เวนิส หนึ่งในเมืองเก่าแก่ของอิตาลี มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่น่าสนใจมากมาย และอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นภาพจำติดตาของเวนิสคือ ภาพของบ้านเมืองที่มีคลองลัดเลาะไปตามที่ต่างๆ เรียกว่าใช้คลองแทนถนนเลยก็ว่าได้ การได้มาล่องเรือในคลอง ชมความงามของเมือง นับเป็นที่เที่ยวในฝันของใครหลายๆ คนเลยนะคะ

ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ต้องเที่ยวในฝันแล้วค่ะ มาเที่ยวเวนิสแบบ VR360 ก็ได้ เหมือนจริงราวกับไปอยู่ตรงนั้นเลยค่ะ และถ้ายิ่งเปิดเพลงกล่อมไปด้วย ได้อารมณ์สุดๆ
https://open.spotify.com/playlist/6crwYDSXDq3c7sg6HTYu5r

เวนิส เมืองแห่งสายน้ำ มีคลองหลักขนาดใหญ่ผ่านกลางเมือง ซึ่งคลองนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของที่นี่ เพราะนอกจากจะใช้ในการคมนาคม ขนส่ง เดินทางแล้ว ยังเป็นไฮไลท์สำคัญที่ดึงดูดนัดท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาล่องเรือที่นี่ด้วย คลองหลักนี้มีความยาวประมาณ 3.8 กิโลเมตร กว้างประมาณ 30 – 90 เมตร โดยคลองนี้ถูกใช้ด้านการคมนาคมและการค้าของเมืองเวนิสมาอย่างยาวนาน เปรียบเหมือนถนนหลักของที่นี่ และมีคลองสาขาที่ลัดเลาะไปตามอาคารบ้านเรือนต่างๆ ผ่านที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองมากมาย และอย่างที่กล่าวไปค่ะ คลองเวนิสเป็นไฮไลท์สำคัญที่ดึงดูดนัดท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาล่องเรือกอนโดล่า ชมวิถีชีวิต อาคาร บ้านเรือนต่างๆ ที่เที่ยวต่างๆ ของเมืองด้วย ว่ากันว่าถ้ายิ่งได้มากับแฟนแบบ 2 ต่อ 2 จะยิ่งโรแมนติกมากๆ

ใครอยากรู้ว่าความสวยงามของคลองเวนิสจะสวยขนาดไหน กดเข้าไปชมผ่าน vr360 ได้จากที่นี่เลยค่ะ https://photo360tours.com/tour/venice/venice-fondamenta-dei-ormesini-virtual-reality-tour-360.html?s=pano778

จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค อีกหนึ่งที่เที่ยวไฮไลท์ของเวนิส ที่นี่ถือเป็นศูนย์กลางแห่งเมืองเวนิสเลยนะคะ ภายในประกอบด้วยลานจตุรัส และสิ่งก่อสร้างสำคัญของเมืองมากมาย เริ่มที่ พื้นที่จัตุรัส ที่เป็นลานกว้างซึ่งยังครอบคลุมไปถึงพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ระหว่างพระราชวัง Palazzo Ducale และหอสมุด Biblioteca Nazionale Marciana ด้านข้างมีหอระฆัง San Marco Campanile หอระฆังที่มีความสูงประมาณ 90 เมตร สามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพความงามมุมสูงของเมืองเวนิสด้านบนได้ ด้านเหนือของจตุรัสมีหอนาฬิกา St.Mark’s Clocktower ทางด้านตะวันออกของจตุรัส เป็นที่ตั้งของ มหาวิหารซานมาร์โค ซึ่งเป็นมหาวิหารประจำเมืองเวนิส สร้างด้วยการผสมสถาปัตยกรรมหลายแบบเข้าด้วยกัน ได้แก่ อิตาเลียนโกธิก ไบเซนไทน์ และเวเนเชียนโกธิก มีความอ่อนช้อย สวยงามมากๆ รอบๆ จตุรัส ยังมีการสร้างตึกขึ้นมาล้อมรอบ ซึ่งแต่ละส่วน แต่ละที่ เข้ากันได้เป็นอย่างดี

ใครอยากชมความอลังการแบบนี้ที่บ้าน คลิกเลยค่ะ https://www.touristtube.com/Things-to-do-in-Venice/Saint-Mark-s-Basilica-360

การมาเที่ยวที่เวนิส เราสามารถลงเรือกอนโดล่าเที่ยวก็ได้ หรือจะเดินเที่ยวก็ได้ทั้งนั้น และไม่ว่าจะเดินทางแบบไหน ก็ต้องผ่าน Rialto Bridge ทั้งนั้น เพราะเป็นสะพานที่เป็นหัวใจของเวนิส Rialto Bridge เป็นสะพานหินโค้ง สำหรับสัญจรข้าม Grand Canal อายุเก่าแก่นับ 100 ปี เดิมเป็นสะพานที่ใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก แต่ในปัจจุบันถูกออกแบบและสร้างใหม่ สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1591 ให้เป็นสะพานทรงโค้ง ที่ยาว 7.5 เมตร เชื่อมพื้นที่ระหว่างเขตSan Marco และเขต San Polo บนสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เพราะนอกจากจะมีทางเดินข้ามถึง 3 เส้นแล้ว บนกลางสะพานยังมีร้านขายของเล็กๆ มาเปิดบนสะพานนี้ด้วยให้เราเดินเลือกซื้อของได้ด้วย

ซึ่งเราสามารถเที่ยวสะพาน Rialto Bridge ได้จากที่บ้าน โดยกดเข้าไปที่ลิงค์นี้เลยค่ะ https://www.touristtube.com/Things-to-do-in-Venice/Rialto-Bridge-360

พระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล หรือพระราชวังโดจ (Palazzo Ducale / Doge's Palace) พระราชวังที่มีความวิจิตรทางด้านสถาปัตยกรรมแห่งเวนิส ตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับ จัตุรัสซานมาร์โค ที่เราได้กล่าวไป ตัวพระราชวัง มีการสร้างตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 18 และมีการก่อสร้างเพิ่มเติมในแต่ละส่วนเข้าไปเรื่อยๆ ภายนอกวังจะมีการใช้สถาปัตยกรรมแบบโกธิก และภายในวังมีการผสมผสานสถาปัตยกรรมหลายๆ แบบด้วยกัน ทั้งแบบเวเนเชียน ไบเซนไทน์ เรเนซอง และโกธิก ตัวอาคารพระราชวังแบ่งออกเป็นสามส่วน อาคารหน้า เป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุด หันออกไปทางทะเล ส่วนที่สองหันเข้าหาจัตุรัสซานมาร์โค ส่วนที่สามติดกับคลองด้านสะพานบริดจ์ออฟไซท์ แต่เดิมเป็นที่ประกับของเจ้าเมืองเวนิส ต่อมาใช้เป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ และปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม โดยต้องเสียค่าเข้าชมนะคะ

แต่ใครอยากชมแบบฟรีๆ ไม่เสียเงิน กดเข้าไปชมภาพบางส่วนได้ที่นี่ค่ะ https://www.touristtube.com/Things-to-do-in-Venice/Doge-s-Palace-360

สะพานบริดจ์ออฟไซส์ อีกหนึ่งสะพานที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจแห่งเวนิส สะพานนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ลักษณะเป็นสะพานหินโค้ง ปิดทึบ เชื่อมระหว่างพระราชวัง Palazzo Ducale กับคุกที่อยู่อีกฟากของฝั่งคลอง เรื่องราวที่น่าสนใจของสะพานนี้คือ สมัยก่อนสะพานแห่งนี้จะถูกใช้ส่งตัวนักโทษเพื่อข้ามไปยังคุกอีกฝั่ง ซึ่งนักโทษ จะเห็นวิวด้านนอกผ่านช่องหน้าต่างเล็กๆ ของสะพานนี้ เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเข้าคุก และนักโทษหลายๆ คนก็จะถอนหายใจ เมื่อเห็นวิวด้านนอก เพราะเป็นวิวสุดท้าน ก่อนที่ตัวเองจะหมดอิสรภาพไป และนั่นก็เป็นที่มาของชื่อสะพานนี้ด้วยค่ะ ปัจจุบัน เปิดให้เข้าชม โดยการซื้อตั๋วเดียวกับ Doge’s Palace ค่ะ เพราะอยู่ที่เดียวกันนั่นเอง

แต่กดเข้าลิงค์นี้ ชมได้ไม่เสียเงินนะคะ https://www.touristtube.com/Things-to-do-in-Venice/Ponte-dei-Sospiri-360

อ่านเป็นภาษาไทยว่า มหาวิหารซานตามารียา เดลล่า ซาลูเต เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก ตั้งอยู่ริมฝั่งคลองแกรนด์คาแนล ไม่ว่าใครจะผ่านไปมาในเมืองเวนิส ก็จะต้องเห็นมหาวิหารนี้ทั้งนั้น ตัวของมหาวิหารสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1631 ด้วยสถาปัตยกรรมบาโรก โดดเด่นด้วยหลังคาโดมขนาดใหญ่ โดยมีรูปสลักพระแม่มารีอยู่บนยอด ด้านในยังมีภาพเขียนโบราณ และประติมากรรมล้ำค่าที่ประดับตกแต่งอยู่อีกหลายชิ้น และมีรูปปั้นของพระแม่มารี อยู่ตรงกลาง ซึ่งดูสวยงามเป็นสง่ามากๆ จุดเริ่มต้นของการสร้างนี้ คือสมันก่อนมีการแพร่ระบาดของเชื้อกาฬโรค ทำให้มีผู้เสียชีวิต ล้มตายเป็นจำนวนมาก ชาวเมืองจึงได้ขอพรจากพระแม่มารีให้ช่วยบรรเทาเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งต่อมาไม่นานเหตุการณ์ก็ดีขึ้น ชาวเมืองจึงสร้างมหาวิหารนี้เพื่ออุทิศให้กับพระแม่มารีย์นั่นเองค่ะ

สำหรับใครที่สนใจอยากชมรูปภาพ ชมได้ไม่เสียเงินนะคะ คลิกลิ้งค์นี่เลยค่ะ https://www.touristtube.com/Things-to-do-in-Venice/Santa-Maria-della-Salute-360

ปันน้ำใจจากบ้านคุณ สู่ผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ Traveloka ร่วมกับมูลนิธิอิสรชน มุ่งแจกถุงปันสุขจำนวน 1,000 ถุง แก่ผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทุกการจองเที่ยวบินของคุณ เท่ากับการบริจาคถุงปันสุข

ระยะเวลาการบริจาค: 7 มิ.ย. 2564 – 18 มิ.ย. 2564