Taj Mahal : เยือนสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชมสถาปัตยกรรมแห่งความรัก
ความรักชนะทุกสิ่ง เป็นคำพูดลอยๆในอากาศที่เหมือนจะจับต้องไม่ได้ ยกเว้นบทพิสูจน์ของความรักอย่างทัชมาฮาล สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน ที่นี่เป็นตัวอย่างของแรงบันดาลใจแรงผลักดันที่ก่อกำเนิดจากพลังแห่งความรัก จนกลายเป็นสุสานหินอ่อนที่ผู้คนยกย่องให้เป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่งดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ชั่วโมงประวัติศาสตร์ ( อ่านก่อนไปชมทัชมาฮาล จะอินขึ้นหลายเท่าตัว )
Taj Mahal คือสุสานที่กษัตริย์ในราชวงศ์โมกุล สร้างให้ภรรยาที่เสียชีวิตไปตอนคลอดลูกคนที่ 14 ก็เลยสั่งให้สร้างสุสานจากหินอ่อนทั้งหมด เพื่อแสดงความรักให้แก่ภรรยา โดยต้องสร้างจากสิ่งที่ดีที่สุดเป็นหนึ่งเดียวในโลก และสั่งฆ่าคนสร้างทิ้งเพื่อไม่ให้ไปสร้างที่อื่นได้อีก โดยใช้งบประมาณก่อสร้างสูงมาก อีกทั้งยังมีโครงการจะก่อสร้างสุสานของตัวเอง จากหินอ่อนสีดำอยู่ตรงข้ามแม่น้ำอีกฝั่ง เพื่อจะได้อยู่เคียงข้างกับภรรยาตลอดไป แต่เนื่องจากต้องใช้งบประมาณและแรงงานคนมาก ลูกชายเลยจับพ่อไปขังที่ Agra Fort ( ป้อมที่อยู่ใกล้ๆทัชมาฮาลประมาณ 2 กิโลเมตร ) พ่อก็มองทัชมาฮาลจากอัคราฟอร์มดจนสิ้นชีวิต เลยไม่มีโอกาสไม่สร้างทัชมาฮาลสีดำ ถ้ามีทัชมาฮาลสีดำอาจจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ของโลกก็เป็นได้
ไปทัชมาฮาลกี่โมงดี ? เราแนะนำให้ไปแต่เช้าตรู่ หรือไม่ก็ไปช่วงเย็นไปเลย เพราะช่วงกลางวันอากาศร้อนมาก และที่นี่ยังเป็นที่นิยมของทั้งคนอินเดียเองและคนต่างประเทศ เพราะฉะนั้นคนเยอะมากมากๆค่ะ เราไปรอคิวตั้งแต่ 5.45 น.
ขั้นตอนการเข้าชมทัชมาฮาล
( ถุงสำหรับห่อเท้าตอนเดินเข้าชมทัชมาฮาลด้านใน )
3. ยืนต่อคิวเพื่อเข้าชมทัชมาฮาล ผู้หญิงไทยให้เข้าช่องที่ 2 จากซ้ายค่ะ ช่องแรกจะเป็นของคนอินเดีย ( ช่วงนี้ระวังการแซงคิวดีดีน๊า ถึงแม่จะมีแถวกั้นอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่มีผลกับคนอินเดียเท่าไหร่ แซงได้แซง ฮ่าๆ )
4.ช่วงสแกนตัว และตรวจสัมภาระ ที่อินเดียนิยมระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการตรวจค้นตัวมาก และที่นี่จะค้นตัวแบบใกล้ชิดมากเป็นพิเศษ จับร่างกายกันเน้นๆ นมเนิมขยำหมด ฮ่าๆ
5.ของบางอย่างห้ามนำเข้าไป เช่น หมากฝรั่ง พระเครื่องนี่ก็โดนตรวจนานเหมือนกัน และขาตั้งกล้องของเพื่อนเราก็ห้ามเข้า เจ้าหน้าที่ไล่ให้เอาไปฝากตรงห้องฝากข้อง ข้างข้างที่ขายตั๋ว แต่พอเดินเข้าไปข้างใน อ่าว นั่นขาตั้งกล้องนี่นา ฮ่าๆ เอาเป็นว่าเข้าไปตัวเบาเบา ไม่ต้องเอาไรไปมากก็ดีค่ะ
ภาพแรกที่เห็นทัชมาฮาลคือยิ่งใหญ่มากมาก เข้ามาแล้วรู้สึกสงบแปลกๆ ทั้งที่คนวุ่นวายมากมาก ( มีความย้อนแย้งพอสมควร )
อากาศที่อัคราจะมีฝุ่นเยอะมาก ทำให้ฟ้าที่อัคราจะมีความขาวขุ่นตลอดเวลา แต่ความขาวขุ่นของฟ้าไม่ได้ทำให้ทัชมาฮาล สวยน้อยลงเลย ยังเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่คู่ควรเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ทุกด้านของทัชมาฮาลจะมีวิวเหมือนเหมือนกัน ไม่ว่าจะเข้าผ่านประตูไหน ตรงกลางมีบ่อน้ำเห็นทัชมาฮาลสะท้อนน้ำทั้งสี่ด้าน
บรรยากาศรอบๆ ทัชมาฮาลเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวๆ ขัดความฝุ่นขะมุกขมัว
เมื่อเข้ามาชมไกล้ๆตัวอาคารจะเห็นว่างานละเอียดมาก นี่ยังคิดเลยว่าสมัยก่อนต้องใช้คน ใช้เงิน และใช้พลังมากแค่ไหนถึงได้สร้าง สิ่งก่อสรร้างได้ละเอียดขนาดนี้ วิจิตรทั้งลวดลาย การแกะสลักและงานเพนซ์เลย ดูออกแล้วว่าที่นี่สร้างขึ้ด้วยสิ่งก่อสร้างด้วยความรักจริงๆ ยิ่งเข้าไปข้างในยิ่งเห็นงานละเอียดมากเลย เสียดายที่ถ่ายรูปมาไม่ได้ เอาเป็นว่าควรค่าแก่การไปเห็นด้วยตาของตัวเองมากมากค่ะ
ข้อควรรู้ในการเข้าชมทัชมาฮาล
ความสนุกในการมาเที่ยวทัชมาฮาลอีกอย่างคือ การเซลฟี่กับคนอินเดียค่ะ คนอินเดียชอบถ่ายภาพมาก และการเซลฟฟี่ถือเป็นวัฒนธรรม แห่งความคคูลมากมากด้วยค่ะ อยู่ไทยหน้าตายังไงไม่สน มาอยู่อินเดียเนี่ย คูลมากจ้า
การเดินทาง จากนิวเดลี นิยมเดินทางด้วยรถไฟ แต่เรามีเวลาค่อนข้างจำกัดและเดินทางเป็นกลุ่มใหญ่ 12 คน การเช่ารถเดินทางจึงสะดวกและควบคุมงบประมาณได้มากกว่า เราใช้บริการรถ Tempo Van 12 ที่นั่ง จาก Delhi Rent Car Services (India) 15,000 รูปี ( ตกแค่คนละ 1,250 รูปี แต่เดินทางสะดวกมากมาก )
ราคานี้ีรวมอะไรบ้าง ?
สามารถเข้าไปดูรถได้ที่ website : http://www.delhirentcar.com เลือกประเภทรถและ จองผ่าน E-mail ได้เลยที่ delhirentcar@gmail.com ตกลงเรื่องรายละเอียด ราคา และเวลานัดหมายให้เรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะเมลล์ตอบมาให้เราชำระเงินล่วงหน้า แต่เราไม่ต้องโอนน๊า ขอเป็นจ่ายที่หน้างานได้เลย ไม่ต้องโอนไปล่วงหน้า ( ปลอดจะมีเจ้าหน้าที่รอรับที่สนามบินเลยค่ะ รถใหม่ แอร์เย็นฉ่ำ แต่ต้องเผื่อเวลาเดินทางหน่อยค่ะ เพราะนิวเดลีรถติดมาก และมีการควบคุมความเร็วในการขับรถ ปกติใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมงไปอัครา แต่พวกเราติดแหง็กอยู่ในเดลีอยู่ 2 ชั่วโมง เวลาเดินทางทั้งหมดเลยปาไป 6 ชั่วโมง เลยไปชมอาทิตย์ตกไม่ทัน เลยได้วิวบรรยากาศข้างทางมาแทน ก็ดูเพลินๆ ตื่นเต้นดีค่ะ
เที่ยวอินเดียไม่ยากอย่างที่คิด
เสียดายมีเวลาที่นี่น้อยไปหน่อยเลยไปไหนมากไม่ค่อยได้แต่ว่าครั้งนี้คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราจะมาที่อินเดีย
ลองเปิดใจให้อินเดียสักครั้ง รับรองว่าต้องอยากกลับไปอีกหลายๆครั้ง ส่วนเรา ตกหลุ่มรักอินเดียในแบบที่อินเดียเป็นแล้วล่ะ
นมัสเต !!
เขียนและถ่ายภาพโดย
คุณเยาวณี หนูยิ้ม
Facebook:https://www.facebook.com/go.anywheree/
Website:https://soompooy.com/