แจกแพลนเที่ยวฝรั่งเศสชวนฝัน 7 วัน แถมรีวิว Business Class ราคาเบาๆ

Traveloka TH
14 Sep 2022 - 7 min read

เชื่อว่าหลายคนฝันไว้ว่าชีวิตนี้ต้องไปเที่ยวฝรั่งเศสกันให้ได้ซักครั้ง! เพราะนี่คือประเทศที่งดงามสุดๆ ตั้งแต่ในเมืองไปจนถึงธรรมชาติในชนบทเลยเชียวละ วันนี้เราเลยขอเอาแพลนเที่ยวซึ่งรวมทั้งที่เที่ยวปารีสและที่เที่ยวฝรั่งเศสในเมืองใกล้เคียงมาฝากกัน ที่สำคัญคืออยากชวนให้ลองนั่งเครื่องบินแบบสบายๆ ด้วยการใช้บริการ Business Class ในระหว่างการเดินทางกันดูซักครั้งนะ เดี๋ยวนี้เราเดินทางแบบไฮโซได้ในราคาที่คนทำงานทั่วไปก็เอื้อมถึงกันแล้วจ้า ไม่เชื่อลองไปส่องราคาตั๋วเครื่องบินในแอพ Traveloka Travel & Lifestyle Superapp ดูเลยน้า รับรองว่าราคาดีไม่มีจกตาอย่างแน่นอน!

แพลนเที่ยวฝรั่งเศส 7 วัน บิน Business Class ราคาดี

Business Class
Business Class
Business Class

สำหรับการเดินทางยาวๆ อย่างการไปเที่ยวฝรั่งเศสซึ่งต้องใช้เวลาบินตรงถึงประมาณ 12 ชั่วโมงแบบนี้ บอกเลยว่าถ้าอยากลงเครื่องแล้วเที่ยวกันต่อได้สบายๆ แบบไม่อ่อนเพลียนะ แนะนำให้บิน Business Class กันไปเลยจ้า แม้หลายคนอาจจะรู้สึกว่าราคาสูงซักหน่อยนะ แต่ข้อดีที่มีก็ถือว่าคุ้มค่าเลย ตั้งแต่การมีช่องทางพิเศษให้เช็คอินได้แบบไม่ต้องรอนาน หลายสายการบินยังมีบัตร Fast Track ให้เราเข้าถึงช่อง ตม. ที่ประเทศปลายทางได้เร็วกว่าปกติด้วยเด้อ ระหว่างรอขึ้นเครื่องก็ยังไปนั่งชิลล์ในเล้าจน์ของสายการบินได้ ระหว่างเดินทางก็ยังมีมื้ออาหารหรูหราทั้งคาวหวานสารพัด ซึ่งส่วนใหญ่จะเสิร์ฟกันถึง 3 คอร์สไปเลยจ้า แถมยังเลือกเวลาเสิร์ฟอาหารได้ตามที่เราสะดวกด้วยนะ และที่สำคัญคือที่นั่งซึ่งกว้างขวางสะดวกสบาย ส่วนใหญ่ก็เอนนอนได้แบบชิลล์ๆ 180 องศาไปเลยจ้า จะลุกเข้าห้องน้ำก็แสนจะง่ายไม่ต้องไปรบกวนคนข้างๆ ให้ลำบากใจ กินอิ่มนอนอุ่นเบอร์นี้ เมื่อเครื่องแลนดิ้งถึงจุดหมาย เราจึงไปเที่ยวกันต่อได้แบบไม่เพลียเพราะอดนอนเลยละ ถ้าสนใจ แนะนำให้ลองเข้าไปส่องตั๋วเครื่องบินฝรั่งเศสแบบ Business Class กันได้จากแอพ Traveloka Travel & Lifestyle Superapp ดูนะ เค้ามีโปรราคาดีให้สอยกันอยู่บ่อยๆ เลยจ้า บอกเลยว่าเป็นราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้แบบไม่ไกลเกินฝันด้วยละ แล้วยังมีให้เลือกหลายสายการบินเลยนะ ไม่ว่าจะเป็น Finnair Business Class / Qatar Airways Business Class หรือ Thai Airways Business Class และอื่นๆ อีกมากมาย ใครเป็น FC สายการบินไหนก็ไปจัดกันได้เลยจ้ะ อ่ะ…พร้อมแล้วก็ไปส่องที่เที่ยวฝรั่งเศสกับแพลนเที่ยวเด็ดๆ ที่เราเอามาฝากกันได้เลย!

วันที่ 1

Musée du Louvre

เปิดประเดิมวันแรกของแพลนเที่ยวปารีสกันแบบสบายๆ ด้วยการไปเดินชมชิ้นงานล้ำค่ามากมายกันใน Musée du Louvre ซึ่งนับเป็นไฮไลท์ของที่เที่ยวฝรั่งเศส และเป็นแหล่งเช็คอินที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวปารีสเลยจ้า ด้านในนั้นเต็มไปด้วยชิ้นงานศิลปะที่ประเมินค่าไม่ได้มากมาย ส่วนไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คงต้องยกให้กับรูปภาพโมนาลิซ่านี่ละ เรียกว่าถ้ามาเที่ยวฝรั่งเศสแล้วไม่ได้เห็นรูปนี้ก็เหมือนยังมาไม่ถึงเลยเด้อ ลูฟวร์นั้นได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งเลยนะ ที่นี่จึงมีชิ้นงานสวยๆ ที่เดินดูกันทั้งวันก็แทบจะไม่ทั่วเชียวละ ทั้งชิลล์ทั้งเพลินมากจ้ะ บอกเลย

ค่าเข้าชม: €17 (บัตรเข้าชมแบบออนไลน์) / €15 (ราคาตั๋วหน้าพิพิธภัณฑ์ อาจมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมในบางช่วง)

เวลาเปิดให้บริการ: ทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร) ตั้งแต่เวลา 09.00 - 18.00 น. เฉพาะวันศุกร์ 09.00 - 21.45 น.

Bateaux Mouches

หลังจากไปเดินชมงานศิลปะระดับโลกกันแบบจุใจ ลองไปปิดท้ายวันกันแบบสบายๆ ชมไฮไลท์ที่เที่ยวปารีสเด็ดๆ แบบไม่ต้องเมื่อย ด้วยการล่องเรือ Bateaux Mouches รับลมชมวิวแบบชิลล์ๆ กันดีกว่า แม้ในปารีสจะมีเรือนำเที่ยวหลายบริษัทให้เลือกใช้ แต่ Bateaux Mouches นั้นนับเป็นกิจการเรือนำเที่ยวที่เก่าแก่ที่สุดของปารีสเลยนะ จริงๆ แล้วเค้ามีรูปแบบการล่องเรือให้เลือกมากมาย แต่ที่ยอดฮิตก็คือการใช้เวลา 1 ชั่วโมง ล่องเรือชมความสวยจากท่าเรือหอไอเฟลไปยังท่าเรือนอร์เทรอดามพร้อมบริการคำบรรยายถึง 10 ภาษา เป็นการเที่ยวปารีสที่ชิลล์มากนะ อยากให้มาลองดูซักที

ค่าบริการล่องเรือชมวิว : เริ่มต้นที่คนละประมาณ €15

เวลาเปิดให้บริการ: - ช่วง Low Season (ตุลาคม - มีนาคม) ประมาณ 10.00 - 21.00 น. (เรือออกทุกชั่วโมง)

- ช่วง High Season (เมษายน - กันยายน) 10.15 - 23.00 น. (เรือออกทุก 45 นาที และทุก 30 นาที

ตั้งแต่ 15.30 น. เป็นต้นไป)

วันที่ 2

Rouen

วันที่สองของทริปเที่ยวฝรั่งเศส ขอชวนออกเดินทางไปเช็คอินอีกหนึ่งพิกัดเด็ดใกล้ๆ ปารีสอย่างเมือง Rouen กันดูจ้า รูอ็องนั้นอยู่ห่างจากปารีสราวๆ 136 กิโลเมตร และสามารถเดินทางได้ทั้งทางรถยนต์และรถไฟเลยนะ และเพราะในอดีต ที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงของแคว้น Normandy ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามอลังการ นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นบ้านเกิดของจิตรกรผู้โด่งดัง Claud Monet ด้วยจ้ะ ไฮไลท์ที่เที่ยวฝรั่งเศสของเมืองนี้จะมีอะไรบ้างน่ะ ไปดูกัน

Rouen Cathedral

เริ่มจาก Rouen Cathedral ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิหารที่มีความสูงที่สุดของฝรั่งเศส และยังเคยเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดของโลกในช่วงปี ค.ศ.1876 - 1880 เลยนะ มหาวิหารสไตล์กอธิกแห่งนี้มีความสูงถึง 151 เมตร และใช้เวลาสร้างหลายร้อยปี ด้านในเป็นสถานที่เก็บร่างบุคคลสำคัญมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือหลุมที่ฝัง ‘หัวใจ’ ของพระเจ้าริชาร์ดใจสิงห์ อดีตกษัตริย์อังกฤษผู้โด่งดังนั่นเองจ้ะ เป็นหนึ่งแลนด์มาร์คที่สายประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวฝรั่งเศสกัน

ค่าเข้าชม: ฟรี

เวลาเปิดให้บริการโดยประมาณ: วันจันทร์ 14.00 - 18.00 น. อังคาร - อาทิตย์ 9.00 - 12.00 น. และ 14.00 - 18.00 น.

Le Gros Horloge Astronomical Clock

พิกัดต่อไปได้แก่ Le Gros Horloge Astronomical Clock หอนาฬิกาโบราณที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14 เป็นหอนาฬิกาขนาดใหญ่ที่สร้างคร่อมถนน Place du Vieux Marche เอาไว้ ตัวหอนาฬิกางดงามด้วยศิลปกรรมสไตล์กอธิกผสานเรอเนสซองส์ นับเป็นแลนด์มาร์คที่หากมาเที่ยวฝรั่งเศสในเมืองรูอ็องแล้วต้องแวะเช็คอินให้ได้เชียว

ค่าเข้าชม: ฟรี

เวลาเปิดให้บริการ: 24 ชั่วโมง

Church of St.Joan of Arc

เมืองรูอ็องนั้นมีชื่อเสียงในด้านประวัติศาสตร์หลากหลายมุม และหนึ่งในนั้นก็คือการเป็นเมืองซึ่งเป็นที่ประหารชีวิต โจน ออฟ อาร์ค ซึ่งเป็นวีรสตรีของฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกนั่นเองจ้า หลังจากเป็นผู้นำทหารฝรั่งเศสในการออกรบจนสามารถขับไล่ทหารอังกฤษซึ่งเข้ามารุกรานออกไปได้ เธอกลับถูกตัดสินว่าเป็นพวกนอกศาสนาจนโดนเผาทั้งเป็น ซึ่งบริเวณที่เธอถูกเผานี่ละ ได้กลายเป็นที่ตั้งของ Church of St.Joan of Arc ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1979 ด้วยสถาปัตยกรรมแปลกตาที่แลดูคล้ายหมวกเหล็กของทหารโบราณ นี่คืออีกหนึ่งพิกัดสำคัญของแพลนเที่ยวเมืองนี้ที่ไม่ควรพลาดเลย

ค่าเข้าชม: ฟรี

เวลาเปิดให้บริการ: วันจันทร์ - เสาร์ 9.30 - 17.00 น. วันอาทิตย์ 10.00 - 13.00 น. และ 14.00 - 18.00 น.

Place du Vieux Marche

เมื่อมาถึงเมืองนี้ พิกัดหนึ่งซึ่งต้องลงไว้ในแพลนเที่ยวแบบพลาดไม่ได้ก็คงเป็น Place du Vieux Marche ย่านศูนย์กลางเมืองซึ่งรายล้อมไปด้วยอาคารน่ารักๆ ในสถาปัตยกรรมยุคกลางที่งดงามเหมือนเดินอยู่ในเมืองนิทานเลยละ ทุกวันนี้ย่านนี้กลายเป็นสถานที่รวมร้านอาหาร ร้านค้า คาเฟ่ และอื่นๆ อีกมากมายเลยน้า อย่าลืมเผื่อเวลามาเดินเที่ยวกันเด้อ

ค่าเข้าชม: ฟรี

เวลาเปิดให้บริการ: ประมาณ 11.00 - 23.00 น.

Rouen

ชมความน่ารักของเมือง Rouen กันเสร็จสรรพ ก็ขอชวนมุ่งหน้าไปเที่ยวฝรั่งเศสกันต่อที่เมือง Deauville เมืองสุดชิลล์ชายทะเลที่อยู่ห่างออกไปประมาณเกือบสองชั่วโมง เผื่อเวลาไปให้ทันเดินเล่นชมบรรยากาศโรแมนติกของพระอาทิตย์ตกริมทะเลกันด้วยนะ รับรองว่าจะฟิน!

ค่าเข้าชม: ฟรี

เวลาเปิดให้บริการ: 24 ชั่วโมง

วันที่ 3

Deauville

เมือง Deauville นั้นเป็นหนึ่งในที่เที่ยวฝรั่งเศสซึ่งโด่งดังในฐานะเมืองตากอากาศบรรยากาศสบายๆ อาคารบ้านเรือนก็น่ารักเหมือนเมืองในนิทานที่ตั้งอยู่ริมทะเล ด้วยความเป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองนี้จึงเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบาย ร้านอาหารและที่พักส่วนใหญ่ก็เปิดให้บริการกันเกือบตลอด 24 ชั่วโมงเลยนะ เมืองนี้จึงเหมาะกับการมาเดินเล่นหรือหาแบ็คกราวนด์ถ่ายรูปเก๋ๆ รวมถึงแวะกินซีฟู้ดสดๆ ริมทะเลซักมื้อก็ไม่เลวเชียวละ ใส่ลงแพลนเที่ยวเอาไว้ได้เลยจ้า เชื่อว่าหลายคนติดใจแน่นอน

ค่าเข้าชม: ฟรี

เวลาเปิดให้บริการ: 24 ชั่วโมง

Mont Saint Michel

จากบรรยากาศสุดชิลล์ของเมืองริมทะเล ก็ได้เวลาเดินทางไปเช็คอินพิกัดต่อไปในแพลนเที่ยวของเรา นั่นก็คือ Mont Saint Michel ซึ่งนับเป็นหนึ่งในที่เที่ยวฝรั่งเศสซึ่งพลาดไม่ได้เลยละ ด้วยรูปแบบเหมือนปราสาทในเทพนิยายบวกกับทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่บนเกาะกลางทะเล ทำให้ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทั้งทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมจากองค์การยูเนสโก้ และยังได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกตะวันตกอีกด้วยนะ มาเที่ยวฝรั่งเศสเมื่อไหร่ห้ามพลาดเชียวละ ไม่งั้นรับรองว่าต้องเสียดาย!

ค่าเข้าชม: €11

เวลาเปิดให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่ประมาณ 10.00 - 18.00 น.

Nantes

เมือง Nantes คือพิกัดเที่ยวฝรั่งเศสจุดต่อไปที่อยู่ห่างจาก Mont Saint Michel มาประมาณสองชั่วโมง ด้วยความน่ารักของบรรยากาศและสถาปัตยกรรมโบราณที่น่าสนใจ ทำให้นิตยสารไทม์ยกให้เมืองนี้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในยุโรปประจำปี 2004 เลยจ้า ไปดูดีกว่าว่าเมืองนี้มีดีอะไร!

Château of The Dukes of Brittany

ออกสตาร์ทแพลนเที่ยวเมือง Nantes กันที่ Château of The Dukes of Brittany ที่นี่เป็นปราสาทเก่าแก่ซึ่งเคยถูกใช้งานมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 13 - 16 ซึ่งใช้เวลาฟื้นฟูปรับปรุงนานถึง 15 ปี ก่อนจะมีการเปิดให้เข้าชมกันได้ ด้านในเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีข้าวของโบราณ ซึ่งจัดแสดงผ่านการนำเสนอที่ทันสมัย สายพิพิธภัณฑ์ต้องเดินเพลินเชียวละ ใส่ลงแพลนเที่ยวไว้ได้เลย

ค่าเข้าชม: บริเวณสวนและป้อมปราการเข้าชมฟรี ส่วนพิพิธภัณฑ์มีค่าบริการคนละ €8

เวลาเปิดให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 - 17.00 น. พิพิธภัณฑ์เปิด 10.00 - 18.00 น. (ปิดวันจันทร์)

The Machines of the Isle of Nantes

Les machines de l'ile หรือ The Machines of the Isle of Nantes เป็นที่เที่ยวฝรั่งเศสที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงเมืองนี้เลยนะ ที่นี่เป็นพิกัดสุดเจ๋งซึ่งเหมือนการรวมเอาสวนสนุก เทคโนโลยี และชิ้นงานศิลปะมาไว้รวมกัน ด้วยการจัดแสดงเหล่าหุ่นยนต์ซึ่งมีรูปร่างคล้ายสัตว์ขนาดยักษ์สารพัดชนิด ไม่ว่าจะเป็นช้างสูง 12 เมตร หรือนกยักษ์ซึ่งบินไปมาได้ นอกจากนั้นยังมีม้าหมุน Marine Worlds สูงเกือบ 25 เมตร ซึ่งด้านในมีหุ่นยนต์สัตว์ทะเลสารพัดรูปแบบให้ชมกัน หุ่นยนต์ส่วนใหญ่นั้นเปิดให้เราเข้าไปนั่ง ชม หรือสัมผัสกันได้อย่างใกล้ชิดเลยนะ นับเป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และต้องใส่ลงแพลนเที่ยวเอาไว้อีกเช่นกัน!

ค่าเข้าชม: เริ่มต้นที่ €8.50

เวลาเปิดให้บริการ: แต่ละเดือนจะมีการให้บริการในวันและเวลาที่ต่างกันไป สามารถเช็คได้ก่อนเข้าชมที่ https://www.lesmachines-nantes.fr/en/practical/opening-hours/

วันที่ 4

Musee D’orsay

จาก Nantes เรามุ่งหน้ากลับมานอนที่ปารีสกันหนึ่งคืน เพื่อตื่นเช้ามาเดินชิลล์เที่ยวปารีสกันสบายๆ ซักวันเป็นการพักผ่อนแบบไม่ต้องเดินทางไกล เริ่มจากการไปชมงานศิลปะสวยๆ ใน Musee D’orsay อดีตสถานีรถไฟโบราณอันงดงามซึ่งกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงผลงานศิลปะกว่า 2,000 ชิ้น ทั้งภาพวาด งานแกะสลัก และชิ้นงานประติมากรรมมากมาย เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่มาเที่ยวปารีสเมื่อไหร่ก็ควรต้องลงแพลนเที่ยวเอาไว้เลย

ค่าเข้าชม: บัตรเข้าชมแบบออนไลน์ €16 (รอคิวเข้าชมไม่เกิน 30 นาที) หรือ €14 เมื่อซื้อบัตรเข้าชมหน้าพิพิธภัณฑ์

เวลาเปิดให้บริการ: วันอังคาร - อาทิตย์ 9.30 - 18.00 น. วันพฤหัสบดีเปิดถึง 21.45 น. (ปิดวันจันทร์)

Eiffel Tower

ออกจากการเดินเสพงานศิลป์ในพิพิธภัณฑ์ ก็ได้เวลาไปเช็คอินไฮไลท์ยืนหนึ่งของพิกัดเที่ยวปารีสและที่เที่ยวฝรั่งเศสอย่าง Eiffel Tower กันต่อเลยจ้า เมื่อเอ่ยถึงการมาเที่ยวฝรั่งเศสทั้งที ไม่มีที่นี่ลงแพลนเที่ยวไว้ถือว่าผิดเชียวละ หอไอเฟลไม่ได้เป็นแค่แลนด์มาร์คสำคัญเท่านั้นนะ แต่ถือว่าเป็นโลโก้ของฝรั่งเศสก็ว่าได้ จะมาเช็คอินตอนไหน ไม่ว่าจะเป็นเช้า สาย บ่าย เย็น หรือค่ำ ก็จะได้สัมผัสความงดงามในบรรยากาศที่ต่างกันไป ไปเที่ยวฝรั่งเศสเมื่อไหร่ ต้องแวะให้ได้เชียว

ค่าเข้าชม: ฟรี หากต้องการขึ้นไปชมด้านบนหอไอเฟล ค่าบริการเริ่มต้นที่ €17.10

เวลาเปิดให้บริการ: ด้านบนหอไอเฟล เปิดให้บริการตั้งแต่ 9.30 - 22.45 น.

Montmartre

ช่วงบ่าย ขอชวนไปเดินเล่นกันในย่าน Montmartre ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งย่านสุดชิคที่มาเที่ยวปารีสแล้วต้องมาเช็คอินกัน ย่านนี้เป็นแหล่งรวมของบรรดาศิลปินมากมาย รวมถึงยังเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่เก๋ๆ แบบแน่นๆ เลยนะ ช่วงกลางคืนย่านนี้ยังเต็มไปด้วยไนท์คลับ ผับ บาร์ อีกมากมาย หนึ่งพิกัดที่น่าแวะไปก็คือการไปชมโชว์แบบปารีสขนานแท้กันที่ Moulin Rouge จ้า เรียกว่าเป็นย่านที่มาเดินเล่นกันได้ยาวๆ ตั้งแต่กลางวันยันดึกกันเชียวละ ถ้าอยากสัมผัสกลิ่นอายแบบปารีสอย่างเต็มที่ก็ห้ามพลาดย่านนี้เลยน้า ปักหมุดลงแพลนเที่ยวไว้เลยจ้า เชื่อว่าใครมาก็เพลิน

ค่าเข้าชม: ฟรี

เวลาเปิดให้บริการ: 24 ชั่วโมง

The Basilica of Sacre-Coeur

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่เที่ยวปารีสของย่านมงมาร์ต ก็คือ The Basilica of Sacre-Coeur ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของเมืองปารีสกันเลยละ มหาวิหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 129 เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ.1875 และใช้เวลาสร้างเกือบ 40 ปีเชียวนะ นอกจากจะเป็นศาสนสถานแล้ว ที่นี่ยังเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงบรรดาทหารฝรั่งเศสซึ่งพลีชีพในสงครามกับเยอรมนีในช่วงปี ค.ศ.1870 - 1871 ด้วยจ้ะ ด้านในงดงามอลังการเลยละ เดินชมเสร็จแล้วอย่าลืมมาชิลล์กับวิวพระอาทิตย์ตกของเมืองปารีสที่ด้านหน้ามหาวิหารด้วยนะ บอกเลยว่าโรแมนติกสุดๆ เลย

ค่าเข้าชม: ฟรี

เวลาเปิดให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่ประมาณ 6.00 - 22.30 น.

วันที่ 5

Strasbourg

หลังจากพักเที่ยวปารีสชิลล์ๆ กันไปหนึ่งวัน ก็ขอชวนไปเพลินกันแบบจุกๆ ในแคว้น Alsace โดยเริ่มที่ Strasbourg เมืองมรดกโลกสุดน่ารักซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยเหมือนเมืองในนิทานจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และนับเป็นหนึ่งในพิกัดเที่ยวฝรั่งเศสอันโด่งดังเชียวละ ยิ่งใครมาช่วงหน้าหนาวยิ่งได้อารมณ์เหมือนอยู่ในเทพนิยาย เพราะบ้านเรือนย้อนยุคสุดน่ารักจะปกคลุมไปด้วยสีขาวของหิมะ ที่นี่ยังมีตลาดนัดคริสต์มาสให้ช้อปปิ้งข้าวของกันได้อย่างจุใจด้วยนะ ใครมาช่วงนั้นแนะนำให้นอนค้างกันซักคืนจ้า รับรองว่าฟินแน่นอน

Colmar

เดินทางต่อมาอีกประมาณ 76 กิโลเมตร ก็จะมาถึงอีกพิกัดเด็ดที่มาเที่ยวฝรั่งเศสแล้วควรต้องมา เมือง Colmar คืออีกเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอาคารสถาปัตยกรรมแบบโบราณที่ยังค่อนข้างสมบูรณ์มาก นอกจากจะเต็มไปด้วยบรรยากาศเหมือนเมืองในนิทานอันแสนน่ารักแล้วนะ รอบๆ เมืองกอลมาร์ยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นเยี่ยมอีกด้วยจ้า และเพราะมีลำคลองมากมาย การเที่ยวชมเมืองนี้จึงทำได้ทั้งการเดินและล่องเรือเลยน้า ใครตามหาที่เที่ยวฝรั่งเศสที่ทั้งชิลล์ทั้งโรแมนติกสุดๆ อยู่น่ะ ต้องปักหมุดที่นี่เอาไว้เลย

Riquewihr

ห่างออกไปอีกไม่ถึง 15 กิโลเมตร คืออีกหนึ่งที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวฝรั่งเศสซึ่งอยากให้แวะมา นั่นคือเมือง Riquewihr ซึ่งเต็มไปด้วยบ้านสีสันสดใสในรูปแบบโบราณ มีถนนปูหินสุดคลาสสิกให้เดินชมเมืองหรือแวะช้อปแวะนั่งชิมอาหารกันในบรรยากาศแสนสบาย แถมยังมีมุมน่ารักๆ ให้ถ่ายรูปกันได้แบบจุกๆ ไปเลยจ้า ลงแพลนเที่ยวเอาไว้ได้เลยน้า นี่เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่เชื่อว่าใครได้มาก็ต้องติดใจ

Ribeauville

ถ้ายังพอมีเวลา อยากให้ลองลงแพลนเที่ยวเมือง Ribeauville เอาไว้ด้วยนะ เพราะเมืองนี้อยู่ห่างจาก Riquewihr ไปแค่ประมาณ 5 กิโลเมตรเท่านั้นเองจ้ะ ถ้าใครหลงใหลการได้เดินชมเมืองเก่าที่น่ารักเหมือนอยู่ในนิทาน รอบด้านเต็มไปด้วยอาคารสไตล์ Timber Framing ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากทางเยอรมันคล้ายๆ กันกับอีกหลายเมืองในละแวกนี้ แล้วอยากมีเวลาชื่นชมให้เต็มที่นะ ลองวางแพลนเที่ยวเผื่อเวลาเอาไว้ซัก 2 - 3 วันเพื่อเที่ยวโซนนี้โดยเฉพาะก็เริ่ดจ้า รับรองว่าจะเป็นทริปเที่ยวฝรั่งเศสที่ได้แฮปปี้กันแบบเต็มตาเต็มอารมณ์อย่างแน่นอน

วันที่ 6

Versailles Palace

หลังจากไปตะลุยนอกเมืองกันมาแบบจุใจ ก็ได้เวลากลับมาเช็คอินไฮไลท์ที่เที่ยวปารีสกันต่อเป็นการส่งท้าย เริ่มวันด้วยการมุ่งหน้าไปเยือน Versailles Palace ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพิกัดเด็ดที่มาเที่ยวฝรั่งเศสแล้วต้องแวะไปให้ได้เชียวละ ที่นี่คือที่ประทับหลักของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และบรรดาเชื้อพระวงศ์ทั้งหลายในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นสวนด้านนอก ตัวพระราชวัง หรือการตกแต่งด้านในของที่นี่ก็ล้วนแล้วแต่ยิ่งใหญ่ งดงาม ตระการตา ไม่ว่าจะเป็นมุมไหนก็หรูหราล้ำค่าไปหมดเชียวละ นี่คือหนึ่งในที่เที่ยวฝรั่งเศสซึ่งต้องมาเช็คอินกันให้ได้เชียวนะ ใส่แพลนเที่ยวเอาไว้เลยจ้า บอกเลยว่าพลาดไม่ได้จริงๆ

ค่าเข้าชม: ราคาเริมต้นที่ €19.50

เวลาเปิดให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่ประมาณ 9.00 - 18.30 น.

Pont Alexandres

ปิดท้ายวันกันด้วยบรรยากาศแสนสบาย กับการไปเดินเล่นแถวสะพาน Pont Alexandres อีกหนึ่งที่เที่ยวปารีสที่โรแมนติกสุดๆ ในช่วงยามเย็น ว่ากันว่านี่เป็นสะพานที่สวยที่สุดของกรุงปารีสเลยเชียวละ กลางวันก็ว่าสวยแล้ว แต่กลางคืนที่มีการเปิดไฟถนนประดับประดา ยิ่งตื่นตาตื่นใจและโรแมนติกสุุดๆ ไปเลยนะ แวะมาเดินเล่นกันได้แบบสุดชิลล์เลยจ้า อย่าลืมลงแพลนเที่ยวปารีสเอาไว้ด้วยเลย

ค่าเข้าชม: ฟรี

เวลาเปิดให้บริการ: 24 ชั่วโมง

วันที่ 7

Arc de Triomphe

Arc de Triomphe หรือประตูชัยฝรั่งเศส เป็นอีกหนึ่งพิกัดเด็ดซึ่งนอกจากจะเป็นที่เที่ยวปารีสแล้วนะ ยังเปรียบเสมือนอีกหนึ่งโลโก้ของฝรั่งเศสเค้าเลยจ้า ที่เก๋ก็คือตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นของถนนถึง 12 สายในปารีสเลยด้วยนะ โดยสร้างขึ้นเพื่อสดุดีและระลึกถึงเหล่าทหารฝรั่งเศสที่เสียชีวิตในหลายสมรภูมิสงครามจ้ะ มาเที่ยวฝรั่งเศสเมื่อไหร่ต้องแวะมาเช็คอินกันให้ได้เชียวละ ไม่งั้นก็เหมือนยังมาไม่ถึงประเทศนี้เด้อ

ค่าเข้าชม: €13 (ค่าเข้าชมด้านใน) เปิดให้เข้าชมได้ฟรีทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน - มีนาคม

เวลาเปิดให้บริการ: สามารถชมด้านนอกได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้านในประตูชัยเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่ 10.00 - 23.00 น.

 Champs Elysees

ปิดท้ายทริปเที่ยวฝรั่งเศสกันด้วยการไปเดินเล่นในย่านถนน Champs Elysees ซึ่งเป็นแหล่งรวมห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และสารพัดช็อปสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังทั้งหลาย จะมาเดินเพลินๆ ก็ได้ หรือจะมาช้อปกระจายรายได้ให้จุใจก็เชิญเลยจ้า จะกลับบ้านแล้วนี่นะ จัดเต็มไปเลย!

ค่าเข้าชม: ฟรี

เวลาเปิดให้บริการ: ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ประมาณ 10.00 - 20.00 น.

พิกัด: https://goo.gl/maps/VABu4PtQpw9Mio918
ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ ฝรั่งเศสก็ยังคงเป็นที่เที่ยวในดวงใจของนักเดินทางจากทั่วโลกเสมอมา ที่เที่ยวฝรั่งเศสส่วนใหญ่นั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศที่งดงามโรแมนติกแบบไม่แพ้ใครเลยนะ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องปักหมุดมาเที่ยวฝรั่งเศสกันให้ได้จริงๆ จ้า อยากมาถึงแบบแสนจะสบาย อย่าลืมหาประสบการณ์เดินทางดีๆ จากการจองตั๋วเครื่องบินฝรั่งเศสแบบ Business Class กับ Traveloka Travel & Lifestyle Superapp ดูนะ เค้ามีทั้งส่วนลดและโปรเด็ดๆ มาให้ใช้กันรัวๆ เลยจ้า เดี๋ยวนี้การบิน Business Class นั้นเอื้อมถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับมนุษย์เงินเดือนทั่วไปแล้วนะ บินสบาย ไปถึงแล้วเที่ยวต่อได้แบบไม่เพลียด้วยละ บอกเลยว่ามันดีกว่าจริงๆ!

จองโรงแรม
จองตั๋วเครื่องบิน
Things to Do
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร