เที่ยว “สมุทรสงคราม” แม้จะมีเวลาไม่มากมายนักก็ไม่ใช่ปัญหา แม้จะมีพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย มีเพียง 3 อำเภอ คืออำเภอเมือง อำเภออัมพวา และอำเภอบางคนที แต่ก็มีแหล่งท่องเที่ยวให้เลือกเช็กอินมากหลาย ชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนที่นี่มีความผูกพันกับแม่น้ำแม่กลองมาตั้งแต่อดีต อีกทั้งมีคลองถึง 300 กว่าคลอง สายน้ำจึงเปรียบเสมือนสายชีวิตของผู้คนเมืองนี้ จนได้รับการขนานนามว่า “เมืองสายน้ำสามเวลา” นั่นคือ น้ำจืด – อ.บางคนที น้ำกร่อย – อ. อัมพวา น้ำเค็ม – อ.เมืองสมุทรสงคราม
ส่วนนักท่องเที่ยวก็ต้องนี่เลย...เช้าตักบาตรพระพายเรือทางน้ำ กลางวันล่องเรือทัศนาจรชมแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ยามค่ำคืนล่องเรือชมหิ่งห้อย” สำหรับขาเที่ยวเวลาน้อย...วันเดียวก็เที่ยวได้ทั่ว มีไกด์ดี...กลัวอะไร ว่าแล้วก็ลุยเลย!!!
จองที่เที่ยวสมุทรสงคราม กับTraveloka
เริ่มต้นกันที่เที่ยวที่แรกของสมุทรสงคราม บอกเลยว่าถ้าใครอยู่กรุงเทพฯ ก็ขับไปเที่ยวได้แบบง่ายๆ ไม่ยาก ขอเริ่มต้นด้วย “ดอนหอยหลอด” แนะนำว่าถ้าใครไม่มีเวลาก็สามารถขับไปเที่ยวได้แบบวันเดียวกลับ เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากจริงๆ
ดอนหอยหลอดนี้ ชื่ออาจจะไม่คุ้นหู แต่ก็คือสันดอนปากแม่น้ำแม่กลองที่มีอาณาบริเวณกว้างประมาณ 3 กิโลเมตร เกิดจากการตกตะกอนของดินปนทรายหรือที่ชาวบ้านเรียก “ทรายขี้เป็ด” เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสารพัดหอย แต่ “หอยหลอด” นั้นโดดเด่น...มีมากที่สุด อันเป็นที่มาของชื่อ “ดอนหอยหลอด”
นั่งเรือชมวิว สนุกสนานกับการเก็บหอยหลอด สักการะศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ชิมอาหารทะเลสดจากร้านเด็ดชื่อดัง แวะซื้อสินค้าที่ระลึกและอาหารทะเลสด-แห้ง ติดไม้ติดมือกลับบ้านตามอัธยาศัย
มาต่อด้วยที่เที่ยวต่อไป “ตลาดร่มหุบ” เป็นที่เที่ยวที่ค่อนข้างว้าว เพราะว่าบริเวณแต่เดิมที่เห็นเป็นตลาด จะถูกหุบร่มเมื่อรถไฟมา จึงกลายเป็นที่เที่ยวสมุทรสงครามที่คนนิยมแห่มาเที่ยว ถ่ายรูป และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก
เป็นตลาดที่อยู่ในแม่กลอง ที่ชาวบ้านเรียก “ตลาดเสี่ยงตาย” เป็นตลาดที่ตั้งอยู่บนทางรถไฟ สายแม่กลอง – บ้านแหลม เส้นทางรถไฟที่สั้นที่สุดในประเทศไทย ในแต่ละวันบรรดาพ่อค้าแม่ขายต้องเก็บร้านหุบร่มหลบรถไฟวันละ 8 เที่ยว
เมื่อรถไฟผ่านไปทุกอย่างจะกลับมาสู่สภาพเดิมเป็นตลาดที่เต็มไปด้วยสินค้าหลายหลากให้เลือกจับจ่าย นับเป็นเสน่ห์ของความสนุกสนานตื่นตาตื่นใจที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัส ตำแหน่ง Unseen in Thailand และ “ตลาดหวาดเสียวที่สุดในโลก” มาได้ด้วยประการฉะนี้
วัดเพชรสมุทรวรวิหาร หรือวัดหลวงพ่อบ้านแหลม ตามที่ชาวบ้านเรียก เดิมชื่อวัดศรีจำปา เป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อบ้านแหลม” พระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตร ศิลปะสุโขทัย หนึ่งในตำนานพระพุทธรูปลอยน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัด ดังคำกล่าว “หากไปถึงเมืองสมุทรสาครแล้วไม่ได้ไปกราบหลวงพ่อบ้านแหลม ก็เหมือนไม่ได้ไปเมืองสมุทรสาคร”
นอกจากนั้นภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์สงฆ์ จัดแสดงพระพุทธรูป และพระเครื่องสมัยต่างๆ โบราณวัตถุเครื่องลายคราม ให้เยี่ยมชมอีกด้วย ใครที่แวะผ่านมาแถวสมุทรสงคราม แนะนำให้ลองแวะมาสักการะ หรือขอพรเพื่อเสริมสร้างความเป็นศิริมงคลให้กับชีวิต
แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ณ ตำบลคลองโคน เป็นที่เที่ยวสมุทรสงคราม ที่เน้นเรื่องศึกษาระบบนิเวศในป่าชายเลน ชมวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้านที่มีผืนป่าชายเลนกว้างใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ราว 2,000 ไร่ ชมฟาร์มหอย แวะให้อาหารลิงแสม สนุกกับกิจกรรมถีบกระดานเลน เก็บหอยแครง หอยตลับ นั่งเรือแถกเลน ปลูกต้นลำพู ต้นโกงกาง เพื่อช่วยฟื้นฟูป่าชายเลนให้ยั่งยืนสืบไป
“โบสถ์บางนกแขวก” ตามที่ชาวบ้านเรียก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ตำบลบางนกแขวก โบสถ์คริสต์เก่าแก่อายุกว่า 100 ปี เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างด้วยอิฐเผา ผนังฉาบด้วยปูนตำกับน้ำเชื่อมประสานจากอ้อยใสสีดำ ภายในงดงามด้วยภาพเขียนกระจกสีจากฝรั่งเศส และลวดลายปูนปั้นแกะสลักรูปนักบุญต่างๆ
ด้วยการตกแต่งอย่างยิ่งใหญ่มโหฬารจึงได้ชื่อว่าเป็นวัดที่สวยงาม และเก่าแก่ที่สุดของชาวคาธอลิกในประเทศไทย อ้อ! วันจันทร์และวันอังคาร ทางโบสถ์มีพิธีสำคัญ อย่าลืมแต่งตัวสุภาพเรียบร้อยด้วยนะ
หากใครมีเวลาอยากให้ลองแวะมาเที่ยวที่ “วัดบางกุ้ง” ดู เพราะขึ้นชื่อมากเรื่องโบสถ์ปรกโพธิ์ พระอุโบสถถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ 4 ชนิด คือ โพธิ์ ไทร ไกร และกร่าง โอบล้อมโบสถ์ไม่ให้พุพังไปตามกาลเวลา นับเป็นโบสถ์ในต้นไม้แห่งเดียวในประเทศไทย ภายในเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อนิลมณี”
นอกจากนั้นก็จะมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง แสดงเรื่องราวพุทธประวัติ ภายในวัดยังมีสถานที่น่าสนใจ เช่น กำแพงจำลองของค่ายบางกุ้ง รูปปั้นแม่ไม้มวยไทย สระน้ำโบราณอายุประมาณ 400 ปี เจ้าแม่ตะเคียนทอง และพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานเมื่อครั้งพระองค์เคยใช้ค่ายบางกุ้งในการตั้งรับศึกจากพม่าสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา นับ 1 ใน Unseen Thailand
ต่อกันด้วยสถานที่เที่ยวสุดท้ายกันบ้าง ด้วย “อุทยาน ร.2 (King Rama II Memorial Park)” อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง อำเภออัมพวา ตำบลอันเป็นที่พระราชสมภพของพระองค์
เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เพื่อเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานศิลปวัฒนธรรมอันงดงามไว้เป็นมรดกแก่ชาติ “เรือนไทยหมู่ 5 หลัง” ตั้งโดดเด่น จัดแสดงเครื่องใช้ส่วนพระองค์ และศิลปวัตถุในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ที่สะท้อนถึงชีวิตความเป็นอยู่ และศิลปะวัฒนธรรมของชาวไทยในสมัยนั้น
ส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ “อาคารเรือนไทยหมู่ 9 หลัง” พิพิธภัณฑ์พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอัมพวา จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวอัมพวา ด้านการเกษตรกรรม การค้า การประมง งานหัตถกรรม และการดนตรี บริเวณด้านหน้าอุทยานยังมีพิพิธภัณฑ์ขนมไทย รวมถึงโรงละครกลางแจ้ง ใช้จัดการแสดงโขนถวายหน้าพระที่นั่ง และสวนพฤกษชาติที่รวบรวมพันธุ์ไม้ในวรรณคดีกว่า 140 ชนิด เพื่อประโยชน์แก่การศึกษาและอนุรักษ์พันธุ์ไม้
ขอปิดท้ายด้วยสถานที่เที่ยวที่สามารถมาเที่ยวได้ทั้งเช้า และตอนเย็น หรือแม้แต่ช่วงเวลาค่ำคืน ตลาดน้ำอัมพวา ตั้งอยู่ใกล้วัดอัมพวันเจติยารามและอุทยาน ร. 2 เปิดขายทุกวันศุกร์ เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น เสน่ห์ของตลาดน้ำแห่งนี้ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกคือ การอนุรักษ์วิถีชีวิตริมน้ำและสถาปัตยกรรมของบ้านเรือนให้อยู่ในสภาพใกล้เคียงกับสมัยต้นรัตนโกสินทร์
ถ้าหากใครมาเที่ยวที่อัมพวา แนะนำให้มาชิมอาหารอร่อยๆ ขนมไทยสูตรโบราณ ซื้อของฝากของที่ระลึก แวะเยี่ยมชมโครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ ล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวบ้าน เฝ้าดูหิ่งห้อยส่องแสงวิบวับรอบต้นลำพู ชมแสงสียามค่ำคืนของร้านรวงต่างๆ ก่อนเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
เพลิดเพลินกับจังหวัดเล็กๆ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติ ซาบซึ้งอิ่มเอิบกับวัฒนธรรมไทยที่มากคุณค่าควรอนุรักษ์ หากมีเวลามากกว่าหนึ่งวัน ขอแนะนำโปรแกรม นอนโฮมสเตย์ล่องเรือดูหิ่งห้อย สมุทรสงครามมีอะไรน่าสนใจมากกว่าที่คุณคิด...เชื่อเถอะ