ค้นหาตั๋วราคาถูก และโปรโมชั่นของ เอมิเรตส์ (Emirates) ที่นี่!

เอมิเรตส์ (รหัส IATA: EK) เป็นสายการบินที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สายการบินนี้เป็นบริษัทย่อยในเครือของเอมิเรตส์กรุ๊ป ซึ่งถือหุ้นทั้งหมดโดยความร่วมมือในการลงทุนของรัฐบาลดูไบ เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1985 ในวันนี้สายการบินเอมิเรตส์ได้กลายเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางได้สำเร็จ ซึ่งมีเที่ยวบินไปยัง 152 จุดหมายทั่วโลก ทุกๆ สัปดาห์ สายการบินเอมิเรตส์มีเที่ยวบิน 3,600 เที่ยวจากศูนย์กลางของท่าอากาศยานนานาชาติดูไบโดยใช้เครื่องบินแอร์บัส A380 และ Boeing 777 สายการบินเอมิเรตส์ได้พิสูจน์ตัวเองผ่านการได้รับรางวัลจากหลายองค์กร ในปี 2014 สายการบินเอมิเรตส์ได้ชื่อว่าเป็นสายการบินที่มีคุณค่าที่สุด และหนึ่งปีหลังจากนั้นในปี 2015 สายการบินเอมิเรตส์ได้กวาดรางวัล APEX Passenger Choice Awards แห่งปี 2015 มาแล้ว 7 รางวัลและได้รับอีก 4 ตำแหน่ง จาก Business Traveler Awards สายการบินเอมิเรตส์ยังเป็นผู้ชนะอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2016 เมื่อ SkyTrax World Airline Awards ให้รางวัลสายการบิน เอมิเรตส์ในฐานะที่เป็นสายการบินที่มีความบันเทิงในเที่ยวบินที่ดีที่สุดในติดต่อกันเป็นปีที่ 12 และยังแต่งตั้งให้เป็นสายการบินที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลก บริการบนเที่ยวบินของสายการบินเอมิเรตส์ประกอบด้วยชั้นที่นั่งสามชั้น ได้แก่ ชั้นประหยัด ชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่ง ทุกระดับชั้นที่นั่งจะมีที่นั่งที่สามารถเอาไว้ชาร์จไฟได้และความบันเทิงบนเที่ยวบิน ผู้โดยสารทุกคนจะได้ลิ้มลองอาหารในเที่ยวบิน ในชั้นประหยัด สายการบินเอมิเรตส์มั่นใจได้ว่าผู้โดยสารทุกคนยังคงได้รับความสะดวกสบายสูงสุด หนึ่งในวิธีที่พิสูจน์ได้คือการจัดเตรียมผ้าห่มที่ผลิตด้วยนวัตกรรม ecoTHREADTM ที่เกิดจากการเปลี่ยนขวดพลาสติกขนาด 400 มล. จำนวน 28 ขวดนำมารีไซเคิลให้เป็นเส้นใยละเอียด นวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนี้ทำให้ผู้โดยสารสามารถพักผ่อนได้อย่างสะดวกสบายในระหว่างการเดินทาง ในขณะที่ผู้โดยสารชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่งได้รับสิทธิ์ในการเข้าใช้ห้องรับรองผู้โดยสารบนเครื่องบิน เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2017 ห้องโดยสารบนเครื่องบินแอร์บัส A380 จะมีการออกแบบให้สวยงามขึ้นด้วยโทนสีงาช้างที่ดูเรียบสะอาด และสีบรอนซ์และลายไม้ ที่นั่งในชั้นธุรกิจได้รับการออกแบบและแรงบันดาลใจมาจากภายในของรถสปอร์ตที่ทันสมัย มีหน้าจอเพื่อให้ความบันเทิงขนาด 23 นิ้วและพอร์ต HDMI ที่สามารถเชื่อมต่อสตรีมเนื้อหาความบันเทิงจากอุปกรณ์ส่วนบุคคลของผู้โดยสารได้โดยตรงบนหน้าจอ ผู้โดยสารชั้นธุรกิจและผู้โดยสารชั้นหนึ่งที่บินในเที่ยวบินระยะไกลแบบข้ามคืนยังได้รับกระเป๋าใบเล็กๆ ที่มีน้ำหอมของ Bulgari ใหม่และสิ่งจำเป็นสำหรับดูแลผิว ผู้โดยสารชั้นหนึ่งยังได้รับชุดนอนที่มีการใช้ Hydra Active Microcapsule เพื่อรักษาให้ผิวนุ่มในระหว่างการเดินทาง เนื้อผ้านุ่มนวลปล่อยสารจากธรรมชาติที่ได้จากสาหร่ายทะเลเพื่อช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ในส่วนของกฎระเบียบเรื่องสัมภาระผู้โดยสารชั้นประหยัดจะได้รับสัมภาระติดตัวหนึ่งชิ้นซึ่งขนาดต้องไม่เกิน 55 x 38 x 20 ซม. และหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องน้ำหนักไม่เกิน 35 กิโลกรัม ผู้โดยสารชั้นธุรกิจและผู้โดยสารชั้นหนึ่งจะได้รับสัมภาระสองชิ้นประกอบด้วยกระเป๋าเอกสารและกระเป๋าถือหรือกระเป๋าเสื้อผ้า กระเป๋าเอกสารไม่ควรมีขนาดใหญ่กว่า 45 x 35 x 20 ซม. กระเป๋าถือต้องไม่ใหญ่กว่า 54 x 38 x 20 ซม. และกระเป๋าผ้าที่ไม่หนาเกิน 20 ซม.เมื่อพับเก็บ แต่ละชิ้นต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ผู้โดยสารชั้นธุรกิจสามารถรับสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องได้ 40 กิโลกรัมในขณะที่ผู้โดยสารชั้นหนึ่งได้ถึง 50 กก. ผู้โดยสารเอมิเรตทั้งหมดได้รับอนุญาตให้เช็คอินที่เคาน์เตอร์สนามบินจากสามชั่วโมงก่อนการเดินทางและไม่เกิน 90 นาทีก่อนเวลาออกเดินทาง เมื่อผู้โดยสารได้เช็คอินแล้วต้องใช้ความปลอดภัยซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 60 นาที การขึ้นเครื่องจะเริ่มขึ้น 45 นาทีก่อนที่เที่ยวบินและประตูปิด 20 นาทีก่อนออกเดินทาง ผู้โดยสารที่มาถึงล่าช้าที่ประตูขึ้นเครื่องจะไม่ได้รับการยอมรับให้เข้าสู่เครื่องบิน โปรดทราบว่าผู้โดยสารสามารถประหยัดเวลาได้โดยการเช็คอินผ่านทางเว็บไซต์เอมิเรตส์ เช็คอินออนไลน์สามารถใช้ได้สำหรับเที่ยวบินเอมิเรตเกือบทุกแห่งทั่วโลกขณะที่บัตรโดยสารผ่านมือถือจะมีให้บริการสำหรับเที่ยวบินเอมิเรตส์ที่ออกจากจุดหมายปลายทางเท่านั้น

สายการบินเอมิเรตส์เริ่มขึ้นในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 เมื่อสายการบิน Gulf Air ที่มีฐานการบินอยู่ที่ประเทศบาเรนห์ได้ลดการให้บริการเที่ยวบินไปยังดูไบ เป็นผลให้สายการบินเอมิเรตส์ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 1985 โดยได้รับการสนับสนุนจากราชวงศ์ดูไบ ในขณะนั้นสายการบินเอมิเรตส์ต้องดำเนินกิจการโดยไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล สายการบินนานาชาติปากีสถานได้ให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคแก่ผู้ให้บริการรายใหม่และได้ให้เช่าเครื่องบินโบอิ้ง 737-300 และแอร์บัส A300B4-200 ต่อมา Royal Air Wing ของราชวงศ์ดูไบก็ได้ให้เครื่องบินโบอิ้ง 727-200 Adv ที่ใช้แล้ว 2 ลำ ในที่สุดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 1985 สายการบินเอมิ เรตส์ได้เปิดให้บริการเที่ยวบินแรกจากดูไบไปการาจี Maurice Flanagan ผู้ที่เคยทำงานที่ British Airways และ Gulf Air ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารระดับสูงของสายการบินเอมิเรตส์ ภายใต้การนำของเขาเอมิเรตส์เพิ่มเส้นทางบินใหม่ๆ เช่นโคลัมโบ ดากา อัมมานและไคโรในปี 1986 หนึ่งปีต่อมาสายการบินเอมิเรตส์ได้ซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 727 ลำที่ 2 จากรัฐบาลดูไบ เมื่อเวลาผ่านไปเอมิเรตส์ก็ยังคงพัฒนาการให้บริการและจำนวนเส้นทางมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีเครื่องบินทั้งหมด 11 ลำในปี 1987 จำนวนเครื่องบินเพิ่มขึ้นเพราะมีการขยายเส้นทางสู่กรุงเทพมหานคร กรุงมะนิลา สิงคโปร์ ในปี 1989 และฮ่องกงในปี 1991 ในช่วงทศวรรษแรกของการให้บริการ สายการบินเอมิเรตส์มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 30% ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 สายการบินเอมิเรตส์เป็นหนึ่งในสายการบินที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก เนื่องด้วยมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี สายการบินเอมิเรตส์จึงเข้าสู่ตำแหน่ง 500 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 1993 ในเวลานั้นสายการบินมีผู้โดยสารทั้งหมด 1.6 ล้านคน ในปี 1995 สายการบินเอมิเรตส์ได้เพิ่มจำนวนเครื่องบินขึ้นอีก เป็นแอร์บัส A300s ทั้งหมด 6 ลำและแอร์บัส A310 จำนวน 8 ลำเพื่อให้ครอบคลุม 37 จุดหมายปลายทางทั่วใน 30 ประเทศ อีกหนึ่งปีต่อมาสายการบินได้รับเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ลำแรกและตามมาด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER อีกจำนวน 6 ลำ การมาถึงของเครื่องบินโบอิ้ง 777 ทำให้สายการบินเอมิเรตส์สามารถให้บริการต่อเนื่องจากสิงคโปร์ไปยังเมลเบิร์นได้ และในที่สุดในปี 1998 Emirates SkyCargo ได้เปิดให้บริการ แม้ว่าสายการบินเอมิเรตส์จะเคยให้บริการขนส่งสินค้าโดยใช้พื้นที่ใต้ท้องเครื่องบินโดยสาร แต่การเปิดให้บริการใหม่นี้ก็ได้ขยายการให้บริการออกไปโดยการจัดใช้เครื่องบิน ลูกเรือ การบำรุงรักษาและการเช่าประกันของตนเองที่แยกออกมาต่างหากจากเครื่องบินโดยสาร การที่สายการบินเอมิเรตส์เปิดให้บริการเที่ยวบินไปยังเซาเปาโลในปี 2007นั้น ทำให้กลายเป็นสายการบินแรกที่ให้บริการเที่ยวบินแบบไม่หยุดพักระหว่างตะวันออกกลางและอเมริกาใต้ สองปีต่อมาในปี 2009 สายการบินเอมิเรตส์ได้รับเครื่องบินลำที่ 78 และกลายเป็นโบอิ้ง 777 ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีการใช้งานอยู่ในขณะนี้ แต่สายการบินเอมิเรตส์ก็ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ ใน 2010 สายการบินเอมิเรตส์ได้สั่งซื้อโบอิ้ง 777 จำนวน 30 ลำและอีก 50 ลำในปีถัดมา ในปี 2012 สายการบินเอมิเรตส์และสายการบินควอนตัสได้ลงนามร่วมกันในข้อตกลงที่มีระยะเวลา 10 ปีเพื่อจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรกับสายการบินหลักๆซึ่งทำให้สายการบินควอนตัสได้ย้ายศูนย์กลางเที่ยวบินที่ไปยุโรปจากสิงคโปร์ไปยังสนามบินนานาชาติดูไบ ตามข้อตกลงนี้ทำให้สายการบินเอมิเรตส์มีจำนวนผู้โดยสารที่บินไปสู่ยุโรปเพิ่มมากขึ้น ตามคำขวัญที่ว่า "Hello Tomorrow" สายการบินเอมิเรตส์ให้บริการเที่ยวบินไปยัง 152 จุดหมายทั่วโลก เส้นทางใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาในปี 2016 ได้แก่ ย่างกุ้ง ฮานอย ยินฉวน เจิ้งโจว เซบู และคลาร์ก ปี 2016 ยังเป็นปีที่พิเศษสำหรับสายการบินเอมิเรตส์อีกด้วย เนื่องจาก Emirates Skywards ได้ฉลองการดำเนินงานมาครบ 16 ปีกับจำนวนสมาชิก 16 ล้านคน มูลค่าแบรนด์เอมิเรตส์เพิ่มขึ้น 17% เป็น 7.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ สายการบินเอมิเรตส์ยังได้พิสูจน์ถึงการมีตัวตนในสื่อสังคมออนไลน์ ตั้งแต่ปี 2016 สายการบินเอมิเรตส์ได้กลายเป็นสายการบินแรกของโลกที่มีผู้ติดตามถึง 1 ล้านคนในอินสตาแกรม