อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและนักเดินป่าไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะมีทัศนียภาพอันงดงามของป่าเขียวขจี ภูเขาสูงตระหง่าน ตลอดจนน้ำตกเย็นฉ่ำ ที่นี่ยังมีกิจกรรมหลากหลายสำหรับผู้รักการผจญภัย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า การกางเต็นท์พักแรม หรือแม้แต่การล่องแพชมวิวเขื่อนอันสวยงาม
สำหรับใครที่กำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาแหลม สามารถจองที่พักในจังหวัดกาญจนบุรีผ่านแอปฯ Traveloka ที่มาพร้อมโปรโมชันในราคาสุดคุ้มให้ได้เลือกมากมาย ที่สำคัญ จองง่าย และจ่ายสะดวก รับรองว่าวางแพลนทริปได้ครบจบในแอปฯ เดียว
อุทยานแห่งชาติเขาแหลมตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอสังขละบุรีและอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีระยะห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 130 กิโลเมตร โดยมีพื้นที่รวมประมาณ 1,497 ตารางกิโลเมตร หรือ 935,625 ไร่ และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 100-1,700 เมตร
พื้นที่ส่วนใหญ่ยังประกอบไปด้วยหินปูน หินทราย และหินดินดาน อีกทั้งยังอุดมไปด้วยผืนป่าที่สมบูรณ์ พร้อมทั้งมีลำน้ำสำคัญหลายสายที่ไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อยและอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ
สำหรับคนที่สนใจวางแพลนทริปไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เรามี 6 พิกัดน่าเช็กอินมาแนะนำ ด้านล่างนี้เลย
น้ำตกกระเต็งเจ็งเป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีสายน้ำไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ จากภูเขาสูง ซึ่งในแต่ละชั้นจะมีแอ่งน้ำใสเย็นให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปเล่นคลายร้อนกันอย่างสบาย ๆ อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังมีป่าไม้เขียวขจีล้อมรอบ ซึ่งเป็นเสมือนที่อยู่ของสัตว์ป่าและนกนานาชนิด จึงทำให้บรรยากาศร่มรื่นน่าเที่ยวแบบสุด ๆ และถึงแม้ว่านักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าหากใครได้มาในช่วงฤดูฝน ยังจะได้เห็นภาพความงดงามกว่าช่วงอื่น ๆ เนื่องจากน้ำตกจะมีปริมาณน้ำมากเป็นพิเศษ
เดินต่อไปไม่ไกล ก็จะได้เจอกับน้ำตกเกริงกระเวีย น้ำตกขนาดกลางที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นตรงที่สายน้ำไหลผ่านหน้าผาสูง ซึ่งก่อให้เกิดละอองน้ำสีขาวสวยงามคล้ายม่านบาง ๆ และยิ่งสวยขึ้นไปอีกในยามเช้าเมื่อแสงแดดส่องกระทบละอองน้ำ ทั้งนี้ นอกจากภาพสวย ๆ ที่เราจะได้เห็นกันแล้ว น้ำตกแห่งนี้ยังเป็นแหล่งน้ำสำคัญของชาวบ้านในการทำเกษตร และมีเส้นทางเดินป่าที่ออกแบบมาอย่างดี จึงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมธรรมชาติได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
หลังเที่ยวน้ำตกทั้งสองแห่งแล้ว อีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือสะพานมอญ หรือสะพานอุตตมานุสรณ์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โดยสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมระหว่างหมู่บ้านมอญและชุมชนไทย-พุทธในสังขละบุรี ที่นี่จึงเป็นจุดชมวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวมอญที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ยังเป็นจุดชมวิวแม่น้ำซองกาเลียที่สวยงาม ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาล่องเรือเพื่อชมบรรยากาศริมน้ำได้
สำหรับคนที่ชื่นชอบวิวจากมุมสูง อย่าพลาดมาเช็กอินที่จุดชมวิวป้อมปี่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเขื่อนวชิราลงกรณ เนื่องจากมีทำเลที่มองเห็นอ่างเก็บน้ำและภูเขาสลับซับซ้อนได้แบบพาโนรามา ไม่เพียงเท่านั้น ที่นี่ยังเหมาะสำหรับการมาตั้งแคมป์พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ อีกทั้งยังมีเส้นทางเดินป่า เพื่อให้นักผจญภัยสำรวจความงามของธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย
หากจุดชมวิวป้อมปี่ยังไม่ถึงใจ แนะนำให้ลองมาพิชิตเขาสันหนอกวัว เนื่องจากมีความสูงถึง 1,767 เมตรจากระดับน้ำทะเล จึงกลายเป็นยอดเขาที่ท้าทายที่สุดแห่งหนึ่งในไทย ทั้งนี้ แม้ว่าการปีนป่ายจะต้องใช้ทั้งความอดทนและความแข็งแรงอยู่พอสมควร แต่เมื่อไปถึงยอดเขาแล้ว นักท่องเที่ยวก็จะได้รับรางวัลเป็นภาพวิวภูเขาสลับซับซ้อนและผืนป่าเขียวขจีที่สวยงาม ที่สำคัญ ถ้ามาเที่ยวในช่วงหน้าหนาว จะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เย็นสบายและท้องฟ้าใสไร้เมฆฝนอีกด้วย
ปิดท้ายทริปเที่ยวเขาแหลมด้วยการแวะชมวัดวังก์วิเวการาม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดหลวงพ่ออุตตมะ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเขื่อนวชิราลงกรณ ที่นี่พิเศษตรงที่ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบมอญอันสวยงาม ทั้งยังเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของชาวบ้านในพื้นที่ โดยเฉพาะหลวงพ่ออุตตมะที่นอกจากจะช่วยเผยแผ่พุทธศาสนาแล้ว ท่านยังเป็นผู้ที่คอยสร้างความรักความสามัคคีให้ชุมชนมาโดยตลอด เพราะฉะนั้น การมาเยี่ยมชมวัดแห่งนี้ จึงไม่ได้แค่มาดูความสวยงามของตัวอาคารเท่านั้น แต่ยังจะได้สัมผัสถึงความสงบร่มเย็นและซึมซับกับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวมอญไปพร้อม ๆ กันด้วย
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการไปท่องเที่ยวเขาแหลมคือฤดูหนาว ระหว่างเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ เนื่องจากอากาศจะเย็นสบายและท้องฟ้าแจ่มใส จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินป่าและทำกิจกรรมกลางแจ้ง
นอกจากนี้ ในช่วงฤดูหนาวยังมีดอกไม้ป่าบานสะพรั่งให้ชม อีกทั้งยังเป็นฤดูที่เหมาะแก่การชมทะเลหมอกมากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเช้าตรู่ที่จะได้สัมผัสทั้งอากาศเย็น ๆ และหมอกบาง ๆ ที่ลอยอยู่เหนือผืนป่า ทำให้การเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ มีเสน่ห์และน่าประทับใจยิ่งขึ้น
อุทยานแห่งชาติเขาแหลมเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. โดยมีค่าบริการเข้าอุทยานแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้
เมื่อชำระค่าบริการแล้ว แนะนำให้เก็บบัตรค่าบริการไว้ติดตัวตลอดเวลาด้วย เนื่องจากอาจมีการตรวจสอบในระหว่างที่อยู่ในอุทยาน
การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีให้เลือกหลายวิธีด้วยกัน ดังนี้
หมายเหตุ ข้อมูลการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลง จึงควรตรวจสอบรายละเอียดล่าสุดก่อนออกเดินทางเพื่อความแน่ใจ
อุทยานแห่งชาติเขาแหลมไม่เพียงจะมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวอันแสนพิเศษให้เท่านั้น แต่ยังจะช่วยเติมเต็มความทรงจำดี ๆ ให้แก่ทุกคนที่มาเยือน เนื่องจากมีกิจกรรมให้ทำอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการตื่นเช้ามาชมทะเลหมอก การร่วมกิจกรรมผจญภัยท้าทายใจ หรือแม้แต่การซึมซับวัฒนธรรมท้องถิ่นก็น่าประทับใจ
เพื่อให้ทริปเที่ยวของคุณราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ แนะนำให้ดาวน์โหลด Traveloka แอปพลิเคชันเพื่อช่วยวางแผนทริปได้แบบครบจบ แถมยังมีที่พักหลากสไตล์ในจังหวัดกาญจนบุรีให้เลือกจองได้ตามใจชอบ อีกทั้งยังมีดีลพิเศษเฉพาะในแอปฯ ที่จะทำให้ทริปของคุณคุ้มค่ายิ่งขึ้น สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีแล้ววันนี้ทั้งระบบ iOS และ Android
ข้อมูลอ้างอิง