เผลอแป๊บเดียวก็เริ่มเข้าสู่ช่วงกลางปีแล้ว เวลาเดินไวเกินไปจนเราตามแทบไม่ทัน ไม่ว่าเวลาจะหมุนไปเร็วสักแค่ไหนสิ่งที่ยังเหมือนเดิมคือ ความงานเยอะนั่นเองกองสุมรุมเร้าตั้งแต่ต้นปี ตามวิถีมนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็อยากหาวันลาไปรีแล็กซ์ อยากพักต้องได้พักไม่ต้องคิดมากหลายตลบ ต้องทริปนี้เลย One Day trip ระยอง ไม่ต้องลางานก็พักผ่อนได้ มาดูกันเลยว่ามีที่ไหนให้ไปปล่อยใจ สูดอากาศบริสุทธิ์ ละลายความเครียดในสมองกันบ้าง
เราขอเดินทางเช้าหน่อยด้วยการออกจากรุงเทพฯ ประมาณ 7 จะได้ไม่ต้องเผชิญกับการจราจรคับคั่งช่วงสายๆ ขับรถสบาย ๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาก็ทานอาหารเช้ารองท้องก่อนออกจากบ้าน หรือใครสะดวกจะแวะซื้อแซนวิช หรือเบอร์เกอร์ที่ร้านสะดวกซื้อข้างทางก็ได้ตามอัธยาศัย การเดินทางใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เริ่มจากเส้นทางหลวงหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) จนถึงทางแยกออกอำเภอบ้านบึง – แกลง ก็เบี่ยงซ้ายออกมาทางบ้านบึง วิ่งตามเส้นสุขุมวิทเรื่อยมาจนถึงสี่แยกประแส ก็จะเจอป้ายบอกทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 3162 วิ่งเรื่อยมาจนถึงวัดตะเคียนงาม โดยที่แรกสำหรับการเดินทางครั้งนี้ คือ ทุ่งโปร่งทอง ช่วงเวลาที่มาถึงที่หมายคือประมาณ 10 โมง ถือเป็นช่วงที่กำลังดีเพราะแดดไม่แรงมาก
ทุ่งโปร่งทอง อีกหนึ่งที่เที่ยวยอดนิยมในช่วงนี้ของขาเที่ยวทั้งหลายสำหรับทริปสั้น ๆ แบบเช้าไปเย็นกลับ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ริมป่าชายเลนเลียบหาดทะเลประแส ตั้งอยู่ในเขตชุมชนบ้านแสมภู่ ปากน้ำประแส อำเภอแกลง เป็นพื้นที่สีเขียวซึ่งเป็นป่าชายเลนผืนใหญ่ที่สุดในจังหวัดระยอง กินพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ระยะทางเส้นทางศึกษาธรรมชาติยาว 2.5 กิโลเมตร ซึ่งเต็มไปด้วยต้นโปรงที่ขึ้นเรียงรายนับหมื่นต้น เชื่อมต่อกับป่าโกงกางสูงใหญ่คลุมทางเดินเหมือนเป็นอุโมงค์ป่าโกงการให้ได้เที่ยวชมสัมผัสธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อม ๆ ไปกับการมองทุ่งโปร่งทองสีเหลืองทอง แบบ 360 องศากว้างไกลสุดสายตา ให้ได้พักคลายความล้าของสายตาไปในตัว นอกจากเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติแล้ว ยังมีบริการนั่งเรือเที่ยวทุ่งโปร่งทอง – ปากน้ำประแส ไว้บริการ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่อยากเดินเยอะให้ปวดขาอีกด้วย
ข้ามมาอีกฝั่งของทุ่งโปร่งทอง เป็นที่ตั้งของ อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส เรือหลวงที่ได้ร่วมรบกับกองเรือสหประชาชาติในสงครามเกาหลี ภายหลังปลดประจำการเรือหลวงลำนี้ ถูกนำมาจัดแสดงไว้ริมชายหาด ให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสง่างาม พร้อมทั้งได้ปรับปรุงทัศนีย์ภาพรอบบริเวณให้เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจริมทะเล เรียกว่ามาที่เดียวได้ทั้งพักตา พักใจ พักหัว โดยสัมผัสธรรมชาติสีเขียวของแมกไม้นานาพันธ์ สูดอากาศแสนบริสุทธิ์ และพักหูไปพร้อม ๆ กันกับการฟังเสียงลม เสียงคลื่นกระทบหาดริมชายทะเล หลังจากใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงอยู่กับธรรมชาติเพลินจนแทบลืมเวลา และลืมหิวไปเลย ก็ออกมาหาร้านอาหารทานมื้อเที่ยงระหว่างการเดินทางจากทุ่งโปร่งทอง สู่จุดหมายปลายทางแห่งต่อไป โดยขับรถข้ามสะพานประแสสิน ชมวิวปากน้ำประแสตลอด 2 ข้างทาง กินระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ตามถนนบูรพาชลทิศ (หรือถนนชล-จันท์) ข้ามมายังอีกฝั่งของแม่น้ำ ที่จุดชมวิวแหลมสน เป็นอีกหนึ่งที่พักชมวิวสะพานประแสสิน ก่อนจะอำลามุ่งหน้าสู่ที่หมายต่อไปของเรา
ทริปนี้ไม่ได้โฟกัสที่เรื่องปากท้องมากนัก เพราะเป็นทริปสั้นๆ ที่อยากมาพักผ่อนให้เต็มที่สุดๆ แต่หากใครอยากพักผ่อนทั้งตัว และท้องด้วยแล้ว ก็แนะนำร้านอาหารบ้านสุดสาคร อยู่ติดกับสะพานประแสสิน นอกจากรสชาติอาหารจะอร่อยถูกปากแล้ว สไตล์การตกแต่งร้านก็เก๋ไก๋ทันสมัยแบบลอฟท์ๆ โดนใจวัยรุ่น แถมยังมีเปลยื่นออกไปเหนือน้ำ ให้ได้ผึ่งพุงนอนชมวิวแม่น้ำ และสะพานประแสสินหลังทานอาหารเสร็จอีกด้วย
มาต่อกันที่จุดหมายปลายทางแห่งสุดท้ายของการพักผ่อนคราวนี้ คือ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า ตั้งอยู่ที่ถนนหาดแม่รำพึงทางเดียวกับท่าเรือบ้านเพที่จะต่อเรือข้ามไปเกาะเสม็ดนั่นเอง เขาแหลมหญ้าเป็นจุดชิมวิวมุมสูงบนชายฝั่งระยองที่อยู่ใกล้เกาะเสม็ดมากที่สุด เรียกได้ว่าไม่ได้ไปเกาะเสม็ด แค่ได้มองอยู่ใกล้ ๆ ก็ยังดีสินะ ที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าจะที่ที่เที่ยวอยู่ 2 จุดใหญ่ ๆ ที่แรกคือท่าเรือเขาแหลมหญ้า เป็นท่าเรือที่ยื่นออกไปในทะเล ให้ได้เดินไปสัมผัสกลิ่นไอทะเล และเสียงคลื่นรอบตัวตรงกลางทะเลแบบไม่ต้องเปียก
ส่วนที่ๆ 2 คือจุดชมวิวเขาแหลมหญ้า ซึ่งเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติลัดเลาะเลียบเคียงไปตามชายหาด ระยะไม่ไกลเพียง 400 เมตร แต่มีช่วงสั้น ๆ ที่เป็นทางขึ้นเขาซึ่งค่อนข้างชัน พอให้ได้ทดสอบสมรรถนะและความพยายามของร่างกาย จนไปสิ้นสุดที่จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินของเขาแหลมหญ้าโดยมีทิวทัศน์ของเกาะเสม็ดเป็นฉากหลังไปพร้อม ๆ กัน จบทริปนี้แบบฟิน ๆ ด้วยภาพเกาะกลางทะเล รายล้อมด้วยน้ำทะเลสีฟ้าคราม ตัดกับสีฟ้าสดใสของท้องฟ้าของเกาะเสม็ด จากโขดหินที่ถูกน้ำทะเลซัดสาด ในยามเย็นที่แสงแดดรำไร
ส่วนใครที่ยังพอมีเวลาว่างช่วงวันหยุด งานไม่ยุ่งมาก หรือยังพอหาเวลาลางานได้ จะตามรอยทริปนี้แต่ขอเสพธรรมชาติทิ้งร่าง พักสมอง สองตา และพักใจให้นานกว่านี้ จะได้ชาร์จแบตจนฟินเต็มพิกัด ก็เล่นบรรยายภาพจบทริปมาแบบนี้ เป็นใครก็ต้องของอยู่ต่อกันเลยได้ไหม เพียงแค่คลิ๊กแล้ว จองที่พักกับ Traveloka ที่พักในระยองก็จะเรียงรายขึ้นมาให้คุณเลือกโดยแสดงราคาแบบท้ายสุดไม่มีบวกเพิ่มทีหลังก่อนจ่ายเงินให้อารมณ์เสีย และที่พักของเรา ทริปนี้ที่ Centara Q Resort ระยอง ก็น่าสนใจไม่น้อย
Centara Q Resort ระยอง
ที่พักระยองดีไซน์สุดเก๋ บนทำเลแสนดีอิงแอบหาดทราย แนบชิดติดทะเล ในบรรยากาศสงบไม่พลุกพล่าน ตั้งอยู่ที่อ่าวไข่ ไม่ไกลจากแหลมพิมพ์ และตัวเมืองระยอง โดยได้รับการออกแบบอย่างดีที่สุดให้ห้องพักทุกห้องวางเรียงสลับกันในแนวขนานชายหาด สามารถเห็นวิวทะเลได้จากระเบียงห้องพักทุกห้อง มาพร้อมกับสระว่าน้ำริมชายหาด และการันตรีเรื่องความสะดวกสบายครบครันด้วยแบรนด์เซ็นทารา
ดูที่พักระยองเพิ่มเติม กดตรงนี้ >> https://www.traveloka.com/th-th/explore/destination/10-hotel-near-beaches-in-rayong/51328
รับรองได้ว่าจบทริประยองวันเดย์ทริปนี้แล้ว สมองปลอดโปร่ง ชาร์ตร่างกายได้เต็มพลัง พร้อมกลับไปเริ่มงานใหม่แบบสดใสกระปรี้กระเปร่าแน่นอน