“กรุงโซล” (Seoul) เมืองหลวงของเกาหลีใต้แห่งนี้ คุณจะได้เห็นตึกระฟ้าข้างวัดโบราณ ท่ามกลางความวุ่นวายในเมืองที่วุ่นวาย กลับมีเส้นทางเดินทางป่า มีธรรมชาติอันเงียบสงบอยู่ใกล้ๆ แถมยังมีย่านช้อปปิ้งหลากหลายให้ช้อปกระจาย สตรีทฟู้ดรถเข็นก็มีให้เลือกชิมละลานตา เรียกได้ว่ามีเวลาเที่ยวไม่มากก็ได้ครบจบทุกสิ่ง ใครอยากเที่ยวแบบไม่ต้องลางาน เรามีแพลนเที่ยวโซล 3 วัน 2 คืนมาฝากกัน
กรุงเทพฯ - โซล เดินทางง่ายๆ ด้วยเที่ยวบินตรง ค้นหาโปรสุดคุ้มราคาโดนใจได้ที่ Traveloka Travel & Lifestyle Super App ที่มีครบทุกสิ่งทั้งจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก บัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว รถรับ - ส่งสนามบิน รวมทั้ง รถเช่า สะดวกง่ายดาย อีกทั้งยังมีช่องทางชำระเงินมากมาย แอพเดียวจบครบจริง เดินทางไปเที่ยวโซลทั้งที Traveloka now is possible - ประเทศเปิดแล้วไปเที่ยวกัน
เริ่มต้นทริปเที่ยวโซล 3 วัน 2 คืน ด้วยการย้อนกลับไปในสมัยราชวงศ์โชซอน ชมพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกรุงโซลในเขตจองโน นั่นคือ “พระราชวังเคียงบก” (Gyeongbokgung Palace) ที่สวยงามยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในบรรดาพระราชวังหลวง 5 แห่ง และเป็นพระราชวังหลักนานถึง 200 ปี นอกจากสถาปัตยกรรมสุดอลังและสวนสวย ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์สำคัญอีก 2 แห่ง ไฮไลท์ห้ามพลาดคือการชมพิธีเปลี่ยนเวรยามในเครื่องแบบสมัยโชซอนแบบดั้งเดิมที่ประตูหลัก เวลา 11.00 น. และ 13.00 น.
จากนั้นมุ่งหน้าออกจากประตูจอนชุนมุน ด้านตะวันออกของพระราชวังเคียงบก ไปยัง “หมู่บ้านบุกชอนฮันอก” (Bukchon Hanok Village) หมู่บ้านโบราณกว่าร้อยหลัง ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นการบอกเล่าประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์โซซอน ที่มีอายุกว่า 600 ปี ซึ่งปัจจุบันยังเป็นที่อยู่อาศัย บ้างก็เปิดให้เยี่ยมชมโดยเสียค่าบริการเล็กน้อย บ้างก็กลายเป็นร้านค้า แกลลอรีและร้านอาหารบรรยากาศคลาสิกสุดๆ
หลังจากพักทานอาหารกลางวันที่หมู่บ้านโบราณ ก็ได้เวลาเดินทัวร์ต่อไปยังย่านอินซาดง (Insadong) ศูนย์กลางศิลปะสุดสร้างสรรค์ของกรุงโซล ที่นี่คุณจะได้พบกับร้านอาหารแบบดั้งเดิม ร้านกาแฟและร้านน้ำชาที่น่ารักมากมายให้แวะเข้าไปนั่งชิล ที่นี่ยังมีหอศิลป์ และแกลลอรีกว่า 100 แห่งให้คนรักศิลปะร้องว้าว และยังมีร้านค้าให้ได้เลือกซื้องานฝีมือกลับมาเป็นของฝาก
จากย่านอินซาดงเดินไม่ไกลก็จะถึง “วัดโชเกซา” (Jogyesa Temple) หรือที่คนไทยเรียกว่า “วัดพระยิ้ม” วัดพุทธเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกสูง อาคารหลักของวัดมีอายุกว่า 500 ปี ภายในมีพระพุทธรูปของพระศากยมุนีสีทองขนาดใหญ่ 3 องค์ ด้านนอกมีต้นสนขนาดใหญ่สูงถึง 26 เมตร ชาวเกาหลีนิยมมาเดินขอพรรอบๆ เจดีย์หินแกะสลักสูง 7 ชั้น ซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
ออกจากวัดโชเกซาเดินต่อไปยัง “จัตุรัสกวางฮวามุน” (Gwanghwamun Square) ศูนย์กลางของประวัติศาสตร์ของกรุงโซล ที่มีทิวทัศน์สวยงามของพระราชวังเคียงบก และภูเขาบุกฮันซาน ขนาบข้างด้วยศูนย์ศิลปะการแสดงเซจง ใจกลางจัตุรัสโดดเด่นด้วยรูปปั้นกษัตริย์เซจง และพลเรือเอกอีซุนซิน สองบุคคลสำคัญของประวัติศาสตร์เกาหลี ด้านหลังเป็นน้ำพุสุดอลัง รายรอบยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ให้นั่งเก๋ๆ อีกด้วย
ไม่ไกลกันยังมีอีกหนึ่งจุดพักผ่อน “คลองชองกเยชอน” (Cheonggye Stream) เป็นลำธารธรรมชาติที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน ปัจจุบันถูกแปลงโฉมให้ทันสมัย ตลอดสองฝั่งของลำธารระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร มีสะพาน 22 แห่ง และน้ำพุอีกหลายแห่ง มีทางเดินเท้าที่สวยงาม และยังมีจุดเช็กอินห้ามพลาดอีกหลายแห่ง แถมด้วยร้านอาหารและบาร์สุดผ่อนคลาย
วันที่ 2 ของแพลนเที่ยวโซล 3 วัน 2 คืน คือการออกไปสำรวจกรุงโซลในมุมสูงบนยอดเขาอินวังซาน (Inwangsan Mountain) หนึ่งในเส้นทางเดินเท้าที่เข้าถึงได้ง่ายในกรุงโซล ไฮไลท์คือการเดินตามกำแพงเมืองนักซานที่พาดผ่านภูเขาถึง 4 แห่ง นอกจากจะได้เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่สวยงาม ยังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ของกรุงโซลที่งดงาม การได้เห็นพระราชวังต่างๆ จากมุมสูงเป็นอะไรสุดยอดจริงๆ
เดินป่าเสร็จได้เวลาเดิมพลัง ขึ้นรถไฟใต้ดินมุ่งหน้าไปยัง “ตลาดกวางจัง” (Gwangjang Market) ตลาดแห่งแรกของเกาหลี ที่ปัจจุบันเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักชิม ที่นี่เป็นตลาดในร่มมี 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นพื้นที่ขายอาหารพื้นเมืองต่างๆ รวมทั้งขนมนมเนย ยาจีน โสม ชาและกาแฟ ขณะที่ชั้น 2 มีเสื้อผ้าและชุดฮันบกให้ซื้อเป็นของฝาก
จากตลาดกวางจังเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินทงแดมุน ไปสุดที่ “เมียงดง” (Myeongdong) ย่านช้อปปิ้งสุดคึกคักของกรุงโซล ที่นี่มีครบทุกสิ่งตั้งแต่ห้างสรรรพสินค้าชื่อดัง และร้านค้านานาชนิดให้นักช้อปได้เพลิดเพลิน ส่วนนักชิมก็ไม่ผิดหวัง ที่นี่มีร้านกาแฟ และร้านอาหารหลากสไตล์หลายสัญชาติ แถมยังมีร้านรถเข็นแบบสตรีทฟู้ดให้ชิมเมนูเกาหลีแบบดั้งเดิมสุดฟินอีกด้วย
ทางใต้ของย่านเมียงดง ยังมีจุดชมวิวกรุงโซลอีกแห่งหนึ่งนั่นคือ “ภูเขานัมซาน” (Namsan Mountain) ยอดเขาสูงกว่า 270 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นที่ตั้งของ “อุทยานนัมซาน” (Namsan Park) อุทยานเชิงนิเวศและสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโซล มีเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทางให้คุณเดินตาม หรือเลือกวิธีง่ายๆ ด้วยการขึ้นกระเช้าไฟฟ้าก็ได้
มาถึงภูเขานัมซาน ต้องไม่พลาดชมแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงโซล “หอคอยเอ็นโซล” (N Seoul Tower) ซึ่งนอกจากจะเป็นหอส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ แล้วยังเป็นจุดชมวิวกรุงโซลที่งดงาม โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่หอคอยแห่งนี้จะเปิดไฟหลากสีสัน แถมยังมีพื้นที่ให้คู่รักมาคล้องกุญแจแห่งรักอีกด้วย ช่วงพระอาทิตย์ตกโรแมนติกสุดๆ
จบภารกิจสำรวจกรุงโซลในวันที่ 2 ด้วยการนั่งรถไฟใต้ดินไปท่องราตรีที่ “ฮงแด” (Hongdae) ย่านช้อปปิ้งแถวๆ มหาวิทยาลัยฮงอิก ที่มีร้านค้าขายทุกอย่างตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ไปจนถึงหนังสือ รวมถึงคาเฟ่และร้านอาหารสุดชิค บรรยากาศคึกคักสนุกสนานโดยเฉพาะในยามแดดร่มลมตก ที่เต็มไปด้วยสีสันของผับบาร์ที่เปิดยันรุ่ง
วันสุดท้ายของทริปเที่ยวโซล 3 วัน 2 คืน เริ่มต้นด้วยการสำรวจพระราชวังแห่งที่ 2 ของกรุงโซล “พระราชวังชางด็อก ” (Changdeokgung Palace) หรือ “พระราชวังตะวันออก” ซึ่งเป็นที่ประทับของราชวงศ์โชซอนนานกว่าพระราชวังอื่นๆ มีชื่อเสียงในเรื่อง "สวนลับ" ที่สวยงาม มีต้นไม้หลายร้อยชนิด และบางชนิดมีอายุมากกว่า 300 ปี สวยงามสุดๆ ช่วงดอกซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ
ใกล้ๆ กันยังเป็นที่ตั้งของ “พระราชวังชางยองกุง” (Changyeonggung Palace) พระราชวังเพียงแห่งเดียวของพระราชวังหลวงทั้ง 5 แห่งกรุงโซล ที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก และไม่หันหน้าไปทางทิศใต้ เนื่องจากถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นพระราชวังฤดูร้อน ภายในพระราชวังมีอาคารสถานที่สำคัญหลายแห่ง อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ และสวนพฤษศาสตร์อีกด้วย
จากพระราชวังเก่าแก่มุ่งหน้าไปยัง “ทงแดมุนดีไซน์พลาซา” (Dongdaemun Design Plaza) หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโซล ที่นี่เป็นจุดศูนย์กลางของแฟชั่น มีทั้งห้องนิทรรศการ พิพิธภัณฑ์ ร้านขายของ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และพื้นที่จัดแสดงระดับโลก มีมุมเจ๋งๆ ให้ถ่ายรูปเพียบ โดยเฉพาะทุ่งดอกไม้เรืองแสงสุดตระการตา
อีกหนึ่งจุดถ่ายรูปห้ามพลาด จากทงแดมุนดีไซน์พลาซา นั่งรถไฟใต้ดินเพียง 15 นาที ไปยัง “หมู่บ้านอิฮวา” (Ihwa Mural Village) ย่านที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงโซล ถูกแต่งแต้มให้มีชีวิตชีวา ด้วยผลงานสตรีทอาร์ทจากศิลปิน 70 คน ที่สร้างสรรงานศิลปะเพิ่มสีสันให้กับพื้นที่ จนกลายเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่องเลยทีเดียว
จุดปักหมุดสุดท้ายก่อนอำลากรุงโซล ด้วยการไปชมหนึ่งในแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของเกาหลีใต้ “ศาลเจ้าจงเมียว” (Jongmyo Shrine) ศาลเจ้าในลัทธิขงจื๊อที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ราชวงศ์โชซอนทั้ง 27 พระองค์ ซึ่งในวันอาทิตย์แรกของเดือนพฤษภาคมจะมีการจัดพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณบรรพกษัตริย์กันที่นี่ โดยมีการแสดงดนตรี ร้องเพลง และเต้นรำเหมือนกับในอดีตเมื่อ 500 ปีที่ผ่านมา
กรุงโซลยังมีจุดเช็กอินที่สนใจให้สำรวจอีกเพียบ ใครอยากเที่ยวแบบไม่ตกหล่น เก็บครบทุกที่เที่ยวเด่น หาวันว่าง ลางาน แล้วจองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวโซลกันให้หนำใจกันไปเลย แล้วเปิดเข้าแอพ Traveloka ไลฟ์สไตล์ซูเปอร์แอป ไปจองโปรดักส์ต่างๆ พร้อมแพลนเที่ยวทริปเกาหลีก่อนจะไปเที่ยวกัน