เที่ยวลาว 2023 งบเบา ๆ สบายกระเป๋า "ลาว" ประเทศเพื่อนบ้านที่นับว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางอันน่าสนใจไม่แพ้กับที่ไหน ๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เรื่องราวความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของประเทศลาว หรือจะเป็นด้านอาหารการกิน แถมการเดินทางยังสะดวก และใช้เวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมงจากไทยเท่านั้น
ที่สำคัญในเรื่องของงบค่าใช้จ่ายต้องบอกเลยว่าเบา ๆ ตั๋วเครื่องบินไปลาวราคาสบายกระเป๋า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวใกล้บ้านเราในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้ เพราะนอกจากคุณจะได้ไปสัมผัสวิถีชีวิตของคนลาวได้อย่างใกล้ชิดแล้ว ยังสามารถสนุกสนานไปกับการไปเช็กอินตามแลนด์มาร์กที่เที่ยวลาวจุดต่าง ๆ ได้อีกด้วย
ว่าแล้วก็อย่ารอช้า รีบแพคกระเป๋าและกดจองตั๋วเครื่องบินลาวไปกับ Traveloka แอปพลิเคชันที่ทำให้การเดินทางของคุณเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากกว่าที่เคย ที่สำคัญคุณยังสามารถจองตั๋วได้ในราคาพิเศษที่เรียกได้ว่าคุ้มค่าสุด ๆ ไปเลย
เปิดวาร์ปกับที่เที่ยวลาวที่แรกอย่าง ประตูไซ หรือประตูชัย แลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ควรพลาดแก่การเดินทางมาเช็กอิน ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการมาเยือนนครเวียงจันทน์ ประเทศลาวอีกด้วย
โดยจุดเด่นของประตูไซแห่งนี้ คือ ความสวยของสถาปัตยกรรมที่แสดงถึงเอกลักษณ์อันโดดเด่นของลาว ผ่านภาพวาดเรื่องราวมหากาพย์รามายณะแบบปูนปั้นได้อย่างชัดเจน ซึ่งถ้าหากสังเกตดี ๆ ประตูไซนี้จะมีความคล้ายคลึงกับประตูชัยของประเทศฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงยุโรปก็สามารถถ่ายรูปสวย ๆ ได้แล้ว เหมาะสำหรับคนที่อยากเก็บภาพความประทับใจในการมาเที่ยวลาว
พระธาตุหลวง หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี เป็นที่เที่ยวลาวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพราะถ้าหากใครได้มาถึงลาวแล้วไม่ได้เข้ามากราบสักการบูชาพระธาตุหลวง ก็เหมือนมาไม่ถึงลาวนั่นเอง เนื่องจากตามเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ลาวและความเป็นมาได้กล่าวไว้ว่า พระธาตุแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาพร้อม ๆ กับการสร้างเมืองเวียงจันทน์ จึงทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจที่สำคัญของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศที่เลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนา
ที่เที่ยวลาวทางธรรมชาติอย่าง ‘ถ้ำกองลอ’ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ควรค่าแก่การเดินทางไปเช็กอินเป็นอย่างมาก เนื่องจากความงดงามที่ถูกสร้างขึ้นโดยธรรมชาติอย่างสวยงามตระการตา ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้นั่งเรือลอดถ้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยโขดหินงอกหินย้อยจำนวนมากมายท่ามกลางแสงไฟนีออน พร้อมทั้งสัมผัสไปกับบรรยากาศอันเงียบสงบได้อย่างตื่นตาตื่นใจ
ที่สำคัญถ้ำแห่งนี้ยังเคยเป็นเส้นทางคมนาคมของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกนี้อีกด้วย เนื่องจากบริเวณปากถ้ำอีกด้านหนึ่งเป็นหมู่บ้านนาตาล ที่ถูกปิดล้อมไปด้วยภูเขาสูงใหญ่ ไม่ถนนเข้าออก จึงเป็นเหตุให้ชาวบ้านต้องสัญจรผ่านเส้นทางถ้ำแห่งนี้นั่นเอง นักท่องเที่ยวก็จะได้ซึมซับวิถีชีวิตของชาวบ้านประชากรลาวผ่านการล่องเรือเดินทางภายในถ้ำกองลอ
น้ำตกตาดกวางสี เป็นน้ำตกที่นับว่าสวยที่สุดในหลวงพระบาง โดยมีความสูงราว 70 เมตร หรือเทียบเท่ากับตึก 2 ชั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติที่ถูกโอบล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการหนีความวุ่นวายในตัวเมืองและต้องการผ่อนคลายความเหนื่อยล้าด้วยการสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ลาว และที่สำคัญสภาพป่ายังมีความร่มรื่นแบบเย็นสบาย แถมนักท่องเที่ยวยังสามารถเล่นน้ำบริเวณลำธารได้ตามอัธยาศัยอีกเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในที่เที่ยวลาวที่ควรไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง
โบราณสถานสำคัญอย่าง ‘ทุ่งไหหิน’ เป็นที่เที่ยวลาวที่ได้รับการจดขึ้นทะเบียนยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก โดยจุดเด่นที่ดึงดูดสายตาของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวก็คือ หินขนาดใหญ่ที่เรียงรายอยู่บนพื้นที่ราบทั่วบริเวณที่มีอายุมากกว่า 2,500 ปี ทุ่งไหหินแห่งนี้มีความเชื่อว่าหินเหล่านี้เป็นภาชนะบรรจุกระดูก ที่ใช้ในพิธีศพของประชากรลาวโบราณในสมัยก่อน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในพิกัดที่ผู้คนต่างสนใจและตั้งใจว่าถ้ามาเที่ยวลาวสักครั้งก็ต้องมาเช็กอินที่นี่ให้ได้
หอพระแก้ว เป็นที่เที่ยวลาวที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากนครเวียงจันทน์ ที่มีลักษณะเป็นอาคารไม้แกะสลักอย่างสวยงาม ซึ่งได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในช่วงปี 2480–2483 โดยเจ้าสุวรรภูมา และได้มีการวางพระประธานขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งพระไตรปิฎกและตู้สำหรับวางวัตถุโบราณต่าง ๆ ไว้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชมกันได้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญภายในหอพระแก้วแห่งนี้ยังมีภาพเขียนตามเพดานที่มาพร้อมกับลวดลายวิจิตรต่าง ๆ อย่างงดงาม นับว่าเป็นอีกแลนด์มาร์คลาวที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีความหลงใหลในงานสถาปัตยกรรม
สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่ชื่นชอบความเก่าแก่โบราณ ก็ต้องไม่พลาดกับการเดินทางมาที่เที่ยวลาวอย่าง สวนพระ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของนครหลวงเวียงจันทน์ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของพระพุทธรูป และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนาที่ตั้งกระจัดกระจายอยู่บนพื้นที่ราบกว่า 200 องค์อย่างสง่างาม แถมบริเวณโดยรอบยังถูกโอบล้อมไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่จำนวนมากมาย ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวลาวสัมผัสได้ถึงความร่มรื่นและความเย็นสบายได้อย่างแท้จริง
ที่เที่ยวลาวอย่าง ‘สี่พันดอน’ หรือแปลจากภาษาลาวเป็นภาษาไทยว่า สี่พันเกาะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก หากมาเที่ยวลาวแล้วไม่ควรพลาด โดยจุดท่องเที่ยวของสถานที่แห่งนี้มีด้วยกันทั้งหมด 3 จุด ได้แก่ ดอนคง เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เหมาะแก่การเดินทางมาสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด พร้อมกับการดื่มด่ำไปกับบรรยากาศธรรมชาติที่ถูกโอบล้อมไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่จำนวนมาก รวมไปถึงจุดที่เรียกว่าดอนคอน และดอนเดด อีกสองจุดเช็กอินยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างพากันแวะเวียนเข้ามา
มากไปกว่านั้นสี่พันดอนแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของน้ำตกหลี่ผี พื้นที่ที่เต็มไปด้วยเนินโขดหินและน้ำที่ไหลเชี่ยวด้วยความแรง จนเกิดเป็นละอองสีขาวไปทั่วทั้งแก่ง มองแล้วสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
บลูลากูน เป็นที่เที่ยวลาวที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยลักษณะของบลูลากูนที่ว่านี้เป็นบ่อน้ำผุดที่มีสีฟ้าเขียวใสเป็นมรกต ทำให้สามารถมองเห็นพื้นดินด้านล่างได้อย่างชัดเจน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการคลายความร้อนด้วยการลงเล่นน้ำ พร้อมทั้งกระโดดน้ำไปมาได้อย่างเพลิดเพลิน
นอกจากนี้บริเวณภายในยังมีบริการให้เช่าห่วงยาง ชิงช้า แพไม้ไผ่ เพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้นักท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น หรือถ้าหากใครรู้สึกหิวก็สามารถซื้ออาหารทานบริเวณด้านในได้อย่างสะดวกสบายอีกเช่นกัน เป็นที่เที่ยวลาวที่เหมาะมากับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนฝูงอย่างมาก
ที่เที่ยวลาวที่ต่อมา เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่ต้องการออกไปค้นหาสิ่งมหัศจรรย์อันงดงามที่มีชื่อว่า ‘หนองเขียว’ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเมืองงอย โดยกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาถึงที่เที่ยวลาวแห่งนี้เลยก็คือ การปีนเขา เดินสำรวจป่า และการชมวิวทัศนียภาพของเมืองงอยกันที่บริเวณจุดสูงสุดได้อย่างกว้างไกลสุดสายตา รวมไปถึงการสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติอันสมบูรณ์ได้อย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งหากใครที่ชอบความสงบ และชอบเที่ยวแบบลุย ๆ แล้วละก็ หนองเขียวแห่งนี้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คุณได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
สะพานส้ม สะพานข้ามแม่น้ำที่เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คลาวยอดฮิตของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวที่ต่างพากันเดินทางมาถ่ายรูปชิก ๆ พร้อมกับโพสต์ท่าสวย ๆ เพื่อกลับไปอัปรูปลงโซเชียลกันได้อย่างรัว ๆ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินเล่นดูของที่บริเวณด้านหลังสะพานได้อย่างเพลิดเพลินอีกเช่นกัน เพราะนอกจากจะมีร้านค้าต่าง ๆ จำนวนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ร้านขายอาหารพื้นเมืองที่นักท่องเที่ยวสามารถลองรสชาติกันได้อย่างจุใจแล้ว ยังมีร้านขายของที่ระลึกอื่น ๆ อีกด้วย และที่สำคัญสะพานส้มแห่งนี้ยังเป็นทางเชื่อมสำหรับการเดินทางไปยังถ้ำจั๋ง อีกหนึ่งที่เที่ยวลาวที่ควรค่าแก่การไปปักหมุดเช็กอินกันนั่นเอง
น้ำตกตาดแส้ เป็นหนึ่งในที่เที่ยวลาวที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 15 กิโลเมตร ความสวยงามและความโดดเด่นของน้ำตกแห่งนี้อยู่ที่สายน้ำที่หลั่งไหลอาบตามโขดหินลงมาเป็นชั้น ๆ จนเกิดเป็นภาพที่งดงาม ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาลาวก็มักจะมาลงเล่นน้ำกันที่นี่ นอกจากนี้บริเวณด้านนอกของน้ำตกยังมีการแสดงโชว์ของช้าง ออกมาอวดความสามารถให้เราได้เชยชมกันอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการเดินทางมาเช็กอินที่เดียวแต่ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เห็นแบบนี้แล้วจะพลาดได้อย่างไร
ที่เที่ยวลาวอย่าง ‘ปราสาทหินวัดพู’ โบราณสถานสำคัญของลาวที่ได้รับให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโกในปี ค.ศ.2001 ซึ่งที่แห่งนี้ใช้สถาปัตยกรรมแบบเขมร โดยสร้างจากหินทรายและอิฐ พร้อมทั้งลวดลายเก่าแก่อันสวยงาม ที่ดึงดูดสายตาของนักท่องเที่ยวให้พากันเดินทางไปเช็กอินกันที่แลนด์มาร์คลาวแห่งนี้ อีกทั้งพื้นที่รอบ ๆ ยังเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีน้อยใหญ่จำนวนมากที่คอยสร้างความร่มรื่นเย็นสบายให้แก่ผู้มาเยือน
พระบรมมหาราชวัง เป็นที่เที่ยวลาวที่ตัวอาคารมีลักษณะเป็นทรงลาวแบบโบราณที่ผสมผสานกับศิลปะแบบล้านช้างกันได้อย่างลงตัว ถูกตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ทำให้บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความร่มรื่นเย็นสบายตลอดทั้งวัน หากใครที่แพลนจะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ลาวก็สามารถพากันมาเช็กอินกันได้ที่เที่ยวลาวแห่งนี้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงตอนเช้า เนื่องจากอากาศจะยังไม่ร้อนมากเท่าไหร่นัก แถมยังสามารถถ่ายรูปออกมาได้สวยงามอีกด้วย
ที่ราบสูงโบลาเวน เป็นที่เที่ยวลาวบริเวณแขวงจำปาสัก ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสมบูรณ์แบบของธรรมชาติอย่างงดงาม ไม่ว่าจะเป็น ต้นไม้ ภูเขา เส้นทางธรรมชาติ หรือน้ำตกอีกหลายแห่ง รวมไปถึงไร่กาแฟอาราบิก้า ที่มีรสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอมเย้ายวนเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นจุดขายพิเศษของแหล่งท่องเที่ยวลาวแห่งนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งหากใครที่เป็นนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติก็ไม่ควรพลาดที่จะมาเช็กอินกันที่แห่งนี้ รับรองว่าได้ครบทุกรสชาติถูกใจคุณอย่างแน่นอน
วัดวิชุนราช ตั้งอยู่ที่หลวงพระบาง นับว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวลาวที่ไม่ควรพลาดเลย โดยวัดวิชุนราชเป็นศาสนสถานที่มีพระอุโบสถสวยงามควรค่าแก่การสักการะ และมีองค์พระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในหลวงพระบาง แต่ข้อสำคัญที่ทำให้วัดวิชุนราชโดดเด่น และมีอีกชื่อเรียกว่าพระธาตุหมากโม ก็เพราะว่า พระธาตุประจำวัดมีลักษณะโค้งมนคล้ายกับแตงโมผ่าครึ่งลูก จึงเป็นที่มาของชื่อวัดนั่นเอง
ตลาดที่เที่ยวลาวสำหรับสายกิน สามารถช้อปปิ้งของฝากติดมือกลับไปจากประเทศลาว โดยบริเวณตลาดก็จะมีร้านค้ามากมายทั้งอาหารคาวและหวาน และยังมีของที่ระลึก สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินเลยซื้อของไปเรื่อย ชอบเดินชมงานฝีมือวัฒนธรรมของประชากรลาวตลาดไนท์หลวงพระบาทก็นับว่าเป็นที่เที่ยวลาวที่ตอบโจทย์มาก ๆ
มาถึงหลวงพระบาทแล้วก็ต้องมาที่วัดเชียงทอง ศาสนสถานที่เต็มไปด้วยงานสถาปัตยกรรมงานด้านแกะสลักตกแต่งตามอาคารต่าง ๆ บริเวณของวัด เรียกได้ว่าสวยงามเหมาะแก่การมาเยี่ยมชม โดยวัดเชียงทองเป็นที่เที่ยวลาวที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน ในฐานะวัดคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาท หากมีโอกาสมาเที่ยวลาวก็ลองมาไหว้พระได้ที่นี่เลย
ที่เที่ยวลาวที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตแม่น้ำโขงตอนล่าง บริเวณจำปาสัก วิวทิวทัศน์แถวบริเวณน้ำตกจัดว่าสวยงามเป็นอย่างมาก นับว่าไม่ควรพลาดเลย หากมาลาวก็แนะนำให้หาโอกาสแวะมาเที่ยวชมความอัศจรรย์ของน้ำตกขนาดยักษ์ แต่ถ้าจะมาก็ควรหลีกเลี่ยงหน้าฝน เพราะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้น้ำหลากจนไม่เห็นอะไรเลย แถมน้ำยังเป็นสีส้มดูไม่น่าชมเท่าไหร่นัก
วัดพูสะเหลา แลนด์มาร์คลาวบนภูเขาสูงที่สามารถสังเกตเห็นได้จากพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ด้านบน สามารถเดินทางขึ้นเขาเพื่อไปสักการบูชาเพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเอง แต่นอกจากการไหว้พระแล้ว ที่เที่ยวบนภูเขาแห่งนี้ยังมีวิวทัศน์ที่สวยงามให้เราได้เก็บภาพความประทับใจกลับไปอีกด้วย จัดว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย
น้ำตกตาดฟาน ที่เที่ยวลาวใกล้เมืองปากเซ เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่และมีความสูงที่จัดว่าสูงมาก เนื่องจากอดีตพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นปล่องภูเขาไฟมาก่อน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่น้ำตกตาดฟานจะได้รับชมความสวยงามของน้ำตกและธรรมชาติโดยรอบ พร้อมเพิ่มความหวาดเสียวด้วยการมองไปยังน้ำตกที่สูงกว่า 220 เมตร รับรองเลยว่าเป็นประสบการณ์เที่ยวลาวที่คุ้มค่าหากมาที่นี่
เวียงไซ เป็นเมืองแห่งหนึ่งของประเทศลาวตั้งอยู่ที่แขวงหัวพัน ถึงแม้จะเป็นเมืองที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่จุดพีคของที่เที่ยวลาวเวียงไซ คือ ถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ที่ภายในถูกขุดเจาะเพื่อทำเป็นที่อยู่อาศัยพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ โดยถ้ำแบบนี้ที่บริเวณเมืองเวียงไซมีถึง 12 แห่ง แต่เปิดรับนักท่องเที่ยวเพียง 6 แห่งเท่านั้น สาเหตุที่ถ้ำถูกเจาะทำเป็นที่อยู่อาศัยมีความเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของลาว โดยถ้ำดังกล่าวเคยเป็นสถานที่หลบภัยของแกนนำทหารในอดีตนั่นเอง
ถ้ำจัง เป็นที่เที่ยวลาวที่สามารถเข้าไปโดยผ่านสะพานส้ม ซึ่งหลังจากลงสะพานเดินต่อไปสักระยะจะเจอกับทางขึ้นเป็นบันไดประมาณ 147 ขั้น ภายในประกอบด้วยหินงอกหินย้อยพร้อมแสงไฟส่องสว่างสวยงาม แต่นอกจากความงามภายในถ้ำแล้วบริเวณสุดทางเดินฝั่งซ้ายของถ้ำจะเป็นส่วนของหน้าผาที่ถูกกั้นเป็นระเบียงสำหรับชมวิว สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีแพลนไปลาวแล้วอยากลองไปถ้ำจังก็ควรระวังเรื่องอุณหภูมิด้วยเพราะภายในถ้ำอากาศค่อนข้างเย็น
ถ้ำปากอู เป็นที่เที่ยวลาว อยู่ที่หลวงพระบาง โดยนักท่องเที่ยวต้องอาศัยการนั่งเรือสองต่อจากหลวงพระบางมาที่ถ้ำแห่งนี้ ภายในถ้ำปากอูจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ บริเวณแรกที่มีหินงอกหินย้อยและพระพุทธรูปสร้างจากไม้จำนวนมาก เรียกว่าถ้ำติ่งลุ่ม เดิมทีเชื่อว่าบริเวณถ้ำเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและสักการะภูตผี และอีกส่วนเรียกว่า ถ้ำติ่งเทิ่ง เป็นส่วนที่มีพระพุทธรูปไม้เช่นกัน แต่จำนวนไม่มากเท่าถ้ำติ่งลุ่ม
ย่านเมืองเก่าหลวงพระบาง เป็นมรดกโลกที่ได้รับการอนุรักษ์ให้คงความสวยงามของบ้านเมืองและพระราชวังหลวงบริเวณนั้น โดยที่เที่ยวลาวแห่งนี้นับว่ามีคุณค่าทางศิลปะเป็นอย่างมาก บริเวณสองข้างทางของถนนย่านเมืองเก่าประกอบไปด้วยตึกสถาปัตยกรรมโคโลเนียล เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินชมมรดกโลก สถาปัตยกรรมที่หาดูได้ยากจากที่อื่น
สำหรับคนที่มีแพลนอยากจองตั๋วบินไปเที่ยวลาว นอกจากจะต้องเลือกจุดเช็กอินที่เที่ยวลาวแล้ว ก็ต้องมาเตรียมความพร้อมรับมือมาตรการต่าง ๆ ที่นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องปฏิบัติตามเมื่อต้องการเดินทางไปเที่ยวและพักอาศัยอยู่ที่ประเทศลาว โดยมาตรการสำหรับนักท่องเที่ยวสามารถสรุปออกมาได้ดังนี้
เมื่อเรามีแพลนออกทริปไปท่องเที่ยว หากมีการหาข้อมูลเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางก็จะช่วยเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เพราะนักท่องเที่ยวอย่างเราควรจะเตรียมความพร้อมทั้งเรื่องสัมภาระ ทรัพย์สิน และเอกสารต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อนวันออกเดินทาง สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับประเทศลาวและที่เที่ยวต่าง ๆ เราก็ได้รวบรวมเอาไว้แล้วดังนี้
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีพื้นที่ประมาณ 237,955 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศของลาวแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ เขตภูเขาสูง ที่ราบสูง และที่ราบลุ่มติดกับแม่น้ำ ประเทศลาวมีเขตการปกครองทั้งหมด 17 แขวง เมืองหลวงของประเทศลาว คือ เวียงจันทน์ พรมแดนของลาวทางทิศเหนือติดกับจีน ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดกับพม่า ทิศตะวันออกติดกับเวียดนาม ทิศใต้ติดกับกัมพูชา และทิศตะวันตกติดกับไทยโดยมีแม่น้ำโขงกั้นเป็นบางช่วง ใช้ภาษาลาวเป็นภาษาราชการและภาษาพูดของประชากรลาว
เดินทางไปเที่ยวลาวใช้เวลาบินตรงโดยเฉลี่ยที่ประมาณ 1 ชม. 15 นาที ขึ้นอยู่กับว่าวันที่เราออกเดินทางสภาพ อากาศเป็นอย่างไร โดยเราสามารถขึ้นเครื่องบินไปลาวได้ที่สนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนสายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินไปลาว ได้แก่ AirAsia, Lao Airlines, Bangkok Airways, Thai Airways และ Vietnam Airlines
หลังจากเราเดินทางมาถึงลาวเรียบร้อยแล้ว เราสามารถเดินทางเข้าเมืองหรือเดินทางไปยังที่เที่ยวลาวด้วยการโดยสารรถประจำทาง รถรับจ้าง หรือเรียกแท็กซี่ การเดินทางแต่ละแบบมีอัตราค่าโดยสารที่แตกต่างกัน แต่รถประจำทางที่ประเทศลาวขับผ่านป้ายหน้าสนามบินไม่ถี่เท่าไหร่ อาจต้องใช้เวลารอนานพอสมควร แต่สำหรับใครที่อยากเดินทางสะดวกก็สามารถใช้บริการรถเช่าของ Traveloka ซึ่งจะช่วยเพิ่มอิสระให้กับการเดินทางของคุณ
ภาษาลาวเป็นภาษาราชการและภาษาที่ประชากรชาวลาวนิยมใช้ในการสื่อสารพูดคุยกัน ซึ่งภาษาลาวจะมีความใกล้เคียงกับภาษาอีสานของไทยมาก แต่จะแตกต่างกันตามสำเนียงของแต่ละพื้นที่ของประเทศ เช่น ลาวกลางกับลาวเหนือก็จะมีสำเนียงที่แตกต่างกัน นอกจากภาษาลาวยังมีภาษาอื่น ๆ ที่นิยมใช้ในการสื่อสาร ได้แก่ ม้ง ขมุ และฝรั่งเศส
จะไปเที่ยวลาวก็ต้องแลกสกุลเงินที่สามารถนำมาใช้จ่ายในประเทศลาวได้ ซึ่งเงินตราของลาวจะเป็นสกุลเงินกีบ (Lao Kip หรือ LAK) โดยมีอัตราการแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 THB = 552.67 LAK (กันยายน 2566) แต่อัตราการแลกเปลี่ยนตรงนี้ก็อาจมีการขยับปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลาที่เราแลกเงิน
เนื่องจากประเทศลาวมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศไทย ทำให้เวลาของประเทศลาวไม่ต่างจากไทยเลย เวลาบินไปเที่ยวลาวจึงไม่จำเป็นต้องดูเรื่องความแตกต่างของเวลา ชื่อโซนเวลาของลาว คือ Indochina Time (ICT) GMT+7
อากาศที่ประเทศลาวแบ่งออกเป็น 3 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนเมษายน ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนตุลาคม และฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมกราคม ภูมิอากาศของประเทศลาวมีความคล้ายคลึงกับประเทศไทย หากแต่ช่วงที่เป็นฤดูหนาวหรือมีมวลอากาศเย็นลงมาจากจีน ถ้าช่วงนั้นเราจะไปเที่ยวลาวก็ควรเตรียมเสื้อกันหนาวเพื่อรับมือกับสภาพอากาศ