กลับมาอีกครั้งกับการเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ดินแดนอาทิตย์อุทัย ที่พึ่งได้ออกมาประกาศฟรีวีซ่าให้ชาวไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งก่อนหน้านี้เชื่อว่าหลายคนคงคิดถึงบรรยากาศการท่องเที่ยว และร้านอาหารญี่ปุ่นกันไม่มากก็น้อย โดยการกลับมาในครั้งนี้ เราจะขอพาทุกคนไปแลนด์ดิ้งลงเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตสุดขึ้นชื่ออย่าง โตเกียว โอซาก้า และซัปโปโร ด้วยการพาไปตะลุยกินกับ 30 สุดยอดร้านอาหารชื่อดัง ที่บอกเลยว่าแต่ละร้านนั้นทำเอาคุณฟินอย่างแน่นอน

ซึ่งการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ของคุณจะเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะเรามี App สำหรับเที่ยวญี่ปุ่นอย่าง Traveloka Travel & Lifestyle App ที่ครอบคลุมทุกเรื่องการเดินทาง ตั้งแต่การจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก บริการรถรับ - ส่งสนามบิน บริการรถเช่า บัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวล่วงหน้า ตลอดจนถึงบัตรรถไฟ JR Pass ทั่วประเทศ ที่ช่วยให้การวางแผนการเดินทางของคุณสะดวกขึ้นเยอะ เรียกได้ว่าเป็น App สำหรับเที่ยวญี่ปุ่นที่กลายเป็น One Stop Service ในการเดินทางได้อย่างสบาย ๆ เลยทีเดียว

เที่ยวญี่ปุ่นในเมืองซัปโปโรกับร้านอาหารเด็ด ๆ กันไปบ้างแล้วก็ได้เวลาโยกย้ายมาทานร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองโตเกียวกันบ้างกับร้าน Negishi หรือ ร้านลิ้นวัวย่าง ที่ถือได้ว่าเป็นเมนูเด็ดในร้านปิ้งย่างที่ขาดไม่ได้ ซึ่งบอกเลยว่าหากใครที่เป็นสายเนื้อแล้วละก็ต้องห้ามพลาดร้านนี้ เพราะลิ้นวัวเค้าค่อนข้างนุ่มหอมไม่มีกลิ่นคาว แถมยังราคาสบายกระเป๋ามาก ๆ เรียกได้ว่าคุณภาพและราคาตอบโจทย์สายนักกินอย่างเราแน่นอน

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 10:30 - 23:00 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/iinMDd3aiDSW7JdKA

เดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีจะพลาดกับเมนูเด็ดของที่นี่ไม่ได้กับร้านอาหารญี่ปุ่นสุดขึ้นชื่ออย่าง Ichiran Ramen หรือ ร้านราเมงข้อสอบในตำนานที่เปิดให้คุณได้มานั่งรับประทานราเมงที่จำลองที่นั่งให้เหมือนบรรยากาศในห้องสอบที่แบ่งออกเป็นล็อค ๆ ให้คุณได้นั่งทานได้อย่างสะดวกสบาย แถมยังสามารถมารับประทานกันได้แบบ 24 ชั่วโมงได้อีกด้วย เรียกได้ว่าร้านค้าแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่รูปแบบการเสิร์ฟ แต่รสชาติของอาหารยังอร่อยไม่แพ้ราเมงเจ้าอื่น ๆ เลยทีเดียว

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 24 ชม.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/Se2CCAXxU75NNAwk8

Midori Sushi ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ซูชิ ที่คัดสรรคุณภาพวัตถุดิบแบบสด ๆ มาเสิร์ฟให้กับลูกค้าได้ดื่มด่ำไปกับรสชาติของทะเลสด ๆ ที่แม้แต่คนในท้องถิ่นยังมาต่อแถวเรียงรายกันอยู่หน้าร้านอย่างไม่ขาดสาย เรียกได้ว่าการันตีความอร่อยได้ตั้งแต่แถวหน้าร้านเลยทีเดียว โดยภายในร้านแห่งนี้จะมีเมนูให้สามารถเลือกทานได้ 100 เมนู แบบบุฟเฟ่ต์ที่สามารถทานได้ในระยะเวลา 90 นาทีกันแบบจุก ๆ หรือหากใครที่ไม่อยากทานแบบอิ่มเกินไปก็สามารถสั่งแบบแยกมาทานได้เช่นเดียวกัน

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:00 - 21:00 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/dbehUjvdYHmQgUYC6

ไปต่อกันที่อีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อเรื่อง เทมปุระเป็นอย่างมากกับร้าน Tempura Tsunahachi ที่ต้องบอกเลยว่าคิวร้านนี้มาต่อกันตั้งแต่ยังไม่เปิดร้านกันเลยทีเดียว ซึ่งจุดเด่นของทางร้านเลยนั่นก็คือความสดใหม่ของวัตถุดิบและเทคนิคการทอดแบบเป็น ๆ พร้อมกับแป้งเทมปุระที่ไม่เหมือนใครทำให้ได้ออกมาเป็นแป้งที่บางกรอบอัดแน่นไปด้วยของคุณภาพดีที่เชฟจะทยอยทำให้ทีละเมนูและเสิร์ฟให้เราได้รับประทานกันแบบร้อน ๆ เลยทีเดียว เรียกได้ว่าเสิร์ฟไม้ต่อไม้ให้คุณแบบร้อน ๆ อย่างแน่นอน

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:00 - 22:30 น.

วิธีเดินทาง : https://g.page/tempura_tsunahachi_souhonten?share

มาต่อกันที่ Yakiniku Jumbo ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นที่ทางร้านคัดสรรเนื้อคุณภาพดี เกรดพิเศษมาให้ลูกค้าได้รับประทานกันผ่านกรรมวิธีในการหมักสุดเข้มข้น ที่จะช่วยชูรสชาติความอร่อยของรสสัมผัสของเนื้อได้เป็นอย่างดี ซึ่งรับรองได้เลยว่าคุณจะได้รับประทานรสชาติของเนื้อเต็ม ๆ แบบฉ่ำ ๆ ควบคู่กันไปการดื่มเบียร์เย็น ๆ สักแก้วยิ่งทำให้รสชาติยิ่งหวานกลมกล่อมอย่างมากเลยทีเดียว บอกเลยว่าหากใครที่ชอบแนวปิ้งย่างต้องไม่พลาดร้านนี้เลย

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 17:00 - 24:00 น.

วิธีเดินทาง : https://g.page/jumboshirokane?share

Roast Beef ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะในวันธรรมดายังมีคนต่อแถวยาวออกมาจนต้องรอเป็นชั่วโมงกว่าจะได้ลิ้มลองรสชาติความอร่อยของเมนูข้าวหน้าเนื้อ เมนูเด็ดสุดขึ้นชื่อ ที่ร้านแห่งนี้จะมีเวลาในการทำต่อชามอยู่ที่ 5 นาทีก็สามารถเสิร์ฟเมนูข้าวหน้าเนื้อที่อัดแน่นซ้อนกันมาเป็นชั้น ๆ คล้ายภูเขาโต ๆ ตบท้ายด้วยไข่ออนเซนด้านบนยิ่งทำให้ดูน่ารับประทานเป็นอย่างมาก รับประกันได้เลยว่าข้าวหน้าเนื้อร้านนี้คุ้มค่ากับการมาต่อคิวยาว ๆ อย่างแน่นอน

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:30 - 22:00 น.

วิธีเดินทาง : https://g.page/roastbeefohno_akihabara?share

มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที แน่นอนว่าสิ่งที่ห้ามพลาดในการลิ้มลองเลยก็คือ อูด้ง กับร้านที่มีชื่อว่า Kamachiku ที่ตั้งอยู่ในมุมเล็ก ๆ ของเมืองโตเกียว ซึ่งเมนูยอดนิยมที่ใครมาก็ต้องสั่งทานเลยก็คือ อูด้งผัด และอูด้งน้ำ ที่ทำจากแป้งข้าวสาลี โรยหน้าด้วยขิง พริกไทย และต้นหอม เพื่อเพิ่มรสชาติความหอมและความเผ็ดบาง ๆ ซึ่งจุดเด่นของอูด้งร้านนี้ก็คือ ความเหนียวของเส้นที่กำลังพอดี ทานคู่กับเครื่องเคียงอย่าง เทมปุระ พร้อมซดน้ำซุปร้อน ๆ รับรองว่าอร่อยถูกใจสายรักเส้นอย่างแน่นอน

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:30 - 14:00, 17:30 - 20:30 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/yCJUBgXFKQTySmAR7

ใครที่ได้มาเที่ยวย่านอาซากุสะ ในโตเกียว อย่าพลาดที่จะมาลิ้มลองเทมปุระแป้งกรอบกันที่ร้าน Daikokuya Tempura ที่เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 130 ปี โดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) และศาลเจ้าอาซากุสะ (Asakusa Shrine) ซึ่งเมนูขึ้นชื่อของทางร้านก็คือ เทนด้ง หรือข้าวหน้ากุ้งชุบแป้งทอดราดซอสทำเองสูตรพิเศษ หรือหากใครชอบทานปลา ก็สามารถเลือกสั่งเทมปุระปลาทรายขาว และเทมปุระผักรวมได้อีกเช่นกัน ทานพร้อมเครื่องเคียงและผักดองเหล้าหลายชนิดที่เข้ากันอย่างลงตัว

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:00 - 20:00 น.

วิธีเดินทาง : https://g.page/asakusadaikokuya?share

ร้านอาหารญี่ปุ่นถัดมาอย่าง Toritsune Shizendo ตั้งอยู่ในย่านสึเอฮิโระโจ ซึ่งเป็นร้านที่เน้นเมนูไก่โดยเฉพาะ ในแต่ละวันจะมีผู้คนทั้งนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นมาต่อคิวเพื่อกินโอยาโกะด้งแถวยาวเหยียดในช่วงกลางวัน ด้านในร้านมีที่นั่งหลายแบบ ทั้งแบบเคาน์เตอร์ หรือแบบโต๊ะปกติ ไปจนถึงห้องส่วนตัว บอกเลยว่าแค่บรรยากาศในร้านก็เหมือนอาหารแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ แล้ว ในเรื่องของรสชาติไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะที่ร้านจะเสิร์ฟข้าวหน้าไก่กับไข่สุดพรีเมียม โดยเป็นไก่สายพันธุ์ฮิไนโดริที่มีความอร่อยนุ่ม และเนื้อสัมผัสดี

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:30-14:00 น. / วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 17:30-22:00 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/eUXgN6qRoSVjq2tMA

สำหรับร้านอาหารญี่ปุ่นถัดมา เราขอพาไปลิ้มลองรสชาติของเกี๊ยวซ่ากันบ้าง กับร้านที่มีชื่อว่า Anda Gyoza โดยภายในมีการออกแบบร้านในสไตล์ย้อนยุค เน้นที่นั่งแบบเคาน์เตอร์เป็นหลัก ซึ่งเมนูห้ามพลาดที่มาแล้วต้องสั่งเลยก็คือ Mizugyoza Teishoku หรือเซ็ตรวมเกี๊ยวซ่าสอดไส้ 4 รส ที่เสิร์ฟมา 8 ชิ้น กับ texture ของแป้งที่มีความนุ่ม ทำจากธัญพืชที่เรียกว่า Hatomugi สอดไส้ด้วยเนื้อหมูและเนื้อไก่ เสิร์ฟพร้อมซุปสาหร่ายกับข้าวสวย ที่สำคัญทางร้านยังทำสดใหม่ทุกวันอีกด้วย

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:00 - 20:00 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/HRCbgQvg9W2qbutC6

ร้านอาหารญี่ปุ่น ในโอซาก้า

หากมาเที่ยวญี่ปุ่นเมืองโอซาก้า แน่นอนว่าสิ่งที่ไม่ควรพลาดและถือเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่เลยก็คือ อาหารทอดเสียบไม้ คุชิคัตสึ ที่ร้าน Kushikatsu Daruma ที่ตั้งอยู่ในย่านโดทงโบริ โดยร้านนี้ถือเป็นต้นตำรับฉบับคันไซ โดยคุณสามารถเลือกวัตถุดิบที่ต้องการรับประทานได้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อหมู ไส้กรอก หรือผักต่าง ๆ ที่นำไปคลุกกับแป้งและทอดจนเป็นสีเหลืองกรอบ ทานคู่กับน้ำซอสสูตรเฉพาะที่มีกติกาว่า สามารถจิ้มได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น บอกเลยว่าเป็นร้านที่สามารถมานั่งทานได้แบบเพลิน ๆ ได้อย่างเต็มอิ่มเลยทีเดียว

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11.30 – 22.30 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/srDR5J1Z2ZL8AKBK6

ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เราขอภูมิใจนำเสนออันดับถัดมาเลยก็คือร้านที่มีชื่อว่า Kani Duoraku ที่โดดเด่นด้วยป้ายปูแดงยักษ์ขนาดใหญ่ ซึ่งร้านนี้เน้นเสิร์ฟอาหารที่มีปูเป็นส่วนประกอบโดยเฉพาะ มีให้เลือกทั้งอาหารเป็นคอร์ส จานเดี่ยว หรือแม้แต่อาหารปิ้ง ย่าง หรือต้มแบบชาบู ที่สามารถเลือกทานได้ตามฤดูกาล ที่สำคัญทางร้านได้คิดค้นเมนูซาลาเปาที่สอดไส้ไปด้วยเนื้อปู และมันปู ผสมผสานกันด้วยรสชาติที่เข้มข้นแบบลงตัว บอกเลยว่าใครที่เป็นสายกินปู จะต้องไม่พลาดร้านนี้อย่างแน่นอน

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:00 – 23:00 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/apa81XYGBPAFcSPi8

เอาใจสายเนื้อด้วยการพาไปปักหมุดเช็กอินกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นถัดมากับ ร้านเนื้อย่าง Yakiniku M สาขา Dotonbori ซึ่งตั้งอยู่บริเวณข้าง ๆ ร้าน Ichiran Ramen ราเมงข้อสอบ โดยร้านนี้ถือเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารชื่อดังที่ไม่ควรพลาดเวลามาเที่ยวญี่ปุ่นในโอซาก้า เพราะเนื้อเขาดีจริง ๆ บอกเลยว่าละลายในปาก หอม อร่อย โดยเนื้อแต่ละส่วนก็จะมีให้เลือกหลายระดับราคาด้วยกัน เราสามารถเลือกสั่งเป็นชุดแบบตามใจได้เลย ซึ่งชุดแนะนำมีชื่อว่า Matsusaka Beef DX Platter เพราะข้อดีของมันก็คือ เราจะได้ลองชิมเนื้อหลาย ๆ แบบนั่นเอง

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 12:00-15:00 น. / 17:00-24:00 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/XMLb9o7N2earczoc7

แน่นอนว่ามาถึงโอซาก้าก็ต้องห้ามพลาดร้านนี้เลย Kinryu Ramen ราเมนมังกร หนึ่งในสุดยอดราเมงชื่อดังที่โดดเด่นจากเส้นที่มีความนุ่มกรุบกรอบ ทานพร้อมคู่กับหมูชาบูเนื้อนุ่มละลายในปาก และน้ำซุปกระดูกหมูรสชาติกลมกล่อม โดยเมนูที่ร้านจะมี 2 เมนูหลัก นั่นก็คือ ราเมนปกติ และราเมนหมูชาชู ที่สามารถเติมผักได้ไม่อั้น ซึ่งเวลาสั่งสามารถเลือกเมนูแล้วกดคูปอง หลังจากนั้นนั่งรอราเมนร้อน ๆ มาเสิร์ฟที่โต๊ะได้เลย เรียกได้ว่าเป็นราเมนธรรมดา ๆ แต่รสชาติถึงใจแบบที่ไม่เคยกินที่ไหนอย่างแน่นอน

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : ตลอด 24 ชั่วโมง

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/VZMZL9zh4YkTL3nX7

อาหารที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นและต้องไม่พลาดเลยเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นนั่นก็คือ ซูชิ กับร้านที่มีชื่อว่า Genrokuzushi Dotonbori ที่สดใหม่ส่งตรงจากมือเชฟ ซึ่งจุดเด่นของร้านนี้คือเป็นซูชิสายพานจานหมุนที่ใครหลายคนรู้จักกันดี เพราะถือเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังแห่งหนึ่งของโอซาก้า ซึ่งนอกจากจะมีให้เลือกทานหลากหลายเมนูในราคาย่อมเยาแล้ว ที่นี่ยังเป็นร้านซูชิสายพานร้านแรกของโลกอีกด้วย บอกเลยว่าอร่อยแบบละลายในปาก ด้วยวัตถุดิบสดใหม่ที่มีคุณภาพ

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:00 – 22:30 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/zTqpHpqkykzbYW477

ร้านอาหารญี่ปุ่นอันดับมาอย่างร้าน Uoshin Sushi เป็นร้านซูชิหน้าล้นยอดฮิตที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากจุดเด่นของร้านแห่งนี้คือ การใช้ปลาชิ้นขนาดใหญ่ที่ล้นออกมาจากข้าว จนทำให้ได้รับการขนานนามว่า “ซูชิหน้าล้น” นอกจากนี้ทางร้านยังใช้วัตถุดิบคุณภาพที่มีความสดใหม่ ทำให้เนื้อสัมผัสมีความนุ่มและหวานอร่อยทุกคำ ที่สำคัญยังมีเมนูให้เลือกทานมากมาย ทั้งซูชิหน้าปลาดิบ ซูชิโรล และแบบซาซิมิ แถมยังมีมิโซะซุปร้อน ๆ ให้ซดทานอีกด้วย

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:00 – 23:00 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/EjPqoB3vTwgQLcLW8

เอาใจสายเนื้อกันต่อด้วยการพาไปปักหมุดที่ร้านถัดมาอย่าง Gyukatsu Motomura Namba หรือร้านเนื้อชุปแป้งทอดที่มีหน้าตาเหมือนกับทงคัตสึ แต่สิ่งที่ต่างก็คือ เนื้อชุปแป้งทอดนี้ด้านในจะยังไม่สุกมาก เสิร์ฟมาพร้อมเตาเล็ก ๆ เพื่อให้เราได้มาย่างต่อในระดับความสุกที่ต้องการ บอกเลยว่าใครที่เป็นสายเนื้อต้องห้ามพลาดเลย เพราะร้านนี้เนื้อนุ่มมาก ๆ เพิ่มรสชาติด้วยซอส ทานพร้อมข้าวญี่ปุ่นร้อน ๆ รับรองเลยว่าฟินยกกำลังสองอย่างแน่นอน

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:00 – 22:00 น.

วิธีเดินทาง : https://g.page/gyukatsunamba?share

เปิดประสบการณ์ใหม่กับการไปรับประทานอาหารที่ร้าน Rogetsu ร้านหม้อไฟสไตล์ญี่ปุ่น ที่ไม่ธรรมดาและไม่เหมือนที่ไหน เพราะทางร้านจะใช้กรรมวิธีของคามิยาเบะ ที่นำเอาหม้อกระดาษวางบนกระทะเหล็ก หลังจากนั้นจะเทน้ำซุป พร้อมนำเอาเครื่องต่าง ๆ ใส่ลงไป ไม่ว่าจะเป็น เนื้อหมู เนื้อปลา ผักรวมชนิดต่าง ๆ หรือวัตถุดิบอื่น ๆ ที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมต้มจนสุกและตักทานได้อย่างเอร็ดอร่อย รับรองว่าใครได้ลองไปทานร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้แล้วจะประทับใจอย่างแน่นอน

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:00 – 22:00 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/MixNL9fJjwKrTohaA

สำหรับร้าน Gyu Ichi เป็นร้านที่คอเนื้อต้องห้ามพลาดเลย เพราะร้านนี้เป็นร้านดังที่คนญี่ปุ่นแนะนำกันมาแบบปากต่อปาก จนทำให้มีชื่อเสียงและผ่านการรีวิวในหลาย ๆ เว็บไซต์ของญี่ปุ่น เพราะจุดเด่นของร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้คือ การเสิร์ฟเนื้อคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวากิว หรือเนื้อโกเบ ที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี โดยเนื้อทั้งหมดจะเป็นเนื้อ A5 ที่มีความนุ่มละมุน หรือพูดภาษาชาวบ้านก็คือ แทบจะละลายในปากเลยทีเดียว ที่สำคัญราคายังถูกมาก ๆ เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้รับ

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 17:00 – 23:00 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/pyp9CdtmFQhjrfWq5

ร้าน Isomaru Suisan dotonbori เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นในโอซาก้าที่มีลักษณะเป็นร้านทะเลปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น โดยภายในมีเมนูอาหารให้เลือกหลากหลายชนิดด้วยกัน เช่น ปิ้งย่างทะเลเผา ซาชิมิ ของทอด หรือเมนูอื่น ๆ ที่สามารถกดสั่งผ่านแท็ปเล็ตได้แบบง่าย ๆ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ตามใจชอบเลย โดยจุดเด่นของที่นี่คือ ความสดใหม่ของอาหารทะเลในราคาย่อมเยา ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการทานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเมนูขึ้นชื่อของที่นี่ที่ต้องสั่งเลยก็คือ มันปู ที่ปรุงรสมาแล้ว นำไปคลุกทานกับข้าวสวยญี่ปุ่นร้อน ๆ รับรองว่าฟินสุด ๆ

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 18:00 – 06:00 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/KtySGFtMHMaUbJQEA

ร้านอาหารญี่ปุ่น ในซัปโปโร

เริ่มต้นกับร้านอาหารญี่ปุ่นที่แรกในเมืองซัปโปโรกับร้าน Karai Ramen 14 ร้านราเมงชื่อดังจากเชฟอิชิดะเจ้าของร้านที่ได้สั่งสมประสบการณ์จากร้านดังในโตเกียวและซัปโปโรมาอย่างมากมาย เพื่อเปิดร้านราเมงเป็นของตัวเองที่เมืองซัปโปโรเป็นเจ้าแรก โดยราเมงที่ขึ้นชื่อของทางร้านเป็นราเมงเผ็ดสูตรเด็ดโดยเฉพาะ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีรสชาติที่อร่อยเข้มข้น แถมยังเป็นร้านที่มีคนต่อแถวมากที่สุดเพราะอยู่ติดกับสถานีซัปโปโรทำให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ซึ่งแน่นอนว่าหากใครที่มาที่ร้านแห่งนี้แล้วต้องห้ามพลาดเมนูเด็ด Kara Shoyu 14 Bai เมนูนี้เลย

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:00-15:00 น. / 17:00 - 19:30 น.(ปิดทุกวันอาทิตย์)

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/apps/c5Qi1PiHRxmkgQ8B9

ไปต่อกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ถัดมาในเมืองซัปโปโรกับร้าน Sapporo Ramen Haruka ร้านรวมราเมงหลากหลายเมนูที่เปิดให้คุณได้เลือกน้ำซุปหลากหลายรูปแบบทั้งแบบน้ำข้นและน้ำใส โดยเฉพาะเมนูเด็ดจากทางร้านที่ไม่ว่าจะเป็นชาวญี่ปุ่นในพื้นที่เอง หรือ นักท่องเที่ยวก็ต่างชื่นชอบเมนูนี้เป็นอย่างมากกับเมนู Miso Cheese Ramen ราเมงชีสจากนมฮอกไกโดหอม ๆ ที่มีด้วยกันถึง 5 ชนิดตัดเลี่ยนด้วยใบโหระพาทำให้ได้กลิ่นหอมชวนน่าหลงใหล เรียกได้ว่าใครที่มาร้านนี้แล้วละก็ต้องห้ามพลาดเมนูนี้

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:00 - 15:00 น. / 17:00 - 19:30 น. (ปิดทุกวันอาทิตย์)

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/Hb1aeWbEUPPG5YZF7

ร้านอาหารญี่ปุ่นถัดมาที่เราจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันนั่นก็คือ Ramen Sapporo Ichiryuan หนึ่งในร้านราเมงญี่ปุ่นสุดพิถีพิถันจากวัตถุดิบชั้นเลิศในเมืองฮอกไกโด ที่ราเมงทุกชามจะถูกเสิร์ฟ โดยเชพโอชิมะซึ่งเป็นเจ้าของที่บรรจงคิดค้นสูตรราเมงแสนพิเศษที่ถ่ายทอดเรื่องราวของมนต์เสน่ห์ในฮอกไกโดออกมาได้อย่างมีตราตรึงใจด้วยรสสัมผัสของอาหารสูตรเข้มข้นกับเมนู Genkinoderu Miso Ramen DX ที่อัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์จากหัวหอมไร้กลิ่นที่หากใครอยากลองแล้วละก็ต้องมาที่นี่เลย

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:00 - 15:00 น. / 17:00 - 19:30 น. (ปิดทุกวันอาทิตย์)

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/p5a6V1xqR7EmJvAT7

ขยับจากเมนูราเมงมาเป็นเมนูข้าวกันบ้างดีกว่ากับร้าน Hachikyo หรือร้านข้าวหน้าล้นประจำเมืองซัปโปโร ที่ต้องบอกเลยว่าหากใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วละก็จะต้องห้ามพลาดกับร้านอาหารญี่ปุ่นแนวซีฟู้ดอย่างเมนูข้าวหน้าล้นที่ทางร้านอัดแน่นวัตถุดิบคุณภาพดีส่งตรงจากท้องทะเลมาให้เราได้ดื่มด่ำไปกับรสชาติของความสดใหม่กันแบบจัดเต็ม โดยเมนูเด็ดที่ห้ามพลาดของทางร้านคือ เมนูอิคุระหน้าล้น หรือ ข้าวไข่ปลาแซลมอนที่ต้องบอกเลยว่าเด็ดสุดในย่านนี้เลยทีเดียว

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : จันทร์ - เสาร์ 18:00 - 24:00 น. อาทิตย์และวันหยุด 17:00 - 23:00 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/9jn19Uscsm9cFJR17

มาต่อกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ถัดมา ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นร้านอาหารสุดขึ้นชื่ออย่างร้าน Bowl shop Takinami shops of Otaru north ร้านอาหารทะเลภายในตลาดโอตารุซังคาคุตลาดปลาสุดขึ้นชื่อของเมืองซัปโปโร ที่ต้องบอกเลยว่าร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องเมนูอูนิเป็นอย่างมาก แบบที่เรียกได้ว่าหากใครเป็นสายอูนิของเเท้แล้วละก็ต้องห้ามพลาดที่ร้านแห่งนี้เลย เพราะเค้าจะเสิร์ฟอูนิแบบหน้าล้น ๆ ในราคาย่อมเยาให้คุณได้อิ่มหนำกันแบบจุก ๆ นับได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคาอย่างมากแน่นอน

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 08:00 - 17:00 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/Ro68eptvVNkHY5Pp8

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเมนูเด็ดเมืองซัปโปโร นอกจากจะมีซีฟู้ดสด ๆ และนมวัวแสนอร่อยแล้วยังมีเมนูเด็ดอย่าง ซังหงิ หรือ ไก่ทอดญี่ปุ่นอีกด้วยกับร้าน Naruto Honten ร้านไก่ทอดเจ้าดังของจังหวัดที่โดดเด่นในเรื่องของความกรอบนอกนุ่มในที่ทำให้ได้สัมผัสของความกรอบและความชุ่มฉ่ำของรสชาติไก่ที่ถูกปรุงรสออกมาได้อย่างกลมกล่อม ยิ่งทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ สักชามแล้วยิ่งอร่อยอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว แนะนำเลยว่าหากใครที่มาร้านนี้แล้วให้สั่งไก่ทอดแบบเต็มตัวมาลิ้มลองกันได้เลย

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:00 - 20:30 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/HGPf6DvVts6Cyi2m8

เดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นในเมืองซัปโปโรทั้งทีจะพลาดกับการทานเมล่อนหวานฉ่ำสุดขึ้นชื่อของที่นี่ไปได้อย่างไร ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนไปลิ้มลองรสชาติกันแบบจัดหนักที่ Popura Farm ฟาร์มเมล่อนสุดขึ้นชื่อที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาลิ้มลองรสชาติหนึ่งในเมนูยอดฮิตของคนญี่ปุ่นที่เฝ้าทะนุถนอมปลูกต้นเมล่อนออกมาให้น่ารับประทานพร้อมเสิร์ฟให้คุณได้ทั้งแบบสด ๆ และแบบทานคู่กับไอติมแสนอร่อยที่เติมเต็มความสดชื่นให้คุณได้อย่างดีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเมนูอีกหลากหลายเมนูผลไม้และไอติมหลากหลายรสชาติที่ทางฟาร์มทำขึ้นเองให้คุณได้ลิ้มลองกันอีกด้วย

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 10:30-18:30 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/Unxka7Di6vvcDKrm9

มาต่อกันที่อีกหนึ่งทีเด็ดในเมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่นดินแดนที่ขึ้นชื่อในเรื่องของนมวัวและชีสกับ Furano Cheese Factory ร้านอาหารที่อัดแน่นไปด้วยนมและชีสคุณภาพดีที่ส่งตรงจากฟาร์มที่ดูแลมาอย่างพิถีพิถันให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับรสชาติของความเข้มข้นของนมวัวจากฮอกไกโดแท้ ๆ และชีสแบบจัดเต็ม ที่เสิร์ฟมาให้คุณได้ทานทั้งแบบเมนูอาหาร และของหวานที่บอกเลยว่า จะของคาว หรือ ของหวานก็อร่อยไม่แพ้กัน แถมยิ่งตอนจบปิดท้ายด้วยไอติมนมสดฮอกไกโดแล้วด้วยละก็ฟินสุด ๆ เลยทีเดียว

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 09:00 - 16:00 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/mNoEzzPpYZeDMjsW6

Tsukisappu Jingisukan Club หรือร้านเนื้อแกะย่างเจงกิสขาน ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดลับที่เปิดให้นักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นในพื้นที่ได้เดินทางมาลิ้มลองรสชาติของเนื้อแกะย่างท่ามกลางสวนซากุระสุดร่มรื่นให้ฟีลทานอาหารในบ้านควบคู่ไปกับการดื่มไวน์ หรือ เบียร์ไปพร้อมกับการปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ที่ดูเหมือนเตาจะคล้ายคลึงกับหมูกระทะบ้านเรานั่นเอง โดยเมนูนี้จะเสิร์ฟให้ทานได้ทั้งสองแบบคือ แบบบุฟเฟ่ต์ และแบบสั่งแยกตามแต่ละเมนูนั่นเอง แนะนำเลยว่าหากใครอยากมาลองรสชาติของเนื้อแกะย่างสไตล์ญี่ปุ่นพร้อมบรรยากาศดี ๆ แล้วละก็ต้องที่นี่เลย

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:00 - 21:00 น.

วิธีเดินทาง : https://goo.gl/maps/mzH7xtAM8EbJjhZZ8

สำหรับร้าน Okushiba Shoten Jikka เป็นร้านซุปแกงกะหรี่ ที่ดังมาจากน้ำสต็อกดาชิกุ้งที่ต้มใหม่ทุกเช้ากว่า 4,000 ตัว ทำให้ซุปแกงกะหรี่ร้านนี้มีความเข้มข้นของเครื่องเทศ อร่อยถึงรสถึงชาติแต่ก็ยังได้ความหวานของซุปดาชิกุ้งอยู่ โดยเราสามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ว่าต้องการความเผ็ดระดับไหน มีให้เลือกตั้งแต่ระดับ 0-12 บอกเลยว่าใครที่เป็นสายชอบทานแกงกะหรี่ กลิ่นเครื่องเทศแรง ๆ ก็ต้องมาทานร้านนี้เลย

ค่าเข้า : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 11:00 – 22:00 น. (รับออร์เดอร์สุดท้ายเวลา 21:00 น.)

วิธีเดินทาง: https://g.page/okushibashoten?share

และนี่ก็เป็นรวม 30 สุดยอดร้านอาหารญี่ปุ่น โตเกียว โอซาก้า และซัปโปโร แบบฟิน ๆ ที่เราได้รวบรวมเหล่าร้านอาหารเด็ด ๆ ชั้นนำในเเต่ละเมืองมาให้คุณได้ตามไปปักหมุดเช็กอินกันแบบจุก ๆ เรียกได้ว่าหากใครที่อยากเดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นแบบนี้แล้วละก็ไม่ต้องไปหา App เที่ยวญี่ปุ่นที่ไหนไกล เพียงแค่กดผ่านทาง App Traveloka ก็สามารถออกเดินทางไปท่องเที่ยวกันได้แบบคุ้มค่าคุ้มราคา แถมสะดวกทันใจได้เลย