ซูริค (Zurich) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นศูนย์รวมทุกสิ่งของประเทศ เป็นเมืองเก่าเต็มไปด้วยอาคารยุคกลางและพิพิธภัณฑ์ มีที่เที่ยวสุดว้าวให้ปักหมุดเยี่ยมชมมากมาย หากใครที่อยากไปเที่ยวซูริค (Zurich) ในตอนนี้ก็ไปจองคิวทำวีซ่ากันได้เลย เพราะซูริคเปิดรับนักท่องเที่ยวสัญชาติไทยแล้วเรียบร้อย โดยไม่จำเป็นต้องกักตัว (Quarantine-Free) เลย ถ้าหากฉีดวัคซีนมาแล้วแบบครบโดส อย่ารอช้าไปจองตั๋วเครื่องบินไปซูริคกันดีกว่า กับ Traveloka และไปเช็คมาตรการสนามบินได้ที่แบนเนอร์ด้านล่างเลย
พิพิธภัณฑ์ด้านศิลปะและประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟซูริค (Zurich Train Station) อาคารพิพิธภัณฑ์สร้างขึ้นในปี 1898 ด้วยสถาปัตยกรรมย้อนยุคแบบปราสาทฝรั่งเศสเรอเนชองส์ จัดแสดงผลงานศิลปะมากมายตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ไปจนถึงศตวรรษที่ 20 เช่น งานเซรามิค แฟชั่น สิ่งทอ และ ภาพถ่ายประวัติศาสตร์ ถูกใจนักเที่ยวสายศิลปะยิ่งนัก
หนึ่งในโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และเป็น 1 ใน 4 โบสถ์หลักของเมืองซูริค ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำลิมมัต (Limmat River) เป็นโบสถ์ใของนิกายโปรแตสแตนท์ ที่มีจุดเด่นอยู่ที่หอคอยคู่แฝด ซึ่งสร้างในปี 1100 ภายในงดงามด้วยบานประตูแกะสลักในศิลปะยุคกลาง และหน้าต่างประดับกระจกสีอันวิจิตร และยังมีประตูทองสัมฤทธิ์หรูหราที่ตั้งอยู่ทางฝั่งทิศเหนือและทิศใต้ บนหอคอยยังเป็นจุดชมวิวเมืองในมุมสูงอีกด้วย
สวนสัตว์ขนาดใหญ่ที่มีสัตว์มากมายกว่า 4000 ตัว หรือกว่า 350 สายพันธุ์ ที่นี่มีการจัดแสดงและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ต่างๆ ในระบบใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด ตั้งแต่สัตว์ที่อาศัยในเทือกเขาสูงเขตหนาว ไปจนถึงสัตว์ป่าเขตร้อนในแอฟริกา และยังมีโซน “สวนช้างแก่งกระจาน” ที่มีการสร้างสภาพแวดล้อมให้ใกล้เคียงเมืองไทย ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปเยี่ยมชมสัตว์นานาชนิดในทั่วทุกมุมโลกภายในวันเดียว
“ทะเลสาบซูริค” หนึ่งในที่เที่ยวซูริคที่เป็นไฮไลท์ ทะเลเลสาบแสนสวยแห่งนี้อยู่ทางตอนใต้ของเมืองซูริค มีระดับความสูงอยู่ที่ 406 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยมีความยาวจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองซูริคกว่า 40 กิโลเมตร กิจกรรมยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปซูริค คือ ล่องเรือชมความสวยงามรอบทะเลสาบ และยังมีปาร์ตี้บนเรือให้บริการในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อีกด้วย
พิพิธภัณฑ์ศิลปะแบบโมเดิร์นที่รวบรวมผลงานศิลปะตั้งแต่ยุคกลางไปจนถึงยุคศิลปะร่วมสมัย มีงานศิลปะกว่า 4,000 ภาพ และปฎิมากรรมกว่า 95,000 รายการ โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการผลงานที่ศิลปะจากศิลปินชื่อดังอย่าง “ปีแยร์ โอกุสต์ เรอนัวร์” (Pierre Auguste Renoir) “ปอล เซซาน” (Paul Cézanne) “แอนดี วอร์ฮอล” (Andy Warhol) และ “ปีแยร์ บอนาร์ด” (Pierre Bonnard) เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวแนะนำของซูริค ที่คนรักศิลปะต้องไปเยือน
พิพิธภัณฑ์สุดยิ่งใหญ่ที่จัดตั้งโดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟ่า” (FIFA) เป็นการรวบรวมเรื่องราวของแข่งขันฟุตบอลโลกตั้งแต่ในอดีตเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชม ผ่านข้อมูลทางด้านประวัติศาสตร์ หนังสือ วีดีโอ รูปภาพจากทั่วโลก อีกทั้งยังจัดแสดงข้อมูลของชาติสมาชิก 209 ชาติ นับเป็นแลนด์มาร์ค ที่มีเรื่องราวของวงการฟุตบอลอยู่ในที่เดียวมากที่สุดในโลก
“ซูริคโอเปราเฮาส์” ตั้งอยู่ที่จัตุรัสในย่านเมืองเก่าริมทะเลสาบซูริค เป็นโอเปราเฮาส์แห่งแรกของยุโรป สร้างเมื่อปี 1891 สไตล์ นีโอ-บาร็อก (neo-baroque) เป็นอาคารสไตล์นีโอบารอกที่สวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อุปรากรคณะแรกที่แสดงเป็นปฐมฤกษ์คือ “โลเอินกรีน ( Lohengrin) โดย “ริชาร์ด วากเนอร์” (Richard Wagner) โอเปราเฮาส์แห่งนี้มีการแสดงมากกว่า 270 การแสดงต่อฤดูกาลเลยทีเดียว
“ลินเดนฮอฟ” เป็นทั้งสวนสาธารณะและจุดชมวิว เพราะตั้งอยู่บนเนินเขาในย่านเมืองเก่า ชาวเมืองนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจ นักท่องเที่ยวนิยมมาชมวิวเมืองซูริค และแม่น้ำลิมมัท (Limmat River) ในมุมสูง ไม่ไกลกันยังเป็นที่ตั้งของ ป้อมปราการโรมันโบราณ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพระราชวังในช่วงศตวรรษที่ 9 ปัจจุบันเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ จุดนัดพบ และจุดชมวิวเมืองชั้นเยี่ยมจุดหนึ่ง
โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ หรือ หอนาฬิกาแห่งโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ ถือเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สุดในเมืองซูริค และเป็น 1 ใน 4 โบสถ์หลักของเมืองซูริค ตั้งอยู่ติดกับเนินเขาลินเดนฮอฟ (Lindenhof Hill) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามทั้งด้านนอกและด้านในตัวอาคาร ตกแต่งด้วยสไตล์บาโรกผสมโกธิค จุดเด่นสำคัญคือ หน้าปัดนาฬิกาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป
สวนพฤกษศาสตร์เก่าแก่แห่งนี้ ตั้งอยู่กลางคูเมือง Schanzenzengeraben ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยซูริก Zurich Systerm และอยู่ใกล้กับป้อมปราการ Bauschanzil ป้อมสไตล์บาโรกที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1642 จุดเด่นของสวนแห่งนี้คือ “ปาลม์เฮาส์ (Plam House) เรือนกระจกแปดเหลี่ยมที่ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ท โรงละคร และจัดแสดงนิทรรศการ
และยังเป็นที่เป็นตั้งของพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยา (Volkerkunde Museum) ของมหาวิทยาลัยซูริคอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมรถรางตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน โดยตั้งอยู่ในสถานีรถรางเก่าที่เขตบูร์กวีส์ (Burgwies) ที่นี่มีรถรางจำนวนมากให้คนรุ่นหลังได้ชมวิวัฒนาการของพาหนะสุดคลาสสิกชองประเทศสวิสเซอร์แลนด์ กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่คือการนั่งรถรางสายประวัติศาสตร์ เส้นทาง 21 ระหว่างเขตบูร์กวีส์ไปยังใจกลางเมืองซูริค โดยให้บริการทุก 2 วันของสุดสัปดาห์สุดท้ายของทุกเดือน
Credit: zuerich.com
อยากถ่ายรูปกับกำแพงที่มีกราฟฟิคตี้สวยๆ ปักหมุดไว้ที่ “Rote Fabrik” โรงงานเก่าที่อยู่ภายในย่าน Wollishofen ตั้งอยู่ในซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่แค่ที่เที่ยว หรือจุดถ่ายรูปแค่เพียงอย่างเดียว ทว่ายังเป็นสถานที่จัดงานดนตรีทั้งหลาย เวลาที่มีคอนเสิร์ต หรือโชว์ต่างๆ จนทำให้สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนเป็นศูนย์วัฒนธรรม โดย Rote Fabrik เป็นโรงงานเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 1892 ถือว่าเป็นอาคารที่มีความเก่าแก่มาก และถ้าหากใครที่เดินทางมาเที่ยวซูริค ก็สามารถแวะมาที่นี่ได้เลย
“บานโฮฟซตราเซอร์” เป็นถนนการค้าเก่าแก่ที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ตลอดสองข้างทางของถนนความยาว 1.4 กิโลเมตร เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าและร้านค้ามากมายตลอดสองฝั่ง โดยเฉพาะร้านแบรนด์เนมดังระดับโลกที่มารวมตัวกันอยู่บนถนนเส้นนี้จนขึ้นชื่อว่าเป็น “ถนนช็อปปิ้งที่แพงที่สุดในโลก” จุดเด่นคือเป็นแหล่งรวมนาฬิกาชั้นนำของโลก และยังมีร้านช็อกโกแลตชื่อดังอย่าง Sprung li ให้ซื้อเป็นของฝากอีกด้วย
น้ำตกไรน์ เป็นน้ำตกที่ไหลออกจากทะเลสาบคอนสตันซ์ (Lake Constance) ผ่านเมืองชัฟเฮาเซิน (Schaffhausen) เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ (Rhine River) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกกว้างที่สุดในทวีปยุโรปเท่านั้น แต่ยังรายล้อมด้วยทัศนียภาพอันงดงาม ใกล้ๆ กับตัวน้ำตกมีปราสาทยุคกลาง “ปราสาทเลาเฟิน” (Laufen) ใครอยากชมความงามของน้ำตกแบบใกล้ชิด ทีี่นี่มีบริการเรือข้ามฝากไปส่งที่เกาะชมวิวกลางน้ำด้วย
ย่านเมืองเก่าใจกลางเมืองซูริค เป็นเขตหมู่บ้านยุโรปโบราณยุคเมดิอิวัล (Medieval) ที่อนุรักษ์ไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 มีจุดเด่นที่ถนนหินกรวดที่คดเคี้ยว เป็นที่ตั้งของอาคารสมัยใหม่ที่ถูกออกแบบได้อย่างลงตัวกับอาคารบ้านเรือนแบบเก่าๆ เป็นที่ตั้งของคาเฟ่ ร้านค้า และหอศิลป์ อีกทั้งยังจึงเป็นจุดเริ่มต้นในการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ อย่างโรงละครโอเปรา สวนพฤกษศาสตร์ โบสถ์โปรเตสแตนท์ และเป็นจุดชมวิวแม่น้ำลิมมัต (Limmat River) อันสวยงาม
ซูริค หนึ่งในอันดับต้นๆ ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลก และหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางทั่วโลกใฝ่ฝันถึง โควิด 19 ซา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์เปิดเมื่อไร ไปเที่ยวกัน