คนชิลล์ๆ และติดเที่ยวอย่างเรามีไม่กี่แห่งหรอกที่จะชอบไปฝังตัวอยู่เงียบๆ เมื่อรู้สึกว่าความเอะอะของกรุงเทพนั้นมัน
ช่างน่าเบื่อมากเกินไปแล้ว ซึ่งเกาะล้านก็เป็นหนึ่งในเดสติเนชั่นนั้นที่ไปมันสักกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ เหตุผลเลยก็คือใกล้เดินทางง่ายส่วนธรรมชาติก็ยังถือว่าสมบูรณ์อยู่มาก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเลยก็คืออยากไปกินซีฟู้ดสดๆ จากแหล่ง แล้วต่อด้วยนอนเล่นชาร์จแบตในรีสอร์ทที่ใช่มากกว่า
ซึ่งที่พักเกาะล้านที่เข้าตาเราว่าต้องตามลิสต์ด้านล่างนี้เลย ส่วนเรื่องของราคาขอให้เป็นหน้าที่ของ Traveloka
เขาจะจัดสรรให้ แต่รับรองว่าไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงแน่นอน
เช็คห้องว่างและราคาที่พักเกาะล้านคลิกที่นี่
เป็นรีสอร์ทเกาะล้านสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ผสมงานไม้ในเกาะล้านที่นับว่าทำเลเหมาะ (ใกล้ไม่ใกล้ก็เดินไปหาดตายายแบบแป๊บเดียวถึงอ่ะ) แถมมาที่นี่คุณไม่ต้องพกอะไรมาก เพราะ “เช็คอิน รีสอร์ท เกาะล้าน” มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ค่อนข้างครบครันรอไว้อยู่แล้ว ทั้งยังมีบริการรถรับ-ส่งแขกผู้เข้าพักจากท่าเรือหน้าบ้านและหน้าวัดใหม่สำราญ (เฉพาะวันเข้าพักและ
ขณะเดินทางกลับ) อีกต่างหาก เรียกว่าต่อสายเสร็จอีกอึดใจเดียวก็มีสารถีมารับคุณไปยังที่พักได้เลยทันที ดีขนาดนี้ไม่จอง
ไม่ได้แล้ว!
ที่พักเกาะล้านที่เหมือนได้ครองหาดส่วนตัว! เพราะแค่ไม่กี่ก้าวจาก “ซีเลย์ รีสอร์ท” คุณก็จะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมทางทะเล ณ หาดตายายหาดยอดฮิตอันดับต้นๆ ของเกาะล้าน แต่เมื่อใดที่คุณอยากจะผ่อนคลายภายในรีสอร์ท สิ่งที่จัดว่าเด็ดน่าจะเป็นอาหารทะเลสดๆ และเมนูอาหารไทยของที่นี่ (ล่ำลือกันหนักหนาว่าอร่อย!) อีกทั้งสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่คุณสามารถใช้สอย
ได้อย่างเต็มที่ตามต้องการ
สำหรับ “เดอะ เรสท์ โฮเต็ล” สิ่งที่เราคิดว่าแตกต่างจากที่พักเกาะล้านเจ้าอื่นก็คือที่นี่มีบริการพิเศษอย่าง “เดอะเรสท์
พากิน” และ “เดอะเรสท์พาเที่ยว” ด้วยล่ะ นอกจากแขกทุกท่านจะได้นอนเตียงนุ่มๆ พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศอันแสน
สบายแล้ว หลายคนที่ได้จองแพ็กเกจนี้ยังจะได้เต็มอิ่มไปกับกิจกรรมบนเกาะ ได้ทานอาหารอร่อยๆ รสเลิศแบบฉบับเจ้าถิ่น พร้อมทั้งซอฟต์ดริงก์และอาหารเช้า-เย็นที่เสิร์ฟให้แบบไม่อั้น ในราคาท่านละ 1,200 บาท/คน สำหรับแพ็กเกจเดอะเรสท์พากิน และเดอะเรสท์พาเที่ยวอยู่ที่ 2,000 บาท/คน คุ้มม่ะ? เราว่าคุ้มมมม
เที่ยวเกาะล้านเป็นกลุ่มต้องที่ “ราชาวดี มูนไลท์ รีสอร์ท เกาะล้าน” เลยค่ะ เพราะบางหลังของเค้าสามารถจุกลุ่มแก๊งได้มากถึง 10 คนเลยทีเดียว อีกอย่างคือแต่ละโซนของที่นี่มีความเก๋อยู่ ซึ่งใครที่ชอบความแฟนซีหน่อยก็น่าจะเหมาะกับโซนสิบล้อหรือไม่ก็
โซนพาวิลเลี่ยนแต่ถ้าชอบเสพความโรแมนติกอยากดื่มด่ำกลิ่นอายของทะเลก็ต้องเป็นโซนมูนไลท์เลย วิวดีแน่นอน
หากมาพักที่ “ซันไชน์ รีสอร์ท เกาะล้าน” ว่ากันว่าคุณจะได้สิทธิ์ชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใคร ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะ
ห้องพักทั้งหมดของรีสอร์ทนั้นหันหน้าเข้าทะเลน่ะสิ ทั้งที่นี่ยังติดชายหาดแบบไม่มีถนนกั้นอีกเท่ากับว่าคุณจะได้ครองพื้นที่ทั้งหาดแบบไม่มีคนนอกมายุ่ง ไม่ว่าคุณจะเลือกนอนอาบแดดตอนกลางวันแถวหาดหรืออยากดำน้ำทางซันไชน์ก็ยินดีจัดให้ได้ หรือถ้าอยากเที่ยวรอบเกาะทางรีสอร์ทก็มีมอเตอร์ไซค์เซริฟ์คุณได้เช่นกัน (ที่สำคัญคือฟรี) แล้วพอตกดึกก็ค่อยออกไปตกหมึก เห็นม่ะครบสูตรเที่ยวเกาะล้านที่แท้ทรูเป็นที่สุด
จะมาเป็นคู่หรือจูงมือกันมาพักเป็นแฟมมิลี่ “บ้านไอทะเลออนซี” นั้นก็รับรองได้ทุกไทป์ค่ะ ตั้งแต่ห้องพักสแตนอโลน
เหนือทะเลประหนึ่งว่าเป็นมัลดีฟส์พร้อมทัศนียภาพของเกาะราคาหลักสิบล้านแบบพาโนรามา “On Sea” หรือ
“Rim Taley” ห้องพักสวยสไตล์โมเดิร์นบังกะโลริมทะเล ไปจนถึงห้องใหญ่สุดในบรดาบ้านไอทะเลออนซี
ที่บรรจุสมาชิกได้ทั้งครอบครัวอย่าง “Family” ทั้งหมดนี้เน้นความสบายแบบเรียบง่ายตามคอนเซ็ปต์ของรีสอร์ท
แต่เหนือสิ่งอื่นใดเลยคือความเป็นส่วนตัว ที่สำคัญเปิดรับวิวทะเลอย่างเต็มที่ทุกหลัง ไม่มีจกตาแน่นอน เชื่อได้
“พันลอฟท์ พูล วิลล่า แอท เกาะล้าน” เป็นอีกรีสอร์ทที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวหลายกลุ่มได้เป็นอย่างดี
ภายในห้องพักแต่งสวยสไตล์ลอฟท์พร้อมระเบียงส่วนตัวทุกห้อง พรั่งพร้อมไปด้วยทัศนียภาพของเกาะล้านในมุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิวภูเขาและทะเล แต่ส่วนที่ทำให้แขกดี๊ด๊ามากที่สุดหนีไม่พ้นสระว่ายน้ำกลางรีสอร์ทจ่ะ เพราะสระไม่เพียงจะน่าลงไปแหวกว่ายเล่นแล้ว แต่ยังชิคซะจนต้องชักภาพลงโซเชียลแบบรัวๆ ไปอี๊กกกก อ้อ! อาหารเช้าของที่นี่อร่อยนะ
โดยเฉพาะเมนูแกงเขียวหวานใครที่ไปพักอย่าลืมตักมาชิมล่ะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอกบุญกัลลล
เห็นอย่างนี้แล้วก็เดินหน้าจองที่พักเถอะ จะริมทะเลหรืออยากชิคแบบสไตล์ลอฟท์ก็แล้วแต่สะดวกแต่ถ้ายังลังเล
ตกลงปลงใจกับที่ไหนไม่ได้ ก็กดคลิกเข้าไปที่ Traveloka กันก่อนเลย