เชื่อว่าประเทศญี่ปุ่นยังคงเป็นปลายทางในฝันของใครหลายคน ประเทศเล็กๆ ที่จิ๋วแต่โคตรแจ๋ว ด้วยความหลากหลายของภูมิประเทศ วัฒนธรรม อาหารการกิน และวิถีชีวิตคน เที่ยวกี่ครั้งก็ยังได้มุมมองแปลกใหม่เสมอ และหลังจากตะลอนเที่ยวเมืองใหญ่กันมาพอหอมปากหอมคอ ทริปนี้จะขอพาเที่ยวอีกหนึ่งปลายทางที่คนเคยไปเยือนต่างนิยามให้ว่าเป็นเมืองแห่งทะเลที่มีความมุ้งมิ้งสูงมาก ‘โอกินาว่า I Okinawa’
โอกินาว่า (Okinawa) จังหวัดที่เป็นเกาะทางใต้สุดของประเทศญี่ปุ่นมีเมืองหลักคือ นาฮะ (Naha) เกาะแห่งนี้เป็นเมืองตากอากาศที่มีน้ำทะเลสีฟ้าเทอร์คอยซ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งทะเล ป่า ภูเขา น้ำตก กิจกรรมสนุกทั้งดำน้ำดูปะการัง นั่งเรือดูปลาวาฬ ปิกนิกตามเกาะเล็กเกาะน้อย และโดนใจสาย Cafe hopping แน่นอนกับคาเฟ่ชิคเก๋ที่มีอยู่ทุกมุมเมือง เมื่อนำทุกอย่างมารวมกันผสานกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมสไตล์ชาวเกาะ โอกินาว่าจึงแตกต่างและแปลกตากว่าญี่ปุ่นที่เคยเห็น รีวิวนี้จะเป็น Guide Book เล่มเล็กที่จะพาคุณไปรู้จักและสัมผัสเมืองน่ารักแห่งนี้ไปด้วยกัน
เบสิคที่ต้องรู้ก่อนไปโอกินาว่า เที่ยวญี่ปุ่นไม่ต้องใช้วีซ่าแค่มีหนังสือเดินทางที่มีอายุเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือนก็สามารถใช้ท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 15 วัน จะเที่ยวโอกินาว่าเบื้องต้นก็อย่าลืมเช็คสภาพอากาศ ฤดูร้อนของที่นี่แดดเปรี้ยงยิ่งกว่าประเทศไทยอีก และในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน เป็นฤดูมรสุม ในหนึ่งวันอาจต้องเจอแดดและฝนสลับกันทั้งวันจะได้เตรียมรับมือถูก
ถัดมาที่การแลกเงิน ญี่ปุ่นใช้สกุลเงินเยน (JPY) อัตราแลกเปลี่ยน 1 เยน ประมาณ 0.2860 บาท (THB) แลกจากไทยจะได้อัตราดีกว่าแลกที่ญี่ปุ่น ยิ่งช่วงนี้ค่าเงินถูกด้วยรีบแลกเก็บไว้เลย (September 2019)
การเช่ารถ เที่ยวโอกินาว่ามีทางเลือกในการเดินทางไม่มากเหมือนตามเมืองหลัก ที่นี่มีรถไฟโมโนเรลสายเดียวซึ่งวิ่งจากสนามบินนาฮะ (Naha Airport) เข้าเมืองและจอดตามสถานีหลักๆ ส่วนถ้าจะออกเที่ยวนอกเมืองการเช่ารถขับเที่ยวเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมที่สุด เราเองใช้บริการของ OTS Car Rental จองได้ที่: https://www.otsinternational.jp ราคาดี รถใหม่ ไม่มีมัดจำ และมีพนักงานคนไทยคอยแนะนำเรื่องกฎจราจรด้วย โดยเอกสารที่ใช้ในการรับรถ 3 สิ่ง คือ
ขั้นตอนการขอใบขับขี่สากลตามลิ้งค์นี้เลย: http://bit.ly/30HlRQO
การขับรถเที่ยวญี่ปุ่นไม่ยากเลยเพราะใช้พวงมาลัยขวาเหมือนประเทศไทย เรียนรู้เรื่องสัญญาณไฟจราจรและกฎระเบียบเสร็จแล้วก็ออกรถโลด ผู้ช่วยสำคัญที่ทำให้ไปทุกสถานที่ได้ไม่มีหลงคือ MAPCODE ที่อยู่บนหน้าจอรถ เพียงคีย์รหัสสถานที่เข้าไประบบจะประมวลว่าเส้นทางไหนดีที่สุด โดยเราจะเลือกขึ้นทางด่วนหรือไม่ขึ้นก็ได้ ตัวช่วยในการค้นหารหัส MAPCODE คีย์ชื่อสถานที่ตามลิ้งค์นี้เลย: https://japanmapcode.com
การจองตั๋วเครื่องบิน การเดินทางไปโอกินาว่าปัจจุบันมีหลายสายการบินให้เลือก โดยสามารถเทียบราคาตั๋วของสายการบินต่างๆ จบในแอปเดียวที่ Traveloka Mobile App ราคาที่ว่าลดแล้วยังลดอีก แล้วอย่าลืมเลือกฟีเจอร์ ‘การแจ้งเตือนราคา I Price Alerts’ ไว้ เลือกเส้นทางที่ใช่ เลือกวันที่ชอบ ยิ่งถ้ามีงบในใจใส่ไปเลย ที่เหลือก็แค่รอเมื่อมีราคาตั๋วเครื่องบินเปลี่ยนแปลงตรงตามงบที่เราต้องการระบบจะแจ้งเตือนไม่ต้องเสียเวลามานั่งค้นหาตั๋วรายวันอีกต่อไป
ค้นหาเที่ยวบิน ไปโอกินาว่า ที่ Traveloka คลิกเลยจ้า
ที่พัก ด้วยความเป็นเมืองตากอากาศราคาก็จะไต่ระดับไปตามพิกัด หากติดทะเลก็จะราคาสูงหน่อย ซึ่งมีที่พักให้เลือกหลากแบบหลายราคาตั้งแต่โรงแรม รีสอร์ท อพาร์ทเม้นท์ ไปจนถึงโฮสเทล และหากเราเช่ารถขับเที่ยวเอง สำคัญเลยคืออย่าลืมดูว่าที่พักที่เราเลือกนั้นมีที่จอดรถไว้บริการไหม ด้วยความที่เป็นเกาะเล็กๆ ทุกตารางพื้นที่มีมูลค่า บางโรงแรมไม่มีที่จอดรถนะ ซึ่งถ้าจองที่พักผ่าน Traveloka Mobile App นอกจากจะไล่เรียงราคามาให้แล้ว ยังดูได้ด้วยว่าตั้งพิกัดไหน รีวิวกี่ดาว และมีที่จอดรถหรือไม่ อีกทั้งล่าสุดยังมีบริการใหม่จองที่พักประเภทวิลล่าและอพาร์ทเม้นท์เอาใจคนเที่ยวยกแก็งค์นอนได้หลายคนในราคาสบายกระเป๋า
จองที่พักในโอกินาว่า ที่ Traveloka คลิกได้เลยจ้า
กิจกรรม(Xperience) ฟีเจอร์ใหม่บน Traveloka Mobile App ซื้อตั๋วเข้าสถานที่และทำกิจกรรมล่วงหน้าไม่ต้องเสียเวลาไปต่อแถว ไปดูฉลามวาฬตัวใหญ่ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจูระอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium) ไปซึมซับวัฒนธรรมเก่าแก่ของโอกินาว่าที่หมู่บ้านริวกิว (Ryukyu Mura) แถมมีโค้ดส่วนลดราคาค่าตั๋วที่ถูกกว่าซื้อตรงที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วจริงอีกด้วย ขั้นตอนการจองก็ง่ายนิดเดียวเลือก Xperience ที่เราต้องการและทำตามกระบวนการจนจบ หลังจากนั้นจะได้รับอีเมลยืนยัน เราต้องนำใบยืนยันไปยื่นที่จุดแลกบัตร เคาน์เตอร์ LAOX, Kokusai Street เราก็จะได้รับตั๋วพร้อมเที่ยวในราคาสุดประหยัดมาครอบครอง
ค้นหากิจกรรมในญี่ปุ่น ที่ Traveloka Xperience คลิกตรงนี้เลยจ้า
จองพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจูระอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)ไปดูฉลามวาฬตัวใหญ่ กดๆ
จองหมู่บ้านริวกิว (Ryukyu Mura)ไปซึมซับวัฒนธรรมเก่าแก่ของโอกินาว่า คลิกๆ
เที่ยวโอกินาว่ามีเวลาสัก 4 วัน 3 คืนกำลังดี เมืองนาฮะ (Naha) เป็นเมืองหลักตั้งอยู่เกือบใต้สุดของเกาะ ระยะทางจากเมืองด้านใต้สุดไปเมืองด้านเหนือสุดที่เมืองเฮโดะ (Hedo) รวมประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังมีเกาะเล็กเกาะน้อยที่บางเกาะสามารถขับรถข้ามไปเที่ยวได้ด้วย ตามแพลนเราจะเริ่มต้นเก็บพิกัดทางใต้สุดของเมืองนาฮะ (Naha) ก่อน หลังจากนั้นจะออกนอกเมืองเก็บพิกัดตั้งแต่เมืองนาคากุสุคุ (Nakagusuku) เมืองชาตัน (Chatan) เมืองโยมิตัน (Yomitan) เมืองอนนะ (Onna) เมืองโมโตบุ (Motobu) และสุดทางที่เมืองนาโงะ (Nago) ก็จะล่องกลับมาสู่เมืองนาฮะ (Naha)
เราออกเดินทางโดยสายการบิน Peach Air จากกรุงเทพฯ เวลา 01.15 น. สู่สนามบินนาฮะ (Naha Airport) ใช้เวลา 4 ชั่วโมง 30 นาทีก็ถึงปลายทาง ก่อนหน้านี้หลายคนบอก Peach Air ลงเครื่องในโกดังเก็บของ บอกเลยตอนนี้ Peach Air มีเคาน์เตอร์ในอาคารผู้โดยสารแล้วนะเก๋ไก๋ไฉไลกว่าเดิมมาก เมื่อผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองเสร็จเจ้าหน้าที่จาก OTS Car Rental จะมายืนถือป้ายรอบริเวณประตูทางออก เพื่อพาเราต่อรถบัสไปรับรถ เราเลือกรับรถที่สาขาใกล้สนามบิน Rinku-Toyosaki Main Office หลังจากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการรับรถ
ตลาดปลาทะเลสดๆ ที่ขายตรงโดยสหกรณ์การประมง เป็นแหล่งรวมอาหารทะเลสดๆ ขนาดย่อมตั้งเรียงรายตั้งแต่ซาชิมิ ซูชิ หอยเชลล์ย่าง ปลาไหลทะเล กุ้งมังกร เลือกแล้วปรุงให้ชิมกันเลยแถมราคาไม่แพง สหกรณ์ตั้งอยู่ใกล้สนามบินนาฮะ (Naha Airport) หลังรับรถเสร็จรีบบึ่งตรงมาเลย เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น. (Map Code: 232 484 077*33)
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รวมเรื่องราวของโอกินาว่าไว้มากมาย ด้านในมีการแสดงโชว์ทางวัฒนธรรม หมู่บ้านที่จำลองบรรยากาศสมัยอาณาจักรริวกิวให้เราได้ลองทำงานฝีมือพื้นเมือง อาทิ การย้อมผ้า วาดกระเบื้อง ทำเครื่องแก้ว อีกทั้งภายในสถานที่ยังมีถ้ำหินปูนที่สวยงามมากชื่อ Gyokusendo Cave ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นลำดับต้นๆ ของญี่ปุ่นด้วย ที่นี่เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. (Map Code : 232 495 331*36)
ขับรถจาก โอกินาว่า เวิลด์ ลงมาทางใต้อีกนิด จะพบกับเวิ้งทะเลเป็นที่ตั้งของอีกหนึ่งคาเฟ่ฮิต ‘Hamabe No Chaya’ คาเฟ่สไตล์โฮมเมดที่เจ้าของร้านทำเองตั้งแต่ดีไซน์ร้านไปจนถึงคิดค้นเมนูประจำร้านเอง จุดเด่นของที่นี่คือทุกที่นั่งใกล้ชิดติดทะเลตั้งแต่บนดาดฟ้า ระเบียงหน้าต่าง ไปจนถึงบนหาดทราย ตอบโจทย์คนที่อยากหาสถานที่สงบๆ นั่งรับลมชิลล์ๆ คาเฟ่นี้เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. (Map Code : 232 469 491*03)
เดิมเคยเป็นศูนย์กลางบริหารและที่อยู่อาศัยของกษัตริย์มานานหลายร้อยปีตั้งแต่ยุคของอาณาจักรริวกิว ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้ได้รับการขึ้นบัญชีเป็น UNESCO World Heritage และเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมเพื่อศึกษาและเรียนรู้ ประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองในอดีตก่อนจะเป็นจังหวัดโอกินาว่าในทุกวันนี้ ปราสาทแห่งนี้เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 20.00 น. (Map Code : 33 161 526*71)
เป็นหนึ่งในปราสาทช่วงราชอาณาจักรริวกิว ปัจจุบันเหลือแต่ซากปราสาทที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ มาเที่ยวที่นี่จะมีรถบริการพาเราไปส่งด้านบนสุดซึ่งจะมองเห็นวิวทั้งอ่าวนาคากุสุคุ และให้เราเดินเที่ยวมุมต่างๆ ของปราสาทที่ยังคงเหลือให้เห็นเป็นกำแพงหินขนาดใหญ่ซึ่งแบ่งเป็นโซนต่างๆ สามารถเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 20.00 น. (Map Code : 33 411 485*00)
ไม่ไกลจากปราสาทนาคากุสุคุจะมีร้านขนมญี่ปุ่นดั้งเดิมชื่อดังตั้งอยู่ ‘YOYO AN Factory’ ร้านที่ขึ้นชื่อว่าขนมโมจิ ไดฟุกุ โดรายากิ อร่อยเป็นอันดับต้นๆ ของโอกินาว่า และทำขนมออกมาเสิร์ฟวันละจำนวนไม่เยอะช้าหมดอดกิน เสิร์ฟพร้อมกับชาเขียวกลิ่นหอมละมุนให้ความรู้สึกดีมากๆ ผสานเข้ากับบรรยากาศของร้านที่คล้ายโรงน้ำชามีมุมให้นั่งทานขนมที่สงบและแอบอิงธรรมชาติ ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.00 น. (Map Code : 33 470 467*88)
ภาพของชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่เราเห็นตามรีวิวบ่อยๆ ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้านอเมริกันมิฮามะ แหล่งรวมความบันเทิงขนาดใหญ่ทั้ง รีสอร์ท ร้านค้า ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ลานแสดงคอนเสิร์ต และคาเฟ่ เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 – 22.00 น. (Map Code : 33 526 483*14)
คาเฟ่น่ารักที่ตั้งริมทะเลเวิ้งเดียวกับหมู่บ้านอเมริกันมิฮามะ กาแฟของที่นี่เป็นกาแฟสไตล์ญี่ปุ่นคั่วเองทานคู่กับเค้กโฮมเมดซึ่งเป็นสูตรพิเศษเฉพาะร้านคือดี เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 19.00 น. (Map Code : 33 525 380*28)
เที่ยวโอกินาว่าไม่มาคาเฟ่นี้ก็กลัวจะหาว่ามาไม่ถึงเพราะฮ็อตฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยเหลือเกิน ‘Junglila Cafe’ คาเฟ่ที่เหมือนยกเอาเกาะมาย่อขนาดไว้ในร้านมีหาดทราย ทะเล สายลม และสองเราประมาณนั้น นั่งกินแพนเค้กวาฟเฟิล จิบน้ำผลไม้สดๆ จะนอนในเปลยวนหรือนั่งในกระโจมผ้าก็ฟังเสียงคลื่นทะเลได้ชิลล์สุดๆ จริงๆ เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 – 19.00 น. (Map Code : 33 525 890*88)
บ้านขนมปังโฮมเมดเลื่องชื่อที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านโยมิตัน เราจะเห็นบ้านหลังเล็กซ่อนอยู่ใต้แมกไม้รอบๆ มีต้นกาแฟที่กำลังผลิเมล็ดอยู่ด้วย เมื่อเปิดประตูเข้าในบ้านจะได้กลิ่นขนมปังที่หอมอบอวลชวนกิน จุดเด่นของขนมปังที่นี่คือทำจากยีสต์ธรรมชาติอบในเตาถ่านแบบอิฐโบราณ ให้ความรู้สึกดีตั้งแต่กรรมวิธีทำ เปิดตั้งแต่เวลา 10.30 – 19.00 น. ปิดทุกวันจันทร์-พุธ (Map Code : 33 854 097*74)
เป็นหน้าผาริมทะเลที่ถูกน้ำทะเลกัดกร่อนจนมองดูคล้ายรูปงวงช้าง ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเกาะโอกินาว่าที่ไม่ว่าใครมาเที่ยวต้องแวะมาเยือน ถ้ามาช่วงเย็นอากาศจะดีมาก เดินรับลม ชมพระอาทิตย์ตกดิน โรแมนติกไปอีกแบบ (Map Code : 206 312 097*28)
ออกจากหน้าผามันซาโมะมาได้สักพักเราก็จะเจอคาเฟ่สีชมพูพาสเทลสะดุดตาตั้งอยู่ริมถนน เป็นคาเฟ่ที่มีเมนูน้ำผลไม้และสมูทตี้รสชาติแบบแปลกๆ อย่างของเราเป็น แก้วมังกรผสมกับสับปะรด อีกทั้งภายในร้านยังมีงาน D.I.Y. เสื้อผ้าแนวยิปซี จัดจำหน่ายอีกด้วย เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 19.00 น. (Map Code : 206 313 175*17)
เราจบวันที่สองกันที่เมืองโมโตบุ (Motobu) เมืองริมทะเลที่เหมาะกับการชวนกันมานั่งปิกนิกชมวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็น ตลอดชายฝั่งมีงานกราฟฟิตี้สวยๆ ที่ต่างบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตคนเมืองนี้ด้วย (Map Code : 206 856 336*58)
ร้านซูชิท้องถิ่นในเมืองโมโตบุ (Motobu) ที่แนะนำต่อเพราะใช้วัตถุดิบสดใหม่มากและราคายังไม่แพงอีกด้วยด้วย ซูชิราคาเริ่มต้นที่เซทละ 700 เยน เรียกว่ากินกันอย่างอิ่มหนำสำราญใช้เงินไปไม่ถึงพัน
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นที่หากมาโอกินาว่าแล้วต้องมาเยือน ไฮไลท์ของที่นี่คือชมความงามของโลกใต้ทะเลลึกสีคราม แบ่งออกเป็น 3 โซน โซนแรกจะจัดแสดงโลกของสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ตามแนวปะการัง ตู้ปลาขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตทางทะเลแถบโอกินาว่าโดยเฉพาะพระเอกของงานอย่างฉลามวาฬตัวยักษ์และกระเบนราหูที่ว่ายไปว่ายมาเราเองก็นั่งดูได้เป็นชั่วโมง ถัดมาจะโซนที่อยู่ของฉลาม ฉลามเสือ และฉลามวัว และปิดท้ายด้วยโซนสิ่งมีชีวิตในน่านน้ำลึก นอกจากนี้ยังมีสระน้ำกลางแจ้งจัดแสดงโลมาแสนรู้ เต่าทะเล และพะยูนอีกด้วยเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 20.00 น. (Map Code : 553 075 767*66)
บ้านหลังน้อยบนเนินเขาที่เสิร์ฟพิซซ่าโฮมเมดกลิ่นหอมกรุ่น พิซซ่าของที่นี่มีเพียงหน้าเดียวเท่านั้นแต่ขอบอกอร่อยมาก ดูได้จากจำนวนคนที่ยอมขับรถขึ้นเขามาต่อแถวรอกินเหมือนเรา ส่วนประกอบหลักของพิซซ่าเป็นเบคอนและไส้กรอก สิ่งที่เราติดใจคือชีสเยิ้มๆ บนแป้งหนานุ่มกัดเข้าไปแล้วแบบอร่อยมาก ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.30 – 19.00 น. ปิดทุกวันอังคาร-พุธ (Map Code : 206 888 669*33)
เกาะกลางทะเลรูปวงกลมที่โอบล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีเขียวมรกต มีสะพานโคริที่สามารถขับรถข้ามไปได้เพื่อเที่ยวบนตัวเกาะ เกาะแห่งนี้มีหาดทรายขาวสะอาดตาให้นั่งปิกนิก อาบแดด และทำกิจกรรมสนุกทางทะเลทั้งดำน้ำ เล่นเรือยาง พายเรือคายัก อีกทั้งยังเป็นเกาะที่รวมคาเฟ่น่ารักไว้มากมาย
อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดของเกาะโคริคือหินรูปหัวใจที่ตั้งอยู่กลางทะเลช่วยสร้างบรรยากาศให้เกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยความโรแมนติก ซึ่งจากที่จอดรถต้องเดินเท้าเพื่อลงไปยังหาดประมาณ 800 เมตร (Map Code : 485 751 209*77)
คาเฟ่กึ่งสตูดิโอที่มีทั้งหมด 4 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นตกแต่งออกมาได้ไม่ซ้ำกัน มีการนำเฟอร์นิเจอร์วินเทจมาตกแต่งสร้างบรรยากาศเป็นโรงแรมริมทะเลสุดชิค ชั้นบนสุดเป็นจุดนั่งทานขนมวิวหันหน้าออกทะเล สาย Cafe hopping ที่ชอบความชิคห้ามพลาด ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00 – 18.00 น. ปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ (Map Code : 485 721 646*55)
ร้านกุ้งกระเทียมชื่อดังที่ใครมาเกาะโคริต้องแวะกิน รูปแบบร้านเป็น Food Truck สีพาสเทลที่มีคนต่อแถวรอคิวเพี๊ยบ และมีที่นั่งเป็นขั้นบันไดให้นั่งกินกุ้งอร่อยพร้อมมองวิวทะเล ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00 – 18.00 น. ปิดทุกวันพุธ (Map Code : 485 692 203*74)
หมู่บ้านวัฒนธรรมแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์สำคัญของโอกินาว่า มีลักษณะเป็นอาคารหลังๆ ซึ่งนำเสนอวิถีชีวิตความเป็นอยู่ดั้งเดิม อาทิ การทอผ้า เครื่องปั้นดินเผา เล่นดนตรี และยังมีการแสดงพื้นบ้านแบบครบรส ทั้งการร้องเพลงประกอบซันซิน ระบำชาวนา ระบำเอชา ให้ชมด้วย เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 18.00 น. (Map Code : 206 033 067*77)
ย่านแสงสีเสียงตั้งแต่กลางวันยันกลางคืนใจกลางเมืองนาฮะ (Naha) เป็นถนนที่รวมแหล่งกิน ดื่ม ช็อปปิ้ง ไว้ในที่เดียว สายช็อปนั้นมีห้างดองกี้ (Don Quijote) แหล่งช็อปสินค้าปลอดภาษีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางถนนด้วย เดินเข้าไปตามตรอกซอกซอยจะพบคาเฟ่น่ารักขายขนมและของที่ระลึกมากมาย ใกล้ๆ กันยังเป็นที่ตั้งของถนนเฮวาโดริ (Heiwa Dori) ถนนคนเดียวแห่งเดียวบนเกาะที่คึกคักตลอดเวลาเช่นกัน ที่นี่เป็นแหล่งรวมของกินและของใช้ที่ถูกมากบางคนบอกถูกกว่าในห้างดองกี้อีก สายช็อปก็ห้ามพลาดแล้วกัน (Map Code : 33 158 578*58)
ถนนสายสั้นๆ ที่เป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องปั้นดินเผามาตั้งแต่สมัยราชอาณาจักรริวกิว ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านเครื่องปั้นดินเผาทสึโบยะสองฝั่งข้างทาง ที่มีเวิร์คช็อปเซรามิก ร้านค้า แกลลอรี่ และพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นให้ได้เยี่ยมชม ร้านค้าส่วนใหญ่เริ่มเปิดตั้งแต่ 10.00 น. มาเดินเที่ยวได้มีร้านน่ารักๆ เต็มเลย (Map Code : 33 158 095*55)
ตลาดอาหารสดขนาดใหญ่ใจกลางเมืองนาฮะ (Naha) ที่รวมของสดทุกชนิดตั้งแต่อาหารทะเลสดๆ ที่จับได้ในทะเลแถบโอกินาว่า ผักและผลไม้ เนื้อหมูเนื้อวัว และยังมีร้านให้เลือกวัตถุดิบแล้วปรุงให้กินสดๆ ด้วย (Map Code : 33 157 505*03)
ย่านชิคๆ ที่ทุกมุมเต็มไปด้วยความมินิมอล ร้านค้าในย่านนี้จะทาบ้านด้วยสีขาวแต้มสีหลากหลายจนกลายเป็นเมืองสีพาสเทล แบ่งเป็นซอยต่างๆ โดยตั้งชื่อซอยตามรัฐต่างๆ ในอเมริกา มีทั้งร้านกาแฟ ร้านขนม ร้านอาหาร และร้านขายสินค้าแนว D.I.Y. เป็นอีกหนึ่งย่านที่สาย Cafe hopping จะต้องหลงรักอย่างแน่นอน ย่านนี้ตั้งในเมืองอุระโซเอะ (Urasoe) (Map Code : 33 340 029*22)
ร้านกาแฟชื่อดังที่ตั้งในย่านมินาโตะงาวะ สเตทไซด์ ทาวน์ เช่นกัน ร้านนี้ปลูกกาแฟเอง และยังมีการจัดเวิร์คช็อปวิธีชงกาแฟเพื่อให้ลูกค้านำไปชงกินเองที่บ้านด้วย ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 11.00-18.30 น. (Map Code : 33 341 062*47)
ใครชอบกินขนมฝรั่งเศสอย่าง Canele ห้ามพลาด ที่นี่เป็นร้านขนมชื่อดังอีกหนึ่งแห่งที่ต้องแวะมาชิม Canele ซึ่งผสมผสานความเป็นโอกินาว่าลงไปบนไส้ขนมที่แต้มหลากหลายรสชาติซึ่งล้วนแต่เป็นของดีของดังของเกาะโอกินาว่า เช่น สับปะรด เสาวรส มัทฉะ ซื้อเป็นของฝากน่ารักทั้งขนมและเพ็คเกจเลย ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 11.00-18.00 น. (Map Code : 33 341 032*88)
ไอศกรีมนมยี่ห้อดังขวัญใจคนโอกินาว่าที่ไปทางไหนก็จะร้านตั้งอยู่รอบเกาะ เราเลือกมาชิมกันที่สาขาแรกที่เมืองอุระโซเอะ (Urasoe) ความพิเศษของสาขานี้คือกำแพงสีพาสเทลขนาดใหญ่ให้เราได้เก็บรูปสุดชิค เวิร์คช็อปทำไอศกรีมที่เด็กน้อยทำกันอย่างขะมักเขม้น และรสชาติไอศกรีมที่มีให้เลือกจำนวนมาก ห้ามพลาดเลย! มาถึงโอกินาว่าต้องกินรสมันม่วง (Map Code : 33 341 534*66)
ปิดท้ายทริปกันที่ อุมิคะจิ เทอเรส (Umikaji Terrace) ศูนย์การค้าขนาดใหญ่บนเกาะเซะนะกะจิมะ (Senagajima Island) ไม่ไกลจากสนามบินนาฮะ (Naha Airport) เป็นอาคารสีขาวสะอาดตาไต่ระดับเป็นระเบียงหันหน้าออกทะเล มีร้านอาหาร ร้านขายสินค้า และคาเฟ่น่ารักจำนวนมาก เหมาะแก่การมานั่งชิลล์ๆ รับลมเย็น ชมเครื่องบินขึ้นลง และรอเวลาเดินทางกลับสู่สนามบิน เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00-22.00 น. (Map Code : 33 002 602*17)
เราเดินทางกลับด้วยสายการบิน Peach Air ออกจากสนามบินนาฮะ เวลา 21.15 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 00.15 น.
ฤดูท่องเที่ยว ‘โอกินาว่า’ กำลังจะมาแล้ว ใครที่กำลังหาปลายทางเที่ยวที่ตอบโจทย์การเที่ยวที่ต้องการความชิลล์สูงแนะนำเลย เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และจะได้เห็นญี่ปุ่นมุมมองใหม่ ใครจะรู้มีเงินอยู่หมื่นห้าพาเที่ยวทะเลได้ไกลถึง ‘โอกินาว่า’