พาตะลุย Road Trip เที่ยวใต้ หัวหิน-ประจวบ-ชุมพร

Thamonwan B
19 Aug 2020 - 6 min read

เชื่อว่า “หัวหิน” ต้องเป็นตัวเลือกอันดับต้นของคนที่อยากขับรถไปเที่ยวไม่ไกลกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน เพราะว่าหัวหิน นั้นสามารถขับรถโดยใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แต่สำหรับทริปนี้ เราเพิ่มความพิเศษลงไปอีก เพราะว่าไม่ใช่แค่การขับรถไปเที่ยวหัวหินเท่านั้น แต่ได้เช่ารถกับ Traveloka แล้วจัด Road Trip ไปเที่ยวลงใต้ ที่เที่ยวในประจวบคีรีขันธ์ โดยเริ่มตั้งแต่ หัวหิน ขับรถเลยไปถึงประจวบ แล้วก็เอี่ยวไปเที่ยวชุมพร ที่ทริปนี้ได้ไปเยือนหลายที่เที่ยวด้วยกัน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 4 วัน แนะนำว่าหากใครที่พอมีเวลา อย่ารอช้าตามไปเที่ยวทริป หัวหิน-ประจวบฯ-ชุมพร กับเราได้เลย

ด้วยความที่ทริปนี้เรายังไม่สามารถบินไปยังหัวหินได้ ก็เลยเลือกที่จะเช่ารถหัวหิน หรือว่ารถเช่าหัวหินกับ Traveloka ข้อดีก็คือเลือกได้เลยว่าต้องการรถเช่าแบบธรรมดา หรือแบบมีคนขับ หากใครที่อยากขับรถเองก็สามารถเช่ารถไม่มีคนขับได้ ราคาก็จะถูกกว่า แต่จะไม่มีค่าน้ำมัน ทางเราก็จะต้องเติมค่าน้ำมันเอง แต่โดยรวมคือถือว่าคุ้มมาก

Day 1: หัวหิน

สำหรับทริปนี้ของเราจุดเริ่มต้นก็คือการขับรถไปหัวหิน จากกรุงเทพฯ แล้วใช้เวลาหนึ่งวันเต็มไปกับหัวหิน ก่อนพรุ่งนี้ค่อยเดินทางต่อไปยังประจวบฯ เป็นทริปที่เรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก หากใครที่อยากขับรถไปเที่ยวแค่ที่หัวหินก็สามารถนำทริปนี้ไปเป็นไอเดียได้

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน (Mrigadayavan Palace)

จุดหมายปลายทางแรกของเราวันนี้ เชื่อว่าเป็นที่เที่ยวหัวหินที่หลายคนไม่แวะ แต่แนะนำว่าหากใครมีเวลา อยากให้ลองแวะมาเที่ยวที่ “พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน” เพราะเป็นพระราชวังที่มีความงดงามมาก โดดเด่นด้วยสไตล์ไทยประยุกต์ เป็นพระราชวังที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ โดยแต่เดิมทีเป็นพระราชวังฤดูร้อนของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง มีทำเลที่ตั้งอยู่ติดริมทะเล ทำให้ความงดงามของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน นั้นเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวกันเลยทีเดียว

สำหรับไฮไลท์ของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ก็คือพระที่นั่งทั้งหมด 3 องค์นี้ ประกอบไปด้วย หมู่พระที่นั่งสดมสรเสวกามาตย์ หมู่พระที่นั่งสมุทพิมาน และหมู่พระที่นั่งพิศาลสาคร แนะนำว่าหากใครสนใจอยากไป ที่นี่จะเปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันพุธ ภายในระยะเวลา 08.30-16.00 น. ตามเวลาราชการ และต้องแต่งตัวให้สุภาพ ค่าเข้าชมจะอยู่ที่ประมาณ 30 บาทต่อท่าน

บ้านใกล้วัง (Baan Gliwang)

ขอขอบคุณรูปภาพจาก: https://www.facebook.com/baangliwang/

เมื่อขับรถเข้ามาถึงตัวเมืองหัวหิน ก็ต้องขอแวะเติมพลังให้อิ่มท้องกันด้วยเมนูของคาว และของหวานกันสักหน่อย สถานที่แห่งนี้ที่เราเลือกเลยก็คือ “บ้านใกล้วัง” แต่เดิมทีบ้านใกล้วัง นั้นมีของหวานขาย จะเน้นเป็นพวกเค้กต่างๆ ที่เด่นและเป็นไฮไลท์เลยก็คือ เค้กมะพร้าว แต่เดี๋ยวนี้มีเมนูของคาวให้สั่งด้วย จุดเด่นของร้านนี้คือไม่ใช่แค่เพียงมีรสชาติที่อร่อยอย่างเดียว ยังมีวิวสวยของทะเล ให้ได้นั่งกินเค้กไป ชมวิวไปเพลินๆ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ร้านบ้านใกล้วัง จึงคนเยอะตลอดเวลา เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินหัวหินที่ไม่อยากให้พลาด

สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล (Vana Nava Water Jungle)

ไฮไลท์ของทริปหัวหินในครั้งนี้ ที่มาเที่ยวหัวหินไม่ใช่อะไร แค่อยากจะแวะมาเล่นสวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์จังเกิ้ล ที่ชื่นชอบสวนน้ำที่นี่ เพราะว่ามีหลายโซนให้เลือก เอาจริงๆ ไม่ว่าจะมากับเพื่อน พาลูกมาเล่นน้ำ หรือว่ามากับครอบครัวก็เข้ามาได้หมด เพราะมีหลายโซนมาก ทั้งร้านอาหาร โซนนั่งชิลล์ หรือว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ เครื่องเล่นสำหรับเด็กก็คือมีเพียบ จะอยู่ในสวนน้ำทั้งวันก็ย่อมได้ หากใครที่กลัวไม่คุ้ม เพราะว่าราคาค่าเข้าคือคิดเป็นสำหรับ 1 วัน

ข้อดีอีกหนึ่งอย่างของสวนน้ำวานา นาวา คือเหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นเครื่องเล่น หรือต้องการความตื่นเต้นเร้าใจ แนะนำให้มาที่สวนน้ำวานา นาวาเลย เพราะว่ามีสไลด์เดอร์ให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งแบบเล่นกับเพื่อนสองคน เล่นคนเดียว หรือจะเล่นกับเพื่อนเป็นกลุ่มก็คือมีครบเลย ซึ่งตอนนี้ก็มีเครื่องเล่นใหม่มาให้ได้ลองกันอีกด้วย กับเล่น VR สไลด์เดอร์ ที่จะช่วยเปิดประสบการณ์เล่นสวนน้ำแบบใหม่ ที่รับรองว่าคุณต้องตื่นตาตื่นใจไปกับเครื่องเล่นภายในสวนน้ำแห่งนี้อย่างแน่นอน

บาบา บีช คลับ หัวหิน ลักชัวรี่ พูลวิลลา โฮเต็ล บาย ศรีพันวา (Baba Beach Club Hua Hin Luxury Pool Villa Hotel by Sri Panwa)

อันที่จริงที่พักในหัวหินนี้มีให้เลือกเยอะมาก แล้วแต่ความต้องการของแต่ละคน หากใครสะดวกนอนไกลทะเลหน่อย แต่ชอบแบบเป็นบ้านพักพูลวิลล่าก็มีให้เลือก หรือหากใครชอบนอนติดทะเล ซึ่งอาจจะมีราคาแพงขึ้นมาหน่อย ก็มีตอบโจทย์ จึงปฎิเสธไม่ได้เลยว่า หัวหินเป็นอันดับหนึ่งของเมืองติดทะเล เหมาะกับการมาเที่ยวพักผ่อน ทั้งกับเพื่อน หรือกับครอบครัว หัวหินก็ยังครองใจใครหลายคนอย่างไม่เสื่อมคลาย

แต่สำหรับทริปนี้ เราอยากได้ห้องพักที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้จากห้องพัก อีกทั้งยังอยากได้โลเคชั่นที่ติดทะเล จึงได้เลือกที่พัก บาบา บีช คลับ หัวหิน เป็นที่พักหัวหินที่ถึงแม้จะสร้างมาได้ไม่นาน แต่ก็มีความโด่งดังมาก เพราะว่าเป็นเครือเดียวกับศรีพันวา ที่ภูเก็ตนั่นเอง ความโดดเด่นก็คือทุกห้องพักจะสามารถมองเห็นวิวทะเล และมีสระว่ายน้ำอยู่บริเวณริมระเบียง ซึ่งทำให้เรารู้สึกแตกต่างจากที่พักหัวหินทั่วไป ให้ฟีลเหมือนมานอนที่เกาะ หรืออยู่ในโรงแรมที่ตั้งอยู่บริเวณริมเขา สามารถมองเห็นทะเลได้ แม้นอนอยู่บนเตียง ใครไปเที่ยวกับครอบครัวแนะนำให้จองเป็นแบบวิลล่าไปเลย รับรองว่าฟิน ทั้งวิวสวย ทำเลดี และอาหารเช้าสุดอลังการ

ตลาดซิเคด้า มาร์เก็ต (Cicada Market)

หรือว่าตลาดจั๊กจั่น เป็นตลาดนัดหัวหินที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน คลาคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ เป็นตลาดนัดที่หลายคนอาจจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว เพราะเป็นแหล่งเช็คอินหลักของหัวหินเลยก็ว่าได้ ซึ่งใครที่อยากมาเที่ยว เดินเล่นซื้อของที่ตลาดซิเคด้านี้ ก็ให้เลือกวันให้ดี เพราะเปิดแค่ช่วงสุดสัปดาห์ ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์เพียงเท่านั้น คนจะเริ่มมาขายของประมาณหลัง 5 โมงเป็นต้นไป จนถึงประมาณ 4-5 ทุ่ม บอกเลยว่าของกินเพียบ นอกเหนือจากของกินแล้วนั้น ยังมีพวกสิ่งของงานแฮนด์เมด หรือว่างานศิลปะให้เลือกซื้อเพียบ

Day 2: ประจวบฯ

หลังจากที่แวะเที่ยวภายในหัวหิน แล้วก็เริ่มจะขับรถลงไปยังประจวบฯ ซึ่งที่ประจวบนี้ก็มีที่เที่ยวประจวบฯ สวยงามเยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นที่เที่ยวซึ่งเน้นแนวธรรมชาติซะมากกว่า แนะนำหากใครที่ชอบเที่ยวเชิงธรรมชาติ ให้ลองขับรถเลยมาเที่ยวบริเวณแถวประจวบฯ ดู รับรองว่าได้รูปสวยๆ กลับไปเพียบ

Let's Relax Spa หัวหิน

หลังจากที่กินข้าวเช้าที่โรงแรมเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ก็ได้เวลามานวดสปาที่จองไว้ ซึ่ง “Let's Relax Spa หัวหิน” ก็มีให้เลือกหลายสาขาด้วยกัน แต่สาขาที่เราเลือกนี้นั้น เป็นสาขาที่อยู่ในห้าง The Market Village แนะนำให้โทรไปจองไว้ก่อนล่วงหน้า สำหรับโปรแกรมที่เลือกให้รอบนี้ ก็คือนวดไทย เพราะว่าเนื่องจากการทำงานหนัก นั่งท่าเดิมมาเป็นเวลานาน หรือว่าเวลาที่จดจ่ออยู่กับหน้าคอม โปรแกรมนวดไทยจะช่วยคลายกล้ามเนื้อได้ดีมาก ที่สำคัญคือสามารถเลือกจุดนวด ที่ต้องการให้พนักงานนวดเน้นย้ำ หรือว่าเป็นบริเวณที่ปวดเมื่อยบ่อยๆ ได้ ที่สำคัญคือที่ Let's Relax Spa หัวหิน มีทั้งโปรแกรมนวดที่เน้นคืนสมดุลให้กับร่างกาย การทำบอดี้สครับ และนวดแบบใช้น้ำมันอโรม่า ก็มีให้เลือกครบ และค่อนข้างครอบคลุม

วนอุทยาน ปราณบุรี (Pranburi Forest)

ขับออกจากหัวหินมาไม่ไกลมากนัก ก็มาแวะกันที่จุดหมายปลายทางที่สอง นั่นก็คือ “วนอุทยาน ปราณบุรี (Pran Buri Forest)” เป็นวนอุทยานธรรมชาติ ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอปราณบุรี ถัดจากหัวหินมาไม่ไกลมาก หนึ่งในที่เที่ยวปราณบุรีที่เราเล็งไว้ก็นานมาก แต่ยังไม่ได้มีโอกาสได้มาเที่ยวสักที วันนี้ไหนก็ผ่านมาแถวนี้แล้ว ก็เลยแวะสักหน่อย ซึ่งวนอุทยานนี้ เป็นที่เที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ไฮไลท์จะอยู่ที่การเดินชมระบบนิเวศของป่าชายเลน ห้อมล้อมไปด้วยสีเขียว มีระยะทางการเดินชมธรรมชาติมากกว่า 1 กิโลเมตรด้วยกัน

เหมาะกับเป็นที่เที่ยวปราณบุรี ที่ให้ทั้งความรู้ และสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณป่าชายเลน เดินดูธรรมชาติสองข้างทาง หรือหากใครที่อยากทำกิจกรรม ก็สามารถมาล่องเรือได้ที่บริเวณนี้ แนะนำใครที่มาเที่ยววนอุทยานปราณบุรี ให้ขึ้นไปชมวิวสวยบนหอคอย ที่สามารถมองลงมาแล้วจะเห็นวิววนอุทยานกันแบบ 360 กันไปเลย

เขาล้อมหมวก (Khao lom muak)

แนะนำสำหรับใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวประจวบฯ หรือว่าปราณบุรีในช่วงวันหยุด ก็ให้ลองเช็คปฎิทินที่จะเปิดให้ประชาชนทั่วไป ได้ขึ้นไปพิชิตเขาล้อมหมวกกัน ซึ่งจะเปิดแค่เป็นบางช่วง หรือทุกวันหยุดสำคัญนั่นเอง สามารถเช็คตารางปฎิทินได้ ที่นี่

โดยข้อมูลของเขาล้อมหมวกโดยคร่าว ได้อยู่ภายใต้ความดูแลของกองบินที่ 5 ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูน ซึ่งมีความสูงประมาณ 900 ฟุต ด้านบนของเขาล้อมหมวก จะมีเป็นมณฑป ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธบาทจำลอง นอกจากนั้นยังมีพระบรมสารีริกธาตุ แต่ทีเด็ดที่ทำให้ใครหลายคนอยากจะไปพิชิตเขาล้อมหมวก นั่นก็คือวิวสวยแบบพาโนราม่า ที่สามารถมองเห็นได้ทั้ง อ่าวประจวบ อ่าวน้ำ และอ่าวมะนาว นั่นเอง แนะนำว่าใครที่อยากขึ้นไปพิชิตเขาล้อมหมวก ไม่จำเป็นต้องจองคิว แค่เช็คปฎิทินที่เปิดให้ขึ้นไปยังด้านบนเขาล้อมหมวก และฟิตร่างกายให้พร้อมก็พอแล้ว

อ่าวมะนาว (Ao Ma Nao)

หลังจากเสร็จสิ้นการพิชิตด้านบนเขาล้อมหมวก ก็ได้ลงมาเที่ยวด้านล่างต่อ ซึ่งเป็นที่เที่ยวประจวบฯ ที่เราแนะนำเป็นอย่างมากก็คือ “อ่าวมะนาว (Ao Ma Nao)” เป็นอ่าวที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนกับลูกมะนาวครึ่งซีก เป็นหาดทรายที่ยังคงความงดงาม และเป็นธรรมชาติมาก เพราะว่าตั้งอยู่ในเขตกองบิน 53 ของฐานกองทัพอากาศ คนส่วนใหญ่จะนิยมมานั่งเล่น หรือถ่ายรูปชมความงามธรรมชาติ ที่บริเวณอ่าวมะนาวนี้ เพราะว่าเป็นหนึ่งในหาดที่สวยงามอยู่มาก จะเน้นความเงียบสงบ เพราะไม่มีคนมาเล่นเจทสกี หรือว่าบานาน่าโบ้ทสักเท่าไหร่ มีแต่เตียงผ้าใบให้มานอนอาบแดด เล่นน้ำทะเลกันชิลล์ๆ

ที่พักประจวบคีรีขันธ์ @T Boutique Hotel

สำหรับคืนที่สองเราเลือกที่จะนอนพักกันที่ประจวบคีรีขันธ์ แถมเลือกที่พักประจวบฯ ที่อยู่ติดทะเล สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ จากราคาและงบประมาณที่มี ก็เลยเลือกที่พักประจวบฯ “@T Boutique Hotel” เพราะว่าราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับความคุ้มค่าที่จะได้รับ โดดเด่นด้วยวิวสวยของโรงแรม ที่หันหน้าออกสู่ทะเล สามารถมองเห็นวิวทะเลประจวบฯ ได้อย่างถนัดตา หากใครที่กำลังมองหาที่พักประจวบฯ โลเคชั่นดี ราคาไม่แรงมาก แนะนำเลย

Day3: ชุมพร

หลังจากที่เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมในช่วงเช้าแล้วนั้น เราก็ได้มุ่งหน้าจากประจวบฯ ขับรถไปเรื่อยๆ เข้าไปยังเขตของจังหวัดชุมพร เพราะว่าประจวบฯ นั้นเปรียบเสมือนเป็นประตูสู่ทางภาคใต้ ชุมพรก็จะเป็นจังหวัดแรกที่ถ้าหากว่าขับรถมาจากกรุงเทพฯ ผ่านหัวหินมา ก็เจอประจวบก่อนจังหวัดอื่นนั่นเอง

อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง (Huai Yang National Park)

ระหว่างทางที่ขับรถจากประจวบคีรีขันธ์ไปยังชุมพร หนทางในประจวบนั้นค่อนข้างไกล เพราะว่าประจวบเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ทางยาว เส้นทางก็จะบังคับให้ต้องขับรถล่องใต้ลงมาเรื่อยๆ โดยอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง ตั้งอยู่ในอำเภอทับสะแก จะเป็นจุดหมายปลายทางก่อนที่จะถึงชุมพร หากใครมีเวลาเหลือ แนะนำให้ลองแวะมาเที่ยวกัน เพราะว่าเป็นอุทยานแห่งชาติที่เต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติ มองไปทางไหนก็จะเห็นแต่สีเขียวของต้นไม้ใบหญ้า ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง จะมีน้ำตกห้วยยาง มีความสูงมากถึง 5 ชั้น และมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ หากใครที่อยากจะค้างแรมที่น้ำตกห้วยยาง ก็สามารถจองบ้านพัก หรือว่ามากางเต้นท์ได้

หาดทรายรี

เมื่อขับรถเข้ามาถึงตัวเขตจังหวัดชุมพร ก็ขอแวะเที่ยวที่ “หาดทรายรี” กันสักแปปนึง ถือว่าเป็นจุดเช็คอินสำคัญของชุมพรเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นหาดทรายที่มีชายหาดขาวสะอาด อีกทั้งบริเวณชายหาดนี้ ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานกรมหลวงชุมพรอีกด้วย ทำให้คนส่วนมากที่แวะมาสักการะกรมหลวงชุมพรนี้ ต่างก็ต้องแวะมากินข้าว เล่นน้ำทะเล หรือว่าชมความงามของหาดทรายรีกันทั้งนั้น หากใครมีเวลา แนะนำให้ลองแวะมาเที่ยวที่หาดทรายรีกันดู รับรองว่าสวยไม่แพ้หาดอื่นในชุมพรเลย

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร

ไฮไลท์หลักของทริปชุมพร ก็คือการได้มาดำน้ำนั่นเอง หลายคนอาจจะมองข้ามชุมพรไป แต่บอกเลยว่าหากใครที่ชื่นชอบการดำน้ำ ไม่ว่าจะเป็นแบบดำน้ำตื้น หรือว่าดำน้ำลึก ไม่ควรมองข้ามชุมพรเป็นอันขาด เพราะว่าที่ชุมพรนี้ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศใต้ทะเลอยู่มาก ซึ่งนักดำน้ำหลายคนก็ยังเคยว่ายเจอฉลามวาฬที่ชุมพรนี้เอง ไม่ต้องไปไกลถึงเซบูก็มีโอกาสเจอฉลามวาฬกันได้ที่ชุมพรนี่แหละ

หากใครที่อยากมาดำน้ำที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร แนะนำให้ลองหาไกด์ที่จะพาไปดำน้ำดู บางที่ก็อาจจะขายเป็นแพคเกจ โดยรวมแล้วจุดหลักที่นักท่องเที่ยวนิยมไปดำน้ำกันก็คือ เกาะร้านเป็ด ร้านไก่ เกาะง่ามน้อย เกาะง่ามใหญ่ ก็แล้วแต่สถานที่ แล้วก็ราคา แนะนำหากใครที่ชอบดำน้ำลึก ให้ซื้อแพคเกจดำน้ำแบบที่นอนบนเรือ ก็จะคุ้มเพราะว่าจะได้ดำน้ำตอนกลางคืนด้วย แต่สำหรับทริปนี้ เรายังไม่ได้เรียนดำน้ำมา ก็มาดำแบบสน็อคเกิ้ลก็สวยไม่แพ้กัน

หรือถ้าหากใครที่ไม่ชอบดำน้ำ หรืออยากแค่มานั่งเรือชมความงามของธรรมชาติก็ได้เช่นกัน เพราะในบริเวณของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรนี้ ก็จะมีเกาะน้อยใหญ่มากมายที่มีความสวยงามเต็มไปหมด

โนโวเทล ชุมพร บีช รีสอร์ท (Novotel Chumphon Beach Resort)

มาถึงคืนสุดท้ายสำหรับทริปนี้กันบ้าง ที่พักชุมพรที่เราเลือกก็คือ “โนโวเทล ชุมพร บีช รีสอร์ท (Novotel Chumphon Beach Resort)” ก็ยังคงคอนเซ็ปท์เลือกที่พักชุมพรติดทะเล ส่วนใหญ่แล้วที่ชุมพรจะหาที่พักชุมพรติดทะเลไม่ยาก เพราะที่พักหลายแห่งก็จะอยู่ติดทะเล สำหรับที่พักชุมพรโนโวเทลนั้นก็ติดทะเล มีสระว่ายน้ำที่ค่อนข้างใหญ่ เหมาะกับคนที่ไปเที่ยวแนวครอบครัว แนะนำที่พักโนโวเทลชุมพรนี้เลย แถมยังมีจักรยานให้ปั่นไปรอบที่พักด้วย

Day 4: ขับรถกลับกรุงเทพฯ

หาดทุ่งวัวแล่น (Thung Wua Laen Beach)

ก่อนจะขับรถกลับไปยังกรุงเทพฯ ก็ขอแวะเที่ยวที่ “หาดทุ่งวัวแล่น (Thung Wua Laen Beach)” กันก่อนกลับ สำหรับหาดทุ่งวัวแล่นนี้ เป็นหนึ่งในหาดทรายที่มีชื่อเสียงมากในจังหวัดชุมพร ตั้งอยู่ในตำบลสะพลี ห่างจากตัวเมืองชุมพร เป็นระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตรด้วยกัน เป็นหาดทรายที่ทอดยาว เต็มไปด้วยทรายสีขาวสะอาด ตัดกับสีฟ้าใสของน้ำทะเล อีกหนึ่งความประทับใจของทริปชุมพรนี้ ขอยกให้กับหาดทุ่งวัวแล่นเลย อยากชวนทุกคนออกไปเที่ยวไทย ไปผ่อนคลายหนีความวุ่นวาย กลับสู่อ้อมกอดของธรรมชาติกันเถอะ

หลังจากที่แวะหาข้าวกิน ถ่ายรูปกับวิวสวยของชุมพรกันเสร็จสรรพ ก็เตรียมตัวขับรถกลับกรุงเทพฯ ซึ่งใช้ระยะเวลาของข้างนาน เมื่อเทียบกับขามาที่เราแวะสองข้างทาง แต่วันสุดท้ายของทริปนี้ จะเป็นการขับรถตรงกลับกรุงเทพฯ เลย หากใครที่มีเวลาว่าง 3-4 วัน แล้วอยากลองจัด Road Trip ที่ไม่เหนื่อย และเส้นทางไม่ได้ยาวมากนัก แนะนำให้ลองแพลนเที่ยวตามทริปขับรถเที่ยว หัวหิน - ประจวบฯ - ชุมพร นี้ได้เลย

จองโรงแรม
จองตั๋วเครื่องบิน
Things to Do
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร