ภูเก็ต อาจเป็นจังหวัดที่ใครหลายๆ คนเคยไปเที่ยวมาแล้ว และเราก็เชื่อว่ามีอีกหลายคนที่ยังไม่เคยไป หรือบางคนก็อาจเคยไปมามากกว่าหนึ่งรอบด้วยซ้ำ แต่รู้หรือไม่ว่า ภูเก็ตนอกจากทะเลสวยๆ แล้ว ภูเก็ตยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ หนึ่งในนั้นคือ การตะลุยกินอาหารท้องถิ่นของภูเก็ต ! นี่แหละ และการตามหาถ่ายรูปสวยๆ เท่ๆ กับสตรีทอาร์ท ซึ่งทริปนี้หากได้ตามเรามาคือครบสูตรเที่ยวภูเก็ตแน่นอน

อาหารภูเก็ต อร่อยยังไง ?

ภูเก็ตถูกยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร ! (Creative City of Gastronomy) ซึ่งมีแค่ 18 เมืองทั่วโลกที่ได้รับการยกย่องนี้ ที่ภูเก็ตจะมีอาหารพื้นเมืองหลากหลายมากๆ เช่น โอวต้าว หมี่ฮกเกี้ยน บี้หุ้น โอ้เอ๋ว โลบะ ขนมพริก เต้าซ้อ หมูฮ้อง บีโกหมอย เบือทอด จี้โจ ขนมหน้าแตก ฯลฯ

มีเมนูที่เป็นชื่อเฉพาะที่เรียกกันเองในจังหวัด มีการผสมผสานวัฒนธรรมอาหารตามชนชาติที่เข้ามาอาศัย ทั้ง ไทย จีน มลายู ยุโรป อินเดีย จนกลายมาเป็น อาหารสไตล์ภูเก็ตที่ไม่เหมือนใคร หลายๆอย่างคือมีที่นี่ที่เดียว มาทั้งทีต้องมาตะเวนกินให้ได้

อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่แรก ภูเก็ตนอกจากจะมีของกินที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครแล้ว ยังมีงาน สตรีทอาร์ท เจ๋งๆ ตามตึกรามบ้านช่องที่เป็นอาคารทรงสวย สีสันสดใสในสไตล์ชิโนโปตุกีส โดยเฉพาะในย่านเมืองเก่าจะมี สตรีทอาร์ท เยอะเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นผลงานจากศิลปินทั้งในและนอกประุเทศเลย

งาน สตรีทอาร์ท ที่นี่ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่เป็นจุดเด่นของเมืองภูเก็ต ขนาดนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ยังต้องมาถ่ายรูป ตามจุดเหล่านี้เลย

นอกจากนั้นยังมีจุดชมวิวสวยๆให้ไปดูเมืองภูเก็ตทั้งเมือง ไปดูพระอาทิตย์ตกช้าๆ ไปเยือนแลนด์มาร์คต่างๆของภูเก็ต

ก่อนไปก็หาที่พักและกดจองจากในแอพ Traveloka ก่อนเลย เพราะว่ามีโรงแรมให้เลือกกว่า 100+ แห่ง (เยอะจนตาลาย555) ได้เปรียบเทียบ ได้หาที่พักที่ตรงความต้องการเราที่สุด แถมยังได้ส่วนลดอีกด้วย เราได้ห้องพักในราคาไม่ถึง 500 บาทอ่ะแกกกก กรี๊ดมาก ถูกและดีมีอยู่จริงบนโลกเด้ออ

จองที่พักภูเก็ตกับ Traveloka

ไปเที่ยวภูเก็ต อยากรู้ว่ามีอะไรต้องทำ มีร้านไหนต้องกินบ้าง อ่านต่อได้เลยจ้าา

ใครอยากกินอาหารท้องถิ่นภูเก็ตในบรรยากาศแบบ local จริงๆ เราแนะนำร้านนี้เลย หมอมูดง

เป็นร้านที่คนภูเก็ตจะแนะนำให้มากิน เพราะรสชาติดี บรรยากาศสบายๆ เหมาะกับคนที่อยากได้ความเป็น local มากๆ ทั้งรสชาติและบรรยากาศโดยรวมทั้งหมดแบบนี้

ถึงร้านจะไม่ได้อยู่ในเมือง แต่คิดดูแล้วกันว่าอร่อยขนาดที่ทุกคนก็หาทางมากินกันจนคนแน่น จนเค้าต้องขยายร้านให้เพียงพอรองรับลูกค้า นี่ก็การันตีความอรอยได้แล้วว่าเด็ดจริงๆ

บรรยากาศร้านจะเป็นแบบนี้ local มาก

จะมีทั้งที่เป็นโต๊ะปกติ และที่เป็นซุ้มแบบนี้ เราเลือกนั่งซุ้มนี่แหละ ได้ฟีลมากๆ

มื้อนี้เราสั่ง หมูคั่วเกลือ แกงส้มปลามุงผักรวม ยำรวมมิตร และเมนูขึ้นชื่ออย่างยำสาหร่ายพวงองุ่น ซึ่งแน่นอนว่าเมนูที่เราชอบก็คือ ยำสาหร่ายพวงองุ่นนี่แหละ เพราะรู้สึกว่าสดมากๆ ส่วนผลไม้คือเค้าเสิร์ฟมาให้เองฟรีๆเลยแกก เป็นสัปปะรดหวานๆ กับมะม่วงเปรี้ยว คือดีมากๆ

ร้านนี้เราจะมากินอาหารใต้ เครื่องแกงใต้ๆ รสชาติแบบที่คนใต้เค้ากินกัน

ร้านนี้เราว่าจุดเด่นเค้าคือ อาหารอร่อย ให้เยอะ ราคาไม่แพง มากินที่ภูเก็ตกี่รอบก็ยังประทับใจ

(เรากับเพื่อนแอบรู้สึกว่า ร้านนี้ ตอนกลางวัน กับ ตอนเย็น รสชาติไม่เหมือนกัน เหมือนเค้าใช้พ่อครัวคนละคน ฉะนั้นถ้าจะมากิน แนะนำมาช่วงเย็นๆ หลัง6โมง เราชอบรสนั้นมากกว่า เรากับเพื่อนรู้สึกว่าตอนนั้นจะอร่อยกว่านะ)

อาหารประเภทแกงใต้ หรือแกงส้มอะไรแบบนี้ เครื่องแกงเค้าจะรสถึงมาก เราชอบบ เหมาะกับคนชอบรสจัดๆ จะถูกปากเป็นพิเศษ

แกงปูก็คือให้ปูเยอะมากๆ ไม่หวงเครื่องเลย ชอบตรงนี้

น้ำพริกกุ้งสดก็อร่อยนะ จะออกเค็มๆ ต้องกินกับข้าวสวยและผักต้ม ถ้วยนี้ก็ให้เยอะกว่าที่คิดไว้เยอะเลย5555

ร้านนก็จะเป็นแบบนี้ มีความธรรมดาๆแบบท้องถิ่นสุดๆ ร้านจะอยู่แถวสามกอง เปิดตั้งแต่ 09.00 น. - 21.00 น. ปิดทุกวันจันทร์นะ

ภูเก็ต เป็นเมืองแห่ง Street Art เลยก็ว่าได้ มีงานศิลปะสวยๆเยอะแยะทั่วเมืองเลย
Street Art บนผนังที่ภูเก็ตนั้น ถูกวาดโดยศิลปินทั้งไทยและต่างประเทศ กระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ทั่วเมืองภูเก็ต จนกลายเป็นจุดถ่ายรูปอย่างหนึ่งที่ห้ามพลาดเด็ดขาด เป็นของขึ้นชื่อที่ไม่ว่าจะคนในประเทศ หรือคนต่างชาติก็ต้องมาถ่ายรูป

ตรงนี้จะมีภาพของศิลปิน Pichit Paidan ที่วาดภาพของแผงลอยขายโอวต้าว อาหารพื้นเมืองของคนภูเก็ต ใกล้ๆกันมีภาพอาม่า(คุณยาย) นั่งยิ้มอย่างอารมณ์ดี จุดนี้จะเห็นได้ชัดและหาง่ายมากๆ

จุดนี้จะอยู่ตรงร้านคุณจี๊ดราดหน้ายอดผัก จะมี 2 ผลงานอยู่ตรงข้ามกันเลย

ที่เห็นอันนี้เป็นผลงานของศิลปิน Meu bon (มือบอน)

ที่สื่อถึงเทศกาลเดินเต่าของชาวภูเก็ต ภาพนี้บอกเล่าได้อย่างชัดเจนถึงบรรยากาศอันสนุกสนานของเทศกาลนี้

เข้ามาในซอยนี้จะมีอีกหลายๆผลงานเลย

รูปนี้คือผลงาน ของ ศิลปิน P7 ชื่อผลงาน กาแฟยามบ่ายกับวัฒนธรรม “กินโก้ปี้”

สื่อถึงความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นของเพื่อนฝูงผ่านขนมคาวหวาน และชากาแฟถ้วยโปรด

(มีขนมภูเก็ตซ่อนอยู่ โดยใช้สีของอาหาร หรือ ลักษณะเด่น ๆ ของอาหารชนิดนั้นอยู่)

เดินถัดมาก็ยังมีผลงานในระแวกเดียวกันอีกเพียบเลย

ในตลาดดาวน์ทาวน์ก็ยังมีงานกราฟฟิตี้มาหลบมุมอยู่ในนี้

อันนี้เป็นน้องมาร์ดี ในชุดบาบ๋าสีชมพู กำลังเข็นรถเข็นเงิน ชื่อผลงานว่า วิวาห์บาบ๋า

เป็นเรื่องราวของงานมงคลที่มีอาหารคาวหวานหลากหลายแทนคำอวยพรและภาพนี้สะท้อนวิถีชีวิตประจำวันที่เรียบง่ายของผู้คนยามเช้าที่เข้ากับสถานที่บริเวณตลาดสด(บ่านซ้าน) ศิลปินผู้สร้างสรรค์คือ Alex Face

ตามเสาร้าน อาคารบ้านเรือน ก็จะมีงานกราฟฟิตี้แทรกอยู่เต็มไปหมดเลย เราว่าย่านเมืองเก่าภูเก็ต เป็นย่านที่น่ารักมากๆ

นอกจากกราฟฟิตี้จะเจ๋งแล้ว อาคารบ้านเรือนก็สวยไม่แพ้กัน ตึกที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์ชิโนโปตุกีสสวยงามแปลกตามากๆ

ถ้ามาในเมืองภูเก็ตก็ต้องไม่พลาดที่จะแวะเข้ามาถ่ายรูปเช็คอินตรงนี้กันสักหน่อย

เป็นจุดที่ลงรูปเมื่อไหร่ก็รู้โดยทันทีว่าเราอยู่ภูเก็ตกันแล้วแน่นอน

นี่คือ หอนาฬิกาภูเก็ต สีเหลืองเด่น ตั้งตระหง่านอยู่ในเมืองภูเก็ต เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คประจำเมืองภูเก็ตเลย

จุดชมวิวที่เราสามารถเห็นหาด 3 หาดได้ในที่เดียว มีทั้ง หาดกะตะน้อย หาดกะตะ และหาดกะรน ตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งมุมที่ทำให้เราเห็นทะเลโดยรอบๆได้ โดยไม่ต้องลงทะเลแม้แต่นิดเดียว

วิวตรงนี้ก็เห็นหาดได้ครบหมดทั้ง 3หาด เลยจริงๆ สวยมากๆ

สถานที่ยอดฮิตตลอดกาลจริงๆ แหลมพรหมเทพ เพราะถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของจังหวัดภูเก็ต แน่นอนว่านักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ เราเลยเน้นมาดูพระอาทิตย์ตกมากกว่ามาดูแหลมพรหมเทพ เพราะเราเคยเห็นแหลมพรหมเทพกันบ่อยแล้ว แต่พระอาทิตย์ตกที่นี่นี่สิ ดูกี่รอบก็ไม่เคยเบื่อ และไม่เคยเหมือนกันสักวันเลยจริงๆ เป็นอีกจุดที่มาภูเก็ตกี่รอบก็ต้องมาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่จริงๆ

สวยมากๆ เราชอบพระอาทิตย์ตกหน้าร้อนมากๆ เพราะท้องฟ้าจะสีสวยเป็นพิเศษเลยแหละ

บริเวณรอบๆก็สวยนะ ลองเดินไปรอบๆจะรู้ว่า ไม่ได้มีแค่แหลมพรหมเทพนะเออ ต้นไม้แถวๆนั้นคือสวยลงตัวไปหมดเลย

วินาทีนั้นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของวันนั้นเลย ประทับใจมากๆ สวยจนวินาทีสุดท้ายที่พระอาทิตย์ตกสนิทเลยจริงๆ

ก่อนอื่นเลยต้องดอกจันทร์ตัวใหญ่ๆเลยว่า **หลาดใหญ่เปิดเฉพาะวันอาทิตย์วันเดียวเท่านั้น!!**

เพราะฉะนันถ้าจะมาต้องเช็คให้ดีๆก่อนนะ จะได้ไม่เสียเที่ยว

มาเข้าเรื่องกัน แกกกกมันดีมากก เป็นตลาดที่ของกินเยอะมาก ราคาไม่แพงด้วย กินจนตัวจะแตกเลยอ่ะ ของกินหลากหลายสุดๆ ของแปลกๆ ของท้องถิ่นก็เพียบเลย มีโชว์หลากหลายด้วย มีทั้งร้องเพลงลูกทุ่ง โฟลกซอง รำโนราห์ มีวาดรูปเหมือน มีสินค้าเครื่องใช้ ของแต่งกาย คือมาที่นี่ที่เดียวก็ซื้อทุกอย่างในภูเก็ตได้ครบมากๆ และด้วยความที่มันครบครัน และ 1 อาทิตย็์ ก็จะมีแค่ วันอาทิตย์ วันเดียว เลยยิ่งทำให้คนเยอะมากๆ แต่ก็คุ้มนะ เพราะของกินดีจริงๆ อร่อยไปหมด อยากให้มาลอง

ร้านแรกเป็นขนมอาโป้ง ขนมพื้นเมืองของภูเก็ต เป็นเหมือนแป้งข้าวเจ้าผสมกะทินำมาเทลงกระทะเป็นแผ่นบางๆแล้วก็ม้วนออกมาคล้ายๆทองม้วน มีความหอมของมะพร้าว รสชาติหวานๆ อร่อยดีนะ เท่าที่กินไปทั้งวันเราชอบอันนี้มากที่สุดเลย กินเพลินมาก ติดใจจนต้องซื้อซ้ำ ราคาคือ 4 ชิ้น 20 บาทเด้อ

ด้านอกจะกรอบๆ ข้างในตรงกลางจะแอบนุ่มๆเบาๆ ไม่มีไส้นะ กินง่ายๆ เพลินๆดี

นอกจากของกินก็มีงานศิลปะให้เสพกันแบบนี้แหละจ้า น้องคนนี้คือเก่งมากๆ ยังเด็กขนาดนี้แต่วาดรูปได้ไม่แพ้ผู้ใหญ่เลย สุดยอดมากๆ

ขนมจีโจ้ จากร้านตู้กับข้าว

อันนี้เหมาะกับคนที่ชอบขนมจีโจ้ แต่ไม่จำเป็นต้องไปนั่งกินที่ร้าน

ขนมจีโจ้ให้อารมณ์เหมือนกินไข่เต่าที่โรยงาแล้วมีไส้เป็นถั่วต่างๆอ่ะ ทั้งถั่วสิลง ถั่วเหลือง ถั่วดำ แต่ถ้าให้เทียบกันก็ยากเพราะไม่ได้เหมือนกันขนาดนั้น โดยรวมเราชอบนะ อร่อยดี ไส้ถั่วลิสงคือแปลกๆดี ไม่ค่อยเห็นที่ไหนทำขนมไส้ถั่วลิสงเท่าไหร่ กินง่าย อร่อยดีจ้า

ราคาตามรูปเลย 5 ลูก 20 บาทเอง อิ่มแล้วเนี่ยย

อันนี้เรียกว่า กะโป๊ะ เป็นเหมือนปลาแท่งทอดกรอบ คลุกกับผงรสต่างๆ (คนขายบอกว่าเป็นขนมขึ้นชื่อของทางใต้ จะดังมากหน่อยใน3จังหวัดชายแดน) เราชอบอันนี้นะ เพราะไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน อร่อยดี

ร้านนี้ขายทั้ง เกี้ยน และ เผือกทอด อาหารพื้นเมืองของภูเก็ตทั้งคู่เลยจ้า

ถ้วยนี้คือ เกี้ยน ให้ความรู้สึกเหมือนกินแฮกึ้นหมูสับ รสชาติอร่อยดีนะ (ทำไมเรากินอะไรก็อร่อยไปหมดเลยอ่ะที่นี่555555) ถ้วยนี้ 25 บาท อร่อยกำลังดี แต่อาจจะออกอมน้ำมันไปนิด หรือเรากินของทอดมาเยอะแล้วอ่ะ เจอทอดอีกเลยแบบเลี่ยนนิดๆ5555

จานนี้คือ เบือทอด เป็นกุ้งทอดกับใบเล็บครุฑ กินกับน้ำจิ้มรสหวานเผ็ดนิดหน่อย จานนี้ 20 บาทเองงงง ถูกมาก

ตบท้ายด้วยไอศกรีมมะม่วงเบาๆ หอมอร่อยมากๆ ให้รสชาติมะม่วงครีมๆ เหมือนที่กินในร้านไอศกรีมชื่อดังเลย แต่ราคาถูกกว่ามาก แค่ 25 บาทเอง เริศศศ

ถ้าจะกินอาหารพื้นเมืองภูเก็ต ต้องไม่ลืมมากิน โอวต้าว ร้านโอวต้าวจี้เปี่ยน เจ้าแรกของภูเก็ตเลยนะ

เราอธบายไม่ถูกว่ารสชาติเป็นยังไง แต่มันจะเป็นอาหารประเภทหอยทอด แต่ไม่เหมือนหอยทอดนะ เดี๋ยวเข้าใจผิด เอาเป็นว่าต้องมาลองเองถึงจะรู้ว่าเป็นยังไงเนอะ

หน้าตาจะเป็นแบบนี้ มีแคบหมูกรอบๆข้างบนด้วยอร่อยดีนะ หอมกลิ่นกระทะเป็นพิเศษเลยอันนี้

ร้านนี้ขึ้นชื่อมากๆ มากจนทำให้ทุกวันนี้มีคนมาต่อคิวเพื่อกินข้าวต้มแห้งที่นี่กันทั้งคืน ตอนช่วงที่เราไปเป็นประมาณ 2-3 ทุ่ม คนเยอะมากกกก ต่อคิวกันยาวออกไปนอกร้าน แต่ด้วยความที่เค้าบริหารจัดการดี ถึงคิวจะเยอะแต่รอไม่นานเลย ยืนรอสักพักก็ได้เข้าไปนั่งกินแล้ว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งของดีเมืองภูเก็ต ใครมาภูเก็ตก็ไม่ควรพลาดร้านนี้ด้วยประการทั้งปวง

ติ่มซำมีให้เลือกหลากหลาย สด อร่อย ทุกคำที่กัดลงไปเจอเนื้อกุ้งเต็มๆ กุ้งเด้งอร่อยมากก ทีเด็ดเลยคือน้ำจิ้ม เราชอบน้ำจิ้มที่นี่มาก เค้าจะให้ผสมเหมือนซอสแดงหวานๆกับน้ำจิ้มที่คล้ายๆซีฟู้ด ผลคือมันเข้ากันแบบลงตัวมากๆ ติ่มซำเด้งๆหวานๆจิ้มน้ำจิ้มที่นี่คือฟินสุดๆ ส่วนใครที่ชอบจิ้มจิ๊กโฉ่ ที่นี่เค้าก็มีให้เด้อซาลาเปาที่นี่ก็อร่อย ใส้เยอะๆ แป้งบางดี เราชอบไส้ใบเตยมากๆ ไส้ครีมก็อร่อย ไม่หวานมาก นึ่งใหม่ๆร้อนๆเลยนอกจากนั้นยังมีชาร้อนๆให้กินอีกด้วย เป็นการตบท้ายได้ดีมากๆ มื้อนี้เป็นอีกมื้อที่ทุกคนในทริปชอบมากๆ

ราคาติ่มซำ 30 บาทเท่ากันทุกเข่ง คิดราคาก็ง่ายๆเลย

หน้าร้านมีที่จอดรถเยอะมากก

มีติ่มซำให้เลือกเยอะมากๆ แต่ควรมาเช้าๆหน่อยนะ เพราะจะมีของให้เลือกเยอะกว่าตอนเราไปอีกก

เลือกเสร็จปุ๊ป นึ่งกันสดๆตรงนั้นเลยจ้าา อร่อยฟินมากก

ที่นี่เป็นอีกหนึ่งร้านที่เปิดในย่านเมืองเก่าภูเก็ต เป็นร้านที่ขายทั้งอาหารและกาแฟ แต่ชื่อร้านก็บอกขนาดนี้ว่าเป็นร้านกาแฟ (โกปี้=กาแฟ) เราเลยไม่พลาดที่จะชิมกาแฟกันแน่นอน

เมนูที่เราสั่งมา จะมี เส่ล้องอูเล้ง (ชาเย็นแบบดั้งเดิม) และ อีกเมนูคือ โกปี้ตั่งกั้ว (เป็นกาแฟดำที่เสิร์ฟคู่กับน้ำชา เคียงกับฟักหวาน) กาแฟดำก็หอมกาแฟตามคาด แต่เราชอบชาเย็นเป็นพิเศษ เพราะรู้สึกว่าหอมกว่าที่เคยกินที่อื่นดี ไม่หวานมากด้วย อันนี้ปลิ้มม

ใครอยากลิ้มชิมรสอาหารภูเก็ตหลายๆอย่างโดยที่ไม่ต้องเดินทางไปมาให้วุ่นวาย เราแนะนำที่นี่เลย ศูนย์อาหารลกเที้ยน (พนักงานที่ที่พักเราแนะนำมาอีกที น่ารักมากๆ)

ที่นี่จะมีอาหารพื้นเมืองให้กินหลายอย่างมาก มีทั้ง หมี่ผัดฮกเกี้ยน หมี่หุ้นกระดูกหมู ปอเปี๊ยะสดฮกเกี้ยน หมี่น้ำฮกเกี้ยน โอวเอ๋ว โลบะ หมูสะเต๊ะ หมี่หุ้น ลูกชิ้นปลา รวมไปถึง อาหารตามสั่งเลย

เมนูคร่าวๆจะเป็นแบบนี้ และยังมีเมนูให้เลือกอีกเยอะเลยนะ

หน้าตาของอาหารทั้งหมดที่เราสั่งมา

บี้หุ้นผัดฮกเกี้ยน

ปอเปี๊ยะสดฮกเกี้ยน

ลูกชิ้นปลาสไตล์ภูเก็ต จานนี้เราให้ 10 ดาว อร่อยจนต้องสั่งเพิ่ม ลูกชิ้นนุ่มเด้ง ชอบมากกกกก

คาเฟ่ที่ถ้ามาภูเก็ต แนะนำว่าต้องมาลองซักครั้งเป็นร้านเครื่องดื่มฟิวชั่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ มีการนำเครื่องดื่มต่างๆมาผสมผสานกับอาหารท่องถิ่นของภูเก็ตอย่างเต้าซ้อ หมูฮ้อง และขนมโอ๋เอ๋ว เกิดเป็นเครื่องดื่มรูปแบบใหม่ที่สร้างสรรค์มากๆร้านนี้อยู่บนถนนถลาง ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ตัวร้านจะพื้นที่ไม่เยอะมาก เหมาะกับการซื้อไปเดินเล่นในถนนไปมากกว่านั่งกินนะ

เครื่องดื่ม Signature ของ Nito Nitro Drink ที่เราสั่งนั้นมีอยู่ 3 แก้ว 3 สไตล์ที่ไม่เหมือนกัน คือ Tao Sor Caramel Latte , Masala Moo Hong Choco และ Nito x Oldtown

Tao Sor Caramel Latte เป็นกาแฟลาเต้ที่ใช้เมล็ดกาแฟดอยช้างกับซอสที่ทำจากขนมเต้าซ้อ ขนมขึ้นชื่อของภูเก็ตได้อย่างลงตัว ด้านบนของกาแฟนั้นจะโรยท็อปปิ้งด้วยข้าวตังและราดด้วยคาราเมล เราว่าเข้ากันได้ดีนะ แต่จะออกหวานๆหน่อย เหมาะกับคนชอบรสออกหวานๆ

แก้วที่สองคือ Masala Moo Hong Choco ดาร์กช็อคโกแลตเย็นผสมกับนมและกลิ่นสมุนไพรที่ใช้ทำหมูฮ้อง ท็อปปิ้งด้วยหมูฮ้องแผ่นกับกับมาร์ชเมลโล่ เมนูนี้ค่อนข้างเป็นการฟิวชั่นที่แปลกใหม่ เพราะนำของคาวและของหวานมารวมกันเป็นเครื่องดื่ม ซึ่งแน่นอนว่าด้วยความแปลกของกลิ่นสมุนไพรที่มาอยู่ในเครื่องดื่มช็อกโกแล็ต เพื่อนๆในทริปหลายๆคนอาจจะไม่ได้ชอบแก้วนี้ แต่เราว่าก็อยู่ในเกณฑ์ที่กินได้ รสชาติดี แต่เหมาะกับคนที่อยากชอบลองอะไรแปลกใหม่จริงๆถึงน่าจะชอบนะ

อีกแก้วที่พวกเราชอบมากๆเลยคือ Nito x Oldtown เป็นชากุหลาบจากเชียงราย ผสมกับน้ำส้มยูสุและโทนิก รวมกันกลายเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลายร้อนและเพิ่มควมสดชื่นในวันที่อากาศร้อนๆแบบนี้ได้มากๆจริงๆ แก้วนี้ผสมผสานกันได้ลงตัวมากๆ ทุกคนยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยจริงๆ

มีมุมเก๋ๆให้ถ่ายรูปเท่ๆด้วยจ้า


เมนูค่อนข้างเยอะเลย น่ากินทุกอัน ยิ่งเมนูพวกชาไขมุก เรายังไม่ได้ลอง ไปครั้งหน้าต้องไปโดนให้ได้

ร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่คนชอบกินอะไรใหม่ๆ ผสมผสานกับเอกลักษณ์ท้องถิ่นต้องมากิน เราชอบร้านนี้มาก เพราะเค้าเอาขนมพื้นเมืองมานำเสนอใหม่ ใส่ไอศกรีม แล้วทำออกมาได้ลงตัวมาก ทุกเมนูที่สั่งมาคืออร่อยจริงๆ มีทั้งไอศกรีมอาโป๊ง ไอศกรีมบีโกหมอย ไอศกรีมงาดำกินคู่กับขนมเปียกขี้มัน ไอศกรีมโอ้เอ๋ว และเมนูอื่นๆอีกเพียบบบ

ตัวร้านก็สวยงาม ด้านนอกเป็นตึกสไตล์ชิโนโปตุกีส สีชมพูสวยเตะตา ส่วนด้านในก็ตกแต่งสไตล์ โมเดิร์นวินเทจ เข้ากับเมนูที่ทางร้านต้องการสื่อออกมาเลย

เมนูในร้านมีให้เลือกค่อนข้างเยอะ เราเลยเลือกสั่งเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน อย่าง Phuket Treasure, Bi-Co-Moi และ Flower Tea มา 1 pot

Phuket Treasure เป็นเมนูที่รวมสารพัดขนมพื้นเมืองภูเก็ตไว้ในถ้วยเดียว มีทั้งขนมถั่วทอด ผังเปี๊ยที่เป็นไส้เค็ม ขนมหน้าแตก ขนมพริก ขนมเต้าส้อ ขนมบูหลู้หรือขนมไข่ ขนมงาพอง และบี้ผ้างหรือขนมข้าวพองทอด เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมฮันนี่แกรห์ม (Honey Graham)หอมกลิ่นน้ำผึ้ง โรยด้วยขนมก้องถึงหรือตุ้บตั้บ อันนี้คือถ้วยเดียวรวมความเป็นขนมแห้งของภูเก็ตไว้หมดแล้ว คนคิดคือเริศมากๆ บรรเจิดสุดๆ

เมนูนี้คือ Bi-Co-Moi ไอศกรีมกะทิอัญชัน คู่กับรสชาติของ 'บีโกหมอย' ขนมชื่อแปลกแต่รสชาติอร่อย จริงๆแล้วมันก็คือข้าวเหนียวดำของชาวพื้นเมืองภูเก็ตนั่นแหละ เราชอบอันนี้ที่สุดที่สั่งมา ข้าวเหนียวดำอร่อยมากๆ กินคู่กับไอศกรีมอัญชัญคือฟินมากๆ หอมมากๆ ทั้งถ้วยนี้คือไม่หวานเลี่ยน อร่อยกำลังดี

เรากินคู่กับ Flower Tea หรือชาดอกไม้ ชาที่นี่ก็หอมมากๆ ทำให้เจริญอาหาร กินขนมได้อีกเยอะเลย55555

ด้านในร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์นวินเทจ ดูเรียบหรูดีดีมากๆ พนักงานบริการดี ยิ้มแย้มแจ่มใส รวดเร็วทันใจ

เต้าซ้อ เป็นขนมพื้นเมืองภูเก็ตอีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจ รสชาติ รูปลักษณ์จะเหมือนขนมเปี๊ยะ แต่ต่างตรงที่ไส้จะเยอะกว่า แป้งจะบางกว่า และจะไม่มีกลิ่นควันเทียน แล้วที่ต้องมากินที่ร้านแม่บุญธรรมก็เพระว่า ร้านเค้าดังจริงๆ ทำส่งขายวันต่อวัน ทั้งหน้าร้าน และตามตลาดในภูเก็ต แถมยังมีที่กรุงเทพมารับไปชายทุกๆวันอีกด้วย บอกเลยว่ารสชาติอร่อย คุ้มค่ากับการมากินร้านต้นตำรับจริงๆ

ตอนที่เราไปที่ร้าน คุณแม่บุญธรรมมาต้อนรับเองเลยด้วย ได้พูดคุย ได้ความรู้เรื่องขนมภูเก็ตเยอะมาก คุณแม่บุญธรรมน่ารักมากๆ อยากให้ลองไปกินที่ร้านสาขาหลักดูนะ ดีจริงๆ

นี่แหละเต้าซ้อที่โด่งดังของภูเก็ต มีทั้งไส้หวานไข่เค็ม และไส้เค็มไข่เค็ม มีขนาดปกติและขนาดเล็ก ขนาดปกติจะได้ 12 ชิ้น/กล่อง ราคา45บาท ส่วนขนาดเล็กจะได้ 20ชิ้น/กล่อง ราคา 50 บาท (คุณแม่บุญธรรมบอกว่าก้อนเล็กต้องปั้นเยอะกว่า แล้วที่นี่คือปั้นมือ ทำสดๆ กล่องต่อกล่องเลย)

นอกจากจะมีเต้าซ้อแล้ว ยังมีขนมพื้นเมืองภูเก็ตอีกเยอะแยะเลยในร้าน ไม่ว่าจะ อันนี้ ขนมหน้าแตก อีกชื่อคือมาการองภูเก็ต เพราะหน้าตาละม้ายคล้ายมาการอง
มีขนมให้เลือกซื้อเยอะจริงๆ ทั้งขนมถั่วทอด ขนมผังเปี๊ย ขนมพริก ขนมเต้าส้อ ขนมผิง ขนมงาพอง บี้ผ้างหรือขนมข้าวพองทอด ขนมตุ้บตั้บ และอื่นๆอีกเยอะมากๆ

ของฝากจากภูเก็ตก็มีนะเออ คุณแม่บุญธรรมบอกว่าซื้อที่นี่เลยก็จะถูกกว่าซื้อตามสนามบินนะ ไหนๆก็แวะแล้ว ซื้อติดไม้ติดมือไปก็สะดวกดีเด้อ

นี่เลย ข้างๆร้านจะปั้นกันให้เห็นสดๆแบบนี้เลย ปั้นมือทุกอัน ทำชิ้นต่อชิ้น อบสดใหม่ทุกวันเลยจริงๆ

ร้านนี้ตั้งอยู่บนเขารังเลย บรรยากาศดีร่มรื่น วิวดีมากๆ เป็นวิวเมืองภูเก็ต แบบเห็นได้เยอะและเห็นได้ไกลมากๆ การได้นั่งจิบกาแฟชมวิวของเมืองภูเก็ตแบบนี้เป็นอีกสิ่งที่ต้องมาทำสักครั้ง ได้ฟีลสุดๆเลยคุณเอ๊ยย กาแฟก็รสชาติดี เครื่อบงดื่มรสชาติดี อาหารรสชาติดี (ราคาอาจจะแรงนิดหน่อยเพราะวิวดีมากๆอ่ะ ก็ถือว่าทุกอย่างสมราคา อร่อยหมดเลย)

เราไปตอนเย็นๆ เค้าก็จะเปิดไฟแบบนี้แหละ

เห็นวิวเมืองแบบนี้เลย เท่มากๆ

เราสั่งมาทั้ง กาแฟทุ่งคา และกาแฟดำ

กาแฟทุ่งคา เมนูขึ้นชื่อที่เป็นชื่อร้านของที่นี่ ‘ทุ่งคากาแฟ’ ถือว่าอร่อยเลยนะ หอมหวานมัน รสชาติดีเลยทีเดียว ใครคอกาแฟไม่ควรพลาด แต่แอบกระซิบหน่อยว่าเมนูนี้จะออกหวานนะ ใครไม่ชอบหวานอาจจะต้องลองสั่งเป็นเมนูอื่นดู เพราะกาแฟที่นี่หอมดีเด้อ

ตกดึกก็จะเป็นวิวเมืองแบบเป็นแสงไฟแบบนี้ สวยไปอีกแบบ

ใครอยากเห็นภูเก็ตทั้งเมือง เราแนะนำให้ขึ้นมาที่นี่ เขารัง หรือตรงนี้ที่เราอยู่ เรียกว่า หอเกียรติยศ 100 ปี จะมีสะพานออกไปให้เราดูเมืองภูเก็ตได้ทั้งเมืองเลย เจ๋งมากๆ ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย

เดินไปที่สะพานแบบนี้ได้เลย ช่วงเย็นๆจะมีคนมาตรงนี้พอสมควร แต่ไม่ถึงกับเยอะมากจนอึดอัดหรือถ่ายรูปไม่ได้นะ กำลังดี กำลังครึกครื้นเลยแหละ55555

จุดนีคือดีมากๆจ้าาา เห็นทั้งเมืองจริงๆ ควรมาาา

บนเขารังคือลิงเยอะมากๆ ระวังๆน้องๆหน่อยแล้วกันเนอะ ไม่รู้ว่าดุหรือใจดี แต่ท่าทางไม่กลัวคนเลยจ้าาา

ตกดึกแล้วก็ยังสวย เค้าจะเปิดไฟที่หอเกียรติยศ 100 ปี ไฟสวยมากกก เสริมให้ที่นี่ดูดีไปอีกเท่าตัว วิวเมืองที่เราเห็นก็จะกลายเป็นไฟในเมือง ซึ่งก็สวยไปอีกแบบ

รูปภาพและข้อมูล walker talker : เดินทางเล่าเรื่อง