หากใครอินกับการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ หรือชื่นชอบความสวยงามของสถาปัตยกรรมและสิ่งปลูกสร้างในเมืองเก่า อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่ควรไปเที่ยวมากที่สุด ดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ชื่อดังมากมาย หนึ่งในนั้นคือ “ป้อมอัครา” (Agra Fort) ป้อมปราการและพระราชวังสุดยิ่งใหญ่ในเมืองอัครา รัฐอุตตรประเทศ ที่นี่คือสถานที่สำคัญที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย อีกทั้งยังเป็นป้อมปราการสถาปัตยกรรมแบบโมกุลที่สวยงามและโดดเด่นที่สุดอีกแห่งหนึ่งในอินเดีย
นอกจากความสวยงามแล้ว ป้อมอัครายังเป็นแหล่งมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดย UNESCO ในปี ค.ศ. 1983 ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งในอินเดียที่ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง ใครที่อยากเห็นความสวยงามของป้อมอัครา รีบจองตั๋วเครื่องบินไปอินเดียผ่านแอป Traveloka แล้วไปเที่ยวชมความยิ่งใหญ่ของป้อมปราการสีแดงแห่งนี้กับตาตัวเองได้เลย!
ป้อมอัครา (Agra Fort) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองอัครา ประเทศอินเดีย ที่นี่คือป้อมปราการและพระราชวังของจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุล เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ความกระหายอำนาจ การแย่งชิงบัลลังก์ของเหล่าผู้ปกครองในอดีต ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของจักรวรรดิโมกุลที่เคยปกครองของประเทศอินเดียในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ถึง 19 นำไปสู่การขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดย UNESCO เพื่อรักษาไว้ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมให้คนรุ่นหลังได้เห็น
ด้วยความที่ป้อมอัคราตั้งอยู่ในเมืองอัคราและอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของอินเดียอย่าง “ทัชมาฮาล” (Taj Mahal) ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมปีละหลายล้านคน การเดินทางต่าง ๆ ก็มีความสะดวกสบาย หลายคนนิยมมาพักที่เมืองนี้และใช้เวลาเที่ยวทั้งสองสถานที่ใน 1 วันเต็ม หากใครสนใจก็สามารถค้นหาที่พักอินเดียดี ๆ ในเมืองอัคราผ่านแอป Traveloka แล้วไปเที่ยวชมป้อมอัคราให้จุใจกันได้เลย
ป้อมอัครา (Agra Fort) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1565 โดยจักรพรรดิอักบาร์ โอรสของจักรพรรดิหุมายูงแห่งราชวงศ์โมกุล ใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึง 3 ยุคของกษัตริย์ราชวงศ์โมกุล ได้แก่ ยุคของสมเด็จพระจักรพรรดิอักบาร์ ยุคของสมเด็จพระจักรพรรดิชะฮันคีร์ และสร้างเสร็จสมบูรณ์ในยุคของสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน เริ่มแรกป้อมแห่งนี้เป็นเพียงป้อมปราการขนาดเล็ก ก่อนจะเริ่มขยายใหญ่และพัฒนาเป็นพระราชวังอย่างสมบูรณ์ในสมัยของจักรพรรดิชาห์ชะฮัน เพื่อยกย่องความยิ่งใหญ่ แสดงถึงชัยชนะ และความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรโมกุล
ป้อมอัครา (Agra Fort) ตั้งอยู่ในเขตรากับคันช์ (Rakabganj) ใกล้กับแม่น้ำยมุนา (Yamuna River) ในเมืองอัครา (Agra) รัฐอุตตรประเทศ (Uttar Pradesh) ประเทศอินเดีย อยู่ห่างจากทัชมาฮาล (Taj Mahal) ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือราว 2.5 กิโลเมตร สามารถค้นหาจากพิกัดด้านล่างได้เลย
ป้อมอัครา (Agra Fort) เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 06:00-18:00 น. สามารถเที่ยวชมได้ทุกฤดู การเข้าชมจะต้องซื้อตั๋ว หากถือพาสปอร์ตไทย (BIMSTEC) จะได้ส่วนลดพิเศษเท่ากับคนอินเดียคือ 90 รูปี (ราว 39 บาท) และถ้าเข้าชมวันศุกร์จะลดเหลือเพียงคนละ 40 รูปี (ราว 17 บาท) เท่านั้น ส่วนชาวต่างชาติอื่น ๆ จะมีค่าตั๋วเข้าชมคนละ 650 รูปีในวันเสาร์-วันพฤหัสบดี และ 600 รูปีในวันศุกร์ ทั้งนี้ เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าชมฟรี
การเข้าชมด้านในป้อมอัครามีข้อห้ามคือห้ามนำขาตั้งกล้อง, ไม้เซลฟี่, ไมโครโฟน หรืออุปกรณ์เกี่ยวกับการถ่ายทำต่าง ๆ เข้าไป นอกจากนี้ ก่อนเข้าชมจะต้องฝากสิ่งของและกระเป๋าไว้ด้านนอก โดยบริเวณปากทางเข้าจะมีซุ้มรับฝากของให้บริการ
วิธีเดินทางไปเที่ยวป้อมอัคราที่สะดวกที่สุด แนะนำว่าให้นั่งเครื่องบินจากไทยมาลงที่นิวเดลี (New Delhi) เมืองหลวงของอินเดีย แล้วเดินทางต่อไปยังเมืองอัครา (Agra) ด้วยรถไฟ ซึ่งทั้งสองเมืองมีระยะทางห่างกันประมาณ 200 กิโลเมตร รายละเอียดการเดินทางมีดังนี้
จากประเทศไทยมีเที่ยวบินไปสนามบินนานาชาติอินทิรา คานธี (Indira Gandhi International Airport) เมืองนิวเดลี (New Delhi) ทุกวัน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเที่ยวบินแบบบินตรงต่อเดียวได้หลายสายการบิน อาทิ Thai Airways, Air India, SpiceJet, IndiGo, Vistara ใช้เวลาบินจากไทยไปอินเดียประมาณ 4-5 ชั่วโมง สามารถค้นหาและจองตั๋วเครื่องบินที่แอป Traveloka ได้เลย
จากเมืองนิวเดลี ขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟนิวเดลี (New Delhi Railway Station) มาลงที่สถานีรถไฟ Agra Cantt เมืองอัครา มีเที่ยวรถไฟให้บริการทุกวัน วันละหลายเที่ยว สามารถเลือกขึ้นขบวนที่ตรงกับเวลาเดินทางที่ต้องการได้เลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อเดินทางถึงเมืองอัคราแล้ว สถานีรถไฟจะอยู่ห่างจากป้อมอัคราประมาณ 5 กิโลเมตร สามารถนั่งรถบัสประจำทางหรือรถสามล้อรับจ้างไปยังป้อมอัคราได้
จากสถานีรถไฟ Agra Cantt มีรถประจำทางวิ่งรับ-ส่งไปยังป้อมอัคราทุกวัน สามารถขึ้นรถได้ที่ป้ายรถเมล์ Agra Cantt บริเวณหน้าสถานีรถไฟแล้วไปลงที่ป้าย Agra Fort ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ทั้งนี้ หากพักในเมืองอัคราก็สามารถนั่งรถบัสประจำทางไปเที่ยวป้อมอัคราได้อย่างสะดวกเช่นกันเพราะมีรถบัสวิ่งให้บริการทั่วเมือง หรือหากต้องการความสะดวกรวดเร็วก็สามารถนั่งแท็กซี่หรือรถสามล้อรับจ้างไปได้
ภายในป้อมอัครามีจุดเช็กอินสำคัญที่ต้องไปชมอยู่หลายจุดด้วยกัน ซึ่งนอกจากจะสวยงามแล้ว ทุกจุดยังมีเรื่องราวน่าสนใจให้ศึกษาด้วย โดยจุดสำคัญ ๆ ภายในป้อมที่ต้องไปชมมีดังนี้
ประตูทางเข้าอามาร์ สิงห์ (Amar Singh Gate) เป็นจุดเช็กอินจุดแรกที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องผ่าน นี่คือประตูทางเข้าป้อมอัคราด้านทิศใต้ เดิมชื่อประตู Akbar Darwaza แต่ถูกเปลี่ยนชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ Amar Singh นายทหารที่สู้รบอย่างกล้าหาญจนเสียชีวิต ณ จุดนี้ ลักษณะของประตูจะเป็นทางลาดเชื่อมต่อกับสะพานชัก ผ่านซุ้มประตูทรงโค้ง ก่อนจะผ่านเข้าสู่ซุ้มประตูชั้นในหลังกำแพงป้อม ถือเป็นจุดเช็กอินแรกที่สร้างความตื่นเต้น และแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของป้อมแห่งนี้ได้อย่างน่าประทับใจ
จุดเช็กอินต่อมาคือ ชะฮันคีร์ มาฮาล (Jahangiri Mahal) เป็นส่วนพระราชวังหลักภายในป้อมอัครา ที่นี่เป็นพระราชวังเดี่ยวที่แยกตัวออกมาจากกำแพงของป้อม สร้างโดยพระเจ้าชะฮันคีร์ ก่อสร้างจากหินทรายแดงทั้งหลังด้วยสถาปัตยกรรมโมกุลที่มีความวิจิตรตระการตา โดดเด่นด้วยหอคอยที่มียอดโดมทรงดอกบัว ด้านในมีการแกะสลักลวดลายแบบโมกุลอย่างประณีตสวยงาม เสาแต่ละต้นใช้หินก้อนเดียวในการสร้าง ส่วนกลางของพระราชวังจะเป็นลานกว้างและจะมีห้องต่าง ๆ อยู่โดยรอบ นอกจากนี้ พื้นที่ส่วนในสุดจะมีลักษณะคล้ายซุ้มระเบียง ซึ่งในวันที่ฟ้าใสจะมองเห็นทัชมาฮาลได้ด้วย ถือเป็นจุดเช็กอินสำคัญที่ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด
ถัดเข้ามาภายในป้อมจะพบกับจุดเช็กอินต่อมานั่นก็คือ กัส มาฮาล (Khas Mahal) เป็นพระตำหนักสีขาวสถาปัตยกรรมแบบโมกุล สร้างขึ้นจากหินอ่อนทั้งหลัง เพื่อเป็นที่ประทับส่วนพระองค์และเป็นห้องนอนของจักรพรรดิชาห์ชะฮัน ภายในตกแต่งด้วยหินอ่อนแกะสลักสีขาวที่วิจิตรงดงาม มีภาพวาดบนหินอ่อน ด้านในสุดของตำหนักหันหน้าไปทางแม่น้ำยมุนา สามารถมองเห็นทัชมาฮาลได้ ถือเป็นจุดเช็กอินสำคัญอีกจุดภายในป้อมอัคราที่ต้องไปเยี่ยมชม
อันกุรี บักห์ (Anguri Bagh) เป็นสวนไม้ประดับรูปสี่เหลี่ยมสไตล์ Charbagh ที่มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง ทางเดินทำด้วยหินอ่อน ตั้งอยู่หน้าพระตำหนักกัส มาฮาล สวนแห่งนี้สร้างในสมัยจักรพรรดิชาห์ชะฮัน และในอดีตเคยเป็นสวนองุ่นที่จักรพรรดิใช้เป็นที่เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ ปัจจุบันไม่มีต้นองุ่นแล้ว เหลือเพียงสวนไม้ประดับคลุมดินที่ปลูกสลับสีกันเพื่อความสวยงามเท่านั้น นับเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินในป้อมอัคราที่มีความสวยงามมาก
มูซัมมัน เบิร์จ (Musamman Burj) หรืออีกชื่อคือ Jasmine Palace เป็นหอคอยแปดเหลี่ยมที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระตำหนักกัส มาฮาล มีระเบียงหินอ่อนสีขาวที่สามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำยมุนาและทัชมาฮาลได้อย่างชัดเจน ที่นี่เป็นสถานที่คุมขังจักรพรรดิชาห์ชะฮันหลังจากถูกออรังเซพ โอรสของตัวเองยึดบัลลังก์ ซึ่งจักรพรรดิชาห์ชะฮันใช้เวลาชีวิตในช่วงสุดท้ายของตัวเองกว่า 8 ปี เฝ้ามองผ่านแม่น้ำยมุนาไปยังทัชมาฮาล อนุสรณ์แห่งความรักที่พระองค์สร้างให้พระนางมุมตัช มาฮาล มเหสีผู้เป็นที่รัก ก่อนที่จะสวรรคตบนหอคอยแปดเหลี่ยมแห่งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินในป้อมอัคราที่มีความสวยงามเช่นกัน
ป้อมอัคราเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโมกุล (Mughal Architecture) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม, เปอร์เซีย, ตุรกี และสถาปัตยกรรมอินเดียดั้งเดิม ลักษณะเด่นของป้อมแห่งนี้คือ การก่อสร้างด้วยอิฐและหินทรายสีแดง ตัวป้อมมีลักษณะเป็นกำแพงสองชั้นความสูงกว่า 20 เมตร ความยาวรวมกว่า 2.5 กิโลเมตร ล้อมรอบด้วยคูน้ำกว้าง 10 เมตร มีทางเข้า 4 ทิศ เมื่อมองจากมุมสูงจะมีลักษณะคล้ายจันทร์เสี้ยว
ภายในป้อมประกอบด้วยอาคารสำคัญหลายหลัง อาทิ พระราชวัง, ท้องพระโรง, ตำหนักที่ประทับ, หอคอย, มัสยิด รวมถึงสวนไม้ประดับ แต่ละอาคารจะมีการตกแต่งภายในด้วยลวดลายแกะสลักศิลปะแบบผสมระหว่างอิสลาม เปอร์เซีย และอินเดียอันวิจิตรบรรจง พร้อมด้วยซุ้มประตูและซุ้มระเบียงทรงโค้ง รวมถึงหอคอยที่มียอดเป็นโดมรูปทรงดอกบัวอันเป็นเอกลัษณ์
ป้อมอัครามีความสำคัญในการเป็นพระราชวังของจักรพรรดิโมกุลหลายพระองค์ นอกจากนี้ยังมีความสำคัญในฐานะสัญลักษณ์แสดงความยิ่งใหญ่และความเจริญรุ่งเรืองของจักรวรรดิโมกุล รวมถึงเป็นศูนย์กลางการปกครอง การบริหารประเทศ และการทหารที่มีความสำคัญ นับเป็นสถานที่สุดยิ่งใหญ่ที่มีความโดดเด่นสวยงามไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แห่งอื่น ๆ ในอินเดีย นำไปสู่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ใครที่ชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอินเดีย หรือชื่นชอบสถาปัตยกรรมสวย ๆ แบบนี้ ควรไปเยี่ยมชมให้ได้สักครั้งในชีวิต