Traveloka TH
09 Apr 2019 - 1 min read
ไปเลยกัน หรือ จะไปกันเลย ชวนแบบไหนก็ไปสนุก เมื่อเมืองเลยยุคนี้ ไม่ใช่อีสานที่มีแต่ภูกระดึงที่ต้องเดินเหนื่อยเป็นวันแล้วใช้เวลา 3 วัน 2 คืนในที่เดียว แต่เลยกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเด่นที่มีแหล่งท่องเที่ยวให้เราเที่ยวชมความน่ารักไม่ทั่วเลยทีเดียว ตามไปลุยเลยกับเรา ดูว่า 3 วัน 2 คืน ที่เลย มีความน่ารักอะไรให้เราค้นหาและน่าจดจำกันบ้าง
ก่อนอื่นต้องจองตั๋วเครื่องบินกับที่พักให้เรียบร้อยก่อนซึ่งก็จองกับ Traveloka นี่แหละ แอปพลิเคชั่นเที่ยวที่จองง่ายจบครบได้ในแอปฯ เดียว
จองที่พักเลยกับ Traveloka
จองตั๋วเครื่องบินไปเลยกับ Traveloka
มากำหนดเส้นทางคร่าวๆ เป็นไกด์ไลน์กันก่อนเพื่อบริหารเวลาให้พอเหมาะ เที่ยวให้ครบไม่ตกหล่นความน่ารักที่ไหนไว้รายทาง แล้วค่อยไปดูทีเด็ดความน่ารักของแต่ละที่กันเป็นจุดๆ ไป
วันแรกจากเมืองกรุงมุ่งสู่เลย เราออกเดินทางวันศุกร์กลับวันอาทิตย์นั่งเครื่องบินไปลงจังหวัดใกล้ๆ อย่างอุดรธานี แล้วเช่าเหมารถตีไปเริ่มเที่ยวตอนเช้าวันศุกร์เลย แต่ขับรถไปเองหรือนั่งรถทัวร์ ส่วนใหญ่ก็จะกำหนดออกหัวค่ำของวันพฤหัสฯ
แต่ถ้าขับรถไปเองออกดึกหน่อยก็ได้ไม่เป็นไปไร ถึงเช้าก็เที่ยวเลย แต่จะให้ดี ต้องหามือขับสำรองไว้สับเปลี่ยนกันเพื่อความปลอดภัยด้วย ก็จะดีที่สุดเลย
วันแรกพุ่งไปเริ่มกันที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ ภูเขาหินทรายที่สามารถขับรถขึ้นไปได้ถึงจุดชมวิว ไปถึงเช้ามากๆ ในช่วงอากาศเย็นก็จะได้เห็นทะเลหมอก แต่ถ้าสายๆ ดอกไม้สวยๆ และภูมิทัศน์ที่จัดไว้อย่างดี รวบถึงวิวภูเขาลูกอื่นที่อยู่รายรอบ ก็สวยสมราคา ให้เก็บภาพใส่เมมได้มากโขอยู่
แต่ถ้าใครอยากลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ ลองแวะที่ ภูหัวห้อม อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ที่นี่เป็นจุดชมทะเลหมอกได้เหมือนกันในวันที่อากาศเป็นใจ แถมว่ากันว่าเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยมากแห่งหนึ่งของเมืองเลย แต่ถ้าไม่ซีเรียสว่าต้องเป็นทะเลหมอก สิ่งที่ได้เห็นแน่ๆ คือจุดชมวิวรอยต่อสองประเทศระหว่างประเทศไทยกับสปป.ลาว
สำหรับใครที่เลือกไปภูเรือ มีจุดท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ๆ กันที่ร้อยทั้งร้อยต้องแวะไป นั่นคือ พระธาตุศรีสองรัก พระธาตุองค์ไม่ใหญ่สีขาว ที่ตัดกับฟ้าเข้มๆ แดดจัดของภาคอีสานให้ถ่ายรูปได้สวยทุกครั้งที่ไปเยือน
พระธาตุศรีสองรัก เป็นสถานที่สำคัญของจังหวัดเลย ที่แสดงถึงการถือสัจจะและไมตรี เพราะสร้างขึ้นเป็นสักขีพยานว่า จะไม่มีการสู้รบให้เลือดตกแผ่นดินระหว่าง สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ แห่งกรุงศรีอยุธยากับพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ผู้ครองกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) แห่งราชอาณาจักรล้านช้าง (สปป.ลาว ในปัจจุบัน) ตามความเชื่อจึงว่ากันว่า การไปกราบนมัสการที่แห่งนี้ ไม่ควรใส่เสื้อผ้าสีแดง
แทบจะเป็นเส้นทางบังคับเช่นกัน ที่คนมาเยือนพระธาตุศรีสองรัก จะต้องมีเป้าหมายที่จะแวะไปที่อำเภอด่านซ้าย โดยเฉพาะในช่วงบุญพระเวรต หรือบุญพระเวส ในเดือน 7 ที่ตามพระพุทธประวัติคือการแห่พระเวสสันดรกลับสู่กรุง แล้วประชาชนทั้งเมืองมาร่วมแห่แหนแสดงความยินดี ไม่เว้นแม้แต่เหล่าภูตผี ซึ่งเป็นที่มาของผีตาโขนอันลือชื่อของอำเภอด่านซ้าย ที่ไม่ใช่เป็นที่รู้จักแค่ในประเทศไทย แต่ชาวต่างชาติก็นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล
ถ้าไม่ได้บังเอิญไปช่วงเทศกาลก็ไม่ต้องเสียดาย เพราะที่วัดโพนชัย มีการจัดพิพิธภัณฑ์และประเพณีผีตาโขน ไว้ให้ชมตลอด
มาไกลขนาดนี้ ต้องหาที่พัก แหล่งที่พักของเลย ถ้าไม่ใช่รีสอร์ทที่เรียงรายอยู่บริเวณภูต่างๆ อยากได้ที่พักเก๋ๆ คูลๆ ต้องดิ่งไปเชียงคาน เพราะมีที่พักเกิดขึ้นให้เลือกใหม่มากมาย จะเอาแบบวิวริมแม่น้ำโขง ติดถนนคนเดิน หรือกลางย่านชุมชน ก็มีให้เลือกทุกทำเล
ตกค่ำออกไปเดินเล่น ช้อปปิ้งกินเล่นที่ถนนคนเดิน หรือจะเก็บแรงไว้เดินสบายๆ คืนถัดไปก็ได้ แต่เช้ามไม่ว่ามองไปทางไหนในเชียงคาน ก็จะเจอกับบรรยากาศขอชุมชนเก่าที่ตั้งมาเป็น 100 ปี ริมแม่น้ำโขง ที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งเพราะการท่องเที่ยว แต่ก่อนอื่น แนะนำให้ตักบาตรสร้างกุศลก่อนเริ่มวันดีๆ อีกวันระหว่างท่องเที่ยวกันก่อน
กิจกรรมพวกนี้จะเก็บไว้วันถัดไปก็ไม่ผิดกติกา เพราะบางคนก็เลือกที่จะไปชมทะเลหมอกตอนเช้าที่ภูทอก หลังได้พักนอนเต็มอิ่มคืนแรกที่เชียงคาน ถ้าอากาศดีมีไอน้ำในอากาศเยอะความชื้นสูงก็มีสิทธิ์จะได้เห็นทะเลหมอกที่ภูทอก
อย่างไรก็ตาม ถ้ากลับมาเร็ว ก็ยังทันได้ตักบาตรข้าวเหนียว แถมมีเวลาเดินเล่นตลาดเช้าเชียงคาน ดื่มด่ำกับความน่ารักของเชียงคานได้ทั้งวัน หรือจะหาร้านกาแฟชิลล์ๆ นั่งอินกับบรรยากาศเมืองเก่าให้เต็มที่ก็ยังได้
ใครเป็นสายธรรมชาติ จะแวะไปแก่งคุดคู้ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะอยู่ห่างจากตัวเชียงคานแค่ 4 กิโลเมตร จะล่องเรือหรือแค่ไปชมวิว ช้อปปิ้งของฝาก ก็ได้ทั้งนั้น
วิวแม่น้ำโขงที่แก่งคุดคู้ จะเห็นแม่น้ำโขงกว้างสุดตาไหลขนานไปกับประเทศไทยและสปป.ลาว ใครจะเช่าเรือล่องแม่น้ำแบบใกล้ชิดธรรมชาติก็ได้ ช่วงน้ำลดจะเห็นเกาะแก่งน้อยใหญ่มากมาย
บางคนถ้าไม่ภูทอก ก็มักจะเลือกมาชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือเหลี่ยมเขาจากที่แก่งคุดคู้นี้ ไฮไลต์ที่ทุกคนต้องเห็นแน่ๆ คือภูควายเงิน ภูเขาลูกใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามที่เป็นฉากของพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้านั่นแหละ
หมดกิจกรรมที่เชียงคานและสถานที่ท่องเที่ยวรอบ ๆ ไปอีกวัน ตกค่ำหาร้านอาหารเก๋ๆ ริมแม่น้ำโขง หรือจะเดินชิมของกินหลากหลากจากถนนคนเดินอีกสักรอบ เลือกแบบไหนว่ากันไปตามอารมณ์พาไปได้เลย
เช้าวันที่สาม ไหนๆ จะกลับบ้านกันแล้ว สไตล์คนไทย ไปให้ลามาให้ไหว้ ใครที่ยังไม่ได้แวะไปไหว้พระที่วัดศรีคุณเมือง ที่เป็นเหมือนวัดประจำเมืองเชียงคาน ที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า วัดใหญ่ จะแวะไปไว้พระทำบุญหรือจะรอไหว้ก่อนเดินทางกลับก็ตามสะดวก มีเวลาจะตักบาตรข้าวเหนียวอีกสักรอบก็ยิ่งดี
ได้มาเลยแค่ 3 วัน 2 คืน ทั้งได้เที่ยว ได้พัก ได้กินอิ่ม ได้ชมธรรมชาติหลากหลาย เท่านี้ก็เหมือนได้ชาร์ตแบตเติมพลังกลับไปลุยงานได้อย่างฮึกเหิมอีกรอบ
อย่างไรก็ตาม สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเลย ที่ใครๆ นึกถึงแต่ไม่ได้อยู่ในโปรแกรมเที่ยวเมืองเลยแบบชิลล์ๆ ของเรา เพราะใครจะไปต้องตั้งใจไป ก็คือ ภูกระดึง ซึ่งจะว่าในการเที่ยวแบบ 3 วัน 2 คืน แต่ถ้าใครแกร่ง จะแบ่งสักคืนไปภูกระดึงก็ได้ เอาแบบฮาร์ดคอร์สุดๆ จะขึ้นเช้าลงบ่าย ถ้าแกร่งจริงอยากไปก็ไปเลยได้เหมือนกัน