ฤดูฝน ฤดูที่คนรักการท่องเที่ยวต่างก็ส่ายหน้า เพราะสายฝนที่เทกระหน่ำลงมา จะไปไหนก็ลำบาก ออกไปทำกิจกรรมข้างนอกก็ไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการไปเที่ยวทะเล เพราะการเที่ยวทะเลหน้าฝน ย่อมมาพร้อมกับความเฉอะแฉะ ทะเลหลายแห่งหากมีมรสุมเข้า คลื่นก็แรง ท้องฟ้าก็มืด แถมน้ำทะเลยังขุ่น ทำให้ลืมเรื่องการดูวิวหรือออกไปทำกิจกรรมทางน้ำไปได้เลย

แต่แม้จะเป็นฤดูมรสุม ก็ใช่ว่าจะหมดหวังเที่ยวทะเลแบบสิ้นเชิง เพราะวันนี้เรามี 5 เกาะที่เปรียบเสมือนขุมทรัพย์แห่งทะเลภาคใต้มาฝากกัน แม้ว่าจะมาเที่ยวทะเลหน้าฝน ก็รับประกันได้ว่าสวยประทับใจไม่แพ้ฤดูอื่น และนึกถึงเรื่องเที่ยวเมื่อไหร่ อย่าลืมนึกถึงแอปพลิเคชัน Traveloka แอปฯ เดียวครบ จบทั้งการจองเที่ยวบินเพื่อบินตรงสู่ทะเลภาคใต้ ทั้งยังจองที่พักในราคาสุดประหยัดได้ด้วย ถูกใจสายเที่ยวทุกฤดูกาลแน่นอน

เริ่มต้นกันที่เกาะสวรรค์แห่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี อย่างเกาะสมุย ซึ่งบินตรงลงที่สนามบินเกาะสมุยได้อย่างสะดวกสบายด้วยสายการบิน Bangkok Airways หรือจะบินมาที่สนามบินสุราษฎร์ธานี แล้วต่อรถบัสเพื่อไปขึ้นเรือที่ท่าเรือดอนสักก็ได้เช่นกัน โดยจุดเด่นของเกาะแห่งนี้ต้องยกให้หาดทรายสีขาวละเอียด ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใส เที่ยวได้ตั้งแต่ฤดูร้อนถึงฤดูฝน แต่ควรหลีกเลี่ยงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เพราะถือเป็นช่วงมรสุมของเกาะแห่งนี้

หากคุณมาเที่ยวทะเลหน้าฝน นอกจากจะได้ชมทัศนียภาพอันงดงามของท้องทะเลแล้ว ยังได้สัมผัสกับธรรมชาติอันเขียวขจี ชมความงามของน้ำตกหน้าเมือง และได้เดินป่าศึกษาเส้นทางธรรมชาติที่น้ำตกหินลาดด้วย อีกทั้งยังเป็นช่วงที่รีสอร์ตสุดหรูทั้งหลายปรับราคาลงเพราะเป็นช่วง Low Season เรียกว่าเป็นการเที่ยวเกาะสมุยที่มีแต่ได้กับได้อย่างแท้จริง

มาต่อกันที่เกาะชื่อแปลกแต่เหมาะกับการเที่ยวทะเลหน้าฝนเป็นที่สุด สำหรับเกาะพยาม เดินทางสะดวก โดยสามารถต่อรถโดยสารจากสนามบินระนองไปท่าเรือ แล้วนั่งเรือสปีดโบ๊ทไปถึงเกาะพยามได้เลย รวมแล้วใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เกาะนี้อยู่ที่ท้องทะเลฝั่งอันดามัน ซึ่งน้ำทะเลก็ใสสะอาดมากจนหลายคนขนานนามว่าเป็นมัลดีฟส์เมืองไทยเลยทีเดียว

จุดเด่นที่ทำให้หลายคนตกหลุมรักเกาะแห่งนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น คือความสงบและเป็นกันเอง ทำให้ได้พักผ่อนอย่างแท้จริง ซึ่งในฤดูฝน ป่าโกงกางบนเกาะจะเขียวชอุ่มเป็นพิเศษ มาพักวิลล่าริมทะเลหรือติดกับป่าโกงกาง ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเกินบรรยาย หรือจะไปแล่นเรือชมธรรมชาติของเกาะแก่งต่าง ๆ ก็เป็นไอเดียที่ดีเช่นกัน

เกาะเล็ก ๆ กลางทะเลขนอมที่ไม่ได้มีแค่ทะเลสวย ๆ ให้ได้มาเที่ยวทะเลหน้าฝน แต่ยังมาพร้อมความอัศจรรย์ คือการมีบ่อน้ำจืดรูปร่างคล้ายรอยเท้ามนุษย์ผุดขึ้นกลางทะเล สามารถเห็นได้ชัดในช่วงน้ำลง ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นบริเวณที่หลวงปู่ทวด พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเคยมาเยือน เป็นที่มาของตำนาน ‘หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด’ นั่นเอง

สำหรับการเดินทางมายังเกาะนุ้ยนอก สามารถนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินนครศรีธรรมราช แล้วนั่งรถต่อไปยังท่าเรือแหลมประทับ อ่าวขนอม เพื่อต่อเรือมายังเกาะนุ้ยนอกได้เลย แต่บนเกาะแห่งนี้ไม่มีที่พักให้บริการ สามารถมาเที่ยวได้แบบไปเช้าเย็นกลับเท่านั้น

อีกหนึ่งเกาะที่เหมาะกับการเที่ยวทะเลหน้าฝน คือเกาะปอดะซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ห่างจากชายฝั่งอ่าวนางประมาณ 8 กิโลเมตร โอบล้อมด้วยหาดทรายขาวสะอาดและน้ำทะเลสีฟ้าใส สามารถลงเล่นน้ำได้ อีกทั้งแนวปะการังยังมีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการดำน้ำตื้นเป็นที่สุด

นอกจากความสวยงามของท้องทะเลแล้ว เกาะปอดะยังมีอีกหนึ่งความอัศจรรย์ที่ชาวไทยและชาวต่างชาติอยากไปเห็นกับตา เพราะเป็นที่ตั้งของทะเลแหวก ซึ่งจะปรากฏเป็นสันทรายขึ้นมาในช่วงเวลาน้ำลง สามารถเดินข้ามไปยังอีกเกาะได้ แต่เกาะนี้ไม่มีที่พัก จึงต้องซื้อทัวร์ไปเที่ยวแบบไป-กลับเท่านั้น

ปิดท้ายด้วยเกาะเฮ เกาะอันโด่งดังแห่งจังหวัดภูเก็ต เอกลักษณ์ของเกาะนี้ต้องยกให้หาดทรายขาวละเอียด เต็มไปด้วยปะการังอันอุดมสมบูรณ์และความงามของโลกใต้ท้องทะเลที่ชวนให้ค้นหา หากอยากมาเที่ยวทะเลหน้าฝน เกาะเฮถือเป็นเกาะที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว

นอกจากทัศนียภาพอันสวยงามแล้ว บนเกาะแห่งนี้ยังมีกิจกรรมกลางแจ้งให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบานาน่าโบ๊ท สกีน้ำ พาราเซลลิง และซีวอล์กเกอร์บนเกาะมีที่พักเพียงแห่งเดียว แนะนำว่าพักที่ภูเก็ตแล้วนั่งเรือไปเที่ยวจะสะดวกกว่า

บินลัดฟ้าสู่ 5 เกาะอันสวยงามแห่งอ่าวไทย ไปเที่ยวทะเลหน้าฝนกันแบบฟิน ๆ จองตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักได้ที่ Traveloka แอปพลิเคชันที่ตอบทุกความต้องการของคนรักการเดินทาง ใช้งานง่าย ให้คุณจองเที่ยวบินสู่จุดหมายปลายทางในฝันได้ในราคาสบายกระเป๋า มาพร้อมดีลสุดพิเศษให้คุณตลอดทั้งปี นึกถึงเรื่องเที่ยว ต้องนึกถึง Traveloka จองง่าย จ่ายสะดวก ดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android