ในห้องจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในฝรั่งเศส ภาพวาดหญิงสาวปริศนาภาพหนึ่งดึงดูดสายตาผู้คนนับล้านจากคนทั่วโลกทุกปี ในภาพนั้นเธอนั่งอยู่อย่างสงบ มือวางประสานกันแบบสบาย ๆ ดวงตาที่ยากจะตีความหมายจ้องมองกลับมายังผู้ที่มองเธอด้วยความมั่นใจ มุมปากข้างหนึ่งโค้งขึ้นเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่ลึกลับที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลปะ
นี่คือ “โมนาลิซา” ผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซของเลโอนาร์โด ดา วินชี ที่ยังคงกระตุ้นความสนใจจากผู้คนมากว่า 500 ปี
โมนาลิซาคือใคร ? อะไรที่ทำให้ภาพวาดนี้มีความพิเศษจนนักท่องเที่ยวทั้งหลายถึงกับต้องยอมจองตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ เพื่อเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล ต่อแถวยาวเหยียดเพียงเพื่อให้ได้ยืนอยู่ตรงหน้าภาพสีน้ำมันขนาด 30 x 21 นิ้ว เพียงแค่ไม่กี่วินาที ? ขอพาคุณไปสำรวจโลกของโมนาลิซา พร้อมทั้งเจาะลึกความหมาย และย้อนรอยประวัติความเป็นมา ตลอดจนอิทธิพลของภาพวาดที่โด่งดังจนสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก !
"โมนาลิซา" คือผลงานภาพวาดชิ้นเอกที่ถูกสร้างสรรค์โดยศิลปินอัจฉริยะ เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo Da Vinci) เชื่อกันว่า ผู้เป็นต้นแบบในภาพคือหญิงสาวนามว่า ลิซ่า เกราร์ดีนี (Lisa Gherardini) ผู้เป็นภรรยาของพ่อค้าผ้าไหมชาวฟลอเรนซ์ที่มีชื่อว่า ฟรานเชสโก เดล จิโอคอนโด (Francesco del Giocondo)
ภาพวาดชิ้นนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1503-1506 ตามคำสั่งของสามีของเธอ แม้ว่าในยุคแรกเริ่มโมนาลิซาจะยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ทว่าด้วยเสน่ห์อันลึกลับผสานกับความงดงามที่ถ่ายทอดผ่านฝีแปรงอันประณีตของดา วินชี ส่งผลให้งานชิ้นนี้ค่อย ๆ ได้รับการยอมรับจนกลายเป็นหนึ่งในผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
นอกเหนือจากความงดงามที่ถ่ายทอดผ่านฝีแปรงอันวิจิตรของดา วินชีแล้ว โมนาลิซายังมีเรื่องราวสุดระทึกที่ทำให้ภาพวาดมาสเตอร์พีซชิ้นนี้ต้องถูกจารึกในประวัติศาสตร์อีกด้วย
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1911 เมื่อชายชื่อ วินเซนโซ เปรูเจีย (Vincenzo Peruggia) ได้แอบย่องเข้าไปขโมยภาพจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อย่างไร้ร่องรอย ซึ่งหลังจากนั้น เขาได้นำภาพไปซ่อนไว้ที่บ้านนานถึง 2 ปีเต็ม ก่อนที่ภาพจะถูกค้นพบและส่งคืนสู่พิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1913 โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เพียงสร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลก แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ภาพวาดหญิงสาวธรรมดา ๆ กลายเป็นผลงานศิลปะระดับตำนาน จนถึงทุกวันนี้ นักท่องเที่ยวต่างยอมต่อแถวยาวเหยียดเพื่อชื่นชมความงามของภาพวาดสีน้ำมันอันทรงคุณค่าชิ้นนี้กันอย่างคับคั่ง
นอกจากเรื่องราวการหายไปของภาพโมนาลิซาอย่างลึกลับแล้ว ภาพวาดชิ้นนี้ยังมีเอกลักษณ์พิเศษหลายประการที่ทำให้แตกต่างจากภาพวาดอื่น ๆ ในยุคเดียวกัน มาดูกันว่าอะไรที่ทำให้ภาพวาดชิ้นนี้กลายเป็นมาสเตอร์พีซระดับโลก
หนึ่งในเสน่ห์ที่ทำให้โมนาลิซาเป็นภาพวาดที่น่าหลงใหลคือรอยยิ้มอันคลุมเครือ ซึ่งเกิดจากเทคนิค Sfumato หรือการแรเงาอ่อน ๆ ทำให้รอยยิ้มของเธอดูเปลี่ยนแปลงไปตามมุมมองของผู้ชม บางครั้งอาจเห็นเป็นรอยยิ้มที่อ่อนหวาน แต่บางครั้งกลับดูเหมือนรอยยิ้มนั้นจางหายไป ซึ่งความพิเศษนี้ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความมีชีวิตและอารมณ์ที่ซับซ้อนที่แสดงออกมาจากภาพวาด
นอกจากเทคนิค Sfumato แล้ว ดา วินชียังใช้เทคนิค Chiaroscuro ในการจัดการแสงและเงา เพื่อสร้างมิติและความสมจริงให้แก่ภาพ ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมที่แทบไม่มีศิลปินร่วมสมัยคนใดทำได้ในยุคนั้น ด้วยวิธีการนี้ จึงทำให้ใบหน้าของโมนาลิซาดูมีชีวิตชีวาและกลายเป็นต้นแบบให้ศิลปินรุ่นหลังได้ศึกษาและนำไปพัฒนาต่อยอด
โมนาลิซาไม่ได้เป็นเพียงภาพวาดธรรมดา แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ถูกตีความในหลายแง่มุม ทั้งในด้านความงามอันสมบูรณ์แบบของสตรี ความซับซ้อนทางจิตใจของมนุษย์ในยุคเรอแนซ็องส์ (Renaissance) ตลอดจนการตีความในมิติทางจิตวิทยาและสังคม ส่งผลให้ภาพวาดชิ้นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงและศึกษาอย่างกว้างขวางมาจนถึงปัจจุบัน
แม้นักประวัติศาสตร์ศิลป์ส่วนใหญ่จะเชื่อว่าหญิงสาวในภาพคือ ลิซ่า เกราร์ดินี ภรรยาพ่อค้าผ้าไหมชาวฟลอเรนซ์ แต่ก็มีทฤษฎีที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเธอ โดยบางทฤษฎีเสนอว่า เธออาจเป็นเพียงตัวแทนของความงามในอุดมคติ หรืออาจเป็นภาพสะท้อนของตัวดา วินชีเอง นอกจากนี้ ทิวทัศน์อันงดงามที่ปรากฏเป็นฉากหลังยังถูกตีความว่าอาจซ่อนความหมายทางปรัชญาและสัญลักษณ์ต่าง ๆ ไว้อีกด้วย ความลึกลับเหล่านี้จึงทำให้โมนาลิซากลายเป็นงานศิลปะที่มีเสน่ห์เกินกว่าจะเป็นเพียงภาพวาดธรรมดา
ในปัจจุบัน ภาพวาดโมนาลิซาถูกจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยทางพิพิธภัณฑ์ได้จัดเตรียมห้องแสดงผลงานพิเศษที่ควบคุมทั้งอุณหภูมิและความชื้นอย่างเข้มงวด พร้อมติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุดเพื่อปกป้องผลงานชิ้นเอกนี้ ด้วยเสน่ห์อันลึกลับและรอยยิ้มที่ชวนให้ตีความไม่รู้จบ ส่งผลให้มาสเตอร์พีซระดับโลกชิ้นนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ต้องมาพิสูจน์ความงามด้วยตาตนเองสักครั้งในชีวิต
เมื่อย้อนกลับไปมองรอยยิ้มบนภาพวาดโมนาลิซาอีกครั้ง เชื่อว่าหลายคนคงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงพลังอันน่าพิศวงของศิลปะ แต่อะไรคือความลับที่แท้จริงของโมนาลิซา ? หากพิจารณาให้ดี บางทีคำตอบอาจไม่ได้อยู่ที่ตัวภาพ หากแต่แฝงอยู่ในจินตนาการของผู้ชมที่ไม่อาจคาดเดาความรู้สึกนั้นได้ ด้วยเหตุนี้ โมนาลิซาจึงอาจเปรียบเสมือนกระจกที่สะท้อนให้คุณเห็นตัวเองในแง่มุมที่คุณไม่เคยนึกถึงมาก่อน
แล้วเช่นนี้ หากอยากรู้แล้วว่าคุณจะมองเห็นอะไรในรอยยิ้มของเธอ และค้นหาความลับใดในดวงตาคู่นั้น ที่สำคัญ โมนาลิซาจะสามารถเปลี่ยนมุมมองต่อศิลปะและชีวิตของคุณได้อย่างไรบ้าง ลองจองตั๋วเครื่องบินต่างประเทศไปปารีสกับ Traveloka เพื่อไขคำตอบได้เลยวันนี้ พร้อมรับโปรโมชันพิเศษเฉพาะบนแอปพลิเคชันเท่านั้น ดาวน์โหลดได้แล้วทั้งระบบ iOS และ Android
ข้อมูลอ้างอิง
1. Secret Story | “โมนา ลิซ่า” ห้าร้อยปีแห่งความงามอันเป็นปริศนา. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 จาก https://www.thaipbs.or.th/now/content/1081.