อิ่มบุญต้อนรับปีใหม่ 2019 ด้วยกิจกรรมดีๆ เติมแต้มบุญให้ชีวิต ด้วยการจัดทริปไปลุยสถานที่เที่ยวในอยุธยา เมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปวัดวาอาราม ขับรถไปชมวิวชิลล์รอบเมืองเก่า กินกุ้งแม่น้ำ พร้อมไหว้พระเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต ทริปนี้ไปครอบครัวก็ดี คนรักก็ได้ ยิ่งไปกับเพื่อนยิ่งสนุก แต่จะมีวัดไหนให้ทุกคนตามไปไหว้พระขอพรบ้าง Traveloka รวบรวมสถานที่เที่ยวอยุธยามาให้แล้ว รับรองปี 2019 นี้เป๊ะ ปั๊วะ ปังทั้งปีแน่นอน!
ประเดินวัดแรกกันที่วัดใหญ่ชัยมงคล สถานที่เที่ยวในอยุธยาและวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 1900 มีชื่อเดิมว่าวัดป่าแก้ หรือวัดเจ้าไท วัดใหญ่ชัยมงคลเคยถูกปล่อยให้กลายเป็นวัดร้างในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ไปเกือบ 400 ปี ก่อนที่พระฉลวย สุธมฺโมจะกลับมาฟื้นฟูวัดอีกครั้ง และได้นิมนต์พระครูภาวนาพิริยคุณมาดูแลและได้ชื่อว่า วัดใหญ่ชัยมงคล สำหรับใครที่แวะมาเที่ยวที่วัดใหญ่ชัยมงคลนี้ก็ต้องแวะมาที่ เจดีย์องค์ใหญ่ ที่ได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่ภายในพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล พระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด
อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่โด่งดังมาจากละครบุพเพสันนิวาส วัดไชยวัฒนารามเป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลาย สถานที่เที่ยวในอยุธยาแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เพื่ออุทิศผลบุญให้กับพระราชมารดา และเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือเขมร ดังนั้นสถาปัตยกรรมส่วนหนึ่งของวัดไชยวัฒนารามจึงมาจากปราสาทนครวัดนั่นเอง ส่วนไฮไลต์ของวัดไชยวัฒนารามคือ ปรางค์ประธานและปรางค์มุมอยู่บนฐานเดียวกัน รอบพระปรางค์ใหญ่ล้อมรอบไปด้วยระเบียงคตที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยจำนวน 120 องค์ ซึ่งเป็นเหมือนกำแพงเขตศักดิ์สิทธิ์ และเมรุทิศเมรุราย ตั้งล้อมรอบพระปรางค์อยู่ทั้งสิ้น 8 องค์
หลุดเข้าไปในโลกประวัติศาสตร์กันต่อที่ วัดมหาธาตุ เป็นวัดเก่าแก่วัดในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาที่มีประวัติศาสตร์ไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไหร่นัก โดยวัดมหาธาตุเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร และเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสี วัดนี้จึงได้รับการดูแลอยู่ตลอดก่อนจนถูกทำลายลงหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 สำหรับวัดมหาธาตุนี้มีจุดเด่นอยู่ที่พระปรางค์ขนาดใหญ่ที่ปัจจุบันพังทลายลงมาหมดแล้ว และวิหารเล็กที่มีรากไม้แผ่รากขึ้นเกาะเต็มผนัง และส่วนที่โดดเด่นที่สุดก็คือรากไม้ที่ล้อมเศียรพระพุทธรูป และทำให้ที่นี่เป็นสถานที่เที่ยวในอยุธยาที่น่ามาเยือนนั่นเอง
สำหรับใครที่อยากเห็นต้นแบบของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้แบบดั้งเดิมล่ะก็ แนะนำให้เดินทางไปที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งแต่เดิมนั้น วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดหลวงที่ตั้งอยู่ในเขตพระรางวังโบราณอยุธยา ปัจจุบันเหลือเพียงซากอิฐปูนและเจดีย์ทรงกลมเรียงติดกันสามองค์ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราแวะเข้าไปสักการะบูชาเท่านั้น ขอบอกเลยว่าถ้าได้แวะไปที่วัดแห่งนี้จะสัมผัสได้ถึงความสวยงามและความรุ่งเรืองของอยุธยาในอดีตได้อย่างแน่นอน
ทิศตะวันตกของพระราชวังโบราณในเขตกำแพงเมืองพระนครศรีอยุธยายังมีอีกหนึ่งวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์และสถานที่เที่ยวในอยุธยาที่สำคัญ คือ วัดวรเชษฐาราม ตามพระราชพงศาวดารแล้ว วัดนี้เป็นที่บรรจุพระบรมอิฐิของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเป็นวัดฝ่ายอรัญาวาสี ซึ่งวัดวรเชษฐารามที่อยุธยานั้นมีอยู่ 2 แห่งด้วยกัน คืออยู่ในเกาะเมือง และอีกแห่งอยู่นอกเมืองทิศตะวันออก มีอายุเก่าแก่เกือบ 400 ปี เป็นวัดที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมและโบราณคดี
ติดกับพระราชวังโบราณและวัดพระศรีสรรญเพชญ์ เราจะพบกับวัดธรรมิกราช หรือเดิมชื่อ วัดมุขราช อดีตพระอารามหลวงในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ถูกสร้างขึ้นโดยพระยาธรรมิกราชซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้าสายน้ำผึ้ง ซึ่งมีการสันนิษฐานกันว่า วัดนี้น่าจะสร้างขึ้นก่อนที่จะสถาปนากรุงศรีอยุธยา แน่นอนว่ามาวัดธรรมิกราช สิ่งที่เห็นได้เด่นชัดที่สุดก็คือรูปปั้นสิงห์ที่ล้อมรอบเจดีย์ทรงกลมที่ได้รับอิทธิพลมาจากเขมร นอกจากนี้ยังมีวิหารหลวงขนาดใหญ่ และเศียรพระพุทธรูปหล่อสำฤทธิ์ ซึ่งเป็นศิลปะสมัยอู่ทอง
วัดราชบูรณะ จัดเป็นอีกหนึ่งวัดใหญ่และเก่าแก่มากที่สุดวัดหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่คือพระอารามหลวงในสมัยอยุธยาที่ถูกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 (เจ้าสามพระยา) อีกทั้งยังมีชื่อเสียงโด่งดังมาก-มากที่สุดในเรื่องกรุมหาสมบัติ ทั้งเครื่องทอง พระแสงขันธ์ มงกุฏ พระพุทธรูปต่างๆ พระแก้วและพระทองคำ ภายในวัดมีองค์ปรางค์ประธานล้อมรอบด้วยระเบียงคต มีพระวิหารตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ส่วนพระอุโบสถตั้งอยู่ทางด้านหลังของวัด เป็นสถานที่เที่ยวในอยุธยาที่เป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไหลเวียนมาเที่ยวกันไม่ขาดสาย
ทะลุมิติสู่อดีต ลอดประตูแห่งกาลเวลาที่วัดพระงาม หรือ วัดชะราม โบราณสถานร้างสมัยอยุธยา ที่วัดพระงามแห่งนี้ถูกสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ก่อนจะถูกทิ้งร้างไปเมื่อครั้งเสียกรุงครั้งที่ 2 นอกจากซุ้มประตูที่ถูกรากต้นโพธิ์ปกลุม หรือที่เรียกว่า ประตูแห่งการเวลา ที่สวย Unseen เป็นเหมือนสัญลักษณ์ประจำวัดแล้ว เจีย์แปดเหลี่ยมซึ่งเป็นประธานของวัดก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ดึงดูดใจไม่น้อย นอกจากนี้ยังมีกำแพงแก้วและคูน้ำล้อมรอบวัด
สถานที่เที่ยวในอยุธยาอีกหนึ่งแห่ง วัดมเหยงคณ์ เป็นโบราณสถานของชาติที่กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนไว้เรียบร้อยแล้ว ตามพงศวดารแล้ว วัดมเหยงคณ์ถูกสร้างขึ้นในสมัยอโยธยา ก่อนตั้งกรุงศรีอยุธยาอย่างน้อย 40 ปี โดยพระเจ้าธรรมราชาและพระนางกัลยาณี มีจุดเด่นอยู่ที่ผนังอุโบสถก่ออิฐาสีแดงที่ตั้งตระหง่านให้เห็นมาแต่ไกล
มาชมความยิ่งไห้ว พร้อมกราบนมัสการพระพุทธไสยาสน์ที่ วัดโลกยสุธาหรือ วัดโลกยสุธาราม มีการสันนิษฐานว่าวัดนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง ในรัชสมัยของสมเด็จพระนครินทนารธิราช ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้าสามพระยา แน่นอนว่าจุดเด่นที่สุดของวัดโลกยสุธารามก็คือ พระพุทธไสยาสน์ ปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในอยุธยาประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ที่มีนักท่องเที่ยวแวะมากราบไหว้ตลอดปี
ใครที่อยากบรรยากาศเที่ยววัดไปด้วย ผ่อนคลายไปด้วยสถานที่เที่ยวในอยุธยาที่เราแนะนำให้มาก็คือ ที่วัดพระราม หรือ สวนสาธารณะบึงพระราม นี่ล่ะ! มีการสันนิษฐานว่า สมัยที่สร้างกรุงศรีอยุธยาขึ้น มีการขุดเอาดินในบึงมาถมที่วังและสร้างวัด ให้บึงมีขนาดใหญ่ จนกลายเป็นบึงพระรามในปัจจุบัน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีมีพระปรางค์ขนาดใหญ่ก่อด้วยอิฐสอปูน เป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนต้นที่ได้รับอิทธิพลแบบเขมรโบราณจากเมืองละโว้ (ลพบุรี) และมีเจดีย์เล็กใหญ่รอบๆองค์พระปรางค์อีกประมาณ 28 องค์ นอกจากนี้ยังมีวิหารภายในวัดอีกมากมายให้เราได้เข้าไปชมกัน
ในเมื่อเป้าหมายในการมาเที่ยวอยุธยาครั้งนี้ คือการมาไหว้พระขอพร ดังนั้นจะขาดวัดภูเขาทองไปไม่ได้! วัดภูเขาทองถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง สมัยที่พระองค์ยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา เพื่อระลึกถึงครั้งที่รบชนะไทย ดังนั้นรูปแบบของเจดีย์จึงคล้ายๆ กับแบบมอญพม่า แต่หลังจากที่พระนเรศวรมหาราชทรงกอบกู้เอาเอกราชคืนมา ก็ทรงโปรดให้สร้างเจดีย์แบบไทยไว่เหนือฐานแบบมอญและพม่า ดังนั้นความสวยงามของวัดภูเขาทอง คือเป็นสถาปัตยกรรม 2 รูปแบบที่มิกซ์แอนด์แมตช์กันได้แบบลงตัว
มาสัมผัสความสวยงามของพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหารแบบมหานิกายที่วัดพนัญเชิง ริมแม่น้ำป่าสัก วัดพนัญเชิงเป็นวัดเก่าแก่และเป็นวัดที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งในอยุธยาสถานที่เที่ยวในอยุธยาแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นก่อนจะสถาปนากรุงศรีอยุธยาเสียอีก และไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างขึ้น แต่ที่แน่ๆ มาถึงวัดพนัญเชิงก็ต้องมากราบไหว้หลวงพ่อโต หรือ เจ้าพ่อซำปอกง พระพุทธรูปทองคำในพระอุโบสถ และตำหนักเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก หรือที่ชาวจีนเรียกว่า “จูแซเนี้ย” เป็นที่นับถือของทั้งคนไทยและคนจีน
แวะเวียนมาต่อที่ วัดพุทธไธยศวรรย์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก วัดนี้ถือเป็นวัดเก่าแก่ชองอยุธยาที่รอดพ้นจากการถูกเผาทำลายเมื่อครั้งเสียกรุง ดังนั้นภายในวัดจึงเต็มไปด้วยพระพุทธรูป และวิหารที่ถูกบูรณะซ่อมแซมดูแลรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ ทั้งองค์ปรางค์ประธาน ภายในประดิษฐานพระเจดีย์องค์เล็กๆ และรอยพระพุทธบาท ตำหนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ และจุดที่พุทธศาสนิกชนเดินทางมากราบไหว้กันบ่อยๆ ก็คือ วิหารองค์พ่อจตุคามรามเทพ
ปิดท้ายทริปนี้ใครที่อยากขอพรเรื่องหน้าที่การงาน อย่างประสบความสำเร็จ อยากปังเรื่องก็ต้องมากราบไหว้พระประธานในพระอุโบสถที่วัดกษัตราธิราช พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สถานที่เที่ยวในอยุธยาแห่งนี้แต่เดิมนั้นวัดกษัตราธิราช มีชื่อว่าวัดกษัตราราม หรือ วัดกุสิตราราม นอกจากนี้ยังมีพระวิหารที่รูปหล่อของหลวงปู่เทียม อดีตเจ้าอาวาสพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องอยู่ยงคงกระพันและเมตตาให้ได้แวะสักการะกันด้วย
จัดเต็มกันไปเลย 15 วัดรวด! สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากไปไหว้พระขอพรให้ชีวิตปั๊วะ! ปัง! ก็สามารถตามลายแทง 15 วัดสถานที่เที่ยวในอยุธยาที่เรามาฝากกันได้เลย ส่วนใครที่เห็นทีว่าทริปนี้ไปวันเดียวคงไม่ไหว อยากแวะพักนอนค้างอยุธยาแล้วไปกินกุ้งแม่น้ำต่อสักคืน ก็อย่าลืมแวะมาใช้บริการจองที่พักอยุธยา กับ Traveloka กันนะ รับรองจองง่าย จ่ายราคาเดียว!