ราตูโบโก ตั้งอยู่ห่างจากวัดประมบานันไปทางทิศใต้ประมาณ 3 กม.พื้นที่ Ratu Boko ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีความสูง± 195.97 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลสถานที่ของ Ratu Boko ไม่ได้เป็นวัดจริง แต่ซากปรักหักพังของอาณาจักรดังนั้นวัดราตูโบโกจึงมักเรียกว่า กระตัน ราตูโบโก2475 โดยเรียกกันว่า Kraton Boko เพราะตามตำนาน เว็บไซต์นี้เป็นพระราชวังของราตูโบโก บิดาของลาร่าจงกรางประมาณว่าโบราณสถานราตูโบโกสร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 8 โดยชาวพุทธวังสา ไซยาเลนดรา แต่ต่อมาได้ถูกกษัตริย์มาตารามชาวฮินดูเข้ายึดครองในเวลาต่อมาการเปลี่ยน"เจ้าของ” ทำให้อาคารกระตันโบโคได้รับอิทธิพลจากศาสนาฮินดูและพุทธศาสนา ที่เว็บไซต์ Ratu Boko พบจารึกสืบมาจาก 792 AD เรียกว่าจารึกอภัยกิริวิฮาราเนื้อหาของจารึกไว้รองรับข้อกล่าวหาว่าพระตำหนักราตูโบโกสร้างโดยระกาย ปานังการันต์จารึกอภัยกิริวิหาร เขียนโดยใช้ฮูรุห์ปราณครี ซึ่งเป็นลักษณะหนึ่งของจารึกทางพระพุทธศาสนาในจารึกระบุว่า สมเด็จพระเตชะปุรนัมะ ภาณังการะผู้ซึ่งคิดว่าเป็นพระรากาย ปานังการันต์ ได้ทรงสั่งให้สร้างพระอภัยกิริวิหารชื่อเดียวกันนี้ยังกล่าวถึงในจารึกกาฬสินธุ์ (779 AD) จารึกมันตยสีห์ (907 AD) และจารึกวานุอเตงกะฮ์ที่สาม (908 AD)ตามนักวิชาการ คำว่า abhaya แปลว่า ไม่มี ฮากายะ หรือ สันติ กิริ หมายถึง ภูเขา หรือ เนินเขาพระอภัยกิริวิหาร จึงหมายถึง อารามที่สร้างขึ้นบนเนินเขาอันเงียบสงบศ.898-908 พระอภัยคีรี วิหาร ได้เปลี่ยนชื่อเป็น กระตัน วาละอิง (Kraton Walaing Pu Kombayoni) ในปี ค. Kraton Ratu Boko ซึ่งครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่ของที่ดินประกอบด้วยกลุ่มอาคารหลายกลุ่มส่วนใหญ่ของมันอยู่ในปัจจุบันอยู่ในซากปรักหักพัง.