แจกแพลน Road Trip เที่ยวนครพนม - บึงกาฬ - อุดรธานี สายมูเตลูแฮปปี้แน่นอน

Traveloka TH
02 Dec 2021 - 4 min read

ปลายปีแบบนี้ แถวอีสานจะอากาศดีม้ากกก แล้วเพื่อความปังส่งท้ายปี เราเลยขอมาชวนไปขับรถไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 3 จังหวัดภาคอีสานเอาใจสายมูกันแบบจุกๆ เลยจ้า โดยคราวนี้เราเลือกสตาร์ทจากนครพนมไปบึงกาฬ แล้วขึ้นเครื่องกลับกันจากอุดรธานีนะ ใครจะตามแพลนนี้เลือกเช่ารถแบบที่ส่งคืนคนละที่กับจุดยืมได้ด้วยน้า ลองมองหาตั๋วเครื่องบินอุดรธานี ตั๋วเครื่องบินนครพนม และรถเช่าที่ Traveloka ได้เลยจ้า จองก็ง่าย แถมยังได้ราคาดี๊ดี คราวนี้รับรองเหลือเงินไปมูกันแบบเต็มที่แน่นอน

ขับรถเที่ยวนครพนม - บึงกาฬ - อุดรฯ เอาใจสายมู

วัดพระธาตุพนม
วัดพระธาตุพนม

จากสนามบินนครพนม เรามุ่งหน้าไป วัดพระธาตุพนม เป็นพิกัดแรก ถึงจะต้องวนออกนอกเส้นทางกันซักนิดนะ แต่มาถึงจังหวัดนี้แล้วไม่ได้ไปกราบพระธาตุพนมก็คงจะน่าเสียดาย ยิ่งใครเกิดวันอาทิตย์ยิ่งพลาดไม่ได้เลยละ เพราะนี่คือพระธาตุประจำวันเกิดของคุณจ้า องค์พระธาตุพนมนั้นมีอายุเป็นพันปี ตั้งอยู่ในสถานที่ที่เชื่อกันว่าพระพุทธองค์เคยเสด็จมาเยือนในสมัยพุทธกาล ด้านในพระธาตุประดิษฐานพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ขององค์พระพุทธเจ้าเอาไว้ด้วยนะ จะเกิดวันไหนก็มากราบเถอะจ้ะ นี่คือศาสนสถานสำคัญที่ควรต้องมากราบกันซักครั้งในชีวิตเลยเชียว

วัดพระธาตุมรุกขนคร
วัดพระธาตุมรุกขนคร

จากพระธาตุพนมราวๆ 20 นาที พิกัดต่อไปที่เราจะชวนไปกราบกันก็คือ วัดพระธาตุมรุกขนคร ซึ่งมีลักษณะบางอย่างคล้ายกับองค์พระธาตุพนมแต่มีขนาดเล็กกว่า ตัวพระธาตุมีความสูง 50.9 เมตร ตั้งอยู่ในวัดมรุกขนครซึ่งมีอายุเกือบ 300 ปี ด้านในบรรจุพระสารีริกธาตุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งค้นพบในซากองค์พระธาตุเก่าแก่ซึ่งพังทลายลงมา รวมถึงมีการบรรจุของมีค่าไว้ด้านใน ถือเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนที่เกิดในวันพุธกลางคืนนะ ด้านในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหลายอย่างให้กราบกันด้วยจ้า มาแล้วได้มูกันจุใจชัวร์

วัดพระธาตุนคร
วัดพระธาตุนคร

อีกราวๆ ครึ่งชั่วโมงต่อมา เราก็มาถึง วัดพระธาตุนคร ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานขององค์พระธาตุประจำวันเกิดของคนวันเสาร์ ตัววัดตั้งอยู่ใกล้ริมแม่น้ำโขงจึงมีวิวสวยๆ ด้านหน้าวัดให้แวะเดินเล่นยืดเส้นยืดสายกัน ด้านในองค์พระธาตุนครนั้นบรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุเอาไว้ รวมถึงยังมีข้าวของมีค่าอีกมากมายซึ่งผู้คนถวายเป็นพุทธบูชา หลายคนเชื่อว่าการได้มากราบองค์พระธาตุแห่งนี้จะมีอานิสงส์ในการเสริมบารมี เพิ่มพูนวาสนาให้กลายเป็นเจ้าคนนายคนด้วยนะ เป็นอีกวัดที่น่ามาปักหมุดแวะกัน

พญาศรีสัตตนาคราช
พญาศรีสัตตนาคราช

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คเด็ดในนครพนมที่สายมูพลาดไม่ได้ ก็คือการไปแวะไหว้ พญาศรีสัตตนาคราช ซึ่งสามารถเดินไปได้จากวัดพระธาตุนครเลยจ้ะ เพราะเส้นทางเดินนั้นอยู่ห่างกันไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรเองนะ องค์พญาศรีสัตตนาคราชนั้นหล่อด้วยทองเหลืองน้ำหนัก 9 ตัน เป็นรูปพญานาค 7 เศียร ตามตำนานเชื่อกันว่าท่านเป็นกษัตริย์ของบรรดาพญานาคในฝั่งลาว มีนิสัยชอบปฏิบัติธรรมและจำศีล หากใครได้มากราบไหว้บูชาก็จะสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ ดังนั้นไม่ต้องแปกใจเลยละว่าทำไมที่นี่ถึงเป็นแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้ และมีผู้คนหลั่งไหลมาสักการะกันตลอดเวลา

วัดนักบุญอันนาหนองแสง
วัดนักบุญอันนาหนองแสง

มูฝั่งพุทธมาก็หลายวัด เลยอยากชวนให้มาปักหมุดมูฝั่งคริสต์กันที่ วัดนักบุญอันนาหนองแสง ซักหน่อยนะ ไม่ใช่อะไรหรอกจ้า จริงๆ แล้วเป็นเพราะวัดนี้อยู่ในเส้นทางที่เราจะไปอยู่แล้วละเลยอยากชวนให้แวะมา ที่นี่เป็นโบสถ์คริสต์อายุเกือบร้อยปีที่เก่าแก่และสวยงามแปลกตา เพราะมีหอคอยคู่สูงเด่นเป็นสง่ามองเห็นได้แต่ไกลเลยเชียวละ นอกจากจะได้มาชมโบสถ์คริสต์สวยๆ แล้ว ในบริเวณเดียวกันยังมีตึกโบราณสไตล์โคโลเนียลแจ่มๆ ให้ใช้เป็นแบ็คกราวนด์ถ่ายรูปได้แบบเจ๋งมากเลยนะ เป็นอีกพิกัดที่ไม่น่ามองข้ามเลยทีเดียว

พระธาตุท่าอุเทน
พระธาตุท่าอุเทน

พระธาตุท่าอุเทน คือพิกัดสุดท้ายที่เราจะแวะมูกันในนครพนมคราวนี้ เพราะอยู่ในเส้นทางที่เราจะมุ่งหน้าไปสู่บึงกาฬ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางในคืนนี้ของเรา องค์พระธาตุท่าอุเทนนั้นสันนิษฐานว่าอยู่คู่กับเมืองนครพนมมาแล้วนับร้อยปี ลักษณะคล้ายพระธาตุพนมแต่มีขนาดเล็กกว่า ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุซึ่งอัญเชิญมาจากเมียนมาร์ องค์พระธาตุแห่งนี้เป็นพระธาตุประจำวันของคนเกิดวันศุกร์นะ เชื่อกันว่าใครได้มากราบสักการะจะส่งผลให้ชีวิตรุ่งโรจน์เหมือนพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าเลยจ้า ผ่านมาแล้วอย่าพลาดเชียว

ถ้ำนาคา
ถ้ำนาคา

ออกสตาร์ทพิกัดแรกในบึงกาฬกันด้วยการมุ่งหน้าไปยัง ถ้ำนาคา ซึ่งช่วงนี้ต้องจองผ่านแอพ QueQ ล่วงหน้าก่อนมากันเด้อ แนะนำว่าให้จองกันตั้งแต่เนิ่นๆ เลยนะ เพราะนี่คือพิกัดฮ้อตที่ใครๆ ก็อยากมามูกันแบบสุดๆ ในช่วงนี้ ด้วยกิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์และตำนานเรื่องราวของปู่อือลือซึ่งชาวบึงกาฬเชื่อถือศรัทธา และบอกเลยว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะขึ้นไปถึงด้านบนได้ เพราะแม้ระยะทางขึ้นจะไม่ไกล แต่ความสูงชันและลำบากลำบนนั้นทำให้หลายคนท้อเอาง่ายๆ เลยเชียวละ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นสายมูที่แท้จริงแล้วต้องสู้นะ ขึ้นไปให้ได้จ้า มาถึงแล้วอย่าถอยกลางทางเชียว

น้ำตกถ้ำพระ
น้ำตกถ้ำพระ

จากความพีคของถ้ำนาคา เราเลือกที่จะมาส่งท้ายวันกันที่ น้ำตกถ้ำพระ น้ำตกสุดอลังการแห่งหนึ่งของจังหวัดบึงกาฬเค้าละ ความเก๋ของที่นี่คือทิวทัศน์แปลกตาไม่ซ้ำใคร เพราะเป็นน้ำตกที่ไหลผ่านลานหินกว้างลดหลั่นกันถึง 3 ชั้น ริมน้ำตกมีองค์พระประดิษฐานอยู่สององค์ด้วยนะ ไฮไลท์ของน้ำตกนี้คือสไลเดอร์หินที่ผู้คนนิยมมาลื่นไหลไปตามสายน้ำกัน ทั้งสวยทั้งสนุกเหมือนได้ไปเที่ยวสวนน้ำท่ามกลางความสวยของธรรมชาติเลยละ รับรองว่าฟินจนหายเหนื่อยจากการขึ้นเขามาแน่นอน

หินสามวาฬ
หินสามวาฬ

เรากัดฟันตื่นเช้ากันอีกครั้งในวันถัดมา เพราะอยากไปเช็คอินกับอีกแลนด์มาร์คที่มาบึงกาฬแล้วพลาดไม่ได้ ด้วยการไปชมแสงแรกของวันกับวิวสวยมหัศจรรย์กันบนยอด หินสามวาฬ ผาหินขนาดยักษ์ที่เมื่อมองจากด้านบนลงมาจะเห็นว่าเหมือนวาฬพ่อ แม่ ลูก อยู่เคียงกันสามตัว การขึ้นไปที่นี่มีเส้นทางที่โหดพอประมาณเลยนะ ถ้าไม่อยากขับรถขึ้นไปเองก็ติดต่อรถรับ - ส่งของทางเจ้าหน้าที่ของภูสิงห์เค้าได้เลยจ้า ใช้เวลาขึ้นประมาณครึ่งชั่วโมงนิดๆ แล้วต้องเดินต่ออีกหน่อยน้า กะเวลากันให้ดี รับประกันตรงนี้ว่าวิวเริ่ดคุ้มกับที่ต้องตื่นแต่เช้ามืดกันแน่นอน

ภูทอก
ภูทอก

ต่อจากหินสามวาฬ เรามาทดสอบพลังขากันต่อกับการเดินขึ้นสะพานนรก - สวรรค์ทั้ง 7 ชั้น เพื่อขึ้นสู่ยอดภูทอก อันเป็นที่ตั้งของ วัดภูทอก หรือวัดเจติยาคีรีวิหาร สะพานไม้ที่เวียนรอบผาหินของภูทอกน้อยนั้นมีความสูงประมาณ 350 เมตร สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของบรรดาพระ เณร รวมถึงชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงเป็นเวลาถึง 5 ปี บอกเลยว่าการเดินบนสะพานนี้ถ้าใจไม่แข็งหรือแรงศรัทธาไม่แกร่งจริงอาจจะขาสั่นถอดใจเอาง่ายๆ เมื่อเจอความสูงชวนเสียวของที่นี่เข้าไป ที่สำคัญคือต้องแต่งตัวให้สุภาพและไม่ส่งเสียงดังในระหว่างที่เดินขึ้นไปนะ ถือเป็นการทำสมาธิที่ดีเลยละ เป็นอีกพิกัดที่ไม่อยากให้สายมูพลาดเลย

คำชะโนด
คำชะโนด

จากบึงกาฬ เราขับรถผ่านเข้ามาทางอุดรธานี เพื่อแวะอีกหนึ่งพิกัดสำคัญที่สายมูพลาดไม่ได้อย่าง คำชะโนด แลนด์มาร์คหลักอันดับต้นๆ ของเมืองไทยที่ครองใจบรรดาชาวมูเตลูและคนรักตัวเลขมานานนับสิบปี กับเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ของพ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีประทุมมา ด้วยความเชื่อที่ว่าบริเวณนี้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพญานาค ท่ามกลางบรรยากาศลึกลับของป่าต้นชะโนดที่เหมือนเกาะซึ่งลอยตัวอยู่กลางน้ำได้อย่างน่ามหัศจรรย์ แล้วสายมูตัวจริงจะพลาดที่นี่กันได้ยังไง?

วัดสันติวนาราม
วัดสันติวนาราม

เราใช้เวลาวันสุดท้ายเพื่อตระเวนมูตามพิกัดต่างๆ ในตัวเมืองอุดรธานี โดยเริ่มต้นกันที่ วัดสันติวนาราม ซึ่งมีพระอุโบสถกลางน้ำเป็นรูปดอกบัวแห่งเดียวของเมืองไทย โดยสร้างขึ้นเป็นรูปดอกบัวซึ่งมีจำนวน 24 กลีบ มีด้านในให้บรรยากาศร่มเย็น มีจิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปพุทธประวัติและดอกบัวที่งดงามมาก มีทางเดินเป็นรูปพญานาคยาวเหยียดทอดตัวยาวสู่พระอุโบสถที่อยู่กลางหนองน้ำใหญ่ เป็นอีกพิกัดที่น่าสนใจและเชื่อว่าสายมูทั้งหลายน่าจะถูกใจเลยทีเดียวละ

ศาลเจ้าปู่-ย่า
ศาลเจ้าปู่-ย่า

ศาลเจ้าปู่ - ย่า คืออีกหนึ่งพิกัดที่ชาวอุดรฯ ซึ่งมีเชื้อสายจีนให้ความเคารพกันมาอย่างยาวนาน สันนิษฐานกันว่าที่นี่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ.2488 โน่นเลยจ้า ในบริเวณศาลเจ้านี้มีรูปจำลององค์เทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายให้กราบสักการะกันแบบจุกๆ เลยนะ ช่วงวันที่ 1 - 10 ธันวาคมของทุกปีที่ศาลเจ้าแห่งนี้จะมีขบวนแห่เพื่ออัญเชิญองค์ปู่ - ย่าซึ่งอยู่ด้านในออกมาชมเมืองอย่างยิ่งใหญ่ มีการตั้งโต๊ะบูชาในเส้นทางที่ขบวนแห่จะผ่านไป รวมถึงมีการแสดงงิ้วให้ชมกันด้วยจ้า มีคนบอกว่าเซียมซีที่ศาลเจ้านี้แม่นสุดๆ เลยด้วยน้า มาแล้วต้องลอง!

ศาลหลักเมืองอุดรธานี
ศาลหลักเมืองอุดรธานี

อีกหนึ่งศูนย์รวมใจของชาวอุดรธานี ก็คงหนีไม่พ้นที่ ศาลหลักเมือง นี่ละ ตามตำนานเล่าว่าศาลหลักเมืองแห่งนี้นั้นสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2502 และมีการอัญเชิญดวงพระวิญญาณของ พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานีมาสถิตย์ไว้ในเสาหลักเมืองที่นี่ด้วยนะ บริเวณรอบศาลนั้นยังมีรูปปั้นของท้าวเวสสุวรรณให้ได้แวะไหว้ขอพรกันด้วยจ้า และนี่คืออีกพิกัดที่ต้องมามูกันน้า ชี้เป้าให้ขนาดนี้ห้ามพลาดจ้ะ ไม่งั้นจะเสียดายไม่รู้ด้วย!

วัดโพธิสมภรณ์
วัดโพธิสมภรณ์

พิกัดส่งท้ายก่อนจะ say goodbye บอกลาทริปมูของเราในคราวนี้คือที่ วัดโพธิสมภรณ์ ซึ่งเป็นวัดที่สร้างขึ้นในราวปลายรัชกาลที่ 5 มีไฮไลท์เป็นองค์พระพุทธรัศมีซึ่งมีอายุกว่า 600 ปี รวมถึงยังมีองค์พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สมัยลพบุรีอายุกว่า 1,300 ปี ให้ได้กราบขอพรกันด้วยนะ โดยชาวอุดรฯ จะเรียกว่าองค์พระขอ ซึ่งเชื่อกันว่าขออะไรก็จะได้อย่างนั้นเลยจ้า ที่สำคัญต้องแวะกราบพระบรมธาตุธรรมเจดีย์ ซึ่งด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และอัฐิธาตุของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตด้วยนะ รับรองว่าเป็นการปิดท้ายทริปมูเตลูที่จะแฮปปี้กันถ้วนหน้าอย่างแน่นอน

หวังว่าแพลน Road Trip เอาใจสายมูเตลูของเราในคราวนี้ จะสร้างความสาแก่ใจให้กับคนที่ชื่นชอบเรื่องราวของความศักดิ์สิทธิ์และมีความสุขกับการได้แวะสักการะขอพรตามพิกัดต่างๆ ได้แฮปปี้กันอย่างถ้วนหน้าเลยนะ เอาไว้ถ้ามีเวลาเราจะจัดเส้นทางการมูที่น่าสนใจมาฝากกันใหม่จ้า ตอนนี้ไปเตรียมตัวจองตั๋วเครื่องบินและที่พักกันได้เลยน้า ช่วงปลายปีแบบนี้ใครๆ ก็อยากหาที่ตระเวนขอพรเป็นสิริมงคลทั้งนั้นละ ปักหมุดเส้นทางสายบุญของเราเลยจ้า รับรองว่าสะใจ!

Hotels
Flights
Things to Do
Always Know the Latest Info
Subscribe to our newsletter for more travel & lifestyle recommendations and exciting promos.
Subscribe