Summer ร้อน ๆ แบบนี้ มันคือเวลาที่ต้องหนีร้อนไปนอนกลิ้งหิมะให้ลืมร้อนกันสักหน่อย เมืองหิมะสีขาวโพลนเอาแบบชั้นหิมะหนา ๆ ที่ไม่ไกลมากนัก แบบที่ไปอยู่ไปเที่ยวกันได้นาน ๆ หน่อย ก็ต้องที่นี่เลย “ซัปโปโร” ว่าแต่ไปถึงซัปโปโรแล้วมีนี่ไหนให้ไปเช็คอินบ้าง มาทางนี้เลย 10 ที่เที่ยวซัปโปโร มาเที่ยวแล้วต้องเช็คอินให้ครบ
เช็คราคาที่พักซัปโปโร กับ Traveloka
มาเช็คอินชมเมืองมุมสูงในซัปโปโรกันก่อนเลยที่ Landmark ของเมืองอย่าง Sapporo TV Tower หอคอยส่งสัญญาณโทรทัศน์ความสูง 150 เมตร หน้าตาคล้ายโตเกียวทาว์เวอร์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโรในสวนสาธารณะโอโดริ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ Observation Deck จุดชมวิวเมืองซัปโปโรที่ระดับความสูง 90 เมตร กับทัศนียภาพแบบ Bird Eyes View อันสวยงามอลังการของเมืองซัปโปโร
พิกัด : Sapporo TV Tower
ภูเขาใหญ่ใจกลางเมืองซัปโปโรที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติและสัตว์ป่า และจุดชมเมืองมุมสวยที่สวยที่สุดติดอันดับ 2 ใน 3 จุดชมวิวเมืองยามค่ำคืนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นเลยทีเดียว กับจุดชมวิวเขาโมอิวะ อันเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตของเมืองซัปโปโร กับวิวมุมสูงแบบพาโนรามาของเมืองซัปโปโร
พิกัด : Mount Moiwa
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองซัปโปโร ไม่ไกลจากเสาส่งสัณญาณโทรทัศน์ Sapporo TV Tower อันจัดเป็นโอเอซิสในย่านธุรกิจของซัปโปโรที่มีต้นไม้ร่มรื่นเขียวขจี และมีดอกไม้นานาพันธุ์สับกันออกดอกแต่งแต้มสีสันให้เมืองซัปโปโรอยู่ตลอดทั้งปี ทั้งยังมีชื่อเสียงด้วยการเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลหิมะในเดือนกุมภาพันธุ์ของทุกปีอีกด้วย นอกจากงานเทศกาลหิมะอันเป็นเทศกาลชื่อดังประจำปีของเมืองซัปโปโรแล้ว สวนสาธารณะโอโดริยังมีเทศกาลเก๋ ๆ น่าสนใจ สัปเปลี่ยนหมุนเวียนมาจัดงานกันในทุกฤดุกาลตลอดทั้งปีเลย ฉะนั้นจะมาซัปโปโร Season ไหนก็ต้องมาแวะเช็คอินกันที่สวนสาธารณะโอโดริแห่งนี้
พิกัด : Odori Park
สวนขนาดใหญ่อีกแห่งของซัปโปโร ที่มีทางเดินยาวกว่า 4 กิโลเมตร กับสวนสาธารณะอันจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดชิค สวนสีเขียวอันเป็น Park Meets Art สวนสาธารณะที่อาร์ตที่สุด ซึ่งกลายเป็น Landmark แห่งใหม่ของเมืองซัปโปโร่ไปแล้วตั้งแต่เปิดมาในปี 2005 ด้วยสถาปัตยกรรมเท่ ๆ อันโดดเด่น ในสไตล์ Loft Zen ภูมิทัศน์ที่สวยงามมีสไตล์ ทั้งบึงน้ำขนาดใหญ่ และ ภูเขาโมเอะเร พีระมิคหญ้าทรงสามเหลี่ยมสุดฮิปที่มีความสูงมากกว่า 62 เมตร นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชิค ๆ ที่พลาดไม่ได้ต้องไปเช็คอินกันเลยทีเดียว
พิกัด : Moerenuma Park
สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องปักหมุดโดยเฉพาะคอเบียร์ทั้งหลายเมื่อมาถึงถิ่นแล้ว ก็ต้องเช็คอินกับแหล่งผลิตเบียร์แห่งแรกของญี่ปุ่นกันเลย ที่พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร แหล่งผลิตเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่เริ่มกลั่นเบียร์แบรนด์ดังระดับโลกของฮอกไกโดตั้งแต่ปีค.ศ. 1877 ซึ่งผันตัวมาเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นเข้าชมในปี ค.ศ. 1987 และยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น “Hokkaido Heritage” ภายหลังการบูรณะครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 2004 อีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงประวัติเบียร์ของญี่ปุ่น ขั้นตอนการผลิตเบียร์ และมี Beer Testing ให้ได้ลองชิมกันด้วย ทั้งด้านหลังพิพิธภัณฑ์ยังมีร้านอาหารแบบ Beer Garden อีก 2 ร้าน ให้ได้เพลิดเพลินบรรยากาศไปพร้อม ๆ กับชมจิบเบียร์เบา ๆ เคล้าการทานบาร์บีคิวเนื้อแกะอันเป็นอาหารพื้นเมืองอันขึ้นชื่อของซัปโปโรกันอีกด้วย
พิกัด : Sapporo Beer Museum
สวนสนุกในบรรยากาศสไตล์ยุโรป และโรงงานผลิตขนมคุ้กกี้ Shiroi Koibio คุ้กกี้เนยอบสไตล์ฝรั่งเศสสอดไส้ไวท์ช็อคโกแลต หวาน หอม อร่อย ละลายในปาก อันเป็นของฝากชื่อดังยอดฮิตของเมืองซัปโปโร ที่ได้ยกระดับความฟินนอกจากการเยี่ยมชมโรงงานผลิตขนมไปอีกขั้นหนึ่ง ด้วยการผสานสวนสนุก พร้อมทั้งร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ในสไตล์ยุโรปที่มีกลิ่นอายความเป็นยุโรปที่แท้ทรูไว้ในพื้นที่เดียวกันอีกด้วย รับรองได้เลยว่าต้องเป็นที่เช็คอินที่โดนใจสาว ๆ โดยเฉพาะสาว ๆ สายหวานกันอย่างแน่นอน
พิกัด : Shiroi Koibito Park
แห่งรวมอาหารรสเลิศ ตลาดปลาแห่งเมืองซัปโปโร ก็มาญี่ปุ่นทั้งทีเมืองอันขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลและปลาที่สดและใหญ่ที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลกกันแล้ว มันก็ต้องแวะเช็คอินที่ตลาดปลา หาของทะเลสด ๆ ลองลิ้มรสความสดหวานแบบยังมีกลิ่นอายทะเลซัปโปโรกันซะหน่อย กับตลาดปลาอายุกว่า 100 ปีใจกลางเมืองซัปโปโร ที่อึกทึกคึกคัก 07:00 ถึง 21:00 น. ทีเดียวโดยในช่วงเย็นจะเป็นช่วงเวลาของร้านอาหารเด็ด ๆ ที่เปิดให้ได้มาลิ้มรสอาหารทะเลสด ๆ แบบเพิ่งขึ้นมาจากทะเลกันได้ทุกวัน
พิกัด : Nijo market
Landmark ทีเด็ดอันเป็นไฮไลท์ของซัปโปโร กับทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ม่วงอร่ามสีสันสดใสสวยงาม ทั่วทั้งขุนเขากว้างไกลสุดสายตา กับวิวเมืองไกล ๆ อันเป็นฉากหลังหายากสำหรับทุ่งดอกลาเวนเดอร์สีม่วงสุดลูกหูลูกตาแบบนี้ ที่นับเป็นทิวทัศน์สุดสวยล้ำค่าน่าอลังการมาก ๆ ของเมืองซัปโปโร กับต้นดอกลาเวนเดอร์กว่า 5,000 ต้นที่พร้อมใจกันบานสะพรั่ง
พิกัด : Horomitoge Lavender Garden
เมื่อได้ที่เช็คอินตอนกลางวันที่พระอาทิตย์ค้างฟ้ากันไปแล้ว ก็ต้องมาถึงที่เช็คอินในยามราตรีที่มีพระจันทร์และดวงดาวค้างฟ้าอยู่กันบ้าง ย่านกินดื่มยามราตรีกับแสงไฟแสงสีสุดคึกคักและมีชีวิตชีวาในยามค่ำคืน ซึ่งนับเป็นย่านกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย กับย่านซูซูกิโนะ ร้านรวงป้ายไฟยามราตรีในย่านซูซูกิโนะให้อารมณ์คล้าย ๆ กับ Time Sqaure ใน New York กันเลย
พิกัด : Susukino
ออกนอกเมืองกันบ้าง กับเมืองออนเซ็นท่ามกลางภูเขาหิมะของซัปโปโร ห่างจากใจกลางเมืองซัปโปโรเพียง 1 ชั่วโมงสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิโกะซุโทยะ ตรงช่วงระหว่างหน้าผาสูงกับแม่น้ำโทโยฮิระพอดิบพอดี จึงทำให้เมืองออนเซ็นท่ามกลางหุบเขาหิมะแห่งนี้จัดอยู่ในโลเคชั่นสุดอลังการ โดยในพื้นที่เมืองออนเซ็นแห่งนี้มีทั้งที่พักแบบเรียวกังฉบับญี่ปุ่นแท้ ๆ กว่า 12 แห่ง ร้านค้า ร้านอาหาร วัด และจุดเช็คอินอันเป็นไฮไลท์ของที่นี่ นั่นคือ สะพานแขวนสีแดงสุดโดดเด่นที่ตัดกับสีของภูเขาหิมะสีขาวโพลนที่รายล้อมอยู่ มาซัปโปโรทั้งทีบอกเลยว่าพลาดออนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติไม่ได้เด็ดขาดนะบอกเลย
พิกัด : Jozankei Onsen
ครบทั้ง 10 ที่เที่ยวในซัปโปโรไปแล้ว กับสถานที่เที่ยวที่เป็น The must ต้องตามไปเช็คอินในซัปโปโรกันเรียบร้อยแล้ว และหันไปดูอุณหภูมิเดือด 35 – 36 องศาเซสเซียสของเมืองไทย อย่างนี้ไม่รออะไรแล้ว พร้อมจองตั๋วเครื่องบิน และที่พักในซัปโปโรกันเดี๋ยวนี้ ณ บัดนาวพูดเลย
จองที่พักซัปโปโร กับ Traveloka