โลกใบนี้มีภูเขาไฟอยู่มากมาย แต่คงไม่มีภูเขาไฟลูกไหนพิเศษเหมือน Kawah Ijen ประเทศอินโดนีเซีย เพราะนี่คือภูเขาไฟแห่งเดียวในโลก ที่คุณจะได้เห็นปรากฏการณ์เปลวไฟสีน้ำเงินพวยพุ่งออกมาจากรอยแยกของชั้นหิน และยังมีทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟสีเทอร์ควอยซ์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในจุดหมายในฝันของนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยจากทั่วโลก
สำหรับใครที่อยากเห็นความสวยงาม และความมหัศจรรย์ของภูเขาไฟ Kawah Ijen กับสองตาของตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิต รีบจองตั๋วเครื่องบินไปอินโดนีเซียผ่านแอป Traveloka แล้วไปพิชิตภูเขาไฟลูกนี้กันได้เลย แต่ก่อนอื่น เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับคาวาอีเจี้ยนกัน!
Kawah Ijen (คาวาอีเจี้ยน) เป็นชื่อของภูเขาไฟลูกหนึ่งบนเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ความพิเศษของที่นี่คือปรากฏการณ์เปลวไฟสีน้ำเงินที่สามารถมองเห็นได้เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น และยังมีทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟสีเทอร์ควอยซ์ที่มีความเป็นกรดสูงที่สุดในโลก แม้จะฟังดูอันตรายแต่ที่นี่ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่มีนักผจญภัยจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนปีละหลายล้านคน
อีกทั้ง Kawah Ijen ยังตั้งอยู่ใกล้กับเมืองท่องเที่ยวสำคัญทางภาคตะวันออกของเกาะชวา ทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก และมีที่พักอินโดนีเซียดี ๆ ให้เลือกใช้บริการมากมาย ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญที่คนรักการผจญภัยไม่ควรพลาด แต่ก่อนจะไปเที่ยว ลองมารู้จักภูเขาไฟ Kawah Ijen กันสักเล็กน้อย
ภูเขาไฟ Kawah Ijen (คาวาอีเจี้ยน) เป็นภูเขาไฟรูปกรวยขนาดใหญ่ที่มีอายุประมาณ 50,000 ปี มีความสูง 2,600 เมตร ปัจจุบันยังถือว่าเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิท (Active Volcano) ความพิเศษของภูเขาไฟลูกนี้คือ ในเวลากลางคืนจะมีปรากฏการณ์เปลวไฟสีน้ำเงินหรือ Blue Flames ซึ่งมีที่นี่เพียงที่เดียวในโลกเท่านั้น นอกจากนี้ บริเวณปากปล่องภูเขาไฟยังมีทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์หรือ Blue Lake ที่มีความเป็นกรดสูงที่สุดในโลก และด้านบนยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในอินโดนีเซียอีกด้วย
ภูเขาไฟ Kawah Ijen (คาวาอีเจี้ยน) ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของเกาะชวา ในเขตอำเภอบาญูวางี (Banyuwangi) จังหวัดชวาตะวันออก (Jawa Timur) ประเทศอินโดนีเซีย ใกล้กับเมืองบาญูวางี (Banyuwangi) และเมืองเกตาปัง (Ketapang) ซึ่งเป็นท่าเรือเฟอร์รี่ข้ามไปเกาะบาหลี
Kawah Ijen (คาวาอีเจี้ยน) สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี โดยการไปเที่ยวชมต้องเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวชมคือ ช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนพฤษภาคม เพราะมีฝนตกน้อย
สำหรับการเที่ยวชมภูเขาไฟ Kawah Ijen จำเป็นต้องซื้อทัวร์เท่านั้น โดยจะมีไกด์ท้องถิ่นเป็นคนพาเดินขึ้นไปชม โปรแกรมทัวร์หลัก ๆ จะเริ่มเดินเท้าตั้งแต่เวลาตี 3 เพื่อขึ้นไปชมเปลวไฟสีน้ำเงินในเวลาประมาณตี 5 ก่อนจะชมพระอาทิตย์ขึ้น และชมวิวทะเลสาบปากปล่องสีเทอร์ควอยซ์ตามลำดับ ระยะทางเดินทั้งหมดประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทั้งหมดราว 6-8 ชั่วโมง
สำหรับราคาทัวร์ภูขาไฟ Kawah Ijen จะมีหลากหลายราคาแล้วแต่บริษัททัวร์ สามารถค้นหาและจองทัวร์ได้ในแอป Traveloka นอกจากนี้ หากใครเดินขึ้น-ลงไม่ไหวก็สามารถใช้บริการแท็กซี่รถเข็นได้เช่นกัน ค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 8 แสน - 1 ล้านรูเปีย
การเดินทางไปเที่ยว Kawah Ijen สามารถไปได้หลายวิธี โดยวิธีที่สะดวกที่สุดแนะนำว่าให้ใช้ขนส่งสาธารณะภายในประเทศอินโดนีเซีย สามารถเริ่มจากเมืองซูราบาญาไปยังเมืองบาญูวางี ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Kawah Ijen โดยการเดินทางวิธีต่าง ๆ มีรายละเอียดดังนี้
หากเดินทางจากเมืองซูราบายา นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินนานาชาติบาญูวางี ซึ่งเป็นสนามบินที่อยู่ใกล้กับ Kawah Ijen ที่สุด โดยมีเที่ยวบินให้บริการทุกวัน ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถค้นหาและจองตั๋วเครื่องบินผ่านแอป Traveloka ได้เลย!
จากเมืองซูราบายา (Surabaya) นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถไฟจากสถานีซูราบายากุเบ็ง (Surabaya Gubeng) ไปลงที่สถานี Banyuwangi City Train Station เมืองบาญูวางี (Banyuwangi) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่อยู่ใกล้กับ Kawah Ijen ที่สุด โดยมีขบวนรถไฟให้บริการทุกวันทั้งแบบรถด่วนและรถธรรมดา ใช้เวลาเดินทางเร็วที่สุดราว 6 ชั่วโมง
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบาย และความเป็นส่วนตัวในการเดินทาง สามารถเช่ารถยนต์จากเมืองซูราบายา (Surabaya) แล้วขับไปเที่ยว Kawah Ijen เองได้ ระยะทางประมาณ 280 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถราว 6-7 ชั่วโมง หรือหากต้องการขับรถในระยะทางที่ใกล้กว่า ก็สามารถเช่ารถในเมืองบาญูวางี (Banyuwangi) แล้วขับไปเที่ยวภูเขาไฟ Kawah Ijen ได้เช่นกัน ซึ่งเมืองนี้อยู่ห่างจากจุดเริ่มเดินขึ้นภูเขาไฟประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถราว 2 ชั่วโมง
ไฮไลต์สำคัญของ Kawah Ijen (คาวาอีเจี้ยน) ที่นักท่องเที่ยวสายผจญภัยจากทั่วทุกมุมโลกอยากมาเห็นให้ได้กับตาตัวเองสักครั้งในชีวิตก็คือ ปรากฏการณ์เปลวไฟสีน้ำเงินหรือ ‘Blue Flames’ ซึ่งมีให้ชมที่นี่ที่เดียวในโลกเท่านั้น ปรากฏการณ์นี้เกิดจากก๊าซกำมะถันถูกหลอมละลายที่อุณหภูมิไม่เกิน 600 องศาเซลเซียส มาสัมผัสกับอากาศ เกิดเป็นเปลวไฟสีน้ำเงินขึ้นตามรอยแยกของชั้นหินที่พ่นก๊าซเหล่านี้ออกมา ขณะที่บางส่วนก็ไหลมาพร้อมกับของเหลว ดูคล้ายลาวาสีน้ำเงินสวยงามแปลกตา โดยเปลวไฟนี้จะสังเกตเห็นได้เฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปรากฏการณ์เปลวไฟสีน้ำเงินจะดูสวยงามและน่าอัศจรรย์ แต่พื้นที่แห่งนี้ก็ยังเป็นพื้นที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เนื่องจากกำมะถันเป็นก๊าซพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ หากสัมผัสจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังอย่างรุนแรง หรือหากสูดดมในปริมาณมากจะทำให้เกิดอาการแสบจมูก สำลัก เกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ และเป็นอันตรายต่อปอดและหลอดลม
ดังนั้น การเที่ยวชมภูเขาไฟ Kawah Ijen จึงจำเป็นต้องสวมอุปกรณ์เซฟตี้ อาทิ แว่นตา, ถุงมือ, หมวกนิรภัย, ชุดป้องกัน และหน้ากันแก๊สพิษให้รัดกุม รวมทั้งปฏิบัติการกฎระเบียบและคำแนะนำของไกด์นำเที่ยวอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย