“ตุรกี” เป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนไทยสามารถไปเที่ยวได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งเป็นประเทศที่นับว่ามีความสวยงามและเต็มไปด้วยประสบการณ์ใหม่ ๆ รอคอยให้เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเยี่ยมชม และค้นหาความงดงามกันได้อย่างสนุกสนาน ดังนั้นวันนี้เราขอพาคุณไปอัปเดต 25 ที่เที่ยวตุรกี ที่เหมาะกับการถ่ายรูป ซึ่งรับรองเลยว่าคุณจะได้มุมถ่ายรูปดี ๆ ไว้อัปลงโซเชียลกันแบบรัว ๆ เลยทีเดียว ว่าแล้วก็รีบกดจองตั๋วเครื่องบินไปตุรกีกันได้ที่แอป Traveloka แอปดี ๆ ที่จะทำให้คุณสามารถจองตั๋วเครื่องบินได้อย่างสะดวกสบาย แถมยังได้ราคาสุดคุ้มอีกด้วย

มาเริ่มสถานที่ท่องเที่ยวตุรกีที่แรกกันกับ อันตัลยา (Antalya) หรือเมืองตากอากาศริมทะเลของประเทศตุรกี ที่สามารถเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมทั้งชื่นชมบรรยากาศโดยรอบไปกับความสวยงามของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้อย่างเต็มเปี่ยม โดยสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ จึงทำให้มีความโดดเด่นในเรื่องของวิวทิวทัศน์ของทะเล และภูเขาที่รายล้อมอยู่บริเวณโดยรอบ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างนิยมพากันเดินทางมาเดินเล่นพักผ่อน และล่องเรือชมความสวยงามของที่เที่ยวตุรกีแห่งนี้

พิกัด : https://goo.gl/maps/Qry4jiyusBYHRAxW8

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดเช็กอินของที่เที่ยวตุรกีที่คุณไม่ควรพลาดเป็นอันเด็ดขาด เนื่องจากภายในสถานที่แห่งนี้มีความเก่าแก่กว่า 8 ล้านปี จึงทำให้บริเวณพื้นที่นี้เกิดการกัดกร่อนของลม จนทำให้แท่งหินถูกกัดเซาะ และกลายเป็นรูปทรงคล้ายปล่องไฟ รวมไปถึงรูปทรงต่าง ๆ ทำให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหินรูปทรงแปลกใหม่ เกิดเป็นความน่าสนใจในความสวยงามของสิ่งต่าง ๆ ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นได้อย่างลงตัว

พิกัด : https://goo.gl/maps/gsqypk9d6Lav2qF8A

ที่เที่ยวตุรกีที่ต่อมาคือ พระราชวังโทพคาปี เป็นหนึ่งในพระราชวังเมืองตุรกีที่มีความเก่าแก่กว่า 600 ปี และได้ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่จนกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์อันงดงาม ซึ่งมีความเป็นมา เเละเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การรักษาไว้ให้ลูกหลานได้มาเดินเยี่ยมชม โดยปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้ถูกจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลกในองค์การยูเนสโกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมที่เที่ยวตุรกีแห่งนี้ยังมีความสวยงาม เนื่องจากเป็นจุดชมวิวของช่องแคบบอสฟอรัสที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก หากใครที่อยากมาชมความอลังการของพระราชวังตุรกีแล้วละก็ สามารถเดินทางมาได้ที่นี่เลย

พิกัด : https://goo.gl/maps/sZk2wB88Mtm17Q9eA

ช่องแคบบอสฟอรัส หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าช่องแคบอิสตัลบูล เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของประเทศตุรกี ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเหล่าบรรดานักท่องเที่ยว รวมไปถึงคนตุรกีเอง โดยจุดสำคัญของที่เที่ยวตุรกีแห่งนี้นั้นไม่ได้มีแค่วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่เป็นช่องแคบที่แบ่งประเทศตุรกีให้เป็นสองทวีปเอาไว้ ซึ่งหากใครที่อยากเดินทางมาท่องเที่ยวที่สถานที่แห่งนี้ สามารถมาร่วมกิจกรรมการล่องเรือชมความสวยงามของช่องแคบแห่งนี้ได้ หรือหากใครที่ไม่มีเวลามากพอก็สามารถเดินเที่ยวชมถ่ายรูปได้ที่บริเวณท่าเรือได้อีกเช่นกัน

พิกัด : https://goo.gl/maps/HMGCgW8fV5NzNAZN9

หากใครที่ชื่นชอบที่เที่ยวตุรกีแนวมินิมอลก็ขอบอกเลยว่า ห้ามพลาดกับที่เที่ยวตุรกีแห่งนี้เลยนั่นก็คือ ปามุคคาเลย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวตุรกีที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก แถมยังมีอีกชื่อที่เรียกว่า ปราสาทปุยฝ้าย ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องมาหากเดินทางมาที่ประเทศตุรกีแห่งนี้ เนื่องจากปามุคคาเลย์เป็นสถานที่ทางธรรมชาติที่มีความโดดเด่นจากแอ่งน้ำสีฟ้า ซึ่งเกิดมาจากแอ่งน้ำหินปูนแล้วถูกกัดเซาะจนเกิดเป็นความสวยงามที่ลงตัว ทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันให้ความสนใจ และต่างพากันเดินทางมาเพื่อมาถ่ายรูปสวย ๆ ชิค ๆ กันที่บริเวณนี้นั่นเอง

พิกัด : https://goo.gl/maps/YXDt3SePSV4JRbvq6

ไปต่อกันกับสถานที่ท่องเที่ยวตุรกีที่ต่อมาอย่าง เมืองใต้ดินเคย์มากลิ (UNDERGROUND CITY OF KAYMAKLI) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ค่อนข้างแปลกใหม่เลยทีเดียว เนื่องจากสถานที่แห่งนี้นั้นตั้งอยู่บริเวณใต้ดินที่ลึกลงไป และเปรียบเสมือนเมืองอีกแห่งหนึ่งที่มีลักษณะปกติเหมือนเมืองทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าต่าง ๆ โบสถ์ ห้องพัก หรือแม้กระทั่งร้านอาหารทั่วไป ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก หากใครที่อยากลองมาสัมผัสที่เที่ยวตุรกีที่แปลกใหม่แล้วละก็ สามารถเดินทางมาได้ที่สถานที่แห่งนี้เลย

พิกัด : https://goo.gl/maps/svPxn57sMFv4Szy38

มาถึงจุดถ่ายรูปของสายฮิปกันบ้างอย่าง พาซาแบค ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายรูปที่มีความฮิปสเตอร์สูงมาก โดยภายในสถานที่แห่งนี้นั้นมีลักษณะเป็นภูเขาหินที่มีรูปทรงต่าง ๆ แตกต่างกันออกไปจนเกิดเป็นความสวยงามที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ดังนั้นแนะนำเลยว่าหากใครที่ชอบแนวเอิรธ์โทน สไตล์ฮิปแล้วละก็ ที่เที่ยวตุรกีแห่งนี้ถือว่าเหมาะเป็นอย่างมาก และสิ่งสำคัญที่สุดของการถ่ายรูปบริเวณหุบเขานั้นก็คือ อูฐ ที่คุณสามารถเช่าน้องมาถ่ายรูปได้อีกด้วย

พิกัด : https://goo.gl/maps/XtSA94Rmkgc17WNu8

พิกัด : https://goo.gl/maps/28MQuQradR8ZPCVYA

พิพิธภัณฑ์ฮาเกียโซเฟีย (HAGIA SOPHIA) หรือ ที่รู้จักอีกชื่อหนึ่งว่า สุเหร่าโซเฟีย เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวตุรกีที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เนื่องจากสมัยก่อนนั้นสุเหร่าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ และได้ถูกดัดแปลงในภายหลังสองรอบด้วยกัน โดยในรอบแรกนั้นถูกดัดแปลงให้กลายเป็นสุเหร่า ต่อมาค่อยถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์อันยิ่งใหญ่ที่มีการออกแบบสถาปัตยกรรมที่งดงามอย่างอลังการ โดยภายในสุเหร่าแห่งนี้นั้นถือได้ว่ามีความสวยงามเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการตกแต่งภายในโดยใช้โทนสีฟ้าเป็นหลัก จึงเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวต่างพากันเดินทางมาเพื่อถ่ายรูปกับที่เที่ยวตุรกีแห่งนี้

หลังจากพาไปสถานที่ท่องเที่ยวตุรกีสวย ๆ กันไปแล้วก็ไปต่อกันกับที่เที่ยวตุรกีแห่งต่อมาที่เราอยากจะมาแนะนำให้ทุกคนเดินทางไปกันอย่าง ฮัมมัม (HAMMAM) หรือเรียกง่าย ๆ ว่าโรงอาบน้ำ โดยภายในสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ที่มีอายุยาวนานกว่า 500 ปี และเปิดให้บริการอาบน้ำที่มีลักษณะคล้ายกับการทำสปา ที่เรียกได้ว่าสบายมาก ๆ หากใครที่รู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทางท่องเที่ยวมาทั้งวันแล้วละก็ อยากให้ลองมาใช้บริการนี้ดู รับรองได้ว่าคุณจะได้รับประสบการณ์การอาบน้ำแบบใหม่ในแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน

พิกัด : https://goo.gl/maps/YGQWDaTgpCKk8ruV7

หากพูดถึงการเดินทางมาท่องเที่ยวตุรกีแล้วละก็คงพลาดไม่ได้เลยกับคัปปาโดเชีย ที่เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวตุรกียอดฮิตตลอดกาลของเมืองตุรกี และได้กลายเป็นแลนด์มาร์กหลักที่ไม่ว่าใครได้เดินทางมาแล้วละก็จะต้องหลงรักกับสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากภายในสถานที่แห่งนี้ถูกโอบล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นอย่างมาก แถมยังมีมุมถ่ายรูปที่สามารถมองเห็นวิวบอลลูนที่ลอยอยู่เหนือฟ้าหลากหลายสีสัน เรียกได้ว่าไม่ว่าจะมุมไหนนักท่องเที่ยวก็สามารถเก็บภาพความประทับใจกันได้อย่างรัว ๆ หากใครที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวตุรกีแล้วละก็ไม่ควรพลาดเป็นอย่างมาก

พิกัด : https://goo.gl/maps/jwYCx2KY7qQDVgs78

มัสยิดสีน้ำเงิน ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวตุรกีที่ไม่ว่าใครได้เดินทางมาก็ต้องแวะมาเยี่ยมชมที่เที่ยวตุรกีแห่งนี้ เพราะนอกจากบริเวณนี้จะมีความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์สำคัญ ๆ มากมายแล้ว ก็ยังคงเป็นแหล่งถ่ายรูปยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวอีกเช่นกัน เนื่องจากภายในได้มีการตกแต่งสถาปัตยกรรมในสไตล์เปอร์เซีย ด้วยกระเบื้องสีฟ้าจำนวนกว่า 20,000 ชิ้น จึงทำให้เกิดเป็นความสวยงามที่ตราตรึงใจเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

พิกัด : https://goo.gl/maps/F3tjaErHaaZHuW2G9

เมื่อพูดถึงการเดินทางมาท่องเที่ยวตุรกีแล้วนั้น ก็พลาดไม่ได้เลยกับการช้อปปิ้งที่ตลาดแกรนด์บาซาร์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีความเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของประเทศตุรกี โดยตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่บริเวณใจกลางเมืองอิสตัลบูล เป็นที่เที่ยวตุรกีที่ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างให้ความสนใจ และเดินทางมาช้อปปิ้งที่บริเวณนี้กันอย่างมากมาย โดยของที่คนส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาซื้อกันจะเป็นของจำพวกของฝาก จาน โคมไฟ หรือของตกแต่ง รวมไปถึงผลไม้แห้ง ที่หากใครเดินทางมาท่องเที่ยวแล้ว ไม่ควรพลาดมาช้อปปิ้งที่นี่ก่อนกลับกันเลยทีเดียว

พิกัด : https://goo.gl/maps/P1We9dcsacXRD68T7

ที่เที่ยวตุรกีอย่างเมืองเอเฟซุล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตุรกีแนวประวัติศาสตร์ที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก โดยภายในสถานที่แห่งนี้นั้นถือได้ว่าเป็นโบราณสถานในยุคโรมันที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศตุรกี เพราะนอกจากจะมีความสวยงามของสถาปัตยกรรมแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังเป็นเมืองโบราณในอดีต ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาในยุคคริสตกาล จึงทำให้บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีประโยชน์ในด้านของการศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ หากใครที่ชื่นชอบแนวประวัติศาสตร์แล้วละก็ไม่ควรพลาดเดินทางมาท่องเที่ยวที่สถานที่แห่งนี้เลย

พิกัด : https://goo.gl/maps/wFsKpqpfPtajVt3E7

ไปต่อกันกับสถานที่ท่องเที่ยวตุรกีอย่าง เมืองโบดรัม (Bodrum) ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในที่เที่ยวตุรกีที่มีความโดดเด่นในเรื่องของทัศนียภาพที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริเวณพื้นที่แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณริมทะเลอีเจียน จึงทำให้มีโบราณสถานต่าง ๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวมาเดินเยี่ยมชมความสวยงามของเมืองแห่งนี้ได้อย่างสนุกสนาน และเพลิดเพลินไปกับมนต์เสน่ห์ที่ไม่ว่าใครได้เดินทางมาก็ต้องหลงใหลไปกับสถานที่แห่งนี้

พิกัด : https://goo.gl/maps/raub2Nei4Tk66giR9

ที่เที่ยวตุรกีที่ไม่ควรพลาด หุบเขาแห่งเทพพระเจ้า หรือหุบเขาเนมรุต เป็นหุบเขาที่ตั้งอยู่บริเวณยอดภูเขาสูงทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี โดยจุดเด่นของหุบเขาแห่งนี้นั่นก็คือโบราณสถานที่กระจายตัวอยู่บริเวณรอบ ๆ และยังมีสุสานแห่งกษัตริย์แอนติโอ ซึ่งมีอายุมากกว่าหลายพันปี รวมไปถึงรูปปั้นศีรษะขนาดใหญ่ รูปปั้นเทพเจ้ากรีกมากมายรายล้อมอยู่ ทำให้เกิดเป็นความสวยงาม และความน่าสนใจเป็นอย่างมาก จนทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาเที่ยวชม และถ่ายรูปกันที่บริเวณแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย

พิกัด : https://goo.gl/maps/tJ9xnvyL33zkdhuJ8

หากใครมาเที่ยวเมืองอิสตันบูลฝั่งยุโรป และอยากชมวิวทิวทัศน์ของเมืองอิสตันบูลโดยรอบด้าน เราขอให้แวะมาเที่ยวที่หอคอยกาลาตา ที่เที่ยวตุรกีที่ทำให้คุณเห็นบรรยากาศอันสุดแสนโรแมนติกได้ทั้งเมือง และยังมีร้านอาหารให้คุณได้ลิ้มลอง เพียงคุณซื้อบัตรจากด้านล่าง ก็สามารถเขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ที่แสนงดงามได้ หลังจากชมวิวด้านบนแล้ว คุณสามารถเดินเที่ยวเล่นบริเวณโดยรอบ ถ่ายรูปหอคอยจากมุมด้านล่างก็สวยงามไม่แพ้กัน

พิกัด : https://goo.gl/maps/tgvmuAJDGxUAnBw5A

นครใต้ดินเดอรินกูยู เป็นมหานครใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาทั้งหมดเกือบ 40 แห่ง ที่เที่ยวตุรกีแห่งนี้สันนิษฐานว่าเดิมที่ใช้เป็นที่พักอาศัยเมื่อครั้งหลบหนีทหารแห่งอาณาจักรโรมัน และเริ่มมีการขยายเมืองกลายเป็นเมืองใหญ่ โดยมีการเจาะพื้นดินลึกลงไปกว่า 10 ชั้น มีทางเดินยาวกว่า 80 กิโลเมตร ในเมืองนี้มีทั้งโบสถ์ โรงเรียน สถานที่เลี้ยงสัตว์ และมีหลุมศพอีกด้วย ถึงจะลึกลับแค่ไหนก็มีระบบระบายอากาศเพื่อรองรับคนนับหมื่นในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี

พิกัด : https://goo.gl/maps/r4GuKHW4U561wTbaA

หอสมุดเซลซุสเป็นที่เที่ยวตุรกีอีกแห่งที่ไม่ควรพลาด เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จะนำคุณเข้าไปสัมผัสกับประสบการณ์อาณาจักรกรีกโบราณอันยิ่งใหญ่ โดยหอสมุดแห่งนี้เป็นสุดยอดสถาปัตยกรรม คล้ายกับเมืองเพตราในจอร์แดน และยังเป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของโลก แต่ทว่าน่าเสียดายที่ห้องสมุดแห่งนี้ถูกทำลายเมื่อครั้งสงคราม จนเหลือเพียงแค่ผนังด้านหน้า และเสาของอาคารเท่านั้น แต่ความงดงามก็ยังตราตรึงใจไม่รู้ลืม

พิกัด : https://goo.gl/maps/tMbgA7hvB2Hse1GL7

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตันเป็นที่เที่ยวตุรกีที่มีจุดเด่นคือ เป็นอุโมงค์เก็บน้ำใต้ดินที่มีความงดงามมากทางด้านสถาปัตยกรรมอย่างเสาหินอ่อนสูง 9 เมตร จำนวนกว่า 336 ต้น ทอดยาวกว่า 138 เมตร ซึ่งเสาเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิจัสตินเนียนแห่งไบเซนไทน์ ในศตวรรษที่ 6 โดยเสาที่น่าสนใจคือเสารูปดวงตา เสาคล้ายเมดูซากลับหัว และเสาหัวเมดูซาตะแคงข้างขวา ที่สำคัญอุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตันยังใช้เป็นที่เก็บน้ำสำหรับใช้ในพระราชวัง แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นด้านวิศวกรรม และชลประทานในอดีต

พิกัด : https://goo.gl/maps/YFwKaZWwJRRNUAJ76

มาต่อกันที่ตำนานม้าไม้แห่งกรุงทรอย ม้าโทรจัน แลนด์มาร์คตุรกีที่สำคัญ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำของเมืองชานัคคาเล่เลียบท่าเรือ Canakkale Marina ม้าโทรจันนี้ทำจากไม้ ที่ชาวกรีกทำขึ้นเพื่อเป็นของกำนัลในการชนะสงคราม แต่แอบซ่อนทหารไว้เป็นจำนวนมากเพื่อไปตีกรุงทรอย แต่ทว่าม้าไม้ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ไม่ใช่ของจริงนะ แต่เป็นม้าไม้ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์ ใครอยากถ่ายรูปกับที่เที่ยวตุรกีสวย ๆ ที่นี่ไม่ควรพลาด

พิกัด : https://goo.gl/maps/4NxLQHcSNfssj3Qu8

แวะมาพักผ่อนริมชายทะเลกันบ้างดีกว่า เอาใจคนชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำ รับสายลม และแสงแดด ต้องไม่พลาดที่เที่ยวตุรกีแห่งนี้ คูชาดาชีเป็นเมืองชายฝั่งทะเลของตุรกี ที่คล้ายกับภูเก็ตบ้านเรา คุณสามารถเดินเล่นริมชายหาดที่ทอดยาวกว่า 2 กิโลเมตร ถ่ายรูปสวย ๆ กับซากสถาปัตยกรรมที่อยู่มายาวนานกว่า 2,000 ปี ขอบอกเลยว่าแค่นั่งพักริมชายหาดชื่นชมกับธรรมชาติก็ฟินแล้ว

พิกัด : https://goo.gl/maps/Yyoo5hRdpZbVCxb98

ที่เที่ยวตุรกีที่มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรม มัสยิดสุเลย์มานิเยเป็นมัสยิดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของกรุงอิสตันบูล ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นบรรณาการให้กับสุลต่านสุเลย์มาน เมื่อปี ค.ศ. 1557 โดดเด่นด้วยหลังคารูปโดมขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึง 47 เมตร ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกสีทองอย่างหรูหราอลังการ เป็นที่ตั้งสุสานของสุลต่านสุเลย์มาน ภายในยังมีโรงเรียนสอนศาสนา โรงพยาบาล ห้องสมุด ตลาด และที่พักกองเกวียน ยิ่งใหญ่แค่ไหนต้องตามไปดู

พิกัด : https://goo.gl/maps/r5pME5XZ4C7i7iQw9

ซากปรักหักพังของวิหารอธินาเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวตุรกี ซึ่งสถานที่แห่งนี้ในอดีตคือเมืองไอโอเนีย (Ionia) ของอารยธรรมกรีกโบราณ โดยซากของวิหารอธินาคาดการณ์ว่าก่อสร้างเมื่อประมาณ 1000 ปีก่อนคริสตศักราช ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามสไตล์เฮลเลนิสติกจึงทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางไปเยือนที่เที่ยวตุรกีแห่งนี้ ซากของวิหารอธินายังคงมีเสาหลายต้นหลงเหลืออยู่อย่างชัดเจน มีกำแพงเมืองขนาดใหญ่ และมีโรงละครตั้งอยู่ ซากปรักหักพังเหล่านี้ จึงสามารถบ่งบอกได้ว่าในอดีตเมืองนี้มีความยิ่งใหญ่ขนาดไหน

พิกัด : https://goo.gl/maps/qSTPzek95Hb9dBwz5

เกาะ Bozcaada ที่เที่ยวตุรกีสุดชิลที่พร้อมให้คุณได้สัมผัสกับกลิ่นอายธรรมชาติบนพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลอีเจียนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี มีประภาคารที่สวยงาม และมีมนต์เสน่ห์ ตลอดทางเดินบนเกาะจะมีบ้านเรือนหน้าตาน่ารักมีสีสันสวยงาม ให้คุณได้เก็บภาพความประทับใจตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีปราสาทเก่าแก่อยู่บนเกาะอีกด้วย เรียกได้ว่าเกาะนี้ไปแล้วจะหลงรักเลยทีเดียว

พิกัด : https://goo.gl/maps/dwKSJGTZqjX22gdC7

จบด้วยจตุรัสทักซิม ศูนย์กลางแห่งการคมนาคมที่มีรถรางสีแดงวิ่งจากย่านทักซิมสแควร์ ไปตามท้องถนน ที่เที่ยวตุรกีแห่งนี้ยังอยู่ใกล้กับสถานีทูเนล ที่เป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอันดับสอง รองจากสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอน บริเวณนี้ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมสาธารณะมากมาย มีถนนอิสรภาพ ที่เป็นหนึ่งในแหล่งชอปปิงที่มีความเก่าแก่มีระยะทางกว่า 1.4 กิโลเมตร คุณสามารถเลือกซื้อของฝากได้แบบจุใจเลยทีเดียว

พิกัด : https://goo.gl/maps/ekjwFwWjvzbX4fSw5

คนไทยสามารถเดินทางไปตุรกีได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และสามารถท่องเที่ยวตุรกีได้ไม่เกิน 30 วัน สำหรับมาตรการโควิด-19 ประเทศตุรกีให้ทำการทดสอบ PCR เป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางมาถึงตุรกี เพียงคุณถือพาสปอร์ต ผลตรวจโควิด-19 และเอกสารที่เที่ยวตุรกีก็ออกเดินทางได้เลย สำหรับใครที่ต้องการขอวีซ่า เพื่อเดินทางท่องเที่ยว และการค้า ในระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน สามารถดำเนินการได้ดังนี้

ตุรกีเป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ผสมผสานกับอารยธรรมสองทวีป คือทวีปยุโรป และทวีปเอเชีย ที่เที่ยวตุรกีจึงมีความหลากหลายมาก หากใครกำลังเตรียมข้อมูลในการเดินทางท่องเที่ยวตุรกี เราได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประเทศแห่งนี้มาให้แล้ว ไปดูกันเลยว่ามีข้อมูลน่าสนใจอะไรบ้าง

ประเทศตุรกี (Turkey) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าสาธารณรัฐตุรกี พื้นที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันตก โดยมีพื้นที่อยู่ในทั้งทวีปเอเชียและทวีปยุโรป ถูกรายล้อมด้วยทะเล ทิศเหนือติดกับทะเลดำ ทิศใต้ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประเทศอิรัก และประเทศซีเรีย ทิศตะวันตกติดทะเลอีเจียน ฝั่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดกับประเทศบัลแกเรีย และกรีซ โดยทิศตะวันออกติดกับประเทศจอร์เจีย และอาร์เมเนีย ตุรกีมีทั้งหมด 81 จังหวัด ขนาดพื้นที่รวม 783,562 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 85 ล้านคน และมีเมืองหลวงคือกรุงอังการา

ระยะเวลาในการเดินทางจากประเทศไทยไปตุรกี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง 15 นาที เที่ยวบินจากกรุงเทพฯ มีบินตรงไปประเทศตุรกีที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีสายการบินให้บริการคือ Turkish Airlines

การเดินทางในตัวเมืองอิสตันบูล สามารถเดินทางได้อย่างง่ายดายด้วยรถสาธารณะ เช่น เรือ รถไฟใต้ดิน รถบัส รถแทรม และรถราง โดยสามารถซื้อบัตร Istanbul Kart ที่บริเวณสถานีรถไฟ หรือท่ารถบัส ซึ่งมีราคา 25 ลีรา สามารถเติมเงินได้ตลอดเวลา ถือว่าเป็นวิธีที่สะดวกมาก และยังครอบคลุมทุกการเดินทาง

ประเทศตุรกีมีภาษาราชการคือภาษาตุรกี ซึ่งภาษาตุรกีนี้ยังเป็นภาษาพูดที่แพร่หลายในหลายพื้นที่ในประเทศยุโรป เช่น ไซปรัส ทางตอนใต้ของคอซอวอ มาเซโดเนีย และพื้นที่ในคาบสมุทรบอลข่านที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออตโตมัน อย่างบัลแกเรีย กรีซ และโรมาเนีย

ตุรกีใช้สกุลเงินของประเทศคือลีราตุรกี (TRY) ซึ่งในปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 ลีราตุรกีใหม่ (TRY) = 1.30 บาท (THB) ณ เดือนตุลาคม 2566 ทั้งนี้อัตราแลกเปลี่ยนอาจมีการเปลี่ยนแปลง ที่เที่ยวตุรกีมีแหล่งช้อปปิ้งมากมายทางที่ดีคุณจึงควรเตรียมแลกเงินให้พร้อมก่อนไปตุรกี

ประเทศตุรกีมีความต่างของเวลาที่ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง โดยประเทศตุรกีมีค่าเวลามาตรฐาน GMT+3 อยู่ในเขตเวลา Europe/Istanbul ชื่อโซนเวลา Turkey Time (TRT) ใครจะไปท่องเที่ยวตุรกีอย่าลืมปรับนาฬิกาให้ตรงกับเวลาในตุรกีกันนะ

ตุรกีมีทั้งหมด 4 ฤดูกาล คือ ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน - พฤษภาคม), ฤดูร้อน (มิถุนายน - กันยายน), ฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม - พฤศจิกายน) และฤดูหนาว (ธันวาคม - มีนาคม) ที่จริงแล้วที่เที่ยวตุรกีเที่ยวได้ทั้งปี โดยช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ และต้นฤดูใบไม้ร่วง เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายเที่ยวได้ทั้งวัน