เชื่อว่าเช็กลิสต์ของนักเที่ยวตัวยง อย่างน้อยต้องมีกิจกรรม "ขึ้นบอลลูน" ชมวิวในเมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) ในประเทศตุรกีรวมอยู่ด้วย เพราะที่นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่น่าหลงใหลไม่แพ้ที่ใดในโลก เพราะด้วยสภาพภูมิประเทศที่แปลกตา ประกอบกับวิวทิวทัศน์อันงดงามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย หากใครได้แวะไปสักครั้ง รับรองว่าจะต้องตกหลุมรักเมืองแห่งนี้แน่นอน
สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวตุรกี และอยากจองบอลลูนเพื่อเก็บภาพความประทับใจในมุมมองแบบ Birds Eye Viwe วันนี้เราจะมาทำ Q&A เกี่ยวกับทริปทัวร์คัปปาโดเกีย พร้อมกับการจองบอลลูน เพื่อชมวิวในตุรกีแบบครบจบ ทั้งยังจะมาบอกกันด้วยว่าช่วงเดือนไหนและเวลาใดที่เหมาะจะไปเที่ยวที่สุด รวมไปถึงราคาค่าใช้จ่ายโดยประมาณ เพื่อให้คุณวางแผนเที่ยว พร้อมเตรียมจองตั๋วเครื่องบินไปตุรกีกับ Traveloka แอปเที่ยวตัวท็อปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แบบไร้ค่าธรรมเนียม จ่ายได้สบายกระเป๋า!
สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครกับการขึ้นบอลลูนชมวิวที่ตุรกี อีกหนึ่ง Destination ที่คนชอบเที่ยวต้องได้ไปเยือนสักครั้งในชีวิต ซึ่งหากจะบอกว่า “เมืองคัปปาโดเกีย” คือหนึ่งในเมืองที่เป็นไฮไลท์สำคัญของการชิมวิวที่สวยงามที่สุดก็คงไม่เกินจริงไปนัก
อย่างที่บอกไปว่า เมืองคัปปาโดเกีย เป็นเมืองที่มีความโดดเด่นในเรื่องของภูมิประเทศ เพราะนอกจากจะมีหุบเขาที่โดดเด่นแล้ว เมืองแห่งนี้ยังมีหมู่บ้านที่สวยงามราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย ยิ่งถ้าใครได้ขึ้นบอลลูนเพื่อดื่มด่ำกับความงดงามของสถานที่ และซึมซับกับบรรยากาศของวิวทิวทัศน์ รับรองว่าจะประทับใจจนยากที่จะลืมได้
ไฮไลท์เมืองคัปปาโดเกีย เที่ยวสนุก เก็บภาพสวย ๆ ได้เพียบ!
เนื่องจากเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นทางธรณีวิทยาที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลก และธรรมชาติได้สร้างสรรค์ความงดงามให้กับเมืองนี้เอาไว้มากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ปล่องไฟนางฟ้า ที่เป็นกลุ่มภูเขาหินรูปกรวย ซึ่งเกิดจากการก่อตัวของหินตามธรรมชาติ จากการระเบิดและสึกกร่อนของภูเขาไฟเป็นเวลาหลายล้านปี จนทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่แสนมีเสน่ห์ การได้นั่งบอลลูนเพื่อยลความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ด้วยตาตัวเองคือ The Must ที่ไม่ควรพลาด
ทิศทางลมที่สงบ และท้องฟ้าอันแจ่มใสในช่วงเช้าตรู่ คือช่วงเวลาที่เหมาะกับการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำในการขึ้นบอลลูน อีกทั้งข้อดีของเมืองแห่งนี้ ยังเป็นพื้นที่ที่มีฝนตกค่อนข้างน้อย ซึ่งหมายความว่าคุณจะสามารถจองบอลลูนเพื่อชมวิวในตุรกีกับเมืองคัปปาโดเกียได้เกือบตลอดทั้งปี
แต่หากใครยังไม่จุใจกับการนั่งบอลลูนชมเมือง คัปปาโดเกียยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันหลากหลาย จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำหรับคนที่อยากจะดื่มด่ำกับอารยธรรมพื้นเมืองโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น
คัปปาโดเกียไม่ได้มีดีแค่ภูมิทัศน์และอารยธรรมอันงดงามเท่านั้น แต่ยังมีบริการต่าง ๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมชื่อดังมากมายที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ให้คุณดื่มด่ำความโรแมนติก และชมวิวบอลลูนนับร้อยได้ในทุก ๆ วัน รวมไปถึงความสนุกสนานจากการลิ้มลองอาหารพื้นเมือง รวมถึงซึมซับกับบรรยากาศที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา พร้อมลิ้มลองไวน์คุณภาพสูงจากไร่องุ่นพื้นเมือง ที่ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์นอกเหนือจากการจองบอลลูนเพื่อชมวิวตุรกีที่ไม่ควรพลาดอีกด้วย
A: สามารถขึ้นได้ทั้งปี แต่ถ้าใครไม่ชอบอากาศร้อน ๆ อาจจะต้องมาช่วง 3 ฤดูกาลนี้ ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ เดือนเมษายน-พฤษภาคม, ฤดูใบไม้ร่วง เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน อากาศดี เย็นสบาย เป็นช่วงที่ต้นไม้กำลังสวย และฤดูหนาว เดือนธันวาคม-มีนาคม ช่วงนี้ทั้งเมืองจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว สวยแปลกตาไปอีกแบบ
A: เวลาเช้าคือช่วงที่ดีที่สุด ควรจะเริ่มเตรียมตัวเดินทางตั้งแต่ตี 5 หรือ 6 โมงเช้า พร้อมขึ้นบอลลูนไปรับแสงแรกของวัน บอกเลยว่าช่วงเวลาที่ได้ดื่มด่ำกับแสงจากพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้น ขณะอยู่ในบอลลูนนั้น จะมอบความประทับใจได้มากกว่าการชมวิวแบบทั่วไปแน่นอน
A: ใช้เวลาไม่นาน โดยจะอยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อครั้ง และสามารถโดยสารนักท่องเที่ยวได้ 20-28 คน โดยประมาณ ซึ่งภายในตะกร้าบอลลูนยักษ์นี้จะถูกแบ่งออกเป็นช่อง ๆ เพื่อเฉลี่ยน้ำหนักการยืนให้มีความสมดุล อุ่นใจได้ตลอดชั่วโมงแน่นอน
A: เพื่อความคล่องตัวในการขึ้นบอลลูน ควรจะต้องใส่เสื้อผ้าที่ช่วยกันลมอย่างเสื้อแขนยาว ขายาว และห้ามใส่ส้นสูง ห้ามสูบบุหรี่ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและผู้ร่วมทริป และอีกหนึ่งสิ่งที่ควรทราบไว้ก่อนวางแผนการเดินทาง สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ อาจจะต้องเว้นไปก่อน เพราะไม่สามารถขึ้นบอลลูนได้
A: ราคาทริปจองบอลลูนที่ตุรกีสำหรับการชมวิวในเมืองคัปปาโดเกีย จะอยู่ที่ประมาณ 210-250 USD หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 7,000-9,000 บาท ซึ่งถ้าใครเลือกแพ็กเกจไปกับทัวร์ก็จะไม่มีการจ่ายในส่วนนี้ เพราะสุดท้ายแล้ว จะต้องไปทำเรื่องจองแบบวันต่อวัน ทั้งนี้ก็เพื่อจะเป็นการเซฟค่าใช้จ่ายไม่ให้สูญเปล่า เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่อาจคาดเดาได้นั่นเอง
A: มีทั้งแบบเที่ยวบินตรง และเที่ยวบินต่อ โดยจะใช้เวลาเดินทางรวมต่างกันเพียงเล็กน้อย ซึ่งใครสะดวกนั่งยาว ๆ ก็จะใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง 15 นาที ส่วนใครอยากยืดเส้นยืดสาย พักต่อเครื่องหนึ่งจุด ก็จะใช้เวลารวมประมาณ 13 ชั่วโมง
ครบทุกคำถามคาใจเกี่ยวกับการจองบอลลูนชมวิว ณ ประเทศตุรกีกันไปแล้ว หากใครที่พร้อมไปเยือนดินแดนมหัศจรรย์ที่โดดเด่นในเรื่องของภูมิประเทศที่สวยงามแห่งนี้ สามารถจองที่พักและตั๋วเครื่องบินไปตุรกีกับ Traveloka ได้เลย ซึ่งนอกจากจะเป็นแอปฯ ที่สามารถจองได้ทั้งตั๋วเครื่องบินและที่พักแล้ว ยังซื้อง่ายราคาตรงใจ ที่จะช่วยให้คุณบินลัดฟ้าไปสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าประทับใจได้ทุกที่ ใครอยากไปเที่ยวแล้ว เริ่มกดจองได้เลย!