หากคุณอยากเที่ยวเมืองที่ติดชายฝั่งทะเล แต่ไม่ชอบความวุ่นวาย เชื่อเลยว่า “ระยอง” ต้องเป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายปลายทางหลักอย่างแน่นอน เพราะหลักๆ เลยระยองขึ้นชื่อเรื่องทะเลที่สวย และเงียบสงบ อีกทั้งยังมีที่เที่ยวชื่อดังอย่าง เกาะเสม็ด ที่ใครๆ ก็ต่างชื่นชอบ ที่สำคัญคือระยองอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ มาก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น มีวันหยุดแค่เสาร์-อาทิตย์ ก็ไปเที่ยวได้แน่นอน ซึ่งนอกจากที่เที่ยวทางทะเลแล้ว ที่ระยองเองก็ยังที่เที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่จำเป็นว่าใครที่ไปเที่ยวระยองแล้วต้องไปเที่ยวทะเลแค่อย่างเดียว ทางเราก็ได้คัด 10 ที่เที่ยวระยองที่ไม่ได้มีแค่ทะเลมาฝากกัน
จุดเด่นของเมืองระยองที่หลายๆ คนฟินกันไปถ้วนหน้า ก็คือจะมีสวนผลไม้ที่จะเปิดให้คนทั่วไป สามารถเข้าไปกินผลไม้ได้แบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งหลักๆ แล้วผลไม้ที่ได้รับความนิยมก็คือทุเรียน และมังคุด ที่ถ้าหากไปซื้อแบบขายปลีก รับรองว่าราคาแพง และการกินบุฟเฟ่ต์นี้ย่อมคุ้มค่ามากกว่าแน่นอน แนะนำสำหรับคนที่สนใจไปกินบุฟเฟ่ตผลไม้ที่สวนผลไม้ ให้ไปในช่วงเมษายน - กรกฎาคมของทุกปี
ขอบคุณรูปภาพจาก: https://www.facebook.com/PrasaeOldVillage/
นอกจากระยองจะมีส่วนที่ติดกับชายฝั่งทะเลแล้ว ยังมีหมู่บ้านริมน้ำที่ติดกับปากน้ำประแสร์อีกด้วย ซึ่งผืนน้ำในบริเวณนั้นจะเป็นที่ๆ น้ำทะเล และน้ำจืดมารวมกัน โดยไฮไลท์ก็คือชุมชนเก่าที่อยู่ติดกับแม่น้ำประแสร เป็นชุมชนเก่าริมน้ำ ที่ยังคงสถาปัตยกรรมบ้านไม้แบบดั้งเดิม และเป็นชุมชนที่ยังคงมีผู้คนอาศัยอยู่จริงๆ ซึ่งบ้านบางหลังก็เป็นครอบครัวเก่าแก่ที่อยู่มาตั้งแต่รุ่นปู่ยาตายาย จนถึงปัจจุบันนี้ ภายในตลาดจะมีของขายมากมาย ทั้งของกิน ของฝาก ของที่ระลึก
ที่ตั้ง: Maps
ใกล้กับชุมชนปากน้ำประแสร มีที่เที่ยว Unseen ของเมืองระยองอีกหนึ่งที่ๆ เราอยากจะนำเสนอ นั่นก็คือ “ทุ่งโปรงทอง” ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นป่าชายเลน ที่อยู่ริมปากน้ำประแสร เรียงรายไปด้วยต้นโปรงทองที่มีอยู่มากมายเป็นนับหมื่นนับพันต้น จนดูไกลๆ แล้วเหมือนบริเวณนั้นทั้งบริเวณเป็นทุ่งต้นโปรงทองที่มีสีเขียวขจีสวยงาม ยิ่งช่วงที่แสงพระอาทิตย์สีทองได้สาดแสงโดนต้นโปรงทองทั้งหลาย ก็ยิ่งเกิดเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก
ที่ตั้ง: Maps
เวลาเปิดปิด: 06.00 - 18.00 น. เปิดให้เข้าชมทุกวัน และเปิดทุกฤดู
ถัดจากทุ่งโปรงทองไปไม่ไกลก็มีอีกหนึ่งจุดหมายปลายทาง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก นั่นก็คือ “พระเจดีย์กลางน้ำ” เป็นพระสมุทรเจดีย์สีขาวทรงระฆังคว่ำที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำ รายล้อมไปด้วยป่าชายเลนมากมาย เกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามยิ่ง โดยในทุกๆ ปีจะมีงานประเพณีงานห่มผ้าเจดีย์กลางน้ำ ขึ้นในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง และมีการจัดงานลอยกระทงประจำปี
ที่ตั้ง: Maps
เมื่อพูดถึงจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของระยอง ก็คงต้องยกให้กับ “สะพานประแสสิน” สะพานที่อยู่บริเวณปากน้ำประแสร ที่สามารถมองเห็นผืนน้ำทั้ง 2 ฝั่ง ก็คือฝั่งที่เป็นทะเล และฝั่งประแสร์ สะพานแห่งนี้จะมีความยาวทั้งสิ้นมากถึง 2 กิโลเมตรด้วยกัน เป็นสะพานที่สามารถปั่นจักรยาน หรือเดินขึ้นไปชมวิวสวยๆ ของเมืองระยองบริเวณประแสร์ได้ คนส่วนใหญ่นิยมมาเฝ้ารอช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดิน
ที่ตั้ง: Maps
แลนด์มาร์คสำคัญอีกจุดหนึ่งของย่านประแสร์ก็คือ “เรือรบหลวงประแส” ที่แต่เดิมเคยเป็นเรือรบที่ลาดตระเวณไปทั่วฝั่งอ่าวไทย แต่ได้ปลดประจำการมาตั้งนานแล้ว และได้กลายเป็นอนุสรณ์แห่งใหม่ของประแส รวมถึงเป็นแลนด์มาร์ค และจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของชาวประแสในทุกวันนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งคนที่มาเที่ยวยังเรือรบลำนี้สามารถเดินไปด้านบนเรือได้ ก็จะเห็นรายละเอียดของตัวเรืออย่างใกล้ชิด รวมถึงวิวสวยๆ ที่มองเห็นได้จากด้านบนด้วยเช่นกัน
ที่ตั้ง: Maps
รีสอร์ทสวยๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ภายในตัวเมืองระยอง บนถนนทางหลวงหมายเลข 3139 ใกล้กับตลาดตะพง และหาดแม่รำพึง ภายในรีสอร์ทแห่งนี้จะมีหลายส่วน และมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก เป็นทั้งที่ตั้งของรีสอร์ท ที่พัก และเป็นที่ตั้งของสตอร์วเบอร์รี่ทาวน์ ซึ่งถ้าหากใครอยากจะเที่ยวแต่สตอรว์เบอร์รี่ทาวน์ ก็สามารถเสียค่าเข้าผ่านประตูแค่ 60 บาทเท่านั้น ภายในรีสอร์ทแห่งนี้จะโดดเด่นจากที่อื่น ตรงที่มีการสร้างตัวอาคารให้มีกลิ่นอายของความเป็นยุโรป ถ่ายรูปออกมาเหมือนอยู่ในเมืองนอก
ส่วนใครที่สนใจอยากจะพักที่ “Brookside Valley Resort” ก็สามารถจองได้ง่ายๆ กับ Traveloka ที่รับรองเลยว่านอกจากจะจองง่าย ยังได้ราคาดีมาก ไม่ต้องมีบัตรเครดิตก็จองได้เลย
ใครกำลังมองหาที่เที่ยวภายในตัวเมืองระยองที่มีความคลาสสิก จะถ่ายรูปตรงไหนก็ได้ฟีลย้อนยุค แนะนำให้มาเดินเล่นที่ถนนยมจินดา ที่คงความคลาสสิกด้วยการเป็นถนนสายแรกของเมืองระยอง ตั้งอยู่เลียบกับแม่น้ำระยอง ทำให้แหล่งถนนยมจินดานี้ กลายเป็นแหล่งการค้าแห่งแรกของฝั่งตะวันออก แต่ถึงแม้ว่าแหล่งการค้ายมจินดาจะได้รับความนิยมน้อยลงตามกาลเวลา ที่ย่อมมีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาเสมอ แต่ทางระยองเองก็หวังจะอนุรักษ์ และหวังจะฟื้นฟูย่านนี้ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ที่ตั้ง: Maps
ขอเอาใจนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ขอให้มา “อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง” เพราะอุทยานแห่งนี้เต็มไปด้วยความงามของธรรมชาติ และมีพื้นที่ครอบคลุมค่อนข้างกว้าง ครอบคลุมทั้งพื้นที่ของเขาชะเมา ที่อยู่ในจังหวัดระยอง และอำเภอแก่งหางแมว ในจังหวัดจันทบุรี ภายในอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง มีสภาพเป็นพื้นที่ป่าดงดิบที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ มีเส้นทางเดินศึกษา และแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นหน้าผา ถ้ำ และน้ำตก ที่สวยงาม
ที่ตั้ง: Maps
ค่าเข้า: ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 / เด็ก 20 บาท และชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 และเด็ก 100 บาท
“น้ำตกเขาชะเมา” เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดไหลลงมาจากยอดเขาชะเมา เป็นระยะทางยาวมากกว่า 3 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีหลายชั้น ซึ่งในแต่ละชั้นจะมีความงดงามเป็นอย่างมาก น้ำตกเขาชะเมามีทั้งหมด 8 ชั้นด้วยกัน อาทิ วังหนึ่ง วังมัจฉา วังมรกต วังไทรงาม ผากล้วยไม้ ช่องแคบ น้ำตกหกสาย และผาสูง โดยการเดินขึ้นไปชมน้ำตกแต่ละชั้น จะให้ฟีลเหมือนกับการเดินทาง ซึ่งคุณจะได้ศึกษาเส้นทางธรรมชาติไปในตัว และใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมงด้วยกัน
ที่ตั้ง: Maps
แนะนำว่าถ้าอยากเก็บจุดแลนด์มาร์คทั้งหมดนี้ให้ครบ ก็ให้จองที่พักระยองกับ Traveloka ที่มีให้เลือกจองมากมาย ด้วยราคาดีๆ จากนั้นก็เตรียมตัวให้พร้อม วางแผนการเที่ยวให้ดี เพราะแหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่ง อาจจะอยู่ห่างกันมาก แล้วไปลองเที่ยวระยองที่ไม่ใช่ทะเลกันดูสักทริป