เซินเจิ้น หรือ Shenzhen เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสัน ที่มาจากทั้งความทันสมัย ธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะสำหรับคนที่สนใจในธุรกิจ เทคโนโลยี และวัฒนธรรม เตรียมพร้อมสำหรับการสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เซินเจิ้นได้อย่างเต็มที่ ด้วยโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินไปเซินเจิ้นจากแอป Traveloka ตั๋วเครื่องบินราคาถูกจากหลากหลายสายการบิน และฟีเจอร์ดี ๆ อีกเพียบที่จะช่วยให้การจองตั๋วเครื่องบินของคุณง่ายขึ้นไปอีกระดับ
เซินเจิ้น เป็นเมืองที่มีความทันสมัยและเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก จากการพัฒนาอย่างรวดเร็วในระยะเวลาแค่เพียงประมาณ 40 กว่าปี ปัจจุบันเซินเจิ้นได้กลายเป็นหนึ่งในเมืองที่มีบทบาทสำคัญในระดับเอเชีย และเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากเที่ยวโลก โดยโปรแกรมเที่ยวเซินเจิ้นที่น่าสนใจ และไม่ควรพลาด มีดังนี้
เป็นที่เที่ยวเซินเจิ้นที่เป็นรีสอร์ทเชิงนิเวศขนาดใหญ่ ภายในประกอบด้วยที่พัก ร้านค้า แกลเลอรี ทุ่งชา สวนสัตว์ และโครงการสวนสนุกทางน้ำ ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ทำมากมาย ทั้งการล่องแก่ง จุดชมวิวกระจกบริเวณหน้าผา การเดินเล่นในสวนดอกไม้ เป็นต้น
หมู่บ้าน Hakka เป็นรูปแบบการอยู่อาศัยที่พบเห็นทั่วไปในอดีต โดยลักษณะของหมู่บ้านจะสร้างขึ้นด้วยกำแพงดินขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันตนเองจากศัตรู แม้ปัจจุบันอาคารแบบ Hakka หลายแห่งจะถูกทิ้งร้าง หรือรื้อถอนไปเพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง แต่ยังมีที่เที่ยวเซินเจิ้นที่คุณสามารถเดินทางไปเยี่ยมชม เพื่อสัมผัสกับอาคารแบบดั้งเดิมได้
สวนพฤกษศาสตร์ที่ตั้งอยู่ข้างอ่างเก็บน้ำ เป็นที่อยู่ของพืชมากกว่า 8,000 สายพันธุ์ โดยสวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และพฤกษศาสตร์ และยังเป็นที่เที่ยวเซินเจิ้นที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมด้วย ภายในพื้นที่มีสวนในธีมต่าง ๆ ที่จัดแสดง เช่น ไม้ไผ่ แมกโนเลีย ต้นไม้หายาก และอื่น ๆ
Window of the World เป็นแลนด์มาร์กเซินเจิ้นที่จำลองสถานที่สำคัญของโลกกว่า 130 แห่ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่จากในยุโรป เช่น รัฐสภาในลอนดอน หอไอเฟล และโคลอสเซียม เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการแสดงเลเซอร์และแสงสีที่น่าประทับใจ จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเด็ก ๆ และครอบครัว ไม่ว่าจะไปเที่ยวเซินเจิ้น เดือนไหนก็ตาม
Da Fen เป็นแหล่งรวมงานศิลปะเก่าแก่ตั้งแต่ช่วงปี 1980 โดยในอดีต Da Fen ถือเป็นแหล่งผลิตภาพวาดสีน้ำมันแหล่งใหญ่ของโลกคิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของภาพวาดสีน้ำมันทั้งหมด แม้ว่าคุณจะไม่ได้ไปเที่ยวเซินเจิ้น เพื่อที่จะหาซื้องานศิลปะสักชิ้น แต่ก็ถือเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่น่าทึ่งอยู่ไม่น้อย
เซินเจิ้นเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดของจีน และสนามกอล์ฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก นั่นคือ สนามกอล์ฟ Mission Hills ซึ่งมี 216 หลุม จากทั้งหมด 12 สนามในระดับแชมเปียนชิป โดยได้รับการออกแบบโดยนักกอล์ฟแชมป์โลก นอกจากนี้ ยังมีสนามเทนนิสที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โรงแรม อพาร์ตเมนต์ สวนสาธารณะ และศูนย์การค้าอยู่ภายในบริเวณโครงการ
ถ้าคุณไปเที่ยว Window of the World แล้วประทับใจ คุณไม่ควรพลาดการไปเยี่ยมชม Splendid China Folk Village ด้วยประการทั้งปวง โดยสถานที่เที่ยวเซินเจิ้นแห่งนี้จะเน้นไปที่ประวัติศาสตร์ ศิลปะ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมของจีนตั้งแต่สมัยโบราณ มีการจำลองสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของประเทศ เช่น กำแพงเมืองจีน และนักรบดินเผา (Terracotta Warriors)
ห้างสรรพสินค้า Luohu มีร้านค้ามากกว่า 700 ร้าน กระจายอยู่ทั่วทั้ง 5 ชั้น โดยเป็นที่นิยมของชาวฮ่องกงและนักท่องเที่ยวเซินเจิ้นในการมาเลือกซื้อสินค้าหลากหลายประเภทในราคาประหยัด เช่น นาฬิกา กระเป๋าถือ เสื้อผ้า รองเท้า ของฝากจากเซินเจิ้น ผ้าม่าน ดีวีดี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีร้านนวดราคาถูกให้บริการอีกด้วย
เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเซินเจิ้น มีความสูง 943 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่าตามเส้นทางที่สวยงาม หรือใช้บันไดสำหรับการเดินป่า ซึ่งมีระยะทางค่อนข้างชัน รวมขาไปและกลับประมาณ 10 กิโลเมตร โดยเส้นทางส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่หมู่บ้าน Wutong ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ด้านบนสามารถรับชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเซินเจิ้น
เซินเจิ้นอาจดูเหมือนเป็นเมืองร่วมสมัย แต่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้คุณจะสัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนานนับศตวรรษ โดยจะมีการจัดแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติและความเป็นมา เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าใจลำดับเหตุการณ์ ซึ่งนำมาสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยุคต่าง ๆ ของเซินเจิ้น ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงสมัยใหม่
Diwang Mansion เป็นอาคารที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของเซินเจิ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองมุมสูงได้ โดยที่นี่คุณสามารถมองเห็นได้แบบพาโนรามา จนถึงชายแดนเซินเจิ้น-ฮ่องกง โดยบนชั้น 69 ของอาคารจะมีกล้องโทรทรรศน์ที่สามารถใช้ส่อง เพื่อดูรายละเอียดของจุดต่าง ๆ ในเมืองได้มากขึ้น
เป็นแหล่งรวมการช็อปปิ้งแบบจีนโบราณที่บรรยากาศค่อนข้างพลุกพล่าน โดยมีห้างสรรพสินค้า และแผงลอยในตลาดเรียงราย อยู่บนถนนที่คดเคี้ยว โดยที่เที่ยวเซินเจิ้นแห่งนี้ คุณจะได้พบกับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายเสื้อ อาหาร กระเป๋าถือ รองเท้า ชุดชั้นใน และอื่น ๆ เตรียมต่อรองราคาที่แผงขายของในตลาด เพื่อรับส่วนลดมากมายได้เลย
เป็นเส้นทางปีนเขาอีกหนึ่งแห่งของเซินเจิ้นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เพราะเป็นเส้นทางเดินป่าที่รวดเร็ว เดินง่าย และเข้าถึงได้ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ประกอบไปด้วยบันไดประมาณ 700 ขั้น โดยคุณสามารถนั่งพักผ่อนบนม้านั่งที่มีให้บริการตลอดเส้นทาง และด้านบนสุดจะได้พบกับเป็นทิวทัศน์อันงดงามของเขตหนานซาน
แหล่งรวมความบันเทิงหลากหลายสไตล์ของเซินเจิ้น โดยมีเรือจอดตั้งอยู่เป็นแลนด์มาร์คบริเวณกลางพื้นที่ ล้อมรอบด้วยน้ำ จึงเป็นที่มาของชื่อ Sea World นั่นเอง โดยในตอนกลางคืน นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับน้ำพุ ดนตรี รวมทั้งอาหารรสเลิศจากทั่วโลก และยังสามารถเดินลงไปที่ท่าเรือ เพื่อชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้ด้วย
Nantou เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,700 ปี แม้ว่าจะมีอาคารสมัยใหม่ แต่สถานที่เที่ยวเซินเจิ้นแห่งนี้ก็ยังคงรักษาประวัติศาสตร์ไว้ โดยมีกำแพงเมืองดั้งเดิมที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ร้านค้าเก่าแก่ที่ขายสมุนไพรของจีนแบบดั้งเดิม และของใช้ในครัวเรือนที่ซ่อนตัวอยู่ในอาคารบางแห่งบนถนนโบราณเหล่านี้
วัด Tianhou สร้างขึ้นเพื่อแสดงความขอบคุณต่อเทพีแห่งมหาสมุทร ที่ช่วยชีวิตของ Zheng He นักสำรวจชาวจีนไว้ หลังจากที่เผชิญกับพายุกลางทะเล โดยวัดนี้มีการปรับปรุงใหม่อยู่หลายครั้ง แต่ก็เป็นการพัฒนาขึ้นตามแบบของวัดจีนดั้งเดิม มีพิพิธภัณฑ์ให้เยี่ยมชม และอาจเห็นคนท้องถิ่นในเซินเจิ้นมาสวดมนต์ในที่แห่งนี้
ป้อมปราการ Dapeng อยู่ห่างจากตัวเมืองเซินเจิ้นโดยนั่งรถประมาณหนึ่งชั่วโมง เป็นเมืองสมัยราชวงศ์หมิง มีกำแพงล้อมรอบ ปัจจุบันยังมีผู้คนอาศัยอยู่ในเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้แห่งนี้ โดยนักท่องเที่ยวสามารถไปเดินเล่น ซื้อของ รับประทานอาหาร หรือพักค้างคืนในเกสต์เฮาส์ในหมู่บ้านที่มีเสน่ห์แบบโบราณ
ในอดีต ที่เที่ยวเซินเจิ้นแห่งนี้เคยเป็นโรงงานและสถานที่ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ โดยปัจจุบันได้มีการพัฒนาพื้นที่ให้มีความทันสมัย จนหลายคนเรียกว่าเป็นเมืองหลวงแห่งศิลปะ และการสร้างสรรค์ของจีน ซึ่งมีทั้งหอศิลป์ ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ ร้านสินค้าแฟชั่น และตลาดที่จำหน่ายสินค้าจากความคิดสร้างสรรค์ในช่วงสุดสัปดาห์
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองเซินเจิ้น ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวท่ามกลางเมืองคอนกรีตที่แผ่กิ่งก้านสาขา โดยมีเนินเขาอยู่ตรงกลางสวน ซึ่งที่นี่คุณจะได้พบกับทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของเมือง จึงเป็นสถานที่ที่ครอบครัวนิยมมานั่งปิกนิกและเล่นว่าว นอกจากนี้ ยังมีทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สามารถเช่าเรือพายได้ด้วย
มีสัตว์ป่ามากกว่า 300 ชนิด และเกือบ 10,000 ตัว ในสวนสัตว์เซินเจิ้น ซึ่งเป็นสัตว์ที่มาจากทุกทวีปของโลก โดยเฉพาะนกและสัตว์หายากต่าง ๆ เช่น แพนด้ายักษ์ เสือโคร่งไซบีเรีย นกฟลามิงโก และยีราฟ เป็นต้น โดยในทุกวันจะมีการจัดแสดงสัตว์ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้ารับชมได้
การเดินทางไปเซินเจิ้น ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ปี 2567 เป็นต้นไป คนไทยสามารถเดินทางไปเซินเจิ้นได้เลยโดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า เพียงเตรียมพาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบิน และจองที่พักให้พร้อม โดยนักท่องเที่ยวไทยสามารถเที่ยวเซินเจิ้นและอยู่ในจีนได้ไม่เกินครั้งละ 30 วัน และภายในระยะเวลา 180 วันจะอยู่ได้รวมกันไม่เกิน 90 วัน
เซินเจิ้น ถูกก่อตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรกของประเทศในปี 2523 และพัฒนาอย่างรวดเร็ว จากเมืองเล็กที่มีประชากรเพียง 30,000 คน กลายเป็นมหานครเซินเจิ้นที่เจริญรุ่งเรือง และมีประชากรกว่า 10 ล้านคน
เซินเจิ้นเป็นที่รู้จักในฐานะโรงงานของโลก และเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี โดยเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัทเทคโนโลยีมากมาย เช่น Huawei, Tencent, DJI
เซินเจิ้น เป็นเมืองที่อยู่บริเวณริมชายฝั่งชายแดน มีพื้นที่ 2,020 ตารางกิโลเมตร และมีแม่น้ำมากมายกว่า 310 แห่ง โดยอยู่ตรงข้ามกับเกาะฮ่องกง สามารถแบ่งพื้นที่ออกได้เป็น 3 ส่วน คือ เขตเมือง เขตมณฑล และเขตเศรษฐกิจพิเศษ ปัจจุบันเซินเจิ้นมีสถานะเป็นเมืองในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ใหญ่ที่สุด และยังมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดด้วย
เซินเจิ้น อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2,600 กิโลเมตร โดยนักท่องเที่ยวไทยที่มีแพลนเที่ยวเซินเจิ้นสามารถนั่งเครื่องบินไปเซินเจิ้นได้ จากทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง โดยมีสายการบินที่บินตรงไปเซินเจิ้น เช่น สายการบิน Airasia, Shenzhen Airlines, Air China และ China Eastern Airlines ซึ่งสามารถซื้อตั๋วได้ที่แอปพลิเคชัน Traveloka
เซินเจิ้นเป็นเมืองที่มีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบาย และครอบคลุมพื้นที่ทั่วเมือง โดยการเดินทางที่เข้าถึงสถานที่เที่ยวในเซินเจิ้นได้แทบทุกที่นั่นคือ ระบบรถไฟใต้ดิน
ปัจจุบัน รถไฟใต้ดินเซินเจิ้นมี 5 เส้นทาง 137 สถานี และมีระยะทางกว่า 178.44 กิโลเมตร โดยคนที่ไปเที่ยวเซินเจิ้นด้วยตัวเองสามารถซื้อบัตรโดยสารได้ที่สถานีรถไฟใต้ดินทุกแห่ง
ชาวเซินเจิ้นส่วนใหญ่จะนิยมสื่อสารด้วยภาษาผู่ทงฮั่ว (Putonghua) ซึ่งเป็นภาษาถิ่นที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม ในตัวเมืองและที่เที่ยวเซินเจิ้นหลัก ๆ จะใช้ภาษาอังกฤษได้ดีพอ ๆ กับภาษาถิ่น นอกจากนี้ บางคนยังพูดได้ถึง 3 ภาษา คือ ภาษาจีนกลาง (Mandarin) ซึ่งเป็นภาษาราชการ, ภาษากวางตุ้ง (Cantonese) และภาษาอังกฤษ
แม้เซินเจิ้นจะเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีน แต่สกุลเงินที่ใช้ก็เป็นสกุลเงินเดียวกับเมืองอื่น ๆ โดยการเที่ยวเซินเจิ้นจะใช้สกุลเงินหลักคือ Chinese Yuan RMB (CNY) หรือหยวนจีน ซึ่ง 1 หยวน จะเท่ากับ 4-5 บาทโดยประมาณ (อัตราแลกเปลี่ยน ณ ปี 2024) นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถใช้บัตรเครดิต และบัตรเดบิตในการชำระเงินได้
เซินเจิ้นตั้งอยู่ในเขตเวลาจีนตะวันออก หรือ UTC+8 ดังนั้น หากในประเทศไทยเป็นเวลา 12:00 น. เซินเจิ้นก็จะเป็นเวลา 13:00 น. หรือเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง ซึ่งความแตกต่างของเวลาระหว่างเซินเจิ้นและไทยจะคงที่ตลอดทั้งปี โดยคนที่ไปเซินเจิ้นครั้งแรกควรปรับนาฬิกาให้ตรงกับเวลาท้องถิ่น เพื่อให้ไม่สับสน
สภาพอากาศในเซินเจิ้นมีความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างฤดูร้อนและฤดูหนาว โดยสามารถแบ่งได้ 4 ฤดู ดังนี้