ดิสนีย์แลนด์มีที่ไหนบ้าง บทความนี้มีคำตอบ !

คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า “ดิสนีย์แลนด์” หรือ “Disney Land” คือดินแดนแห่งความฝันที่ในชีวิตนี้ควรจะไปเยือนสักหนึ่งครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่หลงใหลคลั่งไคล้เรื่องราวของเจ้าหญิงดิสนีย์ หรือป็อปคัลเจอร์ต่าง ๆ ที่ค่ายบันเทิงยักษ์ใหญ่นี้เสิร์ฟให้กับผู้ชมมาร่วมศตวรรษ และด้วยความนิยมระดับนี้ จึงทำให้ในปัจจุบัน ดิสนีย์แลนด์ถูกเนรมิตไว้ทั่วโลกมากถึง 6 แห่งด้วยกัน โดยในบทความนี้จะมาให้คำตอบว่าดิสนีย์แลนด์มีที่ไหนบ้าง และมีกี่ประเทศ พร้อมบอกเล่าความน่าสนใจของแต่ละแห่งก่อนเช็กตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเยือน ติดตามได้เลย

Disneyland Resort

หากถามว่าดิสนีย์แลนด์มีที่ไหนบ้าง คงต้องเริ่มตอบจาก Disneyland Resort เพราะเป็นดิสนีย์แลนด์แห่งแรกของโลก ตั้งอยู่ที่เมืองอนาไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เรียกได้ว่าที่นี่คือต้นกำเนิดของทุกความมหัศจรรย์ ผู้ไปเยือนจะได้สัมผัสกลิ่นอายความคลาสสิกดั้งเดิมแบบฉบับดิสนีย์ โดยเมื่อไปแล้วไม่ควรพลาดเครื่องเล่นไฮไลต์อย่าง “Space Mountain” รถไฟเหาะในความมืด และ “It's a Small World” ล่องเรือชมตุ๊กตาจากทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากไปเยือนที่นี่ แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้า และวางแผนการเดินทางให้ดี เพราะคนเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะช่วงวันหยุด รวมถึงอย่าลืมดาวน์โหลดแอปฯ Disneyland เพื่อดูแผนที่สวนสนุก เวลาการแสดง และจองคิวเครื่องเล่นไปด้วย

Walt Disney World Resort

มาต่อกันที่ดิสนีย์แลนด์ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Walt Disney World Resort ซึ่งตั้งอยู่ที่ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา จุดเด่นของที่นี่คือความอลังการตระการตา และมีเครื่องเล่นไฮไลต์มากมาย เช่น “Twilight Zone Tower of Terror” ตึกผีสิง และ “Expedition Everest” รถไฟเหาะล่องหนในเทือกเขาหิมาลัย เรียกได้ว่าใครมาที่นี่ก็เตรียมกรี๊ดกันให้สุดเสียงได้เลย

คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวคือวางแผนการเดินทางให้ดี เพราะแต่ละสวนสนุกมีขนาดใหญ่มาก อาจต้องใช้เวลาหลายวันในการเที่ยวให้ครบ หรือถ้าพอมีงบประมาณก็ควรจองที่พักภายในรีสอร์ตของดิสนีย์เพื่อความสะดวกสบายในการเที่ยว

Tokyo Disneyland

สำหรับใครที่สงสัยว่าดิสนีย์แลนด์มีกี่ประเทศ และในทวีปเอเชียมีบ้างไหม คำตอบคือมี ! โดยหนึ่งในนั้นก็คือ Tokyo Disneyland ดินแดนในฝันของใครหลายคน ที่เพียงก้าวเข้าไป ก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง โดยเครื่องเล่นไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เลยคือ “Pooh's Hunny Hunt” ผจญภัยไปในป่าของหมีพูห์ ตะลุยไปในถ้ำ บ้านต้นไม้ และสวนผึ้งน่ารักสดใส ส่วนอีกอันที่คุ้มค่าเวลาในการต่อคิวคือ “Monsters, Inc. Ride & Go Seek!” นั่งรถไฟเหาะตามล่าบู ปีศาจจอมป่วนในโรงงานมอนสเตอร์อิงค์

จุดเด่นของ Tokyo Disneyland คือกิมมิกความน่ารักแบบญี่ปุ่น ทั้งขนมของหวานรูปมิกกี้เมาส์ ชุดคอสตูมน่ารักของตัวละคร และการแสดงอันตระการตามากมาย ซึ่งหากใครที่อยากไปเยือนที่นี่ ถ้ามีความรู้ภาษาญี่ปุ่นติดตัวสักหน่อยก็จะยิ่งสนุกและสะดวก เพราะพนักงานส่วนใหญ่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ไม่คล่องแคล่วนัก

Disneyland Paris

ข้ามมาฝั่งยุโรปกันบ้าง ที่ดิสนีย์แลนด์ปารีส จุดเด่นของที่นี่คือ บรรยากาศโรแมนติกแบบยุโรป มีเครื่องเล่นไฮไลต์อย่าง “Big Thunder Mountain” รถไฟเหาะตะลุยเหมืองทอง และ “Crush's Coaster” รถไฟเหาะใต้น้ำผจญภัยกับเต่าครัช ถ้าใครชอบความโรแมนติก ต้องไม่พลาดเลย แต่ก่อนไปเช็กสภาพอากาศก่อนนะ เพราะช่วงหน้าหนาวอุณหภูมิอาจต่ำใกล้เคียงกับจุดเยือกแข็ง ดังนั้นแนะนำให้ไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศกำลังอุ่นสบาย

Hong Kong Disneyland

เพียงลัดฟ้า 2-3 ชั่วโมง คุณก็จะได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ณ Hong Kong Disneyland ดิสนีย์แลนด์ที่ใกล้กับประเทศไทยมากที่สุด โดยถึงแม้ขนาดจะกะทัดรัด แต่ก็จัดเต็มความสนุกไม่แพ้ที่อื่น ๆ

โดยเมื่อมาถึง แนะนำให้เริ่มต้นผจญภัยด้วยการนั่งรถไฟสายแฟนตาซี พาคุณชมทั่วทั้งอาณาจักร จากนั้นมุ่งหน้าสู่ Toy Story Land มหานครของเหล่าของเล่นจากภาพยนตร์ชื่อดัง ต่อด้วยการบุกป่ากับ Tarzan's Treehouse ที่จะได้ปีนบ้านต้นไม้สูงเสียดฟ้า แล้วไปเยี่ยมบ้านหลังน้อยใน Fairy Tale Forest ปิดท้ายด้วยโชว์พลุอลังการประกอบแสงสีเสียงตระการตา บอกเลยว่างานนี้อิ่มเอมทั้งสายตาและหัวใจแน่นอน

Shanghai Disneyland

ปิดท้ายการตอบคำถามว่าดิสนีย์แลนด์มีที่ไหนบ้าง และมีกี่ประเทศ ด้วย Shanghai Disneyland ที่เรียกได้ว่าเป็นดิสนีย์แลนด์แห่งล่าสุด ดังนั้น จึงมีความทันสมัยมากที่สุด มีเครื่องเล่นไฮไลต์อย่าง “TRON Lightcycle Power Run” รถไฟเหาะความเร็วสูงในสไตล์ TRON และ “Pirates of the Caribbean: Battle for the Sunken Treasure” ตะลุยดินแดนโจรสลัด นอกจากนี้ ยังมีขบวนพาเหรดตระการตา ครบด้วยแสง สี เสียง แบบจัดเต็ม อีกทั้งยังล้อมรอบไปด้วยร้านอาหารและของที่ระลึกมากมาย ที่สำคัญยังได้เห็นวัฒนธรรมจีนผสมผสานอย่างลงตัวในสวนสนุกแห่งนี้

เที่ยวดิสนีย์แลนด์สะดวกกว่าเดิม ถ้ามีตัวช่วยอย่าง Traveloka

ได้รู้กันไปแล้วว่าดิสนีย์แลนด์มีที่ไหนบ้าง และมีกี่ประเทศ ซึ่งหากต้องการเติมเต็มความฝันด้วยการไปเยือนอาณาจักร Disneyland ทั้ง 6 แห่งเหล่านี้ สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือ ตัวช่วยดี ๆ อย่าง Traveloka แอปฯ จองที่พักและเช็กตั๋วเครื่องบินที่มาพร้อมแพ็กเกจที่ให้คุณได้เที่ยวสนุกในราคาสบายกระเป๋า เมื่อนึกถึงเรื่องเที่ยวต้องนึกถึง Traveloka จองง่าย จ่ายสะดวก ดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android

ข้อมูลอ้างอิง:

1. How Many Disney Parks Are There?. สืบค้นเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 จาก https://disneyconnect.com/how-many-disney-parks-are-there/