Cape Town เมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของแอฟริกาใต้ ที่นี่โดดเด่นด้วยธรรมชาติของภูเขาและทะเล ที่ผสานความเป็นอยู่กับคนในท้องถิ่นได้อย่างลงตัว มีภูเขา Table Mountain ภูเขาขนาดใหญ่กลางเมือง และชายหาดเพนกวิ้น ซึ่งหาดูที่ไหนไม่ได้ในโลก เป็นเอกลักษณ์ของเมือง เป็นอีกหนึ่งเมืองเลยค่ะ ถ้าสถาณการณ์ Covid-19 ดีขึ้น ควรมาเที่ยวมากๆ แถมเราไม่ต้องทำวีซ่าด้วย

แต่ว่าตอนนี้ คงต้องเที่ยวผ่าน VR360 ํ ไปก่อน ซึ่งรับรองเลยว่า สวยไม่แพ้กันแน่นอน และต้องเปิดเพลงจาก Playlist นี้ฟังด้วยนะคะ จะได้ฟิลลิ่งสุดๆ https://open.spotify.com/playlist/00KCeqQf8FGfAiJy4D1KHf

ภูเขาโต๊ะ หนึ่งในแลนด์มาร์คของ Cape Town มีขนาดใหญ่และโดดเด่นที่สุดในเมือง ชื่อนี้มีที่มาจากภูเขา ที่เป็นหัวตัดเรียบไปเหมือนกับโต๊ะ ความยาวของหัวตัดนี้ยาวระนาบขนานกับพื้นดินทำให้เป็นภูเขาที่ดูแปลกตาและสวยมากๆ อีกทั้งเขตพื้นที่ของภูเขาลูกนี้ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติด้วยนะคะ เพราะมีพรรณไม้แปลกๆ นานาชนิด และสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติมากมาย

การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขา สามารถไปได้ 2 วิธีด้วยกัน วิธีแรกคือการเดินขึ้นไป แบ่งออกเป็น 2 เส้นทางด้วยกันคือ Platteklip Gorge และ Kasteelspoort ซึ่งการเดินจะทำให้คุณได้แวะจุดท่องเที่ยวต่างๆ ของภูเขาแห่งนี้ เช่น Lion’s Head ได้ และยังได้สัมผัสกับธรรมชาติต่างๆ ที่สวยงามของที่นี่ได้ด้วย ใช้เวลาเดินประมาณ 4-5 ชั่วโมงด้วยกันค่ะ แต่ถ้าใครไม่มีแรง และไม่มีเวลา ก็ต้องใช้วิธีที่ 2 คือการนั่งกระเช้าขึ้นไป ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น ด้านบนคุณจะได้เห็นวิวของเมือง Cape Town ทั้งเมือง ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ไปยันน้ำทะเลจรดแผ่นฟ้าเลยค่ะ สวยงามจับใจสุดๆแต่ถ้าอยากชมวิวที่สูงไปกว่านั้น เรามีวิว Table Mountain จากบนอากาศ ให้เห็นกันแบบ 360 องศาด้วยนะคะ https://www.airpano.com/360photo/cape-town-tour-south-africa/

Boulders Beach ตั้งอยู่ในคาบสมุทร Peninsula และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Table Moutain ซึ่งถ้าเปรียบยอดเขา Table Mountain เป็นพระเอกของ Cape Town ชายหาด Boulders Beach ก็คงเป็นนางเอกของ Cape Town ค่ะ เพราะชายหาดที่นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลมาเที่ยว ไม่แพ้ Table Mountain ซึ่งเขาไม่ได้มาเล่นน้ำนะคะ แต่มาดูเจ้าเพนกวินนั่นเอง ใช่แล้วค่ะ! ชายหาดแห่งนี้ เป็นชายหาดหนึ่งเดียว และไม่เหมือนใครในโลก เพราะเป็นชายหาดที่เต็มไปด้วยน้องเพนกวินสายพันธุ์แอฟริกัน หรือเรียกอีกชื่อว่า เพนกวินตีนดำ อาศัยชายหาดนี้ เป็นที่กิน นอน เล่นน้ำ อยู่กันตามธรรมชาติ มากกว่า 2,000 กว่าตัว ซึ่งที่นี่เขาทำทางเดินไม้เรียบชายหาดให้เราเดินชมเพนกวินแบบไม่ต้องไปรบกวนมันอีกด้วย ซึ่งใครจะเข้าชมเจ้าเพนกวิน ต้องเสียค่าเข้าชมนะคะ

อยากเห็นไหมคะ ว่าเพนกวินน่ารักขนาดไหน กดเข้าไปชมได้จากลิงค์นี้เลยค่ะ https://www.360cities.net/image/penguins-at-boulders-beach-south-africa-greater-cape-town

เกาะนี้เป็นเเกาะที่มีพื้นที่ของเกาะไม่ใหญ่มากนัก โดยรวมแล้วมีประมาณ 5 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น พื้นที่บนเกาะ เป็นพื้นที่ราบเรียบ ซึ่งเหมือนจะดูว่าไม่มีอะไรใช่ไหมคะ แต่จริงๆ แล้วเกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยความทรงจำทางประวัติศาสตร์มากมาย

เกาะนี้ สมัยก่อนเคยใช้เป็นเรือนจำมาก่อนค่ะ ซึ่งเป็นเรือนจำที่คุมขังนักโทษทางการเมืองที่มีชื่อเสียงมากมาย และหนึ่งในนั้นคือ Nelson Mandela ประธานาธิบดีผิวดำคนแรกของประเทศแอฟริกาใต้ หนึ่งในบุคคลสำคัญของโลก และได้รับรางวัลโบเบลสาขาสันติภาพมาแล้วอีกด้วย เขาใช้ชีวิตในเรือนจำแห่งนี้นานถึง 18 ปี หลังออกมาจากเรือนจำแห่งนี้ เขาลงเลือกตั้งจนได้รับตำแหน่ง ประธานาธิบดีของประเทศแอฟริกาใต้ไปในที่สุด ทุกวันนี้ เรือนจำแห่งนี้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม โดยภายในจัดแสดง สิ่งของ เรืองราว ชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากของคนในเรือนจำ ซึ่งจะมีไกด์พาชมตามจุดต่างๆ และการมาเที่ยวที่เกาะนี้ก็ไม่ยาก มีเรือบริการจากฝั่ง Cape Town ใช้เวลาการเที่ยวรวมนั่งเรือแล้วประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้นสามารถกดเข้าชมพื้นที่แห่งประวัติศาสตร์จากที่บ้าน ได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ https://www.robben-island.org.za/map

สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติ Kirstenbosch ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของ อุทยานแห่งชาติ Table Moutain เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ของประเทศแอฟริกาใต้ ก่อตั้งขึ้นในปี คศ.1913 จุดประสงค์เพื่อการเก็บ อนุรักษ์พันธุ์ไม้พื้นเมืองของในแอฟริกาใต้ ภายในสวนแห่งนี้ มีพันธุ์ไม้พื้นเมืองที่ถูกรวบรวมไว้ถึง 7,000 กว่าสายพันธุ์ ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้พื้นเมืองในคาบสมุทรเคปเพนนินซูล่า ซึ่งเป็นพื้นที่ในแถบนี้ ไว้ถึง 2,500 สายพันธุ์เลยทีเดียว ด้านในแบ่งเป็นโซนต่างๆ แต่ละโซนก็จมีพันธุ์ไม้แตกต่างกันไป เช่น โซนพันธุ์ไม้หอม โซนพันธุ์ไม้พื้นเมืองในคาบสมุทรเคปเพนนินซูล่า โซนเรือนกระจก เป็นต้น และไฮไลท์สำคัญของที่นี่ คือการได้มาเดินชมวิวของ สวนพฤกษศาสตร์ในมุมสูงบนทางเดินลอยฟ้า ที่มีชื่อว่า The Boomslang ทางเดินลอยฟ้านี้จะพาดผ่านและขดเขี้ยวไปตามส่วนต่างๆ ของสวนพฤกษศาสตร์ เพราะเขาได้รับแรงบันดาลในการออกแบบทางเดินนี้มาจากกระดูกของงูนั่นเองค่ะ

ใครอยากไปเดินเล่นชมสวนสวยๆ แบบไม่ต้องเหนื่อย ก็กดเข้าไปชมผ่าน VR360 ํ ได้จากลิงค์นี้เลยค่ะ https://www.360cities.net/image/kirstenbosch-national-botanical-garden-greenhouse-south-africa/vr

แหลม Good Hope แหลมโขดหิน ที่ยืนลงสู่ทะเลทางด้านมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งหลายๆ คนเข้าใจว่า แหลม Good Hope ตั้งอยู่ตอนปลายสุดของทวีปแอฟริกา ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช้นะคะ จริงๆ แล้วคือแหลมอะกะลัส ที่อยู่ห่างออกไปอีก 150 กิโลเมตรต่างหาก ที่ตั้งของที่นี่ ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับ อุทยานแห่งชาติ Table Mountain ซึ่งมีโปรแกรมทัวร์สำหรับการเดินป่าค้างคืนเที่ยว Table Mountain และ แหลม Good Hope ด้วย หรือใครจะเลือกมาเที่ยวแต่ แหลม Good Hope อย่างเดียว แบบไม่ค้างคืน ก็ได้ค่ะ

ในสมัยก่อน แหลม Good Hope มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเวลาที่เดินเรือจากยุโรปไปสู่เอเชีย แหลมนี้จะเป็นจุดสังเกตุสำหรับนักเดินเรือว่า มาถึงทวีปแอฟริกาแล้ว และต่อมาก็ได้ใช้เส้นทางคลองสุเอซแทน ปัจจุบัน ที่นี่เป็นจุดชมวิวอีกแห่ง ที่สวยมากๆ ของ Cape Town นักทองเที่ยวสามารถเดินชมธรรมชาติ จาก แหลม Good Hope ไปยัง Cape Point ที่อยู่อีกฝั่งได้ ระหว่างทางก็อาจจะได้เจอกับสัตว์เจ้าถิ่น อย่างลิงบาบูนด้วยนะคะและใครที่อยากชม แหลม Good Hope แบบฟินๆ ตอนนี้เลย ก็กดเข้าไปชมได้ที่นี่เลยค่ะ https://www.360cities.net/image/cape-of-good-hope-2

ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ที่เนินเขา Signal Hill ซึ่งสมัยก่อนในปี คศ.1760 ที่นี่เป็นหมู่บ้านของชาวมุสลิมที่ถูกเนรเทศจากอินโดนีเซียและมาเลเซียย้ายเข้ามาตั้งรกรากกัน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นย่านที่เก่าแก่ที่สุดใน Cape Town

ปัจจุบัน บ้านเรือนต่างๆ ของที่นี่ถูกทาให้มีสีสันสดใส จนมีหลายๆ คนเรียกว่าเป็นหมู่บ้านลูกกวาด นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูป และเดินเล่น ซอกแซกไปตามซอยต่างๆ ได้ ภายในในจะมีร้านอาหารพื้นเมือง ร้านขายของฝาก ของที่ระลึกกระจายกันอยู่ทั่วหมู่บ้านและยังมีพิพิธภัณฑ์ Bo kaap ที่ด้านในจัดแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่นี่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอีกด้วยซึ่งคุณสามารถกดเข้าไปเดินเล่นที่ หมู่บ้าน Bo Kaap แบบเสมือนจริง ได้จากลิงค์นี้เลย https://www.360cities.net/image/bo-kaap-1-1

ปันน้ำใจจากบ้านคุณ สู่ผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ Traveloka ร่วมกับมูลนิธิอิสรชน มุ่งแจกถุงปันสุขจำนวน 1,000 ถุง แก่ผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทุกการจองเที่ยวบินของคุณ เท่ากับการบริจาคถุงปันสุข

ระยะเวลาการบริจาค: 7 มิ.ย. 2564 – 18 มิ.ย. 2564