Road Trip น่าน - พะเยา หนาวนี้ไปชาร์จพลังใจแบบสโลว์ไลฟ์กัน!

Thamonwan B
03 Nov 2020 - 4 min read

ลมหนาวมาแล้วจ้าาา ได้เวลาออกเที่ยวแล้ว!! หนาวๆ แบบนี้ เชื่อว่าภาคเหนือต้องเป็นพิกัดที่หลายคนเล็งเอาไว้ และสำหรับคนรักความสโลว์ไลฟ์ ไม่ชอบไปเบียดกับผู้คนมากมายในแลนด์มาร์คดังตามเมืองใหญ่ วันนี้เรามีแพลนขับรถเที่ยวน่าน - พะเยา สองเมืองเล็กสุดชิลล์มาให้เก็บไว้ตามรอยกัน เพราะนี่คือเมืองรองบรรยากาศสุดสบายที่สายเนิบเลิฟการได้อยู่ท่ามกลางอ้อมกอดธรรมชาติต้องแฮปปี้ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่าทริป 4 วัน 3 คืน ครั้งนี้ จะมีที่ไหนให้เช็คอินกันบ้าง ไปค่ะ … เริ่ม!

ทริปนี้เราเลือกจองตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka เพราะนอกจากจะมีตั๋วราคาโปรโมชั่นมาให้ไม่ขาดแล้วเนี่ย ยังมี Feature ใหม่ให้กดเทียบราคาตั๋วโปรโมชั่นของแต่ละสายการบินได้อีก! ทั้งประหยัดทั้งสะดวกแบบนี้ใครสนใจ ก่อนไปเที่ยวเชียงใหม่เราเอาวิธีใช้มาให้ดูตรงนี้แล้ว #Travelokaเทียบแล้วเที่ยวเลย

Road Trip น่าน - พะเยา 4 วัน 3 คืน

Day 1

ออกสตาร์ทวันแรกด้วยการใช้เวลาเพลินๆ ในตัวเมืองน่านกันดีกว่า บอกแล้วว่าทริปนี้มาแบบสโลว์ไลฟ์เน้นใช้เวลาให้เต็มที่ และแน่นอนว่ามาถึงน่านแล้วทั้งทีวัดภูมินทร์คือแลนด์มาร์คซึ่งต้องมา เอกลักษณ์สำคัญของวัดนี้นั้นเริ่มตั้งแต่การมีโบสถ์ทรงจตุรมุขแห่งแรกในเมืองไทย โดยมีประตูให้ขึ้นไปกราบพระได้จากทั้ง 4 ทิศ ด้านในมีพระประธาน 4 องค์ 4 ด้าน ซึ่งไม่ว่าจะเข้าประตูจากฝั่งไหนก็กราบพระได้ทั้งหมด และที่สำคัญคือจิตรกรรมฝาผนังปู่ม่าน - ย่าม่าน กับท่าโพสต์กระซิบรักบันลือโลกที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ มาถึงแล้วต้องได้เห็นเน้อ ห้ามพลาดเชียว!

จากวัดภูมินทร์ มาเช็คอินกันต่อที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ที่มีตัวอาคารเก่าแก่สวยแปลกตาซึ่งเคยเป็นคุ้มของเจ้าครองนครน่านในยุคอดีต ด้านในมีการจัดแสดงโบราณวัตถุอยู่หลายชิ้น แต่ไฮไลท์ต้องยกให้กับงาช้างดำซึ่งถือเป็นวัตถุโบราณคู่เมืองน่านมาตั้งแต่สมัยก่อน เดินดูด้านในเสร็จก็อย่าพลาดอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ถ้าไม่ได้เห็นก็เหมือนมาไม่ถึง กับซุ้มต้นลีลาวดีที่เรียงกันเป็นแถวยาวสองฝั่ง ตรงกลางเป็นทางเดินอิฐสวย ที่บอกเลยว่าใครมาก็ต้องแวะไปโพสต์ท่าถ่ายรูปเช็คอินกัน รับรองว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มาแล้วได้รูปโปรไฟล์กลับไปเพียบแน่นอน

เดินดูพิพิธภัณฑ์กันแบบชิลล์ๆ สบายๆ แล้ว อีกพิกัดที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงเมืองน่าน ก็คือการไปกราบนมัสการองค์พระธาตุแช่แห้ง วัดเก่าแก่ที่สันนิษฐานกันว่าอยู่คู่เมืองน่านมายาวๆ กว่า 600 ปี ด้านในขององค์เจดีย์สีทองอร่าม มีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจากเมืองสุโขทัยในสมัยก่อน วัดนี้สร้างขึ้นในรูปแบบของช่างฝีมือเมืองน่านแบบดั้งเดิม งดงามตั้งแต่ด้านนอกถึงด้านใน มาเดินเล่นก็ได้ มาไหว้พระก็ดี เดินดูความสวยให้ครบทุกมุมนะ รับรองว่าเพลิน

Day 2

ไฮไลท์นึงเมื่อมาถึงเมืองน่านก็คือการแวะมาเช็คอินที่อำเภอปัว อำเภอสุดชิลล์ที่เต็มไปด้วยทิวทัศน์ของทุ่งนากว้าง ภูเขา และวัฒนธรรมเรียบง่ายของชาวไทลื้อ ใครชอบผ้าทอมือนี่คือพิกัดสุดแฮปปี้ แล้วที่นี่ก็ไม่ได้มีแต่บรรยากาศเนิบช้าต๊ะต่อนยอนเท่านั้นเน้อ ถ้าอยากได้วิวสวยที่มาพร้อมความแอดเวนเจอร์ เจอกันได้ที่วังศิลาแลงจ้า วิวสวยของผาหินที่มีร่องน้ำไหลผ่าน แต่ต้องใช้การป่ายปีนนิดๆ หน่อยๆ เพื่อลงไปดูกันใกล้ๆ ให้ฟีลสนุกใช้ได้เลยเชียวละ

พักเหนื่อยจากการเดินชมวังศิลาแลง ด้วยการไปแวะนั่งชิลล์จิบกาแฟในฟีลสโลว์ไลฟ์กันที่ร้านกาแฟบ้านไทลื้อซักหน่อยละกันนะ เพราะนี่คืออีกหนึ่งพิกัดซิกเนเจอร์ที่ต้องแวะเมื่อมาถึงปัว ถ้ามาฤดูฝนก็จะได้นั่งชิลล์ดูวิวสวยของทุ่งนาที่ล้อมรอบ ส่วนหน้าหนาวก็จะฟินไปอีกแบบด้วยอากาศเย็นสบาย จะเดินเล่นดูวิวบนสะพานไม้ไผ่ หรือจะนั่งเม้าท์มอยพักผ่อนกันในซุ้มไม้ไผ่เรียบง่ายที่มีไว้ให้บริการแบบเป็นส่วนตัวก็ฟินได้หมดนะ ลมเย็นๆ กาแฟหอมๆ อุ่น ละมุนมากกกก พูดเลย

เพราะปัวคืออำเภอสวยที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสีเขียวสบายตา มาแล้วทั้งทีก็อยากให้มีโอกาสขับรถเที่ยวกันให้ทั่วๆ ไปเลยนะ ในปัวนั้นมีแลนด์มาร์คส่วนใหญ่เป็นวัดโบราณในสไตล์ล้านนาที่ให้บรรยากาศสุดสงบ ร่มรื่น และร่มเย็น ไม่ว่าจะเป็นวัดร้องแง วัดพระธาตุเบ็งสกัด หรือว่าแหล่งเช็คอินหลักอย่างวัดภูเก็ตที่มีจุดชมวิวมุมสูงสวยๆ แนะนำเลยว่าถ้าอากาศเย็นๆ เปิดกระจกรับลมสดชื่นระหว่างขับรถไปด้วยจะฟินมาก ลองดู

จะฟินกับความสโลว์ไลฟ์ในอำเภอปัวให้เต็มพิกัด แนะนำให้จัดทริปนอนโฮมสเตย์ที่นี่กันซักคืน เพราะเราจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดชิลล์ในยามเย็นพร้อมสูดอากาศสดชื่นให้เต็มปอด ได้กินเมนูท้องถิ่นจากเจ้าบ้านใจดี ได้มีโอกาสนอนฟังเสียงธรรมชาติสุดสงบ หรือจะออกมานั่งดูดาวรับลมหนาวตอนค่ำๆ ด้วยก็ยังได้ ไม่รู้ว่าใครจะว่ายังไง แต่เราให้สิบเต็มไม่หัก พูดเลย!

Day 3

จากอำเภอปัว เราปักหมุดมุ่งหน้าขับรถต่อไปยังภูลังกา ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอปง จังหวัดพะเยา แลนด์มาร์คที่สวยแปลกตาด้วยภูเขาหินปูนเล็กใหญ่ที่ผุดขึ้นมาท่ามกลางพื้นที่ทุ่งนากว้าง ซึ่งบางวันถ้าอากาศเป็นใจ เราสามารถดูวิวทะเลหมอกในยามเช้าแบบสวยสุดๆ ของที่นี่ได้ด้วยนะ หรือถ้าใครชอบเดินป่าขึ้นเขาชมวิวจากมุมสูง ก็สามารถเหมารถโฟว์วีลของชาวบ้านในแถบนี้ให้ขึ้นไปส่งได้ จากจุดลงรถ เดินต่อไปอีกไม่ถึงกิโลก็จะถึงยอดภูลังกาที่มีความสูงประมาณ 1,720 เมตรได้แล้วเด้อ ขึ้นภูแล้วกลับมาหาโฮมสเตย์ชิลล์ๆ ไว้นอนดูดาวเต็มฟ้า สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดกันซักคืน แล้วตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมทะเลหมอกสวยๆ ให้เต็มตา รับรองว่ายังไงก็ฟิน!

มาภูลังกาทั้งที หนึ่งในแหล่งเช็คอินที่เรียกว่าต้องแวะก็คือร้านกาแฟ Magic Mountain ซึ่งเป็นร้านยอดฮิตที่มาพร้อมกับวิวหลักล้านอย่างแท้ทรู ที่นี่เป็นร้านกาแฟโอเพ่นแอร์สุดน่ารักที่สร้างด้วยไม้แบบเรียบง่าย ไฮไลท์อยู่ที่ระเบียงไม้ซึ่งเราสามารถใช้นั่งจิบกาแฟพร้อมชมวิวทะเลหมอกตรงหน้าแบบพาโนรามา จะจิบกาแฟหอมๆ ซักแก้วแบบเบาๆ หรือจะกินอาหารเช้าแบบเอาอิ่มเลยก็ได้นะ ใช้เวลาเสพความสวยกันให้เต็มที่ บอกตรงนี้เลยว่าแฮปปี้เว่อร์!

Day 4

ส่งท้ายทริปขับรถเที่ยวน่าน - พะเยาของเรากันแบบสบายๆ ด้วยการเลาะชมไฮไลท์ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตตัวเมืองนั่นละ พะเยาเป็นเมืองน่ารักที่ยังคงมีจังหวะต๊ะต่อนยอนให้ได้สัมผัสกัน เพราะด้วยความเป็นเมืองรองที่หลายคนมองข้าม เลยทำให้ที่นี่มีข้อดีตรงความไม่แออัดวุ่นวายเที่ยวได้แบบเพลินๆ ช่วงเช้าๆ อากาศดีๆ เราขอชวนให้ไปชมวิวสวยเดินเล่นรับลมหนาวกันที่กว๊านพะเยา ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือ วิวสวยของบึงน้ำกว้างสุดสายตา อากาศเย็นสบาย จะไปเดินชมวิวก็ได้ ไปวิ่งออกกำลังกายหรือปั่นจักรยานเล่นก็เพลินมาก อย่าพลาดเชียว

ขับรถออกมาจากตัวเมืองชั่วโมงหน่อยๆ เราก็จะได้มาเช็คอินที่อุทยานแห่งชาติภูซาง ซึ่งอยู่ในบริเวณรอยต่อของจังหวัดพะเยาและเชียงราย แล้วยังมีบางส่วนอยู่ติดกับชายแดนของประเทศลาวอีกด้วยนะ บอกเลยว่าใครเป็นสายธรรมชาติรักป่า รักน้ำ รักภูเขา ต้องห้ามพลาด เพราะที่นี่มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ รวมถึงยังมีถ้ำให้สายผจญภัยได้เข้าไปชมกันเพียบ แต่อาจจะต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางไปเพื่อความปลอดภัย ป่าผืนนี้ยังเป็นที่อยู่ของเต่าปูลูซึ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ชนิดหนึ่งของเมืองไทยอีกด้วยนะ และที่พลาดไม่ได้ก็คือน้ำตกภูซาง ซึ่งมีความพิเศษอยู่ตรงที่การเป็นน้ำตกอุ่นๆ ที่มีอุณหภูมิประมาณ 33 - 35 องศาเซลเซียส ไปช่วงอากาศเย็นๆ นะ นอนแช่น้ำตกอุ่นๆ คือฟินมากกก พูดเลย!

รูปจาก https://www.museumthailand.com/th/1731/storytelling/พระธาตุจอมทอง/

สำหรับสายบุญที่มาเยือนเมืองพะเยาทั้งที สิ่งหนึ่งที่ไม่อยากให้พลาดก็คือการแวะไปที่วัดพระธาตุจอมทอง ซึ่งเรียกว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นปูชนียสถานที่อยู่คู่เมืองพะเยามาเนิ่นนาน เชื่อกันว่าด้านในองค์เจดีย์ที่อยู่ในวัดนี้นั้น เป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุขององค์พระพุทธเจ้า พระธาตุจอมทองเป็นเจดีย์ทรงล้านนาความสูง 30 เมตรสีทองอร่าม ตัววัดตั้งอยู่ท่ามกลางวงล้อมธรรมชาติ และจากบริเวณองค์พระธาตุเรายังสามารถใช้เป็นจุดชมวิวมุมสูงของตัวเมืองพะเยาได้อีกด้วยนะ ปักหมุดเลยจ้า ที่นี่ต้องเช็คอิน

พิกัดสุดท้ายส่งท้ายเมืองพะเยาในคราวนี้ เราขอชวนให้แวะไปที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า บอกเลยว่าใครเป็นคนรักไม้ดอกไม้ใบนะ มาที่นี่คือเพลิน เพราะมีความสวยหลากสีสันของดอกไม้ และมีพืชผักหลากหลายชนิดให้เราได้เข้าไปชมกันถึงแปลงปลูก ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่คือผักและผลไม้เมืองหนาว นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดของบรรดาชาวไทยภูเขาที่อยู่ในโครงการมาวางขายให้เราได้แวะช้อปติดมือกลับบ้านกันไปด้วยน้า หรือจะแวะกินอาหารซึ่งใช้วัตถุดิบเป็นผลผลิตจากโครงการหลวงก่อนกลับซักมื้อก็ยังได้ ทั้งชิลล์ ชิม ช้อป สบายๆ ครบจบแบบ one stop service กันไปเลยจ้า

สำหรับคนที่มองหาเส้นทางขับรถเที่ยวชิลล์ๆ แบบที่จะได้เต็มอิ่มกับธรรมชาติกันแบบฟินสุดๆ นะ เชื่อว่าเส้นทางน่าน - พะเยา จะต้องทำให้คุณแฮปปี้ เพราะนี่คือสองเมืองเล็กที่อากาศเย็นสบาย ธรรมชาติสวยบริสุทธิ์ แถมยังสโลว์ไลฟ์ไม่พลุกพล่าน หน้าหนาวมาแล้วน้า รีบปักหมุดวางแพลนกันได้เลยจ้า จะได้ออกเดินทาง มัวแต่รอไปรอมา เดี๋ยวลมหนาวหมดอดชิลล์นะจ๊ะ แล้วอย่ามาเสียดาย!

จองโรงแรม
จองตั๋วเครื่องบิน
Things to Do
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร