ถ้าหากพูดถึงฤดูหนาว และดูลิสต์สถานที่ท่องเที่ยวของแต่ละคน เรามั่นใจว่ากว่า 90% จะต้องมีเชียงใหม่อยู่ใน ลิสต์แน่นอน

วันนี้เราเลยจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่ ที่ฤดูกาลนี้ต้องที่นี่เท่านั้น และใช้งบแบบสบายๆเพียงแค่หลักร้อย แต่วิวที่ได้กลับมาคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม นั้นก็คือ บ้านป่าบงเปียง จ.เชียงใหม่จ้าวววววว

การเดินทางมาเชียงใหม่ก็มีหลากหลายวิธีมาก ทั้งรถไฟ รถทัวร์ ขับรถมาเอง หรือใครชอบความสะดวกหน่อยก็มาเครื่องบิน และตอนนี้ราคาตั๋วเครื่องบินไปกลับเชียงใหม่ก็แสนถูก เพื่อนๆสามารถเช็คราคาของแต่ละสายการบินได้ที่ Traveloka ได้เลย

ซึ่ง Traveloka เองก็จะคัดช่วงเวลาและราคาที่ดีที่สุดมาให้เพื่อนๆได้เลือก จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเช็คแต่ละเว็บของสายการบิน กับ Feature ใหม่ให้กดเทียบราคาตั๋วโปรโมชั่นของแต่ละสายการบินได้อีก! ทั้งประหยัดทั้งสะดวกแบบนี้ใครสนใจ ก่อนไปเที่ยวเชียงใหม่เราเอาวิธีใช้มาให้ดูตรงนี้แล้ว #Travelokaเทียบแล้วเที่ยวเลย

หลังจากจองตั๋วเสร็จ เราก็เดินทางมาถึงเชียงใหม่กัน หากใครไม่มีรถส่วนตัวและอยากไปป่าบงเปียง ก็สามารถเช่ารถกับ Traveloka ได้ โดยจะเลือกแบบมีคนขับหรือไม่มีคนขับก็ได้ รอบนี้เราจองแบบไม่มีคนขับรถ

วิวระหว่างทางจากตัวเมืองมุ่งหน้าสู่ป่าบงเปียง ภูเขาสวยงามหลับไม่ลงกันเลย

เราใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึงบ้านป่าบงเปียง อยากกระซิบบอกว่า ตอนนี้เส้นทางมาป่าบงเปียงถนนสภาพดีแล้วเน๊อ
และเราเดินทางมาถึงที่นี่ก็ประมาณช่วงบ่ายๆ เกือบเย็นแล้ว แสงเย็นก็กำลังใกล้จะมา

เราติดต่อที่พัก และรีบเก็บของ เพื่ออยากรีบออกมาเสพบรรยากาศ และสูดกลิ่นธรรมชาติกัน
ป่าบงเปียงตอนนี้ เริ่มมีบ้านพักขึ้นอยู่รอบๆ แต่ไม่มากเกินไปจนทำลายธรรมชาติ
คนจากหลายๆถิ่น มารวมตัวกันที่นี่แบบไม่ได้นัดหมาย
คนพื้นที่อาจจะชินกับภาพที่เค้าเห็นอยู่ตรงหน้า
แต่คนกรุงฯแบบเรา เห็นวิวแบบนี้ก็คือสุดจะตื่นเต้นเลยแหละ

ก่อนแสงจะหมด เราเลยชวนเพื่อนออกไปหามุมถ่ายรูปกัน
ซึ่งไม่ได้เดินไปไหนไกลเลย ก็อยู่แถวบ้านพักเรานี่ละ
ซ้ายมือก็คือนาขั้นบันได ที่แสงส่องแบบออร่า
จุดกางเตนท์ที่เห็นจะเป็นของบ้านระเบียงนา ที่นี่ถ้าจะกางไม่รับจองน๊า วอคอินมาได้เลย

ส่วนวิวด้านหน้าก็ไม่แพ้กัน มีภูเขาสลับซับซ้อน พร้อมกับแสงพระอาทิตย์ที่กระทบกับภูเขา

ส่วนวิวฝั่งขวามือนะหรอ
พูดได้เลยว่าสุดๆ เห็นนาขั้นบันไดแบบกว้างใหญ่มากๆ
ทุ่งนาเริ่มจะเป็นสีเหลืองแล้ว สวยไปอีกแบบในช่วงของเดือนตุลาคม
ถ้าเพื่อนๆอยากเห็นแบบเขียวๆ แนะนำช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนเลยนะ ช่วงนั้นคือเขียวชอุ่มแน่ๆ

ส่วนที่พัก เราพักเป็นบ้านของชาวบ้านชื่อ บ้านพักริมนา (พี่สงบ)
ต้องวงเล็บง่าพี่สงบด้วยนะ เพราะว่า บ้านพักริมนามีหลายชื่อมากๆ
(เบอร์ติดต่อ 0931608053) หรือแอดไลน์ที่เบอร์นี้ได้เลย
ซึ่งพี่สงบจะมีแค่ 2 หลังที่เป็นของแกนะ ราคาต่อคนคนละ 500 บาท
บ้านหลังนึงนอนได้ 3 คน หรือใครนำเตนท์มากางนอนข้างหน้าก็ได้ มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำพร้อม

และที่สำคัญ ราคานี้รวมอาหารเย็น และอาหารเช้าด้วย
เมนูอาหารเย็นก็ง่ายๆ น้ำพริกกะปิ ปลาทู ผักต้ม และต้มจืด
มื้อนี้เป็นมื้อที่ธรรมดาแต่วิวไม่ธรรมดาเลยแหละ : ))

ส่วนใครอยากฟินกว่าเดิม ก็สามารถสั่งหมูกระทะพี่สงบก่อนได้เลย
1 ชุด ราคา 299 บาท ถ้า 2 จุด 400 บาท
เอ้า สั่ง 2 ชุดสิจ๊ะ คุ้มๆๆ จุกๆๆๆ ฟินๆๆๆ อินบรรยากาศ 55555

พอท้องอิ่ม อาบน้ำเสร็จ แต่หนังตาห้ามหย่อน
เพราะค่ำคืนนี้ ป่าบงเปียง เต็มไปด้วยดวงดาวเต็มท้องฟ้า
เป็นโอกาสในไม่กี่ครั้งที่เราสามารถเห็นทางช้างเผือกได้ด้วยตาเปล่า
แกเอ๋ยยยย ที่พักราคา 500 บาท
แต่วิวที่ได้กลับมาเกินบรรยายมาก

วิวกลางวันก็สวย วิวกลางนี่สวยไปเลยแบบคูณสิบ
และมันจะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ตัดสินใจมา จริงไหมมมม
ส่วนคืนนี้ นอนเพลินๆดูทางช้างเผือกก่อน หลับฝันดีนะทุกคนนนน Zzzzzzz

เช้าที่สดใส และสดชื่นกว่าทุกวัน
อย่างที่บอก เวลาทำงานตื่น 6 โมงเช้ายังไงก็ไม่สดขื่น
แต่พอออกเดินทาง ออกมาเที่ยว สามารถตื่น 6 โมงเช้าได้แบบไม่ต้องพึ่งนาฬิกาปลุก

บรรยากาศตอนเช้า กับผ้าปูผืน หมอนหนึ่งใบ นอนชมวิวไปเรื่อยๆ
เมื่อคืนเราก็นอนดูดาวกับแบบสภาพนี้ ขอบอกว่าฟินสุดๆ

ส่วนบรรยากาศรอบๆ ก็เริ่มมีหมอกอ่อนๆ
พอให้ฟินๆกับบ้าง มีน้อยแต่ก็มานะ 555555

และไม่นานแฟนพี่สงบก็นำอาหารมาเสริฟ์พวกเรา
เช้านี้เป็นข้าวต้ม มีไข่ต้ม และกุนเชียงเป็นท้อปปิ้ง
พร้อมกาแฟ และโอวันติน จิบกันยามเช้า

พอถึงเวลา เราก็เก็บกระเป๋า และออกไปเดินเล่นอีกฝั่งของป่าบงเปียง
(ฝั่งขวาจากที่พัก) จะบอกว่าบริเวณนี้ที่พักเยอะมาก และจะอยู่ตรงฝั่งนาขั้นบันได
คือถ้าให้แนะนำ เราว่าฝั่งที่พักเราเวิร์คกว่า เพราะมองเห็นนาขั้นบันไดเลย

แต่อันนี้เราจะอยู่เหนือนาขั้นบันได ก็จะเห็นอีกมุมนึง

พวกเราเดินลงมาเดินเล่นกันข้างล่าง
ยิ่งเดิน ก็ยิ่งใกล้ภูเขามากยิ่งขึ้น

พอลงไปลึกๆ ก็จะมีบ้านพักอยู่บ้าง ที่ตั้งอยู่บนนาขั้นบันไดเลย

เราใช้เวลาเดินเล่นประมาณครึ่งชั่วโมง
ก็ถึงเวลาโบกมืออำลาป่าบงเปียงแล้วววว
บ๊ะบายน๊า ไว้มีโอกาสกลับมาใหม่แน่นอน

ตะตะตะแต่…. ทริปเราก็ไม่จบง่ายๆ เพราะว่าก่อนเข้ามาป่าบงเปียง
เราเห็นป้ายว่าแถวนี้มีน้ำตกชื่อว่าน้ำตกแม่ปาน

และเราก็คุยกับพี่สงบ พี่แกบอกว่า น้ำที่เราใช้ๆกันหนะ ก็มาจากน้ำตกนี้

น้ำตกแม่ปานเดินเข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตร น้ำใส เย็นเจี๊ยบ

เราอยู่ลงแช่น้ำได้สักพัก ก็ต้องเตรียมตัวกลับตัวเมืองเชียงใหม่กันแล้ว
ป่าบงเปียงครั้งแรก ก็ประทับใจสะแล้ว
ราคาหลักร้อย แต่ได้วิวกลับมาหลักล้านนี่คุ้มจริงๆ 😊

สามารถติดตามเรื่องราวการเดินทางของเราเพิ่มเติมได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/LifeBraryjourney/
IG: https://www.instagram.com/lifebraryjourney/
Twitter: https://twitter.com/Wawowwy
แล้วออกเดินทางด้วยกันอีกน๊า : ))