ปัตตานี ดินแดนแห่งอารยธรรมที่ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศไทย อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย ผสมผสานระหว่างไทย จีน และมลายู โดยหากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบครัน ที่เที่ยวปัตตานีคือ ตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เตรียมจองตั๋วเครื่องบินไปปัตตานีกับแอป Traveloka กันเลยดีกว่า!
ปัตตานี เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 600 ปี โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ทั้งวัดวาอาราม ศาลหลักเมือง และพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งธรรมชาติที่สวยงาม ภายในอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมทางธรรมชาติมากมายในที่เที่ยวปัตตานี เพราะฉะนั้นมาดูกันดีกว่าว่า ถ้าจะจัดทริปเที่ยวปัตตานีสักครั้งในชีวิต มีที่ไหนบ้างที่ไม่ควรพลาด?
ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หรือศาลเจ้าเล่งจูเกียง ตั้งอยู่ที่เชิงสะพานเดชานุชิต เป็นศาลเจ้าเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองตั้งแต่โบราณ โดยเป็นที่เคารพของชาวไทยเชื้อสายจีน ภายในศาลเจ้าประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เทพธิดาแห่งโชคลาภและเมตตากรุณา ซึ่งมีความเชื่อว่าหากมาสักการะ ก็จะได้รับพรให้ประสบความสำเร็จ
มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีเป็นศาสนสถานสำคัญของชาวมุสลิมภาคใต้ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นทัชมาฮาลเมืองไทย เนื่องจากมีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะอิสลามแบบอินเดีย และตะวันตก จึงมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเยี่ยมชมที่เที่ยวปัตตานีแห่งนี้ โดยเฉพาะช่วงเช้าตรู่และยามเย็น ซึ่งมีแสงแดดกระทบกับตัวมัสยิดและสระน้ำ เกิดเป็นภาพสะท้อนที่สวยงาม
สกายวอล์คปัตตานี เป็นส่วนหนึ่งของสวมสมเด็จเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวปัตตานีที่มีจุดชมวิวรวมจำนวนกว่า 5 จุด โดยนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวแบบพานอรามา ตั้งแต่แหลมตาชี เขาทรายขาว ป่าชายเลน และปากอ่าวปัตตานี ซึ่งสกายวอล์คจัดสร้างจากตาข่ายเหล็ก และมีความสูงถึง 12 เมตร
แหลมตาชี (แหลมโพธิ์) เป็นสันทรายที่ยื่นออกไปในทะเล ทำให้เกิดอ่าวปัตตานีขึ้นมา โดยยาวประมาณ 16 กิโลเมตร ซึ่งปลายแหลมจะงอกเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้แต่ละปีมีรูปร่างที่แตกต่างกัน ปัจจุบันบริเวณรอบ ๆ แหลมมีชุมชนอาศัยอยู่มากมาย และเป็นที่เที่ยวปัตตานีที่มีทั้งรีสอร์ท และบ้านพักตากอากาศให้บริการ
เมืองเก่าปัตตานี หรือชุมชนกือดาจีนอ มีพื้นที่ครอบคลุมถนนอาเนาะรู ถนนปัตตานีภิรมย์ และถนนฤาดี โดยมีความโดดเด่น ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม ชุมชนนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทยพุทธ ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยเชื้อสายจีน เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการเดินเที่ยวถ่ายรูปสไตล์สตรีท หรือวินเทจย้อนยุค
เป็นที่เที่ยวปัตตานีสำหรับคนที่รักธรรมชาติ ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว โดยเป็นน้ำตกที่สูงถึงประมาณ 40 เมตร ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชัน ผ่านลำธารลดหลั่นเป็นชั้น ๆ ก่อนลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ด้านล่าง และเกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามตระการตา มีสภาพแวดล้อมโดยรอบที่ร่มรื่นไปด้วยป่าไม้
เป็นเกาะที่เล็กที่สุดในประเทศไทย แต่กลับมีความงดงามของธรรมชาติที่สมบูรณ์อย่างมาก มีทั้งแนวปะการังและสัตว์ทะเลมากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางของนักดำน้ำจากทั่วโลก เพราะมีความหลากหลายของปะการังและปลาทะเล รวมทั้งเป็นจุดเช็กอินที่เที่ยวปัตตานีที่มีความสำคัญใต้ทะเล จากการเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติอีกด้วย
ใครที่ไปเที่ยวปัตตานีด้วยตัวเอง แบบเป็นคู่หรือเป็นแก๊ง ขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่มีไฮไลต์อย่างอุโมงค์โกงกาง ซึ่งเป็นต้นโกงกางสูงใหญ่ เรียงรายอยู่สองฟากฝั่งป่า และโค้งลงมาเหนือน้ำ พร้อมกิจกรรมสนุก ๆ กับชุมชน เช่น การหาหอยลอแก ซึ่งสามารถนำไปทำอาหารแบบสด ๆ ทานกันได้เลย
อีกหนึ่งจุดชมวิวปัตตานี เป็นที่รู้จักกันดีว่า เป็นหาดทรายขาวเนียนละเอียด ทอดยาวขนานไปกับชายฝั่งทะเล ซึ่งมักจะมีเรือกอของกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านจอดเรียงรายอยู่อย่างสวยงาม จึงเป็นชายหาดที่สวยงาม โรแมนติก และเป็นสถานที่เดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยม ของชาวจังหวัดปัตตานี และจังหวัดใกล้เคียง
มัสยิดกรือเซะ (มัสยิดสุลต่านมูซัฟฟาร์ชาห์) มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี โดยมีลักษณะเด่นคือ การผสมสถาปัตยกรรมจากหลายวัฒนธรรม ทั้งเสาที่คล้ายแบบเสาโกธิกของยุโรป และความโค้งมนในส่วนฐานที่มีความคล้ายกับอิฐในสมัยทวารวดี โดยมัสยิดกรือเซะเป็นที่เที่ยวปัตตานีที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อปี พ.ศ. 2478
วัดช้างให้ หรือวัดราษฎร์บูรณาราม เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี ภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองคือ รูปหล่อองค์หลวงปู่ทวด ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ นอกจากนี้ วัดช้างให้ยังมีชื่อเสียงด้านพุทธคุณแคล้วคลาด และเมตตามหานิยม ทำให้มีผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมาสักการะบูชาอย่างมากมาย
ศาลหลักเมืองปัตตานี ตั้งอยู่ในบริเวณของสนามศักดิ์เสนีย์ ริมฝั่งแม่น้ำปัตตานี โดยปัจจุบันศาลหลักเมืองแห่งนี้เป็นทั้งที่เที่ยวปัตตานี ซึ่งมีนักท่องเที่ยวที่แวะมาเที่ยวอย่างล้นหลาม และยังเป็นสถานที่เคารพสักการะของชาวเมืองในจังหวัด โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้คนจะนิยมเดินทางมาสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคล และขอพรในเรื่องต่าง ๆ
แหล่งอารยธรรมทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ของภาคใต้ โดยเป็นเมืองที่มีการสร้างทับซ้อนกันถึง 3 เมือง แต่ละเมืองก็มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันไป โดยมีการค้นพบโบราณวัตถุมากมาย อาทิ พระพิมพ์ดินเผา สถูปจำลองดินดิบ และเศษภาชนะดินเผา จึงเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยม
หาดแฆแฆ ตั้งอยู่บนอ่าวเล็ก ๆ ริมชายฝั่งทะเลปัตตานี มีลักษณะโดดเด่นคือ เป็นหาดทรายละเอียด และโขดหินแกรนิตขนาดใหญ่ โดยมีบรรยากาศที่เงียบสงบ มีธรรมชาติร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ทำให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านนิยมเดินทางมาชมวิว และเดินเล่นบนหาดทรายนุ่ม ๆ ของที่เที่ยวปัตตานีแห่งนี้
เป็นจุดเช็กอินปัตตานีที่เต็มไปด้วยหมู่บ้านชาวประมง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่บนหาดมีเรือกอ และเรือประมงมากมายจอดเรียงรายอยู่ ซึ่งแสดงถึงวิถีชีวิตที่มีความเป็นเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม หาดนี้อาจไม่เหมาะสำหรับกิจกรรมการเล่นน้ำ แต่ก็ยังสามารถล่องเรือชมวิว และลิ้มรสอาหารทะเลสด ๆ ริมชายหาดได้แบบสบาย ๆ
ที่เที่ยวปัตตานี และเป็นพื้นที่เปิดกว้างสำหรับศิลปินทุกแขนงแห่งใหม่ ซึ่งจะทำให้ศิลปินได้นำเสนอผลงานสู่สายตาคนทั่วไป โดยที่นี่มีห้องจัดแสดงนิทรรศการ รวมถึงห้องประชุมและเสวนา สำหรับจัดกิจกรรมทางศิลปะและวัฒนธรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีร้านกาแฟและร้านอาหารให้บริการอีกด้วย จึงเหมาะสำหรับการพักผ่อนและเพลิดเพลินกับผลงานศิลปะ
ตั้งอยู่บริเวณใจกลางตัวเมืองปัตตานี โดยเป็นแหล่งรวมของอาหารท้องถิ่น และสินค้าพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด พร้อมบริการที่จอดรถสะดวกสบาย อาหารมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ขนมหวานคาว ปลาแห้ง เครื่องเทศ อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ชากาแฟ โรตี มะตะบะ ขนมปัง ร้านขายชำเบ็ดเตล็ดทั่วไป และพืชผักผลไม้ตามฤดูกาล
ที่เที่ยวปัตตานี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงผจญภัยแห่งใหม่ ให้บริการกิจกรรมมากมาย สำหรับผู้ชื่นชอบความท้าทาย โดยเฉพาะการขี่รถ ATV สุดมันส์ ความยาว 2 กิโลเมตร, การโหนสลิง ชมวิวธรรมชาติจากมุมสูง, การปั่นจักรยานปั่นน้ำ, การพายเรือคายัค และการปั่นเรือถีบ พร้อมมีบริการที่พักไว้รองรับนักท่องเที่ยว
เป็นศาสนสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของชาวพุทธในพื้นที่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ชาวพุทธและชาวมุสลิมสามารถมาพบปะกันได้อย่างอิสระ แบบไม่แบ่งแยกเชื้อชาติหรือศาสนา โดยมีหลวงพ่อทวดรุ่น ๕ แชะ หลวงพ่อแดง เป็นพระเครื่องที่ทำให้คนรู้จักวัดศรีมหาโพธิ์ และทำให้คนเดินทางมาสักการะไม่ขาดสาย
อีกหนึ่งแหล่งการเรียนรู้และสัมผัสประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชายแดนใต้อย่างครบครัน ภายในหอศิลป์แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนนิทรรศการถาวร นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสามจังหวัดชายแดนใต้ และส่วนนิทรรศการหมุนเวียน นำเสนอผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินท้องถิ่น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวปัตตานีที่เหมาะสำหรับคนที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ รวมทั้งวัฒนธรรมของสามจังหวัดชายแดนใต้
ทุกวันนี้ การท่องเที่ยวเมืองหลักอาจได้รับความนิยมลดลง เพราะคนเริ่มเบื่อสถานที่ท่องเที่ยวเดิม และอยากหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ทำให้เทรนด์เที่ยวเมืองรองเริ่มได้รับความนิยม โดยหนึ่งในจุดหมายเมืองรองที่น่าสนใจคือ ปัตตานี ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เรียกได้ว่า ใครมองหาที่เที่ยวใหม่ ห่างไกลจากความวุ่นวาย ปัตตานีก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ
ปัตตานี เป็นจังหวัดทางภาคใต้ของไทย ตั้งอยู่ในบริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 1,055 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 1,940 ตารางกิโลเมตร ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายมลายู โดยปัตตานีมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยเคยเป็นเมืองหลวงของรัฐสุลต่านปาตานีในอดีต จึงมีการผสมผสานทางวัฒนธรรมระหว่างไทยและมลายูอย่างเห็นได้ชัด
การเดินทางไปปัตตานีทำได้หลายวิธี แต่ที่รวดเร็วที่สุดคือ เครื่องบิน ซึ่งมีสายการบินให้บริการจากกรุงเทพฯ ทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ สู่ท่าอากาศยานนราธิวาส ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 35 นาที และนั่งรถต่อไปปัตตานี 1 ชั่วโมง โดยสามารถจองตั๋วเครื่องบินได้ที่แอปพลิเคชัน Traveloka ซึ่งรวบรวมสายการบินต่าง ๆ เช่น Thai Airways และ AirAsia
วิธีที่สะดวกที่สุดสำหรับการเดินทางระหว่างที่เที่ยวปัตตานีในจุดต่าง ๆ คือ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถขับเที่ยวได้ด้วยตัวเอง หรือใช้บริการรถเช่าที่มีให้บริการในปัตตานี นอกจากนี้ ยังมีรถโดยสารประจำทางให้บริการในเส้นทางต่าง ๆ ภายในจังหวัด ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถโดยสารได้ที่สถานีขนส่งจังหวัด
ปัตตานีมีสภาพอากาศร้อนชื้น อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27 องศาเซลเซียส แบ่งเป็น 2 ฤดูหลัก คือ
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวสามารถไปยังที่เที่ยวปัตตานีได้ตลอดทั้งปี โดยเลือกสถานที่ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในแต่ละฤดูกาล