ปักหมุด 20 ที่เที่ยว Unseen ทั้งหมดในไทย มีที่ไหนบ้าง?!

Traveloka TH
07 Feb 2025 - 9 min read

เมืองไทยมีที่เที่ยวเยอะจนเที่ยวไม่หมด! วันนี้เราจะพาไปเปิดโลกกับ 20 ที่เที่ยว Unseen ในไทยมีให้ปักหมุดกันครบทั้งปี แต่ละที่คือสวยแปลกตา และบางที่อาจไม่ค่อยมีคนรู้จักด้วยซ้ำ! รับรองว่าถ่ายรูปออกมาลงโซเชียลแล้วเพื่อนต้องทัก 'เฮ้ย! ที่ไหนอ่ะ?' ที่สำคัญเลยคือเที่ยวได้แบบแฮปปี้กันในทุกฤดูเลยนะ หากได้พิกัดที่ถูกใจแล้วไป จองตั๋วเครื่องบินกันได้กับ Traveloka เรามีตัวเลือกโดนๆ พร้อมโปรโมชั่นเด็ดๆ ให้เพียบเลยเชียวละ พร้อมแล้วก็จัดกระเป๋าแล้วลุยโลดดด

ปักหมุด! 20 ที่เที่ยว Unseen ในไทยที่ต้องไปให้ได้

1. เขาล่องเรือตาหมื่น - พิษณุโลก

เขาล่องเรือตาหมื่น - พิษณุโลก

เขาล่องเรือตาหมื่น เป็นอีกพิกัดยอดฮิตที่มาแรงขึ้นทุกที และเชื่อว่าบรรดาคนรักความแอดเวนเจอร์ต้องแฮปปี้กับที่นี่แน่นอนจ้า เพราะนี่คือภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาซึ่งเพิ่งเปิดให้สายปีนขึ้นไปตามหาความเร้าใจกันได้ไม่นานนี้ เขาลูกนี้ตั้งอยู่ที่บ้านมุง ในอำเภอเนินมะปราง ซึ่งเป็นพิกัดขึ้นชื่อลือชาในเรื่องความปังของทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามสบายตา ด้านบนจะได้เห็นวิวสวยรอบด้านแบบ 360 องศา แถมที่เริ่ดไปกว่านั้นก็คือสามารถขึ้นไปค้างแรมกันได้ด้วยนะ จะกางเต็นท์นอนกันก็ได้ หรือจะไปนอนเปลให้ได้อารมณ์ผจญภัยในอีกเลเวลก็เริ่ดจ้ะ สายแอดเวนเจอร์ปักหมุดกันได้เลย

2. สามพันโบก - อุบลราชธานี

สามพันโบก - อุบลราชธานี

ถ้าพูดถึงที่เที่ยวสุด Unseen ของไทย แล้วไม่พูดถึง สามพันโบก ที่อุบลราชธานี ถือว่าพลาดหนักมาก! ที่นี่คือดินแดนหินมหัศจรรย์ ร่องรอยของธรรมชาติที่แกะสลักเอาไว้อย่างสุดอลัง จนได้ฉายาว่า "แกรนด์แคนยอนเมืองไทย" เพราะเป็นแก่งหินขนาดมหึมา มีแอ่งน้ำ (หรือที่เรียกว่า "โบก") กว่า 3,000 แอ่ง ที่ถูกน้ำกัดเซาะจนเกิดเป็นลวดลายสุดเท่ คำว่า "โบก" เป็นภาษาอีสาน แปลว่า "แอ่งน้ำ" เวลาน้ำลด พวกแอ่งน้ำที่ถูกกัดเซาะมากว่าแสนปี ก็เผยตัวออกมาเป็นลวดลายสุดเท่ ถ่ายรูปมุมไหนก็ดูอาร์ตไปหมด

แนะนำเวลามาเที่ยว

ช่วงที่ดีที่สุดคือ หน้าหนาว (พ.ย.-ก.พ.) หรือ ช่วงน้ำลด (มี.ค.-พ.ค.) เพราะหินจะโผล่ให้เห็นแบบเต็มๆ ไม่ต้องลุ้นน้ำท่วม

วิธีเดินทาง

จากตัวเมืองอุบลฯ ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง หรือจะนั่งเรือล่องแม่น้ำโขงแบบชิลๆ ก็ได้ฟีลไปอีกแบบ

3. คลองสังเน่ห์ - พังงา

คลองสังเน่ห์ - พังงา

เคยได้ยินชื่อ คลองสังเน่ห์ บ้างไหม? ถ้ายังไม่เคยมาถึงเวลาที่ต้องรู้จักแล้วล่ะ! คลองสังเน่ห์อยู่ที่พังงานี่เอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยว Unseen ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น Little Amazon ของเมืองไทย แน่นอนว่าหลายคนอาจยังไม่คุ้นหูคุ้นตา แต่พอได้มาแล้วรับรองจะต้องตกหลุมรัก มีลักษณะเป็นคลองสายสั้นๆ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ ไฮไลท์ของคลองนี้ก็ต้องยกให้กับต้นไทรโบราณอายุหลายร้อยปี ซึ่งแผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมพื้นที่กว้างริมคลอง และมีบางช่วงที่ห้อยระย้าคล้ายกับม่านหรืออุโมงค์ต้นไม้ ที่เด็ดที่สุดก็ต้องยกให้กับน้องงูสารพัดสายพันธุ์ซึ่งมักจะพากันมานอนหลับตามกิ่งก้านต่างๆ ของต้นไม้ริมสองฝั่ง บอกเลยว่าเป็นการล่องเรือที่น่าตื่นตา น่าตื่นเต้น และแสนจะเร้าใจ ใครสนรีบปักหมุดกันให้ไวเลย

แนะนำเวลามาเที่ยว

จะไปช่วงไหนก็ฟิน แต่ช่วง หน้าฝน (มิ.ย.-ต.ค.) น้ำจะเต็มและวิวสวยมาก! และถ้ามาช่วง หน้าหนาว (พ.ย.-ก.พ.) ก็จะได้อากาศเย็นๆ ชิลๆ สบายๆ

วิธีเดินทาง

จากตัวเมืองพังงา ขับรถไปแค่ประมาณ 30 นาที ก็ถึงคลองแล้ว! สะดวกมาก อยากแวะถ่ายรูปหรือพายเรือก็ได้หมด

4. ภูสิงห์ "หินสามวาฬ" - บึงกาฬ

ภูสิงห์

ถ้าคุณคิดว่าจะเที่ยวธรรมชาติแบบสวยสะดุดตาและไม่ซ้ำใคร ภูสิงห์ ที่บึงกาฬ คือจุดเช็กอินที่ต้องมา! ที่นี่ได้รับฉายาว่าเป็น "มหัศจรรย์หินสามวาฬ" เป็นกลุ่มหินใหญ่ที่มีรูปร่างเหมือนวาฬกำลังโผล่ขึ้นจากน้ำที่ไม่เหมือนใคร! ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู มีเนื้อที่ 12,000 ไร่ อีกทั้งทางขึ้นภูสิงห์ค่อนข้างท้าทายไม่ใช่ทางที่ง่าย แต่คุ้มค่ากับการเดินทางแน่นอน! บอกเลยว่าถ้าได้ขึ้นไปถึงยอดแล้วจะรู้สึกเหมือนเป็นผู้พิชิต! และอย่าลืมเอากล้องไปด้วย เพราะวิวจากหินสามวาฬคือหนึ่งในจุดที่คุณจะไม่อยากพลาดภาพสวยๆ แน่นอน

แนะนำเวลามาเที่ยว

ไปช่วง หน้าหนาว (พ.ย.-ก.พ.) อากาศเย็นกำลังดี ไม่ร้อนจนเกินไป หรือถ้าอยากได้ภาพสวยๆ ลองมาช่วง พระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก ดูสิ สวยเหมือนในหนัง

วิธีเดินทาง

ขับรถไปจากตัวเมืองบึงกาฬแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว

5. ม่อนหมอกตะวัน - ตาก

ม่อนหมอกตะวัน - ตาก

สวัสดีสายเที่ยวทั้งหลาย! พิกัด unseen ที่เราจะพาทุกคนไปเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์บนดินจริงๆ กับ ม่อนหมอกตะวัน ตั้งอยู่บนยอดเขาในอำเภอขุนยวม จังหวัดตาก ที่นี่เป็นสวนดอกไม้ที่เบ่งบานอยู่บนยอดเขาความสูง 1,100 เมตร อีกทั้งยังมีวิวทะเลหมอกที่มีความงดงามแบบสุดๆ ยิ่งช่วงเช้าๆ นะ หมอกจะลอยคลุมไปทั่วแบบสายฟ้าฟาด บอกเลยว่าเป็นภาพที่เห็นแล้วต้องหยุดหายใจนับว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของที่นี่เลยละ ม่อนหมอกตะวันหรือทะเลหมอกบ้านป่าหวายนั้นเคยเป็นพื้นที่การเกษตรของชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง แต่ช่วงหลังนั้นเริ่มมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากขึ้นทุกที ชาวบ้านจึงปรับที่นี่ให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวด้วยการเพิ่มจุดกางเต็นท์ มีบ้านพัก สายแค้มปิ้งไม่มาไม่ได้แล้ว

แนะนำเวลามาเที่ยว

มาที่นี่ได้ทั้งปี แต่ถ้าช่วง หน้าหนาว (พ.ย.-ก.พ.) หรือไปช่วงเช้าตรู่เพื่อเห็นทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น หรือจะไปพักค้างคืนแล้วตื่นมาชมวิวเช้าก็เริ่ด

วิธีเดินทาง

ขับรถจากตัวเมืองตากแค่ 2 ชั่วโมง นั่งรถไปถึงก็จะเห็นวิวสวยๆ ตลอดทางเลย

6. น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน - ลำปาง

น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน - ลำปาง

น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนในอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ที่นี่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและดีต่อสุขภาพสุดๆ ที่นี่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนทางธรณีวิทยาจำนวน 9 บ่อ ตั้งอยู่รวมกันในบริเวณพื้นที่ที่ทำการอุทยานฯ น้ำพุร้อนมีอุณหภูมิเฉลี่ย 73 องศาเซลเซียส มีกลิ่นกำมะถันอ่อน ๆ และมีไอน้ำลอยปกคลุมรอบบริเวณ นอกจากแช่น้ำร้อนแล้วยังมีพื้นที่ให้คุณสามารถ ต้มไข่ ในบ่อน้ำร้อนได้ด้วย หลังจากแช่น้ำร้อนแล้ว อย่าลืมเดินเล่นในพื้นที่รอบๆ น้ำพุร้อนแจ้ซ้อนนะที่นี่มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้เดินชมความงามของป่าและน้ำตกเล็กๆ ด้วย

แนะนำเวลามาเที่ยว

ไปช่วง ฤดูหนาว (พ.ย.-ก.พ.) อากาศเย็นๆ แช่น้ำร้อนแล้วฟินที่สุด! หรือจะไปช่วงฤดูฝนก็ได้บรรยากาศสายฝนโรแมนติกไปอีกแบบ

วิธีเดินทาง

ขับรถจากตัวเมืองลำปางประมาณ 40 นาทีถึงน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนสะดวกมากเลย

7. อ่าวท่าเลน - กระบี่

 อ่าวท่าเลน - กระบี่

กระบี่มีที่เที่ยวสวยๆ เยอะมาก แต่ถ้าคุณอยากสัมผัส Unseen ความสงบและธรรมชาติแบบที่ไม่พลุกพล่านละก็.. แนะนำ อ่าวท่าเลน บอกได้เลยว่านี่คือเส้นทางพายคายัคชมทิวทัศน์ที่สวยดึงดูดใจในระดับโลกเลยเชียวละ อ่าวท่าเลนเป็นอ่าวเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ จุดเด่นของที่นี่คือความเงียบสงบ ที่น้ำใสและทะเลที่ยังคงความสวยงามตามธรรมชาติ ใครที่ชอบกิจกรรมทางน้ำต้องห้ามพลาด! คุณสามารถล่องเรือไปชมป่าชายเลนที่อ่าวท่าเลน ได้บรรยากาศชิลๆ สุดๆ ระหว่างล่องเรือไปจะเห็นป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์และสัตว์น้ำหลากหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในทะเล มีโอกาสได้เห็นนกที่มาจากที่ไกลๆ หรืออาจจะเจอฝูงลิงที่มาเกาะตามต้นไม้ในป่าชายเลนอีกด้วย

แนะนำเวลามาเที่ยว

ช่วง หน้าหนาว (พ.ย.-ก.พ.) ก็จะได้ฟีลเย็นๆ สบายๆ หรือถ้ามาช่วง หน้าฝน (มิ.ย.-ต.ค.) ก็จะได้เห็นธรรมชาติเขียวขจีแบบเต็มตา

วิธีเดินทาง

อ่าวท่าเลนอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองกระบี่ ขับรถไปแค่ประมาณ 30 นาที ก็ถึงแล้ว! สะดวกมาก ไม่ต้องเดินทางไกล

8. เกาะผ้า - พังงา

เกาะผ้า พังงา

เกาะผ้า หรือ “Sand Pile Island” เป็นอีกหนึ่งพิกัดในพังงาซึ่งเพิ่งเป็นที่รู้จักกันมาได้ไม่นานนัก ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัดพังงา เป็นเกาะขนาดเล็กกลางทะเลซึ่งมีเนื้อที่รวมประมาณ 1 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ที่สำคัญคือเราจะเห็นเกาะนี้ได้ก็ต่อเมื่อน้ำทะเลลดระดับจนได้ที่ เกาะนี้มีลักษณะเป็นเนินทรายขาวสะอาดกว้างโล่งแบบไม่มีอะไรกั้น รอบด้านเป็นน้ำทะเลสีฟ้าใสแจ๋วน่าแหวกว่าย ใต้ทะเลรอบๆ เกาะนี้ยังมีปะการังและบรรดาฝูงปลาอีกมากมายเหมาะกับการมาดำน้ำชมความสวยกันได้แบบเพลินๆ เลยจ้า ใครเป็นสายแชะปักหมุดที่นี่ไว้ให้ไวเลยนะ บอกเลยว่าซัมเมอร์นี้ต้องมาโดน!

แนะนำเวลามาเที่ยว

ช่วง หน้าหนาว (พ.ย.-ก.พ.) คือช่วงที่อากาศดีสุดๆ จะไปพักผ่อนแบบชิลๆ รับลมทะเลก็ฟิน! แต่ถ้าไปในช่วง หน้าฝน (มิ.ย.-ต.ค.) ก็จะได้เห็นทะเลที่มีคลื่นและบรรยากาศสดชื่นตลอดทั้งปี

วิธีเดินทาง

จากตัวเมืองพังงา ขับรถไปประมาณ 30-40 นาที แล้วจากนั้นก็ต้องนั่งเรือไปอีกนิดถึงจะถึงเกาะผ้า โดยที่นี่มีเรือให้บริการนำเที่ยวจากท่าเรือบ้านน้ำเค็ม ตำบลเกาะคอเขา ไปยังเกาะผ้าใช้เวลา 40 นาที

9. ถ้ำสีฟ้า - ตาก

ถ้ำสีฟ้า - ตาก

ถ้ำสีฟ้า อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสุด Unseen ที่บอกเลยว่าตื่นตาตื่นใจ! ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก จุดเด่นสุดพิเศษของที่นี่คือน้ำในถ้ำที่มีสีฟ้าใสเหมือนคริสตัล แสงสะท้อนจากน้ำทำให้ถ้ำดูสวยงาม ด้วยความสวยแปลกตาของถ้ำหินสีฟ้าที่ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในฉากหนังยังไงยังงั้น รอบด้านภายในถ้ำเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยสวยงามมากมาย ส่วนไฮไลท์ของที่นี่จะอยู่บริเวณด้านในซึ่งมีผนังถ้ำเป็นชั้นหินลวดลายสวยสีฟ้าสลับเทาแลดูแปลกตา เป็นโซนที่ถ่ายรูปออกมาเว่อร์วังอลังการสุดๆ เชียวละ แต่การมาถ้ำนี้ต้องพกไฟมาเองนะ เพราะในถ้ำนั้นไม่มีแสงสว่างหรือแสงไฟใดๆ ทั้งสิ้นเลยจ้า อยากได้รูปปังๆ ต้องเตรียมอุปกรณ์มาให้พร้อมเลยน้า รับรองว่าแจ่มแน่นอน

แนะนำเวลามาเที่ยว

ถ้ำสีฟ้าสามารถไปได้ตลอดปี แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศที่เย็นสบายและถ่ายรูปสวยๆ แนะนำให้ไปช่วง เช้าหรือเย็น ที่แดดไม่ร้อนเกินไป แต่จะฟินสุดๆ ถ้าไปช่วง หน้าหนาว (พ.ย.-ก.พ.) อากาศเย็นสบาย เดินชมถ้ำได้อย่างชิลๆ หรือจะไปช่วง หน้าฝน (มิ.ย.-ต.ค.) ก็ได้ความเย็นจากน้ำในถ้ำเพิ่มขึ้นมาอีก

วิธีเดินทาง

จากตัวเมืองตาก ขับรถไปประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง

10. คลองปากประ - พัทลุง

คลองปากประ - พัทลุง

คลองปากประ เป็นคลองในอำเภอปากประ จังหวัดพัทลุง ซึ่งเปรียบเหมือนปราการด่านสุดท้ายที่น้ำจากบริเวณต่างๆ นั้นจะไหลมารวมกัน ก่อนจะลงสู่พื้นที่ทะเลน้อยแล้วไหลไปรวมกับทะเลสาบสงขลาในเวลาถัดไป ทำให้พื้นที่บริเวณคลองปากประกลายเป็นแหล่งรวมของบรรดากุ้งหอยปูปลา ชาวบ้านในละแวกนี้จึงประกอบอาชีพประมงท้องถิ่นเป็นหลัก หนึ่งในวิธีที่นิยมใช้ก็คือการยกยอไซส์ยักษ์เพื่อดักสัตว์ทั้งหลาย ช่วงเช้าของทุกวันที่นี่จึงมีวิวสวยอลังการอันเกิดจากวิถีชีวิตสุดเรียบง่าย ใครชอบถ่ายรูปห้ามพลาดเลยเชียวนะ บอกเลยว่าได้กดชัตเตอร์กันเป็นร้อยแน่นอน นอกจากการล่องเรือชมคลองแล้ว คุณยังสามารถแวะไปที่ ศาลเจ้าพ่อปากประ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับคลองปากประได้! เป็นสถานที่ที่คนในท้องถิ่นเคารพนับถือ และมีบรรยากาศที่สงบเย็น เหมาะแก่การมานั่งพักและทำความรู้จักกับวัฒนธรรมท้องถิ่น

แนะนำเวลามาเที่ยว

หน้าหนาว (พ.ย.-ก.พ.) ก็จะได้อากาศเย็นๆ ฟินสุดๆ หรือช่วง หน้าฝน (มิ.ย.-ต.ค.) ก็คือช่วงที่ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์

วิธีเดินทาง

จากตัวเมืองพัทลุง ขับรถไปประมาณ 30 นาทีถึงคลองปากประแบบสะดวกสุดๆ! จะขับไปพักผ่อนหรือไปเที่ยวให้ชิลทั้งวันก็ได้

11. ทุ่งโปรงทอง - ระยอง

ทุ่งโปรงทอง - ระยอง

ทุ่งโปรงทองเป็น ทุ่งหญ้าสีทอง ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง หนึ่งในสถานที่ Unseen ของไทยที่คุณต้องไปสัมผัสเอง ที่นี่คือทุ่งหญ้าสีทองที่มีต้นโปรงเรียงรายสวยงาม ให้บรรยากาศเหมือนหลุดไปในโลกของธรรมชาติสุดสงบ ไม่ว่าจะเดินเล่น ถ่ายรูป หรือแค่ยืนนิ่งๆ ก็รู้สึกฟิน นอกจากทุ่งหญ้าที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังมี ป่าชายเลน ที่สมบูรณ์และสะอาดทำให้คุณได้เห็นธรรมชาติที่เต็มไปด้วยชีวิตสัตว์นานาชนิด แถมยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนสะพานไม้ทอดยาวระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรให้คุณเดินชมทุ่งหญ้าและป่าชายเลนอย่างใกล้ชิด

แนะนำเวลามาเที่ยว

ทุ่งโปรงทองเปิดให้ชมทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.เหมาะมากสำหรับการมาเที่ยวช่วง เช้าหรือเย็น ที่แดดไม่ร้อนจนเกินไป ช่วงเช้าคุณจะได้เห็นทุ่งหญ้าที่มีแสงทองอ่อนๆ ช่วงเย็นก็ดีเพราะจะได้เห็นท้องฟ้าที่มีสีสันสวยๆ ขณะพระอาทิตย์ตก

วิธีเดินทาง

จากตัวเมืองระยอง ขับรถไปประมาณ 30 นาทีเท่านั้น

12. ดอยพุ่ยโค - แม่ฮ่องสอน

ดอยพุ่ยโค - แม่ฮ่องสอน

ถ้าอยากเห็นทะเลหมอกกันแบบเต็มๆ ตา ในบรรยากาศรอบด้านที่บอกเลยว่า ดอยพุ่ยโค โรแมนติกไม่แพ้ใคร ดอยพุ่ยโคคือหนึ่งในพิกัดที่ควรปักหมุดมา ด้วยระดับความสูง 1,406 เมตร แถมบนยอดดอยยังเป็นพื้นที่โล่งกว้างไม่มีต้นไม้ใหญ่บดบัง ทำให้ดอยนี้เป็นจุดชมทะเลหมอกที่ปังสุดๆ อีกแห่งเลยละ ข้อดีอีกอย่างคือแม้จะเป็นดอยสูงแต่ที่นี่ก็เดินทางค่อนข้างง่าย ด้วยการเดินเท้าประมาณ 3 กิโลเมตรแบบสบายๆ ทำให้ผู้คนเกือบทุกเพศวัยก็มาชิลล์ที่นี่กันได้ทั้งนั้นจ้า บนดอยพุ่ยโคมีแต่วิวปังๆ แต่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งนั้นนะ เตรียมตัวมาให้พร้อมจ้า จะได้มาฟินกันแบบเต็มที่ไง

แนะนำเวลามาเที่ยว

แนะนำไปช่วง หน้าหนาว (พ.ย.-ก.พ.) เพราะจะได้สัมผัสกับ ทะเลหมอก ที่อลังการและอากาศเย็นสบาย

วิธีเดินทาง

จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนขับรถไปประมาณ 1-2 ชั่วโมงถึงดอยพุ่ยโค สะดวกมาก

13. ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง - ยะลา

ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง - ยะลา

สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการชมทะเลหมอกในภาคเหนือหรืออีสาน อยากชวนให้ปักหมุดมากันที่ ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ที่ยะลานี่ละ นอกจากจะได้ไปชมความสวยของสนามบินแห่งใหม่ล่าสุดของเมืองไทย ที่นี่ยังมีสกายวอล์คซึ่งมีวิวสุดอลังการไม่แพ้ที่ไหนให้ชมกันได้แบบจุใจเลยด้วยจ้ะ ด้วยความสูง 2,038 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล แถมบริเวณส่วนปลายของสกายวอล์คนั้นยังเป็นพื้นกระจกใสให้ได้ชมวิวมุมสูงแบบเสียวๆ ความยาว 61 เมตรเลยนะ วันไหนอากาศดี จากจุดนี้จะมองเห็นได้ถึงประเทศมาเลเซียเลยจ้า ทะเลหมอกที่นี่มีให้ดูกันตลอดปีเลยนะ สะดวกตอนไหนปักหมุดมาได้เลย

แนะนำเวลามาเที่ยว

ไปช่วง หน้าหนาว (พ.ย.-ก.พ.) จะได้เห็นทะเลหมอกแบบฟินๆ พร้อมอากาศเย็นๆ เหมาะแก่การเที่ยวธรรมชาติสุดๆ หรือถ้าไปในช่วง ฤดูฝน (มิ.ย.-ต.ค.) ก็จะได้เห็นหมอกที่หนาและขาวสวย

วิธีเดินทาง

จากตัวเมืองยะลา ขับรถไปประมาณ 1-2 ชั่วโมง จะถึงจุดชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง! ถนนดี เดินทางง่าย บรรยากาศก็อลังการระหว่างทาง!

14. วัดเขาสูงแจ่มฟ้า - กาญจนบุรี

วัดเขาสูงแจ่มฟ้า - กาญจนบุรี

นี่คือพิกัดที่สายบุญทั้งหลายพลาดไม่ได้เลยจ้า เพราะ วัดเขาสูงแจ่มฟ้า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายให้มากราบสักการะขอพรกัน ทั้งหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ เจ้าแม่กวนอิม พญาธนบดีนาคราช และพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ที่มีพุทธลักษณะแลดูแปลกตา นอกจากนั้นในวัดยังมีโซนที่ให้บรรยากาศเหมือนได้วาร์ปไปอยู่ญี่ปุ่นกันนิดๆ ด้วยนะ ไฮไลท์ล่าสุดของที่นี่ ก็ต้องยกให้กับเสาโทริอิสีแดงที่เรียงตัวให้ไปชมไปแชะกันเป็นอุโมงค์ยาวเหยียดนี่ละจ้า มาที่เดียวได้สัมผัสหลายอารมณ์เลยเชียวนะ จะสายแชะหรือสายบุญก็บอกเลยว่าอย่าพลาดเชียว

แนะนำเวลามาเที่ยว

ไปช่วง เช้าหรือเย็น จะได้สัมผัสกับอากาศเย็นสบาย และเห็นวิว พระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ที่สวยงามสุดๆ! หรือถ้าคุณชอบธรรมชาติในช่วง หน้าฝน ก็จะได้เห็นความเขียวขจีของต้นไม้และอากาศสดชื่นแบบฟินๆ

วิธีเดินทาง

จากตัวเมืองกาญจนบุรี ขับรถประมาณ 30-40 นาที

15. ทุ่งกะมัง - ชัยภูมิ

ทุ่งกะมัง - ชัยภูมิ

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ทุ่งกะมัง มีพื้นที่ซาฟารีกว่า 5,000 ไร่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ซึ่งเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าที่เป็นอาหารอย่างดีของบรรดาสัตว์ป่าทั้งหลาย พื้นที่ส่วนใหญ่นั้นเป็นทุ่งโล่งกว้างรายล้อมรอบด้านด้วยต้นไม่ใหญ่ เราจึงจะได้เห็นสัตว์ป่าหลากหลายชนิดออกมาเดินมาใช้ชีวิตกันแบบสบายๆ ที่สำคัญคือพื้นที่ส่วนใหญ่นั้นเปิดให้เราเข้าไปชมไปสัมผัสกันได้แบบใกล้ชิดเลยด้วยนะ ไม่ต้องไปถึงอัฟริกาก็มาดูบรรดาฝูงกวางหลากหลายสายพันธุ์ตามธรรมชาติกันได้ที่นี่ละจ้า เค้ามีบ้านพักให้ใช้บริการกันด้วยนะ ใครอยากมาลองติดต่อล่วงหน้าเอาไว้เลย

แนะนำเวลามาเที่ยว

ช่วง หน้าหนาว (พ.ย.-ก.พ.) คือช่วงที่ทุ่งกะมังมีความสวยงามสุดๆ เพราะได้เห็น ทุ่งดอกไม้ และอากาศเย็นสบาย! ส่วนช่วง หน้าฝน (มิ.ย.-ต.ค.) ก็จะได้สัมผัสกับความเขียวขจีของธรรมชาติแบบจัดเต็ม

วิธีเดินทาง

จากตัวเมืองชัยภูมิ ขับรถไปประมาณ 1 ชั่วโมง

16. เขาจมป่า - ตรัง

เขาจมป่า - ตรัง

เขาจมป่า ภูเขาลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่หลังป่าชายเลนผืนใหญ่ที่ต้องล่องเรือผ่านป่าเข้าไปใกล้ๆ จึงจะได้เห็นกัน และนั่นเป็นที่มาของชื่อเขาจมป่านี่ละ ความ Unseen ของที่นี่ ก็คือต้องล่องแพไปตามลำน้ำคดเคี้ยวที่ไหลผ่านผืนป่าชายเลนเข้าไปถึงตีนเขา จากนั้นก็ทำการป่ายปีนขึ้นไป บางช่วงของภูเขาต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควรเลยนะ ด้านบนสุดจะมองเห็นผืนป่าเขียวขจีซึ่งมีคลองคดเคี้ยวไหลผ่าน เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่สายแอดเวนเจอร์น่าจะถูกใจกันไม่น้อยเลยเชียวละ ซัมเมอร์นี้ต้องรีบมาจัดกันให้ไว

แนะนำเวลามาเที่ยว

เช้าหรือเย็น เพราะช่วงเช้าจะได้เห็นวิวทะเลหมอกเบาๆ ส่วนตอนเย็นพระอาทิตย์ตกคือสวยที่สุด! และที่สำคัญคืออากาศจะเย็นสบายเหมาะกับการเดินป่า

วิธีเดินทาง

จากตัวเมืองตรัง ขับรถไปประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก็จะถึงเขาจมป่าได้แล้ว

17. จุดชมวิวผาแดงหลวง - ลำพูน

จุดชมวิวผาแดงหลวง - ลำพูน

จะบอกว่านี่คือหนึ่งจุดชมวิวผาแดงหลวง บรรยากาศยามเช้าที่งดงามและอลังการที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทยก็ยังได้ เพราะพื้นที่ตรงนี้หลายคนที่เคยเห็นต่างยกให้เป็นสวิตเซอร์แลนด์ของเมืองไทยกันเลยจ้า ด้วยทิวทัศน์ของทิวเขาเขียวขจีที่วางสลับซ้อนเป็นเลเยอร์สวยเหมือนมีคนมาจับวาง ตรงกลางเป็นแม่น้ำปิงไหลคดเคี้ยวกว้างใหญ่ ใครสนใจต้องหาข้อมูลล่วงหน้านะ เพราะที่นี่เปิดให้เข้าชมกันได้แค่ในช่วงประมาณเดือนธันวาคมถึงมกราคมของทุกปี แถมยังมีกฎจำกัดนักท่องเที่ยวไม่เกิน 50 คน/วัน อีกด้วยจ้า บอกเลยว่าสายธรรมชาติถ้าได้มาต้องประทับใจ

แนะนำเวลามาเที่ยว

แนะนำไปช่วง เช้าหรือเย็น จะได้ชม ทะเลหมอก ตอนเช้า หรือชม พระอาทิตย์ตก ตอนเย็น วิวสองช่วงนี้คือดีที่สุด

วิธีเดินทาง

จากตัวเมืองลำพูน ขับรถไปประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง คุณก็จะถึงจุดชมวิวผาแดงหลวงได้แล้ว! เส้นทางขับง่าย ไม่ซับซ้อน แถมระหว่างทางยังได้ชมวิวธรรมชาติสวยๆ ตลอดทาง

18. เกาะกระดาด - ตราด

เกาะกระดาด - ตราด

เกาะกระดาด เป็นเกาะที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่แบนราบคล้ายแผ่นกระดาษลอยอยู่กลางน้ำ และนอกจากความสวยของหาดทรายและน้ำทะเลแล้วนะ เกาะนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นซาฟารีที่อยู่กลางทะเลด้วยจ้า เพราะบนเกาะมีฝูงกวางหลายร้อยตัวอาศัยอยู่ตามธรรมชาติให้เราได้ไปสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดชนิดถึงเนื้อถึงตัวกันเลยน้า เล่นกับน้องกวางเสร็จสรรพ จะเลือกไปนั่งรถอีแต๊กชมวิวรอบเกาะกันต่อแบบสบายๆ ก็ยังได้จ้ะ เดินทางก็สะดวกมากนะ มาตราดแล้วแนะนำว่าอย่ามองข้ามเชียว

แนะนำเวลามาเที่ยว

ช่วง ฤดูร้อน (มี.ค.-พ.ค.) อากาศจะดีสุดสำหรับการเที่ยวทะเล น้ำใส อากาศร้อนพอสมควร เหมาะแก่การเล่นน้ำ หรือถ้าไปช่วง หน้าฝน (มิ.ย.-ต.ค.) ก็จะได้สัมผัสกับอากาศเย็นสบายและบรรยากาศที่เขียวขจีสุดๆ

วิธีเดินทาง

จากตัวเมืองตราด ขับรถไปประมาณ 30-40 นาที เพื่อไปที่ท่าเรือ แล้วนั่งเรือข้ามไปยังเกาะกระดาด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ก็ถึงแล้ว!

19. หนองทะเล - กระบี่

หนองทะเล - กระบี่

หนองทะเล อีกหนึ่งพิกัดซึ่งมีจุดขายเป็นทิวทัศน์ที่งดงามในยามเช้า ที่นี่เราจะได้ชมวิวหนองน้ำกว้างซึ่งโอบล้อมไปด้วยภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตา อยากฟินสุดๆ ต้องมาช่วงเช้าหน่อยนะ จะได้มาเจอกับเงาสะท้อนบนผิวน้ำที่นิ่งเรียบราวกับกระจกบานใหญ่ให้วิวที่สวยประทับใจแน่นอนจ้า รอบๆ ด้านยังมีบริการล่องเรือชมวิวสวยๆ กันด้วยนะ ใครชอบถ่ายรูปมาวางขาตั้งกล้องจองมุมกันเอาไว้ได้เลยจ้ะ ถ้าถูกที่ถูกเวลา รับรองเลยว่าได้ลั่นชัตเตอร์กันแบบสะใจแน่นอน

แนะนำเวลามาเที่ยว

ช่วง ฤดูหนาว (พ.ย.-ก.พ.) เหมาะสุดๆ เพราะอากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนจนเกินไป หรือถ้าไปช่วง หน้าฝน ก็จะได้เห็นวิวเขียวขจีและทะเลสาบน้ำเต็ม แต่อาจมีฝนตกบ้าง

วิธีเดินทาง

จากตัวเมืองกระบี่ขับรถไปประมาณ 30 นาที แล้วจากนั้นจะต้องต่อเรือเพื่อเข้าไปยังหนองทะเล เส้นทางไปค่อนข้างง่าย

20. ภูลำดวน - เลย

ภูลำดวน - เลย

ภูลำดวนเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวสวยยามเช้าที่เราอยากชวนให้มาแวะปักหมุดกัน ภูลำดวนนั้นเป็นจุดชมวิวอีกแห่งที่ผันตัวเองมาจากแหล่งเพาะปลูกทำการเกษตรจ้ะ บนยอดภูมีจุดเช็คอินกับวิวแบบว้าวๆ ให้ฟินกันหลายแห่งเลยเชียวนะ แถมยังมองเห็นแม่น้ำโขงไหลคดเคี้ยวกั้นกลางระหว่างเมืองไทยกับแดนลาวเอาไว้ด้วยจ้า ช่วงปลายฝนต้นหนาวถ้าอากาศเป็นใจ ที่นี่จะมีทะเลหมอกให้ชมกันด้วยนะ สวยเกินบรรยายจ้ะ มาดูเอาเองก็แล้วกัน

แนะนำเวลามาเที่ยว

ช่วง หน้าหนาว (พ.ย.-ก.พ.) คือช่วงที่ดีที่สุด เพราะคุณจะได้เห็นทะเลหมอกในช่วงเช้า และอากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน

วิธีเดินทาง

จากตัวเมืองเลยขับรถไปประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วจากนั้นก็ขับเข้าไปตามเส้นทางค่อนข้างขรุขระสักหน่อย แต่มันคุ้มค่ากับการเดินทางไปถึง! อย่าลืมเตรียมรถที่พร้อมสำหรับเส้นทางเดินป่าและขับขึ้นเขาด้วยนะ

และทั้งหมดนี้คือหมุดหมายจากทั่วประเทศไทยที่เราเอามารวมไว้ให้ได้ปักหมุดลงลิสต์กัน อยากไปฟินภาคไหนก็มีพิกัดให้ปักหมุดกันได้ทั้งนั้นจ้า จริงๆ แล้วเมืองไทยยังมีพิกัดท่องเที่ยวแบบ Unseen ที่น่าสนใจอีกเพียบเลยนะ เอาไว้คราวหน้าจะรวบรวมมากฝากกันอีกแน่นอนจ้ะ ซัมเมอร์นี้ลองแพลนไปเช็คอินเบาๆ ตามด้านบนดูก่อนน้า บอกเลยว่าเต็มตาทุกจุดแน่นอน

Discover flight with Traveloka

Sat, 29 Mar 2025

Thai AirAsia

เชียงใหม่ (CNX) ไป กรุงเทพ (BKK)

เริ่มจาก THB 945.35

Tue, 25 Mar 2025

Thai AirAsia

หาดใหญ่ (HDY) ไป กรุงเทพ (BKK)

เริ่มจาก THB 1,393.67

Wed, 9 Apr 2025

Thai VietJet Air

อุดรธานี (UTH) ไป กรุงเทพ (BKK)

เริ่มจาก THB 801.99

ในบทความนี้

• ปักหมุด! 20 ที่เที่ยว Unseen ในไทยที่ต้องไปให้ได้
• 1. เขาล่องเรือตาหมื่น - พิษณุโลก
• 2. สามพันโบก - อุบลราชธานี
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 3. คลองสังเน่ห์ - พังงา
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 4. ภูสิงห์ "หินสามวาฬ" - บึงกาฬ
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 5. ม่อนหมอกตะวัน - ตาก
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 6. น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน - ลำปาง
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 7. อ่าวท่าเลน - กระบี่
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 8. เกาะผ้า - พังงา
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 9. ถ้ำสีฟ้า - ตาก
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 10. คลองปากประ - พัทลุง
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 11. ทุ่งโปรงทอง - ระยอง
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 12. ดอยพุ่ยโค - แม่ฮ่องสอน
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 13. ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง - ยะลา
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 14. วัดเขาสูงแจ่มฟ้า - กาญจนบุรี
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 15. ทุ่งกะมัง - ชัยภูมิ
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 16. เขาจมป่า - ตรัง
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 17. จุดชมวิวผาแดงหลวง - ลำพูน
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 18. เกาะกระดาด - ตราด
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 19. หนองทะเล - กระบี่
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง
• 20. ภูลำดวน - เลย
• แนะนำเวลามาเที่ยว
• วิธีเดินทาง

เที่ยวบินที่แนะนำในบทความนี้

Sat, 29 Mar 2025
Thai AirAsia
เชียงใหม่ (CNX) ไป กรุงเทพ (BKK)
เริ่มจาก THB 945.35
จองเลย
Tue, 25 Mar 2025
Thai AirAsia
หาดใหญ่ (HDY) ไป กรุงเทพ (BKK)
เริ่มจาก THB 1,393.67
จองเลย
Wed, 9 Apr 2025
Thai VietJet Air
อุดรธานี (UTH) ไป กรุงเทพ (BKK)
เริ่มจาก THB 801.99
จองเลย

สำรวจสิ่งที่ดีที่สุดของ ประเทศไทย

กรุงเทพฯ

Thailand

ประเทศไทย

ดอนเมือง

Thailand

ภูเก็ต

Thailand
จองโรงแรม
จองตั๋วเครื่องบิน
Things to Do
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร