หลังจากการกักตัวอยู่บ้านมาหลายเดือนก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ รับลมธรรมชาติและไปปักหมุดเช็กอินตามแลนด์มาร์คจุดสำคัญต่าง ๆ ที่เขาบอกกันว่าดีเด็ดกันนักหนาซึ่งวันนี้เราก็ขอมาเปิดทริป 3 วัน 2 คืนรีวิวการท่องเที่ยวบนเกาะสมุยที่จะพาเพื่อน ๆ ทุกคนไปนอนฟินกินกันจุก ๆแบบเที่ยวครบทุกรสทุกชาติกันอย่างจัดหนักจัดเต็มเพราะเชื่อว่าตอนนี้ร่างกายของใครหลายคนต้องการเติมพลังพักผ่อนและผ่อนคลายจากการทำงานที่ติดต่อกันมาหลายเดือนเนื่องด้วยสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาซึ่งหากคุณอยากรู้แล้วว่าบนเกาะสมุยนั้นมีอะไร ทำไมถึงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจก็รีบตามเราไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่า ว่าแล้วอย่ารอช้า ไปกันเลย
การเดินทางไปสมุยสามารถทำได้หลายวิธีแล้วแต่ความสะดวกและงบของแต่ละคนไม่ว่าจะเป็น การนั่งรถบัสโดยสารปรับอากาศ รถไฟ หรือจะเป็นเครื่องบินซึ่งทริปนี้เราก็ได้จองตั๋วเครื่องบิน บางกอก แอร์เวย์ส กับ Traveloka จากกรุงเทพสู่เกาะสมุยด้วยราคาสุดพิเศษที่บอกได้เลยว่า...คุ้มมากแม่! เพราะ Traveloka มักรวบรวม Promotion พิเศษจากสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และสายการบินอื่นๆให้เลือกเพียบ แถมยังจองง่ายจ่ายสะดวกเพียงการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและเลือกวัน-เวลาในการเดินทางที่ต้องการหลังจากนั้นกดชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและเตรียมรอแพ็กกระเป๋าและออกไปเปิดประสบการณ์หา inspiration ใหม่ ๆ กันได้แล้ว
ก่อนเริ่มทริปเราก็ขอพูดถึงสมุยกันคร่าวๆ ให้ฟังก่อน โดยหากพูดถึง “สมุย” ก็เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสุราษฐ์ธานีและเชื่อว่าใครหลายคนคงนึกถึงที่พักติดริมทะเล กิจกรรมกลางแจ้ง และน้ำทะเลอันใสสะอาด ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิลล์ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวรรค์กลางอ่าวไทย”ที่ใครก็อยากเดินทางมาสัมผัสด้วยตนเองสักครั้ง และยิ่งอากาศร้อน ๆแบบนี้ก็คงต้องนึกถึงบิกินี่ตัวโปรดและชุดว่ายน้ำที่ต้องเตรียมไปลงเล่นทะเลและถ่ายรูปอัปลงโซเชียลกันสักหน่อยเพราะนานแล้วที่ไม่ได้ชาร์ทพลังให้กับร่างกายว่าแล้วไปดูกันเลยดีกว่าว่าทริปวันแรกของเราจะเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อเราเดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติสมุยเราก็ได้มุ่งหน้าเข้าที่พักเพื่อไปเก็บสัมภาระ และเปลี่ยนชุดสบาย ๆ กันก่อนซึ่งทริปนี้เราก็ได้เลือกพักกันที่ศาลาสมุย เฉวง บีช รีสอร์ท (SALA Samui Chaweng Beach Resort) ที่ตั้งอยู่บนหาดเฉวงกับห้องพักรูปแบบ Oceanfront Sala Pool Villa ที่บอกได้เลยว่าเริ่ดมากซึ่งเราก็ได้จองผ่านแอป Traveloka อีกเช่นกัน
หลังจากที่ได้เก็บสัมภาระเรียบร้อยเราก็ได้เดินทางไปรับประทานอาหารกันที่ร้านเสบียงเล ร้านเด็ดบนเกาะสมุยที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติและความสดใหม่ของอาหารทะเลที่ใครมาก็พลาดไม่ได้แถมบรรยากาศในร้านยังร่มรื่นเป็นอย่างมากสามารถกินไปชมวิวทะเลได้อย่างเพลิดเพลินใจกันเลยทีเดียว
ขอบคุณภาพจาก facebook.com/sabienglae.samui
ขอบคุณภาพจาก facebook.com/sabienglae.samui
ขอบคุณภาพจาก facebook.com/sabienglae.samui
ขอบคุณภาพจาก facebook.com/sabienglae.samui
ขอบคุณภาพจาก facebook.com/sabienglae.samui
ซึ่งเราก็ได้สั่งอาหารซีฟู้ดมากันแบบจัดเต็มเพราะมาถึงทะเลทั้งทีจะพลาดกันได้อย่างไร พอกินเข้าไปคำนึงบอกได้เลยว่ามันสดมาก! แถมทางร้านยังมีเมนูให้เลือกทานอย่างหลากหลายรู้สึกเลยว่าเลือกร้านไม่ผิดและประทับใจกับอาหารมื้อแรกบนเกาะสมุยจริง ๆ
หลังจากที่เราทานอาหารคาวกันเสร็จก็ถึงเวลาหาของหวานทานกันต่อเราจึงตัดสินใจลองหาคาเฟ่น่านั่งสักร้านเพื่อไปนั่งดื่มน้ำและทานของหวานเบา ๆกันต่อ ซึ่งร้านที่เราได้เดินทางไปเช็กอินกันมีชื่อว่าร้านโซคาเฟ่สมุย(SO CAFE SAMUI) คาเฟ่สุดฮิปที่มีการตกแต่งภายในแบบมินิมอลและมีความเก๋เป็นเอกลักษณ์เด่นเฉพาะตัว
ขอบคุณภาพจาก facebook.com/socafexsamui
ขอบคุณภาพจาก facebook.com/socafexsamui
โดยทางร้านมีเสิร์ฟทั้งเมนูเครื่องดื่มและเบเกอร์รี่ที่รสชาติดีมากบอกเลยว่าหน้าตาน่ารับประทานทุกเมนู แถมยังมีเมนูถ่ายรูปหลายมุมอีกด้วยเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวสายคาเฟ่ที่ชอบเซลฟี่เป็นที่สุดนอกจากนี้บรรยากาศภายในร้านยังมีความเป็นกันเองน่านั่งมาก ๆ เลยทีเดียว
หลังจากถ่ายรูปและกินกันอย่างจุใจแล้วทางเราก็ขอกลับที่พักเพื่อไปเติมพลังกันสักหน่อยเพราะถึงเวลาที่เราจะสามารถเข้าเช็กอินกันได้พอดี แล้วเดี๋ยวมากันต่อว่าคืนนี้เราจะไปทำอะไรกันต่อ
สำหรับคืนนี้เราก็มีแพลนกันว่าจะไปนั่งดื่มด่ำบรรยากาศริมทะเลและทานอาหารเย็นกันที่ร้าน CoCo Tam's บีชบาร์สุดฮอตที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายหาดที่หมู่บ้านFisherman Village
โดยภายในร้านจะเป็นแบบโอเพ่นแอร์ที่เราสามารถสั่งอาหารทานเล่นดริ๊งกันเบา ๆ พร้อมชมพระอาทิตย์ตกและชมการแสดงควงกระบองไฟที่เต็มไปด้วยสีสันยามค่ำคืนที่ฟินสุด ๆ ไปเลยบอกเลยว่าหากใครได้ไปกับคู่รักแล้วละก็จะโรแมนติกมากเลยทีเดียว
ขอบคุณภาพจาก facebook.com/CoCoTams
ขอบคุณภาพจาก facebook.com/CoCoTams
ตื่นมาด้วยความสดใสกับเช้าวันที่ 2เราก็ได้ทานอาหารเช้ากันที่โรงแรม ซึ่งวันนี้เรามีแพลนว่าจะนั่งเรือไปทริปดำน้ำกันโดยเราได้ซื้อทริปแบบเช้าไปเย็นกลับ เกาะเต่า- เกาะนางยวน ซึ่งรู้สึกสะดวกมาก เพราะบริษัททัวร์ที่เราได้ซื้อแพ็กเกจไว้จะมารับเราถึงที่พักเพื่อไปขึ้นSpeedboat ที่ท่าเรือ
หลังจากที่ถึงท่าเรือและทำการลงทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยเราก็ได้ออกเดินทางจากท่าเรือมุ่งสู่เกาะเต่าเป็นอันดับแรกซึ่งที่นี่ก็เปรียบเสมือนสวรรค์ของนักดำน้ำที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นจุดดำน้ำที่ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นความสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ หรือน้ำทะเลที่มีความใสเป็นอย่างมากโดยสิ่งที่เราเห็นก็คือปลาที่แหวกว่ายไปมา และปะะการังที่อยู่ใต้ท้องทะเลสีสันต่างๆ อย่างสวยงาม ทางเราก็อดใจไม่ไหวและได้แฉะภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกไว้กลับมาอัพลงไอจีกันอย่างรัว ๆ
พอดำน้ำกันจนพอใจเราก็มุ่งหน้าเดินทางไปกันต่อที่เกาะนางยวนเพื่อไปชมปะการังอีกจุดและขึ้นไปชมทัศนียภาพของทะเลแหวกที่บริเวณจุดชมวิวที่ใครก็ต้องพลาดไม่ได้
ซึ่งทางเราก็ได้เดินเล่นอยู่บริเวณริมหาดและได้ลงเล่นน้ำดำน้ำดูปะการังพร้อมทั้งถ่ายรูปเล่นกันอย่างจุใจ น้ำทะเลที่นี่เป็นสีฟ้าใส หาดทรายสีขาวและเต็มไปด้วยชาวต่างชาติที่นอนอาบแดดเรียงรายกันเป็นจำนวนมากบอกเลยว่ามันเหมือนเกาะสวรรค์ที่เหมาะแก่การมาพักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์จริง ๆ
ก่อนจะหมดเวลาของทริปนี้เราก็ได้เดินขึ้นเขาไปชมบรรยากาศของทะเลแหวกบริเวณจุดชมวิวซึ่งทางขึ้นค่อนข้างแคบและเต็มไปด้วยโขดหินขนาดใหญ่ เพื่อน ๆอาจจะต้องระวังกันหน่อย แต่บอกได้เลยว่าเมื่อถึงจุดสูงสุดแล้วสิ่งที่เห็นถึงกับต้องร้องว๊าววว! กันเลยทีเดียว เพราะมันเป็นภาพที่สวยงามมากรู้สึกได้เลยว่ามันคุ้มค่ามากจริง ๆไม่คิดเลยว่าบ้านเราก็มีธรรมชาติที่งดงามขนาดนี้
หลังจากถ่ายรูปกันจนพอใจก็ถึงเวลาที่เราจะต้องกลับขึ้นเรือเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางจากเกาะนางยวนมุ่งหน้าสู่ท่าเรือและกลับที่พักกันแล้ว
สำหรับเราแล้วการที่ได้มาชาร์จพลังกับธรรมชาติมันเหมือนการเติมเต็มสีสันให้กับชีวิตเป็นอย่างมากและรู้สึกคิดไม่ผิดเลยที่ได้เลือกเดินทางมาที่เกาะสมุยในครั้งนี้เพราะเราได้เจอผู้คนที่น่ารักเป็นกันเองและได้ลิ้มลองความสนุกที่ครบทุกรสทุกชาติจริง ๆ