห์คู่ที่อยู่ด้านหน้า ให้อารมณ์เหมือนได้ไปไหว้พระในประเทศเมียนมาร์นิดๆ เลยละ และหากเดินเข้าไปด้านใน ก็ยังจะได้เห็นสถาปัตยกรรมแปลกตาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากล้านนา จีน และลาวอีกด้วยนะ ใครชอบไหว้พระปักหมุดไว้เลยจ้ะ เป็นอีกพิกัดที่ไม่น่ามองข้ามเลย
วันและเวลาให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
จากวัดพระธาตุสุโทนฯ ขับรถต่อมาอีกประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็จะมาถึงหนึ่งในแลนด์มาร์คยอดฮิตของลำปางอย่าง โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ซึ่งเป็นหนึ่งที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวของลำปางที่ห้ามพลาดกันเลยจ้า มาช่วงต้นหนาวแบบนี้ จะได้เห็นทุ่งบัวตองสีเหลืองสดใสเหมาะแก่การไปแชะรูปสุดๆ เชียวละ นอกจากนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา มีสวนเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา มีหอคอยชมวิว สกายวอล์ค และอื่นๆ อีกมากมาย จะเป็นสายไหนก็มาสนุกกันได้ที่นี่หมดเลยน้า เป็นที่เที่ยวลำปางที่มาแล้วเพลินแน่นอน
วันและเวลาให้บริการ: พิพิธภัณฑ์ เปิดทำการวันอังคาร - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.00 - 16.00 น. (เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์), สวนพฤกษชาติฯ เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 - 16.30 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
ลำปางมีที่เที่ยวซึ่งค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบธรรมชาติหรือวัดสวยแปลกตา และนี่อีกหนึ่งที่เที่ยวลำปางซึ่งควรแวะมาให้ได้ วัดพระธาตุดอยพระฌาน เป็นวัดสวยที่เต็มไปด้วยศิลปกรรมสไตล์ล้านนาร่วมสมัยแลดูแปลกตา ทำเลที่ตั้งยังอยู่บนดอยสูงที่มองเห็นวิวสวยได้รอบด้านไปเลยจ้า ชมความสวยของวัดกันจุใจแล้ว อย่าพลาดการเดินขึ้นบันไดไปไหว้องค์พระใหญ่ไดบุตสึบนยอดเขากันด้วยน้า ด้านบนเป็นฟีลเหมือนยกญี่ปุ่นมาไว้เลยจ้า เป็นอีกที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวที่มาแล้วชิลล์แน่นอน
วันและเวลาให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
ไหว้พระกันจนสาแก่ใจ ก็ขอชวนไปชิลล์กันที่ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ต่อเลยจ้า นี่คืออีกหนึ่งที่เที่ยวลำปางซึ่งบอกเลยว่าเหมาะกับทุกเพศทุกวัยเชียวละ ที่นี่มีกิจกรรมน่ารักๆ กับเหล่าช้างน้อยใหญ่ให้เราได้ทำกันเพียบเชียวละ ตั้งแต่การชมช้างอาบน้ำ การแสดงช้างแสนรู้ ได้ไปดูความน่ารักตะมุตะมิของลูกช้าง หรือเพลินกับการนั่งช้างชมป่า ถ้าใครมาเที่ยวแบบ One Day Trip ไม่สะใจ ที่นี่เค้ามีโปรแกรมแบบค้างคืนให้ได้ลองใช้ชีวิตเป็นควาญช้างกันด้วยนะ นี่คืออีกหนึ่งพิกัดในลำปางที่สายเขียวต้องปักหมุดเลยจ้า รับรองว่าเพลิน
วันและเวลาให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 - 16.00 น.
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
ปิดท้ายวันกันที่ กาดกองต้า ถนนคนเดินบรรยากาศสุดน่ารักที่เปิดให้ไปชิลล์กันยาวๆ ตั้งแต่ช่วงเย็นถึงดึกไปเลยจ้า ใครชอบการเดินดูอาคารโบราณสวยๆ หรืออยากได้แบ็คกราวนด์ถ่ายรูปฮิปๆ แนะนำให้มากันเร็วซักนิดน้า เพราะสองข้างทางของที่นี่จะมีบ้านโบราณสวยๆ ให้ชมกันหลายหลังเลยเชียวละ เดินชมบรรยากาศเสร็จแล้วก็เดินช้อปกันต่อได้เลยจ้า ถนนเส้นนี้มีทั้งของกิน ของใช้ ของฝาก และของที่ระลึกให้จับจ่ายกันแบบจุใจเลยนะ เป็นอีกที่เที่ยวลำปางซึ่งมาแล้วต้องแวะจ้ะ เชื่อว่าหลายคนจะต้องติดใจ
วันและเวลาให้บริการ: วันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00 - 22.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
มาเช็คอินที่เที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาวในลำปางกันทั้งที ก็ต้องมี วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ หรือ วัดพระบาทปู่ผาแดง อยู่ในลิสต์ด้วยน้า เพราะนี่คือวัดสุด Unseen ที่มาพร้อมกับความอเมซิ่งขององค์เจดีย์ที่ตั้งอยู่บนยอดผาสูงได้อย่างน่าประหลาดใจ นอกจากความมหัศจรรย์ของตัวสถาปัตยกรรมแล้ว ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในจุดชมทะเลหมอกยามเช้าที่ปังไม่แพ้ใครเชียวละ ถ้าสตาร์ทจากในตัวเมืองก็ต้องตื่นเช้ากันหน่อยนะ แล้วมาออกกำลังขาด้วยการเดินขึ้นเขาต่ออีกพอประมาณ แต่รับประกันว่าสวยคุ้มค่า เป็นอีกที่เที่ยวลำปางที่น่าแวะสุดๆ เลย
วันและเวลาให้บริการ: วันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.00 - 16.00 น., วันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 6.30 - 16.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี (มีค่าบริการรถรับ - ส่งคนละ 70 บาท)
ก่อนบอกลาเมืองลำปาง ถ้าไม่ลองแวะมาเช็คอินกันด้วยการนอนแช่น้ำร้อนใน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ออนเซ็นเมืองไทย ก็เหมือนยังไปเยือนลำปางได้ไม่เต็มตัวเลยละ อากาศเย็นสบายในช่วงเช้า ยิ่งเหมาะกับการมาเรียกความสดชื่นผ่อนคลายในบ่อน้ำร้อนธรรมชาติของที่นี่สุดๆ เลยจ้า ใกล้จุดแช่น้ำร้อนยังมีเส้นทางเดินชมน้ำตกแจ้ซ้อนให้เรายืดเส้นยืดสายกันด้วยนะ จะแช่บ่อรวม บ่อส่วนตัว หรือจะแช่บ่อกลางแจ้งบรรยากาศดี๊ดีก็แฮปปี้ทั้งนั้นจ้า มาเช้าๆ อากาศดี แถมยังมีคนไม่พลุกพล่านด้วยนะ รับรองว่าเริ่ดแน่นอน
วันและเวลาให้บริการ: วันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.00 - 18.00 น., วันเสาร์และอาทิตย์ 7.00 - 18.00 น.
ค่าเข้าชม: คนละ 50 บาท
จากลำปาง ขับรถต่อมาอีกร้อยกิโลเมตรนิดๆ เท่านั้น เราก็จะได้สัมผัสกับทางโค้งอันขึ้นชื่อลือชาของเมืองแม่ฮ่องสอนกันแล้วละ หลังจากสนุกกับสารพัดรูปแบบทางโค้งกันจนจุใจ ก็อยากชวนแวะไปพักกันใน วัดพระธาตุแม่เย็น ก่อนจ้า วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่กับอำเภอปายมาเนิ่นนาน ตัววัดไม่ได้มีอาคารยิ่งใหญ่อลังการแต่ก็สวยแบบมีเอกลักษณ์ ถ้าอยากสัมผัสไฮไลท์ แนะนำให้เดินขึ้นบันไดไปกราบองค์พระใหญ่ที่อยู่บนภูเขาด้านหลังด้วยนะ เพราะเราจะได้เห็นวิวมุมสูงของเมืองปายแบบเต็มตาไปเลยจ้า วิวพระอาทิตย์ตกที่นี่ก็เด็ดนะ เป็นที่เที่ยวแม่ฮ่องสอนที่น่าปักหมุดอีกแห่งเลย
วันและเวลาให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00 - 18.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
แค่ประมาณ 20 นาทีจากวัดพระธาตุแม่เย็น ขับรถรับลมชมวิวพอเพลินๆ รู้ตัวอีกทีก็เดินทางมาถึง หมู่บ้านสันติชล กันแล้วจ้า ที่นี่เป็นหมู่บ้านสไตล์จีนยูนนานที่มีอาคารสวยแปลกตา โดยมีบ้านดินสีส้มสวยแบบเรียบง่ายที่เปิดให้บริการเป็นร้านขายชาและของฝากน่าซื้อหลายอย่างเชียวละ ที่ห้ามพลาดก็คือควรมาลองชิมอาหารยูนนานรสชาติดีของหมู่บ้านนี้เค้าด้วยนะ ใครชอบถ่ายรูป ที่นี่เค้ามีชุดสวยแบบจีนย้อนยุคที่เราเคยเห็นในหนังให้เช่าด้วยจ้า มีโลเคชั่นเด็ดเป็นป้อมปราการหินโบราณจำลองให้แชะกันด้วยนะ รับรองว่านี่จะเป็นอีกที่เที่ยวแม่ฮ่องสอนที่มาแล้วจะได้กดชัตเตอร์กันแบบรัวๆ แน่นอน
วันและเวลาให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 5.00 - 18.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
นอกจากวัดพระธาตุแม่เย็นแล้ว อีกหนึ่งที่เที่ยวแม่ฮ่องสอนในอำเภอปายซึ่งเหมาะกับการไปชมพระอาทิตย์ตกท่ามกลางวิวสวยน่าประทับใจ ก็ต้องยกให้กับ ปายแคนยอน หรือ กองแลน นี่ละ เพราะนี่คือพื้นที่ธรรมชาติซึ่งเกิดจากการทรุดตัวของภูเขา จนกลายเป็นทางเดินแคบยาวบนร่องลึกคล้ายหน้าผาที่ให้ความรู้สึกเร้าใจเวลาเดินพอประมาณเชียวละ วิวพาโนรามายามเย็นของที่นี่น่ะสวยสุดๆ เลยจ้า สายผจญภัยที่มาเที่ยวแม่ฮ่องสอนน่าจะแฮปปี้กับที่นี่แน่นอนเลยนะ เป็นอีกพิกัดที่น่าปักหมุดสุดๆ เลย
วันและเวลาให้บริการ: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม: ฟรี
หนึ่งในไฮไลท์ของการมาเยือนอำเภอปาย ก็คือการได้มาชิลล์กันใน ถนนคนเดินปาย นี่ละ ถนนคนเดินเส้นยาวพอประมาณแห่งนี้นั้นเป็นแหล่งรวมของเด็ดท้องถิ่นที่มีให้เลือกกันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารจานเดียวกินง่าย ของกินเล่นทั้งแบบไทยๆ และแบบอินเตอร์ นอกจากนั้นยังมีเสื้อผ้าและแอ็คเซสซอรี่ส์สไตล์แฮนด์เมดให้ช้อปปิ้งกันอีกมากมาย หรือใครอยากไปใช้เวลานั่งเม้าท์มอยกันแบบชิลล์ๆ ในร้านกินดื่มฮิปๆ ก็มีให้จัดกันเพียบเลยจ้า เป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่เที่ยวแม่ฮ่องสอนที่ต้องปักหมุดมาให้ได้ซักครั้งจริงๆ
วันและเวลาให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่ประมาณ 16.00 - 22.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
มาถึงปายในช่วงปลายฝนต้นหนาวทั้งที ก็ต้องมีการไปชม ทะเลหมอกหยุนไหล อยู่ในลิสต์ด้วยแน่นอนจ้า จุดชมวิวทะเลหมอกตรงนี้นั้นอยู่ไม่ไกลมากจากตัวอำเภอปายด้วยนะ ระหว่างรอชมทะเลหมอก ที่นี่ยังมีบริการอาหารเช้า อาหารว่าง และเครื่องดื่มอุ่นๆ ให้เราสั่งมากินแบบฟินๆ กับวิวหลักล้านตรงหน้าได้แบบสบายๆ จะให้ดี การเดินทางมาที่นี่แนะนำให้ใช้บริการรถรับส่งของชาวบ้านขึ้นมา เพราะมีความชำนาญในเส้นทางมากกว่านักท่องเที่ยวอย่างเราๆ นั่นเองจ้ะ นี่คืออีกหนึ่งที่เที่ยวแม่ฮ่องสอนยอดฮิตเลยนะ ใครชอบทะเลหมอกบอกเลยว่าฟินแน่นอน
วันและเวลาให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 5.30 - 18.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
ดูวิวแจ่มๆ กันจนจุใจ ก็ได้เวลาออกเดินทางไปยัง บ้านรักไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพิกัดยอดนิยมของคนที่ไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนเลยละ นี่คือหมู่บ้านสไตล์จีนยูนนานซึ่งมีทำเลที่ตั้งเป็นจุดแข็งสุดๆ จ้า เพราะตัวหมู่บ้านนั้นตั้งไล่เรียงขึ้นไปบนเนินเขา รายล้อมทะเลสาบกว้างซึ่งอยู่ตรงกลาง อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ก็สร้างแบบเรียบง่ายในสไตล์ท้องถิ่นดูเพลินตา แวะมาเดินเล่น นั่งจิบชา หรือจะแวะมาล่องเรือชมวิว ถ่ายรูปชิลล์ๆ กลางไร่ชา แล้วปิดท้ายด้วยการเดินหาของฝากที่ถูกใจก็เริ่ดนะ ใครมีเวลาพอจะแวะนอนซักคืนก็ได้จ้า เชื่อว่าน่าจะประทับใจ
วันและเวลาให้บริการ: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง (ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดให้บริการ 6.00 - 17.00 น.)
ค่าเข้าชม: ฟรี
ไม่ไกลกันนักจากหมู่บ้านรักไทย ก็จะมาถึง ปางอุ๋ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่เที่ยวแม่ฮ่องสอนซึ่งหลายคนหมายมั่นปั้นมือว่าต้องไปให้ได้ซักครั้งเลยจ้า ความสวยของที่นี่นั้นก็ระดับที่หลายคนบอกว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของเมืองไทยเชียวละ ไม่ว่าจะมาฤดูไหนก็จะได้ประทับใจกับความสวยของป่าสนและทะเลสาบกันตลอดเวลา อยากฟินสุดๆ ก็ต้องมาค้างกันซักคืนสองคืนจ้ะ ข้อดีของการมาช่วงกลางวันก็คือบรรยากาศจะเงียบสงบแต่ก็ยังคงร่มรื่นเหมาะกับการมาชิลล์กับวิวสวยๆ หาที่ถ่ายรูปกันแบบสบายๆ หรือจะปั่นจักรยานชมธรรมชาติก็ได้นะ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวที่รับรองเลยว่ามาช่วงนี้ฟินแน่นอน
วันและเวลาให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่ประมาณ 5.00 - 18.00 น.
ค่าเข้าชม: คนละ 20 บาท
ปิดท้ายการไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนคราวนี้กันที่ วัดพระธาตุดอยกองมู วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่แม่ฮ่องสอนมาเนิ่นนาน และนับเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวแม่ฮ่องสอนที่มาแล้วควรแวะเช็คอินกันให้ได้ นอกจากความสวยสบายตาของสถาปัตยกรรมสไตล์ไทยใหญ่ และองค์พระธาตุคู่สีขาวสะอาดตาซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของวัดนี้แล้วนะ ที่นี่ยังเป็นจุดซึ่งเราจะได้เห็นวิวมุมสูงของเมืองแม่ฮ่องสอนกันด้วยจ้า แวะมาไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย แล้วยังได้เห็นวิวเด็ดๆ เป็นการส่งท้ายทริปด้วยน้า เป็นอีกที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวที่หลายคนน่าจะถูกใจเลย
วันและเวลาให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่ประมาณ 5.00 - 21.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
และนี่คือพิกัดเด็ดๆ ในสามเมืองรองของภาคเหนือซึ่งเชื่อว่าหลายคนน่าจะถูกใจเลยละ หลายแห่งเหมาะจะเป็นที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวซึ่งอากาศเริ่มเย็นสบาย แต่ก็ยังมีความชุ่มฉ่ำจากสีเขียวของต้นไม้และผืนนาให้เห็นกันอยู่นะ ที่สำคัญคือการมาเที่ยวในช่วงนี้จะมีความแออัดของผู้คนน้อยกว่าช่วงไฮซีซั่นอย่างหน้าหนาวจ้า จะให้ชิลล์สุดๆ ก็ต้องลองใช้บริการรถเช่าและจองตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka Travel & Lifestyle Superapp ด้วยน้า โปรเด็ดๆ เพียบจ้า รับรองว่าราคาเริ่ดแน่นอน