เกือบสองปีแล้วนะ ที่หลายคนต้องย้ายออฟฟิศมาประจำการกันที่บ้าน ด้วยการ Work From Home เพื่อลดความแออัดจากการเดินทาง รวมถึงเว้นระยะห่างในชีวิตประจำวัน เพื่อป้องกันเจ้าโรคโควิด-19 ที่มาเคาะประตูโลกเราจนสั่นสะเทือนไปทั้งใบ เชื่อว่าหลายคนที่ต้องเปลี่ยนมาใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านคงต้องเคยเกิดอาการเบื่อหรือเครียดกันบ้างละ วันนี้เราเลยเสาะหาวิธีคลายเครียดจากการ Work From Home มาฝากกัน เพราะไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่กว่าเราจะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติกันอีกครั้ง ยังไงก็หาวิธีทำงานที่บ้านอย่างมีความสุขกันไว้ก่อนดีกว่านะ เอาละ...ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
เชื่อว่าต้องมีหลายคนเลยละ ที่ Work From Home ด้วยการขลุกอยู่แต่ในห้องนอนทั้งวัน แต่การทำแบบนั้นไม่ใช่เรื่องดีกับงานเลยนะ เพราะการทำงานในห้องนอนโดยเฉพาะบนเตียงนั้นอาจทำให้ทำงานได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากสมองของเราน่ะได้บันทึกเอาไว้แล้วว่าพื้นที่ตรงนี้มีไว้เพื่อพักผ่อนเป็นหลักจ้ะ การทำงานบนเตียงหรือในห้องนอนจึงมักทำให้เราง่วงได้มากกว่าบริเวณอื่นเลยนะ แถมการถูกอุปกรณ์ในการทำงานแวดล้อมตลอดเวลาแม้กระทั่งให้ห้องนอนนั้น ยังจะทำให้เรารู้สึกเครียดเพราะรู้สึกว่าโดนงานรุกล้ำมายังพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวอีกด้วยจ้ะ และการกึ่งนั่งกึ่งนอนทำงานบนเตียงยังส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังตามมาในระยะยาวนะ ดังนั้น ไม่เอาจ้า อย่าหาทำ!
ถึงการทำงานที่บ้านจะทำให้เรามีโอกาสตื่นสายหรือทำตัวสบายๆ ได้มากกว่าที่เคย แต่บอกเลยว่าอย่าได้เริ่มทำตัวขี้เกียจเชียวนะ เพราะมันจะส่งผลต่อความรู้สึกของเราให้ค่อยๆ อืดอาดเอื่อยเฉื่อยลงไปทุกที ดังนั้น แนะนำให้ใช้ชีวิตประจำวันเหมือนช่วงที่ต้องออกไปทำงานข้างนอก เช่น ตื่นในเวลาเดิม ลุกขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งหน้าแต่งตัวเหมือนตอนออกไปทำงานได้แบบปกติ แล้วอย่าลืมกินอาหารเช้าให้เต็มที่ เพราะทั้งหมดนี้คือการกระตุ้นความรู้สึกให้ร่างกายเกิดความกระตือรือล้นในการทำงานขึ้นมา ทำให้เรารู้สึกสดชื่นกระชุ่มกระชวยไม่เฉื่อยชาย้วยยานเพราะบรรยากาศในชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนไป ลองทำดูจ้า เชื่อว่าช่วยให้ทำงานสนุกขึ้นได้แน่นอน
เพราะการนั่งทำงานอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย คงทำให้หลายคนเกิดอาการน้ำลายบูดและคิดถึงความมีชีวิตชีวาของบรรดาเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศจับใจ ดังนั้น จึงควรหาเวลาพักเบรคเม้าท์มอยกับเพื่อนฝูงทั้งหลายบ้างนะ อยากให้ได้อรรถรสเต็มที่ก็วิดีโอคอลให้เห็นหน้าเห็นตากันแบบเป็นหมู่คณะไปเลยจ้า ได้อัพเดทชีวิตประจำวัน ได้คุยกันเรื่องละครหลังข่าวหรือว่าเม้าท์เรื่องราวของดาราที่กำลังสนใจ เชื่อว่าจะช่วยเรียกความสดใสในชีวิตให้กลับมาอีกครั้ง ที่สำคัญก็คุยกันแต่พอเหมาะแล้วกันนะ อย่าลืมกลับมาทำงานให้เสร็จด้วยล่ะ เอาแค่สร้างความมีสีสันให้ชีวิตประจำวันก็พอเด้อ
ความยากอย่างหนึ่งของการทำงานที่บ้านก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการบริหารเวลา เพราะเรามักจะเผลอทำงานเกินเวลา จนลืมใช้ชีวิตส่วนตัวไป ซึ่งแน่นอนว่าถ้าสะสมนานๆ เข้าก็เป็นส่วนหนึ่งซึ่งจะทำให้เราเครียดหรือเบื่อการทำงานได้ เพราะฉะนั้น ควรวางแผนเรื่องเวลาการทำงานให้ชัดเจน เช่น กำหนดเวลาเริ่มงาน - เลิกงานให้เหมือนกับตอนที่เราอยู่ในออฟฟิศนั่นละ รวมถึงใช้เวลาพักกลางวันให้เท่ากับที่เคย แล้วอย่าลืมตกลงเรื่องเวลาทำงานที่ชัดเจนกับเพื่อนร่วมงานและทีมของเราด้วยนะ จะได้เข้าใจตรงกันว่าเวลาไหนคือเวลาส่วนตัวและเวลาไหนคุยงานได้ ซึ่งจะช่วยให้เราวางแผนการทำงานและแบ่งแยกเวลางานกับการใช้ชีวิตส่วนตัวได้อย่างชัดเจนขึ้น ทำให้เราไม่ทำงานเพลินจนเกิดความเครียดสะสม แบ่งเวลาให้ดีก็จะช่วยให้ WFH ได้แบบแฮปปี้แน่นอน เชื่อเรา
เหตุผลง่ายๆ ก็คือการทำงานที่บ้านนั้นทำให้การใช้พลังงานขยับเขยื้อนร่างกายในชีวิตประจำวันของเราน้อยลงแบบน่าใจหาย จึงไม่ต้องแปลกใจที่หลายคนจะน้ำหนักพุ่งพรวดขึ้นมาแบบต้องเอามือทาบอกกันหน้าเครื่องชั่งเลยเชียวละ แถมการนั่งอยู่กับที่นานๆ ยังทำให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรมได้ด้วยละ และนอกจากจะทำให้ร่างกายได้ใช้พลังงานอย่างถูกที่ถูกทางแล้วนะ การออกกำลังกายยังช่วยคลายความเครียดจากการทำงานได้เป็นอย่างดี แล้วไม่ต้องอ้างว่าไม่มีเวลาเลยจ้า เพราะการ WFH ทำให้เรามีเวลาเหลือจากที่เคยใช้ในการเดินทางไป - กลับเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลยเชียวนะ กลับไปทำงานนอกบ้านกันอีกที เราอาจจะได้ซิกส์แพ็คสวยๆ กับหุ่นเริ่ดๆ ไปอวดให้เพื่อนว้าวได้ด้วยนะ ดีจะตาย!
ในเมื่อต้องยกออฟฟิศมาไว้ที่บ้านกันแบบยาวๆ ชนิดที่ยังไม่รู้จุดจบซะที เราจึงควรหาพื้นที่ทำงานในมุมสงบ โดยควรเป็นห้องหรือมุมที่ปราศจากการรบกวนของสมาชิกในครอบครัวหรือสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย และการแยกพื้นที่ทำงานออกจากพื้นที่พักผ่อนอย่างชัดเจนยังช่วยกระตุ้นความรู้สึกให้กระตือรือล้นไม่เฉื่อยชา ซึ่งจะช่วยให้มีสมาธิกับการทำงานได้อย่างเต็มที่ รวมถึงควรมีเก้าอี้ที่นั่งทำงานนานๆ ได้อย่างสบาย ซึ่งจะช่วยให้เราจดจ่อกับการทำงานได้นานขึ้นอีกด้วยนะ และควรหลีกเลี่ยงการนั่งทำงานที่พื้นเพราะจะทำให้เกิดอาการเมื่อยและหงุดหงิด ซึ่งจะส่งผลให้ไม่อยากทำงานไปอีกจ้า มองหามุมทำงานดีๆ ชีวิตจะง่ายขึ้นอีกเยอะเชียว
ถ้ามีลิสต์เพลงที่ชอบอยู่แล้ว การเปิดเพลงฟังระหว่างทำงานจะช่วยสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลาย ช่วยให้เราทำงานได้อย่างเพลิดเพลิน และยังไม่เสียสมาธิวอกแวกไปกับเสียงรบกวนอื่นๆ ที่อยู่รอบข้างด้วยนะ แต่ควรเปิดในระดับเสียงที่พอดีไม่รบกวนการทำงานและไม่รบกวนสมาชิกคนอื่นในบ้าน แล้วเพลงดีๆ จะช่วยให้เราทำงานได้เพลินขึ้นอย่างแน่นอน
เว็บไซต์ Harvard Business Review เคยทำวิจัยเอาไว้โดยได้ผลสรุปว่า การทำงานนาน 57 นาที แล้วพักเบรก 17 นาที เป็นระยะเวลาการทำงานที่สมดุล ซึ่งจะมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากที่สุด และเมื่อเราสามารถกำหนดเวลาทำงานเองได้ในการ WFH ทั้งที ลองเอาทฤษฎีนี้มาปรับใช้ดูก็ดีนะ พักเบรกจากงานเพื่อลุกเดินยืดเส้นยืดสาย หรือเข้าครัวไปหาเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายดูบ้าง เพื่อให้การทำงานที่บ้านไม่น่าเบื่อเกินไปและได้ผลดี เราว่าลองดูก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่นา
อย่ามัวทำแต่งานจนลืมการใช้เวลาส่วนตัวของคุณเชียวละ เพราะเมื่อไหร่ที่เราเริ่มรู้สึกว่างานรุกล้ำเข้ามาในเวลาส่วนตัวมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดความเครียด ล้า หรือเบื่อหน่ายการทำงานได้นะ เมื่ออยู่นอกเวลาทำงาน อย่าลืมหางานอดิเรกหรือกิจกรรมที่ชอบทำมาเปลี่ยนอารมณ์จากความเครียดในการทำงานดู ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร อ่านหนังสือ เล่นกับสัตว์เลี้ยง ปลูกต้นไม้ วาดรูป ออกกำลังกาย หรือทำงานบ้านก็ยังได้จ้า นอกจากจะช่วยสลัดอารมณ์เหนื่อยล้าจากการทำงานทิ้งไป แถมยังอาจจะได้ความรู้และแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการทำงานด้วยนะ รับรองว่าชิลล์ชัวร์ๆ
เป็นที่รู้กันว่าสีเขียวของต้นไม้นอกจากจะช่วยให้ผ่อนคลายแล้ว ยังใช้เป็นจุดพักสายตาจากอาการเหนื่อยล้าที่ต้องจ้องจอคอมพิวเตอร์หรืออ่านตัวหนังสือเป็นเวลานานๆ ได้ เราจึงควรหาต้นไม้ที่ชอบมาวางเอาไว้ใกล้ๆ พื้นที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นบนโต๊ะทำงาน หรือหลายๆ มุมในบ้านด้วยก็ยังได้ เพื่อเอาไว้ใช้เป็นจุดพักสายตายามที่ล้าจากการทำงานนานๆ และยังเป็นการช่วยสร้างบรรยากาศในบ้านให้ผ่อนคลาย ให้ความรู้สึกเหมือนได้ออกไปใกล้ชิดกับธรรมชาติแบบไม่ต้องไปไหนไกล ที่สำคัญคืออย่าลืมเลือกต้นไม้ให้เหมาะกับพื้นที่ที่จะวางด้วยนะ ปลูกต้นไม้ก็คลายเครียดได้ดีเลยละ ไม่เชื่อก็ลองดู
เพราะเราต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านแบบแทบจะ 24 ชั่วโมงเลยนะ การจัดบ้านให้น่าอยู่จึงกลายเป็นเรื่องที่สำคัญมากไปโดยปริยาย ไม่เหมือนกับในช่วงเวลาปกติซึ่งบางคนอาจจะมีบ้านไว้แค่นอนอย่างเดียวเท่านั้น! การสร้างบรรยากาศให้บ้านดูผ่อนคลายด้วยการเปิดพื้นที่ให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึง จะช่วยให้บ้านดูน่าอยู่ ไม่อับทึบชวนให้อึดอัด แสงสว่างที่พอดียังมีส่วนช่วยสร้างความรู้สึกกระชุ่มกระชวย ตื่นตัว และทำให้มีความสุขในการทำงานมากขึ้น แถมยังช่วยให้นอนหลับตอนกลางคืนได้อย่างมีคุณภาพด้วยนะ บรรยากาศดีๆ จะช่วยให้เราแฮปปี้กับการ WFH ขึ้นเยอะเชียวละ เป็นอีกทิปส์ที่อย่ามองข้ามเชียว
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ากลิ่นนั้นมีส่วนสำคัญต่ออารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์ค่อนข้างสูงเชียวละ กลิ่นที่ดีจะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด กลิ่นบางกลิ่นยังช่วยให้การหายใจดีขึ้น รวมถึงยังช่วยให้นอนหลับสบาย และเมื่อระบบร่างกายและจิตใจดีแล้ว ย่อมส่งผลให้สุขภาพและภูมิต้านทานดีขึ้นตามไปด้วย การหาตัวช่วยเพื่อสร้างกลิ่นที่สดชื่นในบ้านหรือบริเวณที่คุณต้องนั่งทำงาน จึงเป็นการช่วยบำบัดอาการเครียดได้อีกทางหนึ่ง แถมกลิ่นบางกลิ่นยังอาจช่วยให้เรารู้สึกมีสมาธิในการทำงานสูงขึ้นด้วยนะ อย่ามองข้ามเชียว
เพราะการต้องอยู่แต่ในบ้านเป็นระยะเวลานานๆ อาจทำให้เราเกิดความเบื่อหน่ายและหมดไฟในการทำงานได้ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่จำเจ ดังนั้น จึงควรหาเวลาว่างเพื่อสร้างกิจกรรมหรือหาความรู้ใหม่ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการครีเอทงานให้สร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์ในเรื่องที่เราสนใจ ทั้งเรื่องภาษา การทำขนม การทำงานศิลปะ หรือหาข้อมูลใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไป อาหารเพื่อสุขภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย การได้เห็นสิ่งอื่นนอกเหนือจากงานและสภาพแวดล้อมที่ซ้ำซากชวนให้เบื่อหน่าย จะช่วยให้ไฟในการใช้ชีวิตของเราลุกโชนขึ้นอีกครั้ง และยังช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้เราได้ด้วยนะ ช่วง WFH แบบนี้น่าจะพอมีเวลาว่างเหลือใช่มะ อย่าลืมลองทำดู
เมื่อต้องใช้เวลาในการทำงานต่อเนื่องกันนานๆ ย่อมทำให้ทั้งร่างกายและสมองเกิดอาการอ่อนล้า และการเรียกคืนพลังแห่งความมีชีวิตชีวาที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งก็คงหนีไม่พ้นการนอนหลับให้เต็มที่และมีคุณภาพ เพราะการนอนจะทำให้ร่างกายได้ฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของสุขภาพ รวมถึงการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่จะทำให้เราตื่นขึ้นอย่างสดชื่นแจ่มใส สมองปลอดโปร่ง มีชีวิตชีวาและพลังในการทำเรื่องต่างๆ ได้เป็นอย่างดี มีสมาธิในการทำงาน และไม่อ่อนเพลียง่าย แค่นอนให้เต็มที่ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วละ เชื่อเรา
หลังการทำงานอย่างหนักหน่วงตลอดทั้งวัน อย่าลืมหาเวลาให้รางวัลตอบแทนความเหนื่อยยากของตัวเองดูบ้างนะ ไม่ว่าจะเป็นการชมภาพยนตร์ออนไลน์ กินอาหารตามใจอยาก การเล่นเกม นอนแช่น้ำในอ่างแบบสบายๆ หรือแม้กระทั่งการช้อปปิ้งออนไลน์แบบพอดีๆ ลองหาวิธีตบรางวัลให้ตัวเองดูบ้าง เพื่อสร้างความสุขและบำบัดความเครียดจากการต้องนั่งทำงานอยู่ในบ้านตลอดทั้งวัน ที่สำคัญคือควรทำอย่างมีสติ ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารหรือการใช้จ่าย จะได้ไม่ต้องมานั่งเครียดเรื่องน้ำหนักตัวหรือฐานะการเงินอีกในภายหลังนะ ท่องไว้ว่าเอาแค่พอดี!
และทั้งหมดนี้คือวิธีในการบำบัดตัวเองจากอาการเครียดเพราะต้องทำงานอยู่ที่บ้านแบบไม่มีจุดจบในช่วงโควิดแบบนี้ เชื่อว่ามีหลายวิธีที่ทำได้แบบไม่ยากและไม่สิ้นเปลืองด้วยจ้า และเพราะไม่รู้ว่าต้องอยู่ในสภาวะแบบนี้อีกนานแค่ไหน ทางเดียวที่ทำได้คือหาตัวช่วยให้เราใช้ชีวิตในข้อจำกัดได้อย่างมีความสุขมากขึ้นนี่ละ ลองดูจ้า รับรองว่าไม่ยากเกินไป เชื่อว่าจะทำให้การ Work From Home ในช่วงโควิด-19 ของเราสนุก สบาย และเต็มไปด้วยคุณภาพอย่างแน่นอน