เชื่อว่าในใจของหลายๆ คนนั้นต้องตกหลุมรักความเป็นญี่ปุ่นอยู่บ้างไม่มากก็น้อย อาทิเช่น อาหารญี่ปุ่น สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ขนมญี่ปุ่น หนุ่มๆ สาวๆญี่ปุ่น ของใช้ญี่ปุ่นและอื่นๆ อีกเยอะแยะไปหมด หลายคนอาจจะไม่มีโอกาสหรือไม่มีเวลาที่จะได้ไปสัมผัสบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่น วันนี้เราจึงหยิบยกและสรรหาความเป็นญี่ปุ่นแต่อยู่ในไทย อ่านไม่ผิดหรอกจ้า ความเป็นญี่ปุ่นที่อยู่ในไทยมาให้ดูกัน ใครไม่เคยไปก็อยากจะให้ลองไปดู เพราะแอดมินติดใจมากๆ ส่วนใครเคยไปแล้วก็มาย้อนวันวานกันสักหน่อย
จั่วหัวกันไปแล้วว่าหนึ่งวันสบายๆ ที่พร้อมพงษ์ เพราะฉะนั้นการเดินทางที่สะดวก รวดเร็วก็คงจะหนีไม่พ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีพร้อมพงษ์ พอเราเดินลงมานั้น ละแวกนั้นจะมีชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพอยู่กัน วันนี้เราจะไปเจาะลึกกันว่าส่วนใหญ่เค้าไปที่ไหนกันบ้าง วิถีชีวิตประจำวันทำอะไรกันบ้าง
เนื่องจากวันนี้เราแพลนกันไปจนถึงดึก อาจจะมีนัดเฮฮาสังสรรค์กับเพื่อน เพราะฉะนั้นเราจองโฮสเทลนอนชิลล์ๆ สักคืนในระแวกนั้นดีกว่า ที่ที่ใกล้และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากที่สุดตามที่เราหาข้อมูลมาแล้วนั้น เราจะไปพักกันที่ Preme Hostel เป็นโฮสเทลในย่านเจริญที่ราคาย่อมเยา รายล้อมไปด้วยร้านสะดวกซื้อ Family Mart ร้านพิซซ่า ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านทำเล็บ ใกล้รถไฟฟ้า วินมอเตอร์ไซค์ หรือจะเรียกแท็กซี่ก็ไม่ยากเกินเอื้อมเพราะโฮสเทลอยู่ตรงปากซอยพอดีเด่ะเลย
ที่พักสะอาด ราคาประหยัด เหมาะสำหรับคนที่อยากจะจัดทริปสั้นๆ ในกรุงเทพ สองวันหนึ่งคืนชิลล์ๆ
หากมากันเป็นกลุ่ม ก็มีที่พักให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ ลงตัวมาก จะนอนแบบแคปซูล หรือห้องเดี่ยว ห้องคู่ ห้องคี่แบบสามเตียง สามคน ได้หมดเลยยยย
จองที่พัก Preme Hotel กับ Traveloka คลิกที่นี่
เช็คอินที่พักกันเสร็จเรียบร้อย เราก็เริ่มหิวแล้วละ นึกถึงอาหารญี่ปุ่น หนีไม่พ้นราเม็ง คงคล้ายๆ กับไม่รู้จะกินอะไรก็จะนึกถึงกระเพราไข่ดาวอะไรอย่างงี้หรือเปล่า เราก็เลยหาว่าที่ไหนดี เพราะเนื่องจากมันเป็นแหล่งรวมอาหารญี่ปุ่นด้วย จะเลือกสักร้านนึงก็ค่อนข้างเลือกลำบาก สุดท้ายเราก็ได้ที่ Misawa Ramen ที่ซอยสุขุมวิท22 เดินจากที่พักไปไม่ไกล
มาถึงก็ไม่รอช้า พุ่งตัวเข้าไปเลยจ้าาาาา ร้านเป็นร้านเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก บรรยากาศแบบเหมาะกับการกินราเม็งมาก เราเลือกเมนูที่แบบมาร้านนี้ต้องลอง แล้วมันก็ประทับใจมากจริงๆเพราะอร่อย5555555555555
ตัวน้ำซุปไม่เลี่ยนจนเกินไปอะ แต่ก็เข้มข้นนะ เข้าใจใช่มั้ย
หลังจากกินอาหารคาวอิ่มแล้ว ต่อของหวานเลยดิจะรออะไรละ เราก็เดินเลยร้านราเม็งมาอีกนิดก็จะเจอกับร้าน Custard Nakamura เป็นร้านที่มีขนมปังคัสตาร์ดที่ไส้อร่อยมาก ไม่หวานจนเกินไป ไม่เลี่ยนจนเกินไป คืออร่อยยยยยย พุดดิ้งก็อร่อย ทีเ่ป็นพวกช็อกโกแลตก็แบบคือดียยยย์ อร่อยหมดเลย
ชูครีมคัสตาร์ด
พุดดิ้งคัสตาร์ด
ขนมปังราดช็อกโกแลต
หลังจากกินของหวานอิ่มแล้ว เราก็เดินเข้าไปอีกสักประมาณสองร้อยเมตรเราก็จะเจอกับUFM Fuji Super
UFM Fuji Super
เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดกลางที่มีสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นหรือเป็นของที่คนญี่ปุ่นเลือกใช้ จะรวมกันอยู่ที่นี่ ที่สำคัญขนมญี่ปุ่นที่ต้องบินซื้อที่นู่น ที่นี่ก็มีนะจ้ะ มีเนื้อคุณภาพดีแบบสดๆ เยอะจนลายตา เลือกไม่ถูกเลย
หลังจากเดินดูว่าคนญี่ปุ่นเค้าให้ความสนใจในการเลือกวัตถุดิบหรือของใช้ที่มีคุณภาพกันขนาดไหนแล้ว เราก็เริ่มอยากไปดูที่อื่นต่อแล้วว่ามีอะไรอีกบ้างที่น่าสนใจ
เรามุ่งหน้าเดินต่อไปที่สุขุมวิท39 เพื่อที่จะไปร้าน Treasure Factory แต่ถ้าเดินไม่ไหวก็นั่งสองแถวหน้าปากซอยก้ได้นะ เพราะจากปากซอยเข้าไปก็ค่อนข้างไกล แต่ระหว่างทางฝนดันตกหนักมากกกกกก แล้วเราดันไปบังเอิญเดินไปเจอกับร้าน Azure Café ที่ไม่สามารถห้ามใจให้เดินเข้าไปได้ ด้วยการตกแต่งบรรยากาศแบบเรียบๆ น้อยแต่มาก เราเลยเข้าไปนั่งจิบชาเล่นระหว่างรอฝนที่ตกหนักข้างนอกร้านและหวังจะให้มันซาลงบ้าง
Azure Café
พอฝนเริ่มซา แดดเริ่มออก เราก็เดินออกจากร้านมาเพื่อไปร้านที่เราตั้งใจจะไป นั่นก็คือ Treasure Factory เป็นร้านที่รวมของมือสองจากญี่ปุ่นสภาพดี ราคาสวยๆ มีทุกอย่างตั้งแต่จักรยาน แก้วน้ำ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ตู้ต่างๆ เยอะจนตาลายไปหมด รวมถึงสินค้า แบรนด์เนม ที่นี่ก็มีให้เลือกสรรมากมาย กลับบ้านมือ เปล่า ไม่ได้ซะแล้ว
พอเราเดินออกมาจากร้าน Treasure Factory แล้วสายตาดันไปสะดุดกับ The Manor 39 ที่มีร้านสะดุดตาหลายร้ายเลยนะ มีคาเฟ่สุดมินิมอล ร้านทำเล็บ คลีนิคเสริมความงาม คาราโอเกะ อาหารญี่ปุ่น ถือว่าเป็นแหล่งรวมความสะดวกสบายไว้ในที่เดียว
Lively Cafe คาเฟ่สีเหลืองสด เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะไปหมด จะนั่งชิคๆ ทั้งวันก็ยังได้ ของหวานก็มีตั้งแต่เค้ก โยเกิร์ต ไข่ลวกกับขนมปังปิ้ง หรือถ้าไม่อยู่ท้องก็มีเมนูข้าวด้วยนะ สำหรับเวลาเปิดทำการ เค้าเปิดทุกวันนะ เวลา 8.30 - 19.00 หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์นี้เลย 095-294-6914 จ้า
ร้าน PARDEN นี่ภายในร้านมีของขายหลายอย่างเลยที่เป็นที่ระลึกของไทย คล้ายๆ ของที่เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านหรือของวินเทจเก๋ๆ เอามาตกแต่งบ้านได้หรือจะเป็นของฝากก็ดี แถมยังมีการเรียน ถักโครเชต์ที่นี่ด้วยนะ
เรียกได้ว่าวันว่างๆ ของคุณจะคุ้มค่าถ้ามาที่นี่เสริมความงาม ทำเล็บ ซื้อของ กินกาแฟ นั่งชิลล์ๆ ร้องคาราโอเกะในวันเบื่อๆ หรือจะทานอาหารญี่ปุ่นข้างหน้าก็ยังได้ เห็นยังว่าจบ ครบทุกอย่างในที่เดียว มีที่จอดรถด้านในด้วยนะ สะดวกสบายสุดๆ
อยากรู้ว่าคนญี่ปุ่นเค้าดูแลเรื่องผมกันยังไง วันนี้มีคำตอบ ที่ร้าน Rikyu Boy ร้านทำผมที่เป็นแบบ Japanese Style เลยนะ ตัดกับช่างญี่ปุ่นก็ได้แต่ต้องนัดล่วงหน้านะจ้ะ
สอบถามเพิ่มเติมโทรที่เบอร์นี้เลย 02 115 5778
ต่อกันที่ย่านใจกลางเมือง Baker Gonna Bake คาเฟ่ที่ได้ใจเราไปเต็มๆ ร้านนั่งบรรยากาศดี ตกแต่งแบบเรียบๆ ใช้ไม้มาเป็นส่วนประกอบในร้าน ทำให้ดูคูลขึึ้นอีกเยอะเลยละ จะนั่งคุยงาน ทานอาหาร ทำงาน ดื่มกาแฟก็ได้นะ
เค้กในตู้คือดีมากกกกกกกกก อยากยกกลับบ้านทั้งตู้เลยจ้า
เค้กทุกชิ้นมีเนื้อของผลไม้จริงๆ อย่างจานนี้คือเค้กมะพร้าวอ่อน คือเป็นเนื้อมะพร้าวอ่อนจริงๆ แล้วหอมมะพร้าวจริงๆ อร่อย ลงตัวไม่เลี่ยนอย่างที่คิด
ร้านสุดท้ายสำหรับค่ำคือนี้ เรามาจบกันที่ร้าน Shakariki 432 ที่ตกแต่งเหมือนยกโอซาก้ามาไว้ในไทยเลยอะ เหมาะกับนัดสังสรรค์กับเพื่อน ครอบครัว ได้หมด ชิลล์ๆ กับบรรยากาศ อาหารอร่อยและมีเบียร์หลายรสชาติให้ลิ้มลอง
ตะลุยกินกันทั้งวันจนอิ่มหนำ เราก็กลับห้องของเรากันเถิดดดด
หวังว่านี่จะทำให้เพื่อนๆ เข้าถึงบรรยากาศในความเป็นเจแปนสไตล์ ในกรุงเทพมากขึ้น บอกเลยว่านี่เป็นแค่เสี้ยวนึงเท่านั้น อยากอินแบบจัดเต็มต้องปักหมุดแล้วไปตามเก็บให้ได้ทุกที่นะ