ร้อยเอ็ดอาจเป็นเมืองรองเล็กๆ ของภาคอีสาน ที่ไม่ได้ขึ้นชื่อหรือโดดเด่นมากนักในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติเหมือนอีกหลายจังหวัดในละแวกนี้ แต่ความเด็ดของร้อยเอ็ดอยู่ตรงที่การมีพิกัดให้เที่ยวไปทำบุญไปกันได้ตลอดเส้นทางเลยจ้า หลายวัดน่าสนใจไม่แพ้ที่อื่นเลยด้วยน้า ถ้าสายบุญคนไหนอยากขอพรไหว้พระ ก็ลองมองหาตั๋วเครื่องบินราคาดีจาก Traveloka ได้เลยจ้า โปรเด็ดๆ เค้าเพียบเลยนะ คราวนี้จะได้ไปมูเตลูขอพรกันในราคาประหยัดสมใจแน่นอน

เป็นแลนด์มาร์คล่าสุดของเมืองร้อยเอ็ดที่เด็ดมาก กับการเป็นหอคอยชมเมืองความสูง 101 เมตร หรือเท่ากับตึก 35 ชั้น ตั้งอยู่ไม่ไกลกับบึงพลาญชัย สร้างโดยใช้รูปแบบของโหวดซึ่งเป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านประจำจังหวัดร้อยเอ็ดมาเป็นหน้าตาภายนอก ที่ชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและองค์พระพุทธรูปประจำเมืองนี้ ชั้นรองลงมายังมีร้านอาหาร หอชมเมือง พิพิธภัณฑ์ สกายวอล์ค และร้านขายของที่ระลึกน่าช้อปมากมาย แวะร้อยเอ็ดเมื่อไหร่ไปจัดเลย

นับเป็นองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ โดยบริเวณทั้งหมดมีเนื้อที่ 101 ไร่ สร้างในรูปแบบที่ใช้ศิลปะองค์พระปฐมเจดีย์ของภาคกลางกับองค์พระธาตุพนมของภาคอีสานมาผสมผสานกัน มีความกว้าง / ยาว / สูง อย่างละ 101 เมตร โดยภายหลังเพิ่มยอดฉัตรทองคำบริเวณยอดเจดีย์ทำให้มีความสูงรวม 109 เมตร ว่ากันว่าการมากราบนมัสการที่นี่ จะให้ผลในด้านหน้าที่การงานเป็นพิเศษเลยจ้า ถึงร้อยเอ็ดแล้วมาต้องมู!

นับเป็นวัดสวยอีกแห่งที่สายบุญไม่ควรพลาด แถมยังเหมาะกับคนที่อยากหาโอกาสไปชมบูโรพุทโธเมืองอินโดฯ ซักครั้ง แต่ยังไปไม่ได้ เพราะนี่คือเจดีย์หินทรายธรรมชาติแห่งแรกของประเทศไทยซึ่งสร้างโดยใช้บูโรพุทโธเป็นต้นแบบ ตัวเจดีย์มีทั้งหมด 7 ชั้น ซึ่งบริเวณกลางองค์เจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย บริเวณยอดเจดีย์เป็นทองคำน้ำหนักถึง 101 บาท เป็นอีกพิกัดที่มาเที่ยวก็ได้ มาไหว้พระก็เริ่ดเชียวละ

บึงใหญ่กลางเมืองร้อยเอ็ดที่มีลักษณะเป็นเกาะกลางน้ำ ที่ถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองร้อยเอ็ด และกลายมาเป็นแลนด์มาร์คที่ผู้คนนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจ ภายในเนื้อที่กว้างขวางถึงประมาณ 2 แสนตารางเมตรแห่งนี้ มีทั้งสวนไม้ดอกไม้ประดับขนาดใหญ่ รวมถึงยังมีจักรยานน้ำและกิจกรรมมากมายให้ได้เพลินกัน นอกจากนั้นยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้คนได้แวะไปกราบไหว้ขอพรกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นศาลหลักเมืองหรือองค์พระพุทธรูปปางลีลาขนาดใหญ่ เป็นพิกัดที่ไปพักผ่อนก็ได้ไปไหว้พระก็ดีเชียว!

มาร้อยเอ็ดทั้งที สายมูตัวจริงต้องไม่พลาดที่จะแวะไปกราบนมัสการองค์พระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุดในประเทศไทย หรือองค์หลวงพ่อใหญ่ซึ่งประดิษฐานอย่างโดดเด่นในวัดนี้ ด้วยความสูงรวมถึง 67 เมตร 85 เซนติเมตร ทำให้ที่นี่กลายเป็นพิกัดที่โดดเด่นมองเห็นได้จากอีกหลายมุมของตัวเมือง ที่ฐานองค์พระถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์และด้านในมีที่ประดิษฐานองค์พระบรมสารีริกธาตุที่ถูกอัญเชิญมาจากประเทศอินเดียให้แวะขอพรกันด้วยนะ เด็ดขนาดนี้ ไม่แวะมาก็เหมือนว่ายังไม่ถึงร้อยเอ็ดอย่างแท้จริง

มั่นใจว่าสายบุญตัวจริงทั้งหลาย ต้องไม่มีใครไม่รู้จักหลวงตามหาบัวแห่งวัดป่าบ้านตาด และเจดีย์นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่หลวงตามหาบัว เพื่อใช้เป็นสถานที่เผยแพร่ธรรมะและใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ตัวเจดีย์แบ่งออกเป็น 4 ชั้น ทำหน้าที่คล้ายพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม รวบรวมเรื่องราวของเพลงพื้นบ้านอีสาน หนังสือธรรมะ และรูปเหมือนของเกจิอาจารย์ชื่อดังมากมาย นับเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งที่ต้องแวะไปไหว้เมื่อไปถึงเมืองนี้เลยทีเดียว

ความ unseen ของน้ำตกถ้ำโสดา คือการเป็นน้ำตกที่ไม่ได้มีไว้เพื่อให้เราได้แวะมาชมความสวยหรือลงเล่นน้ำเหมือนน้ำตกทั่วไปเท่านั้น แต่ยังมีความอัศจรรย์ของเจดีย์หินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ นอกจากนั้นยังเป็นน้ำตกที่เราสามารถเดินชมได้ทั้งจากด้านหน้าและด้านในน้ำตกด้วยจ้า เพราะด้านหลังน้ำตกจะมีชะง่อนหินผาลักษณะคล้ายถ้ำให้เดินเข้าไปได้ ภายในยังเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปศากยมุนีโคดมให้คนไปเที่ยวได้แวะกราบกันอีกด้วยนะ ได้ชมน้ำตกสวยๆ แถมยังได้ไหว้พระในที่เดียวกัน มันเริ่ดจะตาย!

ปรางค์กู่หรือปราสาทหนองกู่ ในอำเภอธวัชบุรี ของจังหวัดนี้นั้น เป็นโบราณสถานในสไตล์ขอม ซึ่งเชื่อกันว่าเคยทำหน้าที่เป็นอโรคยาศาลและเป็นศาสนสถาน โดยสันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซึ่งเป็นผู้บูรณะนครธมอันยิ่งใหญ่ และสร้างปราสาทบายนอันแสนจะน่าอัศจรรย์ในประเทศกัมพูชา แม้ในปัจจุบันปรางค์กู่จะทรุดโทรมลงไปตามเวลา แต่ก็ยังมีโบราณวัตถุอีกหลายชิ้นจัดแสดงให้ชมกัน โดยบางส่วนนั้นถูกนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ร้อยเอ็ดแล้วจ้า ด้านในมีองค์พระให้แวะกราบขอพรกันได้ด้วยนะ รับรองว่ายังไม่หลุดคอนเซ็ปท์เที่ยวแบบฉบับสายมูแน่นอน

สำหรับสายบุญหรือสายมูที่มีความสุขกับการได้เดินดูดีเทลแปลกตาในวัดที่ไป บอกเลยว่าพลาดวัดนี้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงเลยจ้า เพราะด้านในตัววัดแห่งนี้เต็มไปด้วยประติมากรรมปูนปั้นหลากหลายหน้าตา ทั้งที่มาจากพุทธประวัติ วรรณคดีไทย หรือจำลองแบบมาจากวัฒนธรรมและประเพณีในท้องถิ่น นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีชื่อเรียกว่าวัดหม้อดินด้วยนะ เพราะหลายมุมของวัดมีการนำหม้อดินซึ่งเป็นสินค้าของชาวบ้านมาประดับตกแต่งไว้มากมาย ได้ไหว้พระท่ามกลางบรรยากาศแปลกตา รับรองว่าเพลินชัวร์

พักการไหว้พระไว้ประเดี๋ยว เพราะอยากชวนไปเดินเที่ยวชิม ช้อป ชม ในถนนคนเดินประจำเมืองร้อยเอ็ดเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง ถนนคนเดินแห่งนี้อยู่ข้างไฮเปอร์มาร์ท ถนนคชพลายุกต์ ในตัวเมืองร้อยเอ็ดเลยจ้า ทีเด็ดของถนนคนเดินแห่งนี้ก็คงหนีไม่พ้นอาหารคาวหวานรสแซ่บประจำถิ่นที่มีให้กินกันแบบจุกๆ ไปเลยนะ นอกจากนั้นยังมีเสื้อผ้า ของใช้ และของที่ระลึกน่าสนใจอีกเพียบจ้า แวะมารับความชิลล์กันได้เลย

แวะมาเอาใจสายประวัติศาสตร์กันบ้างดีกว่า กับอีกพิกัดที่น่าสนใจอย่างกู่กาสิงห์ ซึ่งเป็นโบราณสถานในรูปแบบศิลปะเขมรในพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ และยังเรียกได้ว่าค่อนข้างสมบูรณ์มากด้วยจ้ะ ด้านในมีปรางค์ 3 องค์ซึ่งตั้งอยู่บนฐานศิลาแลง มีบรรณาลัยอยู่สองข้างด้านหน้า รายล้อมด้วยซุ้มประตูสี่ทิศและคูน้ำรูปเกือกม้า หลายมุมยังมีลวดลายแกะสลักบนหินสวยๆ ให้ชมกันด้วยนะ เชื่อว่าสายประวัติศาสตร์น่าจะถูกใจเชียว

วัดเก่าแก่กลางเมืองร้อยเอ็ด ซึ่งเก่าไม่เก่าก็สันนิษฐานว่าสร้างตั้งแต่ก่อนจะเกิดเมืองนี้ด้วยซ้ำ ว่ากันว่าในยุคอดีต วัดนี้เคยถูกใช้เป็นที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาด้วยนะ ส่วนภายในวัดมีพระอุโบสถซึ่งสร้างตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย มีลวดลายจิตรกรรมพุทธประวัติที่งดงาม ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมิ่งเมือง ซึ่งเป็นองค์พระประธานในอุโบสถ และยังมีอาคารเก่าแก่ต่างๆ อีกมากมาย แวะไปเช็คอินกันได้เลยเด้อ

เป็นอีกหนึ่งโบราณสถานในรูปแบบสถาปัตยกรรมเขมรโบราณของเมืองร้อยเอ็ดที่น่าสนใจ กู่พระโกนานั้นมีขนาดไม่ใหญ่มาก ประกอบด้วยปรางค์อิฐ 3 องค์เรียงจากทิศเหนือไปใต้ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีกำแพงและซุ้มประตูเข้า - ออก มีซุ้มพระทั้ง 4 ทิศ สันนิษฐานกันว่าที่นี่อาจจะถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 กันเลยนะ ถึงไม่ใหญ่แต่มีดีเทลเล็กๆ หลายจุดให้เดินดูกันด้วยจ้า คนรักประวัติศาสตร์และโบราณสถานต้องมาแล้วละ เอาจริง

ว่ากันว่านี่คือวัดที่น่าจะเก่าแก่ที่สุดของจังหวัดร้อยเอ็ดเลยนะ เพราะมีการค้นเจอหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชุมชนโบราณอายุกว่า 1,000 ปีกันในแถบนี้ด้วยจ้า วัดนี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ตอนที่จังหวัดร้อยเอ็ดยังเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อว่าบ้านกุ่มฮ้างโน่นเลยละ ด้านในวัดเหนือมีองค์พระพุทธชยันตีมหามุนีบพิธ ซึ่งเป็นองค์พระประจำวัดเหนือที่มีขนาดใหญ่โตโดดเด่นเห็นมาแต่ไกล แถมด้านในวัดยังมีโบราณสถานและโบราณวัตถุอีกมากมายให้ได้แวะชมแวะกราบกันได้ด้วยจ้า มาร้อยเอ็ดต้องปักหมุดที่นี่นะ ไม่งั้นจะเสียชื่อความเป็นสายมูไม่รู้ด้วย!

ชีหัวโนนนั้นได้ชื่อว่าเป็นทะเลเมืองร้อยเอ็ดเลยนะ เพราะที่นี่มักถูกใช้เป็นพิกัดพักผ่อนหย่อนใจของผู้คนในละแวกนี้ ความชิลล์คือการมีแพลอยน้ำแยกเป็นหลังเดี่ยวให้เราได้นั่งเที่ยวนั่งพักกันแบบเป็นส่วนตัวเลยจ้า แถมยังมีร้านอาหาร ห้องน้ำ ร้านเช่าห่วงยางและอุปกรณ์เล่นน้ำให้บริการอยู่นะ มาร้อยเอ็ดแล้วอยากพักผ่อนเสพบรรยากาศสบายๆ เล่นน้ำคลายร้อนกัน ต้องมามันที่ชีหัวโนนนี่ละ

และนี่คือ 15 พิกัดเมืองร้อยเอ็ดที่น่าสนใจ และเชื่อว่าสายบุญหรือสายมูที่ชอบไหว้พระต้องแฮปปี้ ถ้าคุณชอบเที่ยวไปทำบุญไปในพิกัดที่สบายๆ ไม่แออัดเกินไปนัก ปักหมุดเมืองร้อยเอ็ดกันเอาไว้ได้เลยจ้า รับรองว่ามาที่นี่ได้ไหว้พระกันแบบจุใจ แถมยังเที่ยวได้แบบไม่ต้องเบียดเสียดกับผู้คนมากมายด้วยน้า อาหารท้องถิ่นร้อยเอ็ดก็เด็ดมากจ้า มาแล้วเชื่อว่าแฮปปี้แน่นอน