กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย โดยเฉพาะวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งหลายแห่งมีอายุนับร้อยปีนับตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาหรือต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งวัดเหล่านี้นอกจากจะมีสถาปัตยกรรมอันงดงามและมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานแล้ว ทำเลที่ตั้งที่อยู่ติดริมแม่น้ำ ยังช่วยเพิ่มสีสันและเสน่ห์ของการท่องเที่ยวให้น่าแวะไปเยือนอีกด้วย
บทความนี้ จะขอมาแนะนำ 9 วัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาน่าเที่ยวที่ต้องแวะไปสักครั้ง สำหรับใครที่อยากไปไหว้พระเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล และอยากหาที่พักริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อพักผ่อนไปด้วยในตัว สามารถมาเลือกจองโรงแรมที่ใช่กันได้ที่ Traveloka โดยสามารถเลือกเข้าพักได้ในหลายระดับราคา หรือจะไปเที่ยวที่ไหนเราก็รวบรวมข้อมูลน่ารู้เอาไว้ให้ครบ…เพราะเมื่อคิดถึงเรื่องเที่ยวต้อง Traveloka เท่านั้น !
9 วัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาน่าเที่ยว สถาปัตยกรรมงดงาม ประวัติศาสตร์ยาวนาน
สำหรับคนที่กำลังมองหาทริปสายบุญฯ ไม่ควรพลาดกับ 9 วัดติดแม่น้ำเจ้าพระยาน่าเที่ยวเหล่านี้ รับรองว่าจะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ หรือจะแวะมาเก็บภาพสถาปัตยกรรมสวย ๆ ก็น่าประทับใจ
1.วัดอรุณราชวราราม
เปิดทริปด้วยวัดอรุณราชวราราม หรือ "วัดแจ้ง" วัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาขนาดใหญ่ สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และเคยเป็นวัดหลวงประจำรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของวัดแห่งนี้คือ พระปรางค์สูง 82 เมตร ประดับประดาด้วยกระเบื้องเคลือบสีสันสวยงามนับล้านชิ้น ภายในวัดประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญหลายองค์ ได้แก่ พระพุทธรูปปางไตรภูมิ ปางมารวิชัย และปางป่าเลไลยก์ในพระอุโบสถ พร้อมกันนั้น ยังมี “ยักษ์วัดแจ้ง” พญายักษ์ที่ยืนเฝ้าประตูสีขาวและสีเขียว ที่สามารถมาถ่ายรูปและชมความงามได้ นับเป็นวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เหมาะแก่การเปิดทริปอย่างยิ่ง !
2.วัดพระแก้ว
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในชื่อ "วัดพระแก้ว" เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมรกตประจำกรุงรัตนโกสินทร์ วัดแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม โดยเฉพาะพระอุโบสถซึ่งมีกำแพงแก้วล้อมรอบ ภายในประดับด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยอยุธยา และพระศรีรัตนเจดีย์ทรงลังกาที่สวยงาม !
สำหรับผู้สนใจประวัติศาสตร์ วัดพระศรีรัตนศาสดารามยังมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงข้อมูลและสิ่งของเก่าแก่ต่าง ๆ โดยอาคารพิพิธภัณฑ์เคยเป็นโรงกษาปณ์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวัดแห่งนี้ในอดีต นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ทั้งในด้านพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมโบราณอย่างแท้จริง
3.วัดโพธิ์
วัดโพธิ์ หรือชื่อเต็มว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรวิหาร เป็นอีกหนึ่งวัดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในโดดเด่นด้วย "พระนอน” หรือพระพุทธไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความยาวถึง 46 เมตร สูง 15 เมตร ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารด้านหลัง นอกจากนี้ ภายในวัดโพธิ์ยังมีพระเจดีย์ทรงสูงที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่จัดแสดงโบราณวัตถุล้ำค่าต่าง ๆ และยังเป็นหนึ่งในแหล่งเรียนรู้และศูนย์ฝึกการแพทย์แผนไทยโบราณที่สำคัญของกรุงเทพฯ ด้วย
4. วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
วัดประยุรวงศาวาสวรวิหารเป็นอีกหนึ่งวัดโบราณคู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไม่ควรพลาด
วัดสถาปนาขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดดเด่นด้วยพระมหาธาตุเจดีย์ทรงสูงใหญ่สง่างามแบบสถาปัตยกรรมมอญ ประดับด้วยเครื่องลายปูนปั้นอันละเอียดประณีต หากก้าวเข้าไปในวัดจะได้พบกับความงามของพระอุโบสถ วิหารหลวง เจดีย์ทรงระฆังคว่ำที่โดดเด่น พร้อมด้วยพระปรางค์ 3 ยอดอันงดงาม นับเป็นจุดหมายปลายทาง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมโบราณอย่างแท้จริง
5. วัดอมรินทรารามวรวิหาร
วัดอมรินทรารามวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่คู่แม่น้ำเจ้าพระยากว่า 200 ปี ภายในมีวิหารหลวง ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น "หลวงพ่อโบสถ์น้อย" ปางมารวิชัย ที่นับถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์และเป็นสิ่งเคารพสักการะของคนไทย
นอกจากนี้ วัดยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อระเบิดลง ทำให้วัดได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทว่า หลวงพ่อโบสถ์น้อยกลับมีแค่รอยร้าวที่พระเศียรเท่านั้น ทำให้วัดอมรินทรารามวรวิหารกลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้สักการะ เพื่อขอพรจากหลวงพ่อกันเป็นจำนวนมาก
6. วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร หรือที่คนนิยมเรียกกันว่า "วัดสามจีน" เมื่อก้าวผ่านประตูวัด จะได้พบกับ “พระมหามณฑป" ที่ประดิษฐานองค์ "หลวงพ่อทองคำ" พระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ภายในพระมหามณฑปยังมี "ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช" ที่เล่าเรื่องราวความเป็นมาของย่านนี้ และ "นิทรรศการพระพุทธรูปทองคำ" ซึ่งบอกกล่าวถึงการก่อกำเนิดพระพุทธรูปต่าง ๆ รวมถึงหลวงพ่อทองคำด้วย
นอกจากนี้ ภายในวัดยังมี พระอุโบสถประดิษฐาน "หลวงพ่อโตวัดสามจีน" ชื่อเสียงโด่งดัง รวมถึงพระวิหารและธรรมาสน์ลายทองเท้าสิงห์ให้ได้ชื่นชมความงามด้วยเช่นกัน
7. วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
จุดเด่นของ “วัดชนะสงคราม” คือพระอุโบสถ ซึ่งเป็นอาคารแบบไทยประเพณีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น หน้าบันที่มีช่องหน้าต่างใต้รูปพระนารายณ์ทรงครุฑ กรอบหน้าบันที่เป็นแบบยาวตรงไม่คดโค้งคล้ายนาคสะดุ้ง และตำแหน่งใบเสมาที่แตกต่างจากวัดทั่วไป ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของงานสถาปัตยกรรมสกุลช่างวังหน้า
ภายในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปประธานปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ชื่อ "พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์” เป็นพระพุทธรูปศิลปะอยุธยาที่มีความศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ ยังมีจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องพุทธประวัติที่วาดอย่างประณีต รวมถึงธรรมาสน์จากงานพระเมรุมาศของรัชกาลที่ 5 ซึ่งพบได้แต่ในวัดสำคัญเท่านั้น นับเป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่เหมาะกับเรียนรู้ประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง
8. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
วัดระฆังโฆสิตารามโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามและประวัติศาสตร์อันยาวนาน เริ่มต้นที่พระอุโบสถทรงไทยแบบรัชกาลที่ 1 ประดิษฐานพระประธานนามว่า "หลวงพ่อยิ้มรับฟ้า" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสำริดปางสมาธิ ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามของพระวรรณวาดวิจิตร (ทอง จารุวิจิตร) จิตรกรชื่อก้องสมัยรัชกาลที่ 6 นอกจากนี้ พระปรางค์วัดระฆัง ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 ยังนับเป็นหนึ่งในพระปรางค์ที่งดงามและถูกต้องตามแบบแผนที่สุดในประเทศไทยด้วย เหมาะสำหรับไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชื่นชมสถาปัตยกรรมต่าง ๆ
9. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
ปิดท้ายด้วยวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อเดินเข้าสู่วัด เราจะพบกับสถาปัตยกรรมแบบจีนที่โดดเด่นทั้งพระอุโบสถ หอมณเฑียรธรรม และหอระฆังยักษ์ขนาดใหญ่ที่สุดในไทย พระอุโบสถนั้นประดิษฐานพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ที่หาดูได้ยากในกรุงเทพฯ พร้อมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าพุทธประวัติและวิถีชีวิตในสมัยรัชกาลที่ 3 นอกจากนี้ ภายในยังมีพระวิหารหลวงองค์ใหญ่ชื่อ "หลวงพ่อโต" หรือพระพุทธไตรรัตนนายก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่งดงามอร่ามประหนึ่งพระพุทธรูป ณ วัดพนัญเชิงกรุงศรีอยุธยา นับเป็นวัดที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมไทยและจีนที่มีเสน่ห์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทยเลยก็ว่าได้!
นอกจากสถาปัตยกรรมที่งดงามและประวัติศาสตร์อันยาวนานของวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเหล่านี้แล้ว หากต้องการสัมผัสบรรยากาศพิเศษให้ได้อย่างเต็มที่ การพักผ่อนในโรงแรมริมน้ำก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย แนะนำว่า สำหรับผู้ที่ต้องการจองที่พักริมแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถเข้าไปเช็กราคากันก่อนได้เลยที่แอปพลิเคชัน Traveloka ที่นอกจากจะมาพร้อมกับที่พักมากมายให้เลือกจองแล้ว ยังจองง่าย จ่ายเงินได้เมื่อถึงวันเช็คอิน บอกเลยว่าเรื่องเที่ยวต้อง Traveloka แล้วคุณจะสนุกกับการพักผ่อนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแน่นอน
ข้อมูลอ้างอิง